วันที่สองร้อยแปดสิบสาม-ชีวิตคนเราไม่ได้อยู่ที่การมีทรัพย์สิ่งของเหลือเฟือเลย!
แล้วพระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า
“จงระวังให้ดี! จงระวังตนจากความโลภทุกชนิด ชีวิตคนเราไม่ได้อยู่ที่การมีทรัพย์สิ่งของเหลือเฟือ”
ลูกา 12:15
คุณเคยถามตัวเองไหมว่า ทำไมตัวเราถึงมีความรู้สึกอยากได้นั่น
อยากได้นี่ อยู่เรื่อย? บางครั้ง บางวันเราก็หมดเวลาไปกับการนั่งคิด นั่งฝันถึงสิ่งที่เราอยากจะได้
อยากจะมี อยากจะครอบครอง บางทีคิดมาก ฝันมาก จนกินไม่ได้ นอนไม่หลับก็มี
คิดถึงมันมากจนบางครั้งก็ลืมนึกถึงสิ่งของที่ตนมีพออยู่แล้ว หรือลืมแม้กระทั่งคนรอบข้างที่เขาคอยรัก
และคอยห่วงใยใส่ใจเราเรา อยู่เสมอ
บางวันเราใช้เวลาส่วนมากหมดไปกับการเลื่อนขึ้นเลื่อนลงของหน้าจอมือถือ
และคอมพิวเตอร์ ติดตามข่างสารเพื่อนบ้าง ข่าวสารดาราบ้าง ข่าวสารการเมือง
ครั้งละหลาย ๆ ชั่วโมง เมื่อเห็นมาก รู้มาก แทนที่จะมีความสุข บางวันก็กลับกลายเป็นทุกข์
ทุกข์เพราะเห็นเพื่อน เห็นคนอื่นเขาโพสลงหน้าเฟสว่า วันนี้ฉันช็อปของมาใหม่ ๆ, กินเมนูใหม่
ๆ, แวะชิมร้านใหม่ ๆ, ไปเที่ยวที่ใหม่ ๆ , ชีวิตดี๊ดีบ้างล่ะ, ให้กำไรชีวิตบ้างล่ะ
พอเรานั่งดูไปมาก ๆ ใจเราก็เริ่มสับสน จนหดหู่บ้างละ บางทีถึงขั้นคิดว่า
เฮ้ย! ทำไมชีวิตฉันถึงไม่ได้ดี ไม่ได้สวยเลิศ ไม่ได้อยู่หรู กินหรู ดูแพงอย่างเขาบ้างนะ
อ้าว! นี่แหละที่เรียกว่า
ความสุขของฉันกำลังถูกขโมยไป ด้วยความอยากได้อยากทำเหมือนเขาบ้าง อยากจนลืมมองหาความสุขรอบ ๆ
ตัวเอง ซึ่งบางครั้งก็ลืมคิดไปว่า ความสุขของเราอาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับของหรือกับคน
หรือสถานที่ที่เราเฝ้าติดตามจากหน้าเฟสบุค, LINE หรือ อินสตาแกรม ฯลฯ เลยสักนิด
เพราะจริง ๆ แล้ว ความสุขมันก็อยู่กับเรานี่แหละ อยู่ที่ว่าเราจะมองเห็นมันไหม?
