ผู้ที่ถ่อมใจมีหัวใจเชื่อฟังแบบเด็ก แผ่นดินสวรรค์ก็จะเป็นของคนเหล่านั้น
พระเยซูทรงเปิดโอกาสให้เด็กๆ
เข้ามาหาพระองค์เพราะทรงเห็นคุณค่าเด็ก
และต้องการให้สาวกของพระองค์เปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ เพราะพวกสาวกมองว่าเด็กๆ
รบกวนเวลาของพระองค์ แต่พระองค์กลับเห็นความสำคัญของการให้เวลาแก่เด็ก
แม้พระองค์จะมีภารกิจที่ต้องทำมากมายก็ตาม การให้เวลาแก่เด็กเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยกว่าสิ่งอื่นๆ
เราทุกคนจึงควรเห็นคุณค่าของเด็กอย่างจริงจัง
อย่ามองเด็กเป็นเด็ก มีคำสุภาษิตที่ว่า "อย่าคบเด็กสร้างบ้าน"
ทำให้ผู้ใหญ่จึงมองเด็กทำตัวไร้สาระ แต่ถ้าบ้านขาดเด็กก็ไม่มีสีสัน
เพราะเด็กจะทำให้เรามีรอยยิ้มเสมอ เมื่อเราเห็นความสามารถที่พวกเขาแสดงออกมา
เราควรจะต้องมีเวลาการแสดงความสามารถให้กับพวกเขาแสดง
ไม่อย่างนั้นความสามารถของเขาจะถูกละเลย และนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกที่ควร
เมื่อเติบโตเป็นวัยรุ่น เช่น เด็กที่ไปเขียนฝาผนังที่สาธารณะ หรือ ไปแข่งรถ
เป็นเด็กแว้นซ์บอย และสก๊อยเกิร์ล สร้างปัญหาในสังคม
ในครอบครัวของเราควรต้องให้เวลาและสร้างชีวิตฝ่ายวิญญาณของเด็กด้วย
ในชุมชน ในคริสตจักรและในทุกส่วนต้องจัดสรรคนที่ดีมีคุณภาพเพื่อสร้างเด็กๆ
ซึ่งเป็นอนาคตของอาณาจักรพระเจ้า
พระเยซูคริสต์ใช้เด็กเป็นตัวอย่างในการสอนพวกสาวกให้มีความเชื่อและถ่อมใจเรียนรู้จากเด็ก
เพราะผู้ที่ถ่อมใจมีหัวใจเชื่อฟังแบบเด็ก แผ่นดินสวรรค์ก็จะเป็นของคนเหล่านั้น
แท้จริงเด็กมีสิ่งดีมากมายที่เราสามารถเลียนแบบได้
เราไม่ควรเป็นผู้ใหญ่ที่หยิ่ง ไม่รับฟังหรือยอมรับสิ่งที่ดีจากผู้ที่อายุน้อยกว่า
ผู้นำสามารถเรียนรู้สิ่งดีจากผู้ที่อยู่ในการอภิบาลของตนได้เช่นกัน
อย่าคิดว่าเราอาบน้ำร้อนมาก่อน รับบัพติศมาในน้ำมาก่อนพวกเขา
ในปัจจุบันคนรุ่นใหม่มีความคิดความอ่านที่ดี
เราควรจะเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นและนำสิ่งที่ดีของเขามาปรับใช้ได้
ในปีใหม่นี้ขอพระเจ้าทรงช่วยเราให้มีความคิดแบบผู้ใหญ่
ที่มีความรับผิดชอบ และมีหัวใจแบบเด็กๆที่เชื่อฟังพระองค์ ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ
พระคัมภีร์ตอนนี้ได้บันทึกเหตุการณ์ตอนนี้
ที่ผู้ปกครองนำเด็กมาหาพระเยซูเพื่อให้พระองค์วางมืออวยพรเด็ก
แต่สาวกกีดกันไม่ให้มาหาพระเยซูเพราะเกรงว่าจะมารบกวนพระองค์
พระเยซูทรงไม่พอพระทัยที่สาวกมีทัศนคติในเรื่องของเด็กไม่ถูกต้อง
พระองค์จึงทรงสอนให้ผู้ใหญ่ให้เรียนรู้จากเด็ก
โดยปรับมุมมองใหม่ให้โดยมีความคิดแบบผู้ใหญ่ หัวใจแบบเด็กๆ
เราควรจะมองเด็กแบบพระเยซูคริสต์
พระเยซูคริสต์ได้ให้สิ่งที่ดีแก่เด็ก(ข้อ 16) นั่นคือ
พระองค์ทรงอุ้มให้ความใกล้ชิดที่สุด และทรงวางมือให้พรอันศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
เด็กควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากผู้ใหญ่
ถ้าเด็กได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
เขาก็จะมีรากฐานชีวิตที่ดีที่สุดและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีที่สุด
สิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากพระคัมภีร์ตอนนี้
คำสอนของพระเยซูคริสต์ในมาระโกบทที่10:13-16
13
ขณะนั้นเขาพาเด็กเล็กๆมาหาพระองค์ เพื่อจะให้พระองค์ทรงถูกต้องตัวเด็กนั้น
แต่เหล่าสาวกก็ห้ามปรามไว้
14
เมื่อพระเยซูทรงเห็นดังนั้นก็ไม่พอพระทัย จึงตรัสแก่เหล่าสาวกว่า "จงยอมให้เด็กเล็กๆเข้ามาหาเรา
อย่าห้ามเขาเลย เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้าเป็นของคนเช่นเด็กอย่างนั้น
15
เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า
ผู้หนึ่งผู้ใดมิได้รับแผ่นดินของพระเจ้าเหมือนเด็กเล็กๆผู้นั้นจะเข้าในแผ่นดินนั้นไม่ได้"
16
แล้วพระองค์ทรงอุ้มเด็กเล็กๆเหล่านั้นวางพระหัตถ์บนเขา แล้วทรงอวยพรให้
“พระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของคนที่เหมือนเด็กเหล่านี้”
เป็นธรรมเนียมของพ่อแม่ชาวยิวที่จะนำเด็กมาให้รับบีผู้มีชื่อเสียงอวยพรเนื่องในโอกาสครอบรอบวันเกิด
1 ขวบ
แต่สถานการณ์ในขณะนั้นคือ
พระเยซูเจ้ากำลังมุ่งหน้าลงใต้สู่แคว้นยูเดีย
โดยมีการทรมานและความตายบนไม้กางเขนรอคอยพระองค์อยู่เบื้องหน้า
แน่นอนว่าพระองค์ทรงเครียดและเต็มไปด้วยความกดดัน
พวกอัครสาวกเองก็ทราบดีและพยายามปกป้องพระองค์จากสิ่งกวนใจต่าง ๆ นานา
จนถึงขั้นต้องดุพ่อแม่เด็กในครั้งนี้
แต่พระองค์กลับตรัสว่า
“ปล่อยให้เด็กเล็ก ๆ มาหาเราเถิด อย่าห้ามเลย” (ข้อ 14) แล้วทรงอุ้มและอวยพรเด็กเหล่านั้น
ช่างเป็นภาพและเสียงที่น่าประทับใจสักเพียงใด !!!
เด็กเล็ก ๆ
มีคุณลักษณะอะไรหรือ พระเยซูเจ้าจึงรักและให้ความสำคัญมากถึงกับตรัสว่า
“พระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของคนที่เหมือนเด็กเหล่านี้” ?
1. เด็กมีความสุภาพ จริงอยู่มีเด็กบางคนชอบแสดงออก
แต่ก็มีจำนวนน้อยและส่วนใหญ่เป็นเพราะการอบรมหรือได้เห็นแบบอย่างผิด ๆ จากผู้ใหญ่
โดยทั่วไปเด็กไม่ชอบออกงาน ไม่ชอบเด่น ไม่ชอบออกหน้า
แต่ชอบหลบอยู่หลังผู้ใหญ่
นั่นเป็นเพราะพวกเขายังไม่รู้จักความหยิ่งจองหอง ยศถาบรรดาศักดิ์
หรือชื่อเสียงเกียรติยศ
และที่สำคัญคือ พวกเขายังไม่รู้จักค้นพบ
“ความสำคัญของตนเอง” !
2. เด็กมีความนบนอบ ภายนอก เด็กอาจดูเหมือนซุกซน
ดื้อดึง แต่จริง ๆ แล้วสัญชาติญาณของเด็กคือความนบนอบ เหตุผลคือเด็กยังไม่รู้จักหยิ่งจองหองจนไม่ยอมขึ้นกับผู้อื่นแบบไม่ลืมหูลืมตา
ซึ่งรังแต่จะทำให้ตัวเองแยกจากพ่อแม่ เพื่อน ๆ หรือแม้แต่พระเจ้า
3. เด็กมีความวางใจ เห็นได้จาก
3.1
เด็กยอมรับผู้ที่เหนือกว่า
เพราะพวกเขาตระหนักดีว่าตนด้อยปัญญา ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ จึงยอมรับและวางใจผู้ที่รู้มากกว่า มีความสามารถมากกว่า
ดังเช่นพ่อแม่ และครูบาอาจารย์ เป็นต้น
3.2
เด็กไว้ใจคนอื่นแม้แต่คนแปลกหน้า
ซึ่งหลายครั้งนำไปสู่การล่อลวงและอาจถึงขั้นเป็นอันตรายต่อตัวเด็กเอง
กระนั้นก็ตาม
ความวางใจของเด็กยังเป็นสิ่งที่น่ารักและไม่ควรมีผู้ใดฉกฉวยโอกาสจากความน่ารักนี้....
เพราะเด็ก “เชื่อในความดีของคนอื่นเสมอ” !
4. เด็กไม่จดจำความผิด
เพราะเด็กไม่รู้จักสะสมความขมขื่นและความเคียดแค้น แม้เมื่อเด็กได้รับการปฏิบัติอย่างอยุติธรรม
เขาก็ลืม...
ลืมจนไม่คิดว่าต้องให้อภัย !
ความรักของพระเยซูที่มีต่อเด็กๆ
ตอนที่ผู้คนไม่ได้ใส่ใจเป็นคำเตือนที่ดีเยี่ยมมาก เป็นการเตือนให้เห็นความรักของพระเจ้าในสิ่งที่โลกมักจะละเมิดหรือทอดทิ้ง
พระองค์เรียกเรามาให้รักคนที่ไม่มีใครรัก คนที่ถูกลืม คนที่ถูกทำร้ายและถูกทอดทิ้ง
ทำไมน่ะหรือ? เพราะอิสราเอลก็เป็นแบบนั้นตอนอยู่ในอียิปต์
และเป็นสิ่งที่ทำให้พระเยซูอยู่ที่กางเขน และนั่นคือสิ่งที่เราเป็น
หากเราไม่ได้รับพระคุณ (โรม 5:6-11) เราจะอ้างได้อย่างไรว่าเรารู้จักความรอด
ถ้าเราไม่แบ่งปันกับผู้อื่นที่ต้องการพระคุณ? เราจะอ้างได้อย่างไรว่าเราเป็นลูกศิษย์ของพระเยซู
ถ้าเราไม่แสดงความรักต่อผู้ที่โลกไม่สนใจ
คำอธิษฐาน
พระบิดา ข้าพระองค์อยากจะมีความเป็นพ่อแม่มากขึ้นเช่นเดียวกับพระองค์
— เป็นพ่อแม่ที่แสดงความบริสุทธิ์และมีความรักให้กับลูกๆ ของตัวเอง
และเป็นพ่อแม่ผู้อ่อนโยน สำหรับเด็กๆ ที่ถูกลืม ขอทรงช่วยให้ข้าพระองค์ไม่เพียงแต่จะตื่นตัวเมื่อรู้เกี่ยวกับเด็กที่ถูกละเลยหรือการละเมิดเด็กในโลