กฎที่ว่าให้เฉพาะบุรุษเท่านั้นรับศีลบวชได้ ไม่ใช่ป็นการลดเกียรติสตรี ในสายพระเนตรของพระเจ้า ชายและหญิงมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน แต่พวกเขามีหน้าที่และพระพรพิเศษที่แตกต่างกัน พระศาสนจักรมองตนเองในขอบเขตความจริงที่ว่า พระเยซูเจ้าทรงเลือกเฉพาะผู้ชายให้อยู่ในการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้ายในการตั้งสังฆภาพ สมเด็จพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ทรงประกาศในปี ค.ศ. 1994 ว่า “พระศาสนจักรไม่มีอำนาจใดๆที่จะยกการบวชเป็นพระสงฆ์ให้กับสตรี และเป็นการตัดสินอย่างเด็จขาดจากสัตบุรุษทุกคนของพระศาสนจักร”
พระเยซูเจ้าไม่ทรงเหมือนใครในสมัยโบราณ พระองค์ทรงยืนยันถึงคุณค่าของสตรี ทรงมอบมิตรภาพของพระองค์ให้กับสตรี และปกป้องพวกเขา สตรีเป็นศิษย์ติดตามพระองค์และพระเยซูเจ้าทรงให้คุณค่าแก่ความเชื่อของสตรีอย่างมาก ยิ่งกว่านั้น ประจักษ์พยานคนแรกในการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระองค์ ก็เป็นสตรี ด้วยเหตุนี้มารีย์ ชาวมักดาลาจึงได้ชื่อว่าเป็น “อัครสาวกของบรรดาอัครสาวก” อย่างไรก็ตาม สังฆภพที่ได้รับการบวช (และศาสนบริการการอภิบาลที่ตามมา)ได้มอบให้กับบุรุษเสมอมา ชุมชนคริสตชนมองพระสงฆ์ที่เป็นชายว่าเป็นผู้แทนของพระเยซูคริสตเจ้า การเป็นพระสงฆ์เป็นการให้บริการแบบพิเศษซึ่งมีความต้องการผู้เป็นชายในบทบาทเฉพาะเพศของเขา และความเป็นบิดาอย่างไรก็ตาม มิใช่ว่าเพศชายจะอยู่เหนือสตรี ดังที่เราเห็นในพระนางมารีย์ สตรีมีบทบาทในพระศาสนจักรไม่แพ้บทบาทของเพศชาย แต่เป็นเพศหญิง เอวากลายเป็นมารดาของผู้มีชีวิตทั้งหลาย (ปฐก 3:20) ในฐานะ “มารดาของผู้มีชีวิตทั้งหลาย” สตรีมีพระพรและความสามารถอย่างพิเศษ ปราศจากการสอน การเทศน์ ความรักเมตตา ชีวิตฝ่ายจิต และการให้คำแนะนำ พระศาสนจักรคงจะเป็น “อัมพาตไปส่วนหนึ่ง” ตราบเท่าที่ชายในพระศาสนจักรใช้ศาสนบริการการเป็นสงฆ์ของเขาเป็นดั่งเครื่องมือของอำนาจ หรือไม่ ยอมเปิดโอกาสให้กับสตรี พวกเขาทำผิดต่อความรักเมตตาและต่อพระจิตของพระเยซูเจ้า 64
การถือพรมจรรย์ (CELIBACY)
การถือพรมจรรย์ (มาจากภาษาลาตินว่า caelebs แปลว่าโสด บุคคลผู้ไม่แต่งงาน) เป็นการอุทิศตนเองส่วนบุคคลของผู้ที่มีชีวิตแบบไม่แต่งงาน “เพื่อประโยชน์ของพระอาณาจักรสวรรค์” ในพระศาสนจักรคาทอลิกการสัญญาที่จะมีชีวิตแบบนี้ เป็นพิเศษคือผู้ที่เป็นนักบวช (ผู้ซึ่งกระทำการปฏิญาณตน) และคณะสงฆ์ (ซึ่งทำสัญญาว่าจะถือโสด)
การถือพรมจรรย์ (CELIBACY)
การถือพรมจรรย์ (มาจากภาษาลาตินว่า caelebs แปลว่าโสด บุคคลผู้ไม่แต่งงาน) เป็นการอุทิศตนเองส่วนบุคคลของผู้ที่มีชีวิตแบบไม่แต่งงาน “เพื่อประโยชน์ของพระอาณาจักรสวรรค์” ในพระศาสนจักรคาทอลิกการสัญญาที่จะมีชีวิตแบบนี้ เป็นพิเศษคือผู้ที่เป็นนักบวช (ผู้ซึ่งกระทำการปฏิญาณตน) และคณะสงฆ์ (ซึ่งทำสัญญาว่าจะถือโสด)
ขอบคุณข้อมูลจาก kamsonbkk.com