หรืออยู่ที่มุมมอง และการเลือกใช้ชีวิตของเราเองต่างหาก
ดังนั้นหากคราวหน้าคุณเผลอไปคิดฟุ้งซ่านกับของบางอย่างที่อยากจะได้อยากจะมี
อยากจะทำอย่างใครเขา หรือรู้สึกตัวว่าความสุขของตนเองกำลังถูกขโมยไป ให้คุณหยุดคิดมันทันทีแล้วเปลี่ยนท่าทีของความอยากได้อยากมี
(ที่ไม่มีวันสิ้นสุด) มาเป็นท่าทีแห่งการขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณกับทุกสิ่งที่คุณมีอยู่แล้วในตอนนี้
และเริ่มต้นใหม่ คิดใหม่ ว่าวันนี้คุณควรจะทำอย่างไร และทำอะไรบ้างเพื่อที่คุณจะได้มีเวลาให้กับพระเจ้ามายิ่งขึ้นกว่าที่เคย
เพราะหากถึงวันที่คุณต้องไปยืนอยู่ต่อหน้าพระพักตร์พระองค์ พระองค์คงจะไม่ถามว่า
คุณใช้ของยี่ห้อไหน- กินข้าวร้านไหนมา- ขับรถยี่ห้อไหนมา- เงินในธนาคารมีเยอะไหม-
สะสมอะไรไว้บ้าง-
แต่สิ่งที่พระองค์อยากรู้ก็คือในช่วงเวลาที่คุณมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ คุณได้ใช้เวลากับพระองค์ไปมากมายแค่ไหน
และได้แบ่งปัน หรือส่งต่อความรักของพระองค์ให้คนอื่นมากน้อยแค่ไหน อันนี้แหละคือสิ่งที่พระองค์คงอยากเห็นเราทำมากที่สุด และเมื่อใดที่ใจเราฟุ้งซ่าน ให้คุณเอาใจของคุณไปจดจ่อและคิดถึงคนที่เขาคอยรักและห่วงใยคุณ
ผู้มีพระคุณ เช่น ครอบครัวของคุณ เขาอาจจะกำลังรอคอยความรัก
ความเอาใจใส่จากคุณอยู่ก็ได้ และให้เริ่มคิดว่าวันนี้คุณควรจะทำอะไรเพื่อกันและกันได้บ้าง
หากใครคิดได้แบบนี้ อย่างน้อยใจของเราก็สงบลง ความฟุ้งซ่านก็ค่อย ๆ จางหายไป ความสุขในใจก็เกิดขึ้น และที่สำคัญควรเตือนตัวเองบ่อย
ๆ ว่า วันนี้เราได้ใช้พระพรที่พระเจ้ามอบให้กับเรา ทำประโยชน์ หรือเป็นพระพร ให้กับคนในครอบครัวและคนรอบข้างมากมายแค่ไหน
สิ่งของเงินทอง ภาพลักษณ์อาจดูสำคัญมากกับใครหลาย
ๆ คน แต่อย่าลืมว่าการได้รับความรัก ความเอาใจใส่ การมีเวลาให้กันและกัน ก็เป็นสิ่งสำคัญต้น
ๆ ที่เราทุกคนต้องการ เพราะคนรวยหลายบ้านก็ยังออกมาพูดเลยว่าเขารวยสิ่งของก็จริง
แต่เขาก็ยังไม่มีความสุขที่แท้จริงในชีวิตเลย
ดังนั้นหากเรารู้จักพอเพียง ทุกอย่างก็ดูจะเพียงพอกับเราได้เช่นกัน ฝึกปรับสมดุลในใจของตัวเราเองให้ได้
แล้วคุณจะพบความสุขที่แท้จริง อย่าให้คนหรือสิ่งของบนโลกนี้มาขโมยความสุข
หรือสันติสุขในใจของเราไปได้นะคะ
ข้อคิดระหว่างวัน
ความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดบนโลกใบนี้
คือความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้า ดังนั้นอย่ามัวจดจ่อเสียเวลาไปกับการสะสมของนอกกาย
แต่ให้ปรับท่าทีของตัวเราเองมาจดจ่อที่ความรัก ความเมตตาที่พระองค์มีต่อเรา และสะสมแต้ม
สะสมเวลากับพระองค์ให้ได้มากที่สุด แล้วคุณจะพบความสุขอย่างแน่นอน
ให้เราอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดาของลูกทั้งหลาย ขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกมีความปรารถนาในสิ่งเดียวกัน
ในเรื่องเดียวกันกับที่พระองค์ต้องการให้ลูกมี ลูกขอขอบพระคุณกับทุกสิ่งที่ลูกมี
และลูกจะพยายามปรับปรุงตัวเองและใช้วันเวลาที่พระองค์มอบให้ อย่างรู้คุณค่ามากที่สุด
ลูกขออธิษฐานในพระนามของพระเยซูคริสต์
อาเมน
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านที่สละเวลามาอธิษฐานร่วมกันนะคะ
การฝึกฟังเสียงของพระเจ้าและติดตามการทรงนำของพระวิญญาณฯเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก
พระเจ้าอยากจะบอกถึงแผนการของพระองค์ที่มีต่อชีวิตของเรา
แผนการของพระเจ้าเป็นแผนการที่ดี แต่เราอาจจะพลาดจากการทรงนำได้ ถ้าเราไม่ฝึกฝนในการฟังเสียงของพระเจ้าหรือไม่เชื่อฟังพระองค์.
อย่าเก็บพระพรและสิ่งดี
ๆที่พระเจ้าทรงมอบให้เราไว้เพียงคนเดียว แต่จงทำให้พระพรนี้เจริญเติบโต
และเกิดประโยชน์กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เราทุกคนอาจได้รับพระพรที่แตกต่างกันไป
แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นคือ การวางใจ ที่พระเจ้าทรงมอบให้เราทุกคน
ถ้าเรารักพระเจ้า
การรับใช้จะไม่เป็นภาระและไม่ใช่การจำใจทำ แต่จะเป็นโอกาสและเป็นความยินดีที่ได้รับใช้
และสายตาของเราจะมองหาหนทางที่จะรับใช้ให้ดีมากยิ่งๆ ขึ้นไปเสมอ
ถ้าเรารักพระองค์
และไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใด
อย่าย่อท้อต่อการทำหน้าที่ประกาศข่าวดี
จงแบ่งปันและบอกเล่าถึงความรักของพระองค์ให้โลกได้รู้ว่า
ความรักของพระองค์นั่นยิ่งใหญ่ มั่นคงและจะคงอยู่ตลอดไป อย่าลืมศึกษาพระคัมภีร์กันไปวันละนิดวันละหน่อยนะคะ
เพราะไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับพระเจ้านะคะ
สิ่งที่เกินกำลังมนุษย์
ไม่ได้เกินกำลังพระเจ้า
เมื่อไม่มีเรี่ยวแรงจะลุกเดิน
จงพึ่งในพละกำลังของพระเจ้า
เมื่อไม่เข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้นกับชีวิต
จงวางใจในพระสัญญา
♥ ชีวิตเราเต็มไปด้วยปัญหาและการทดลองมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นภาระหน้าที่ที่หนัก ปัญหาของคนที่เรารัก ปัญหาเรื่องสุขภาพ
ปัญหาด้านการเงิน อุปสรรคต่าง ๆ หรือแม้แต่ความเข้าใจผิดจากคนรอบข้าง
♥ อย่าตกหลุมพรางของรายละเอียดของปัญหา ... ขอพระจิตเจ้าช่วยเราให้มองเห็นภาพทั้งหมดในมุมกว้าง
... ในแต่ละวัน จงตั้งใจแน่วแน่ที่จะยืนขึ้นเพื่อมองทุกอย่างในมุมสูง
มองทุกอย่างด้วยความยินดีในพระพรที่พระเยซูเจ้าประทานแก่เราท่ามกลางการทดลองต่าง ๆ
ไม่มีครูใดดีกว่า
"พระจิตเจ้า" ไม่มีถ้อยคำใดที่ดีกว่า "พระวาจา"
พระองค์ไม่เคยสาย
พระองค์ไม่เคยช่วยเราช้าเกินไป แต่พระองค์ทรงทันเวลาเสมอ
♥ “ข้าแต่พระเยซูเจ้า
โปรดเปิดตาลูกให้เห็นงานของพระองค์ที่ได้ทำเพื่อลูก
พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งลูกไปแม้ขณะเดียว โปรดช่วยลูกให้วางใจในพระองค์ ลูกจะขอรักพระองค์ตลอดไป ลูกขอถวายทุก ๆ กิจการการงานไว้กับพระองค์ด้วยเทอญ
อาเมน
KC
LOVE GOD
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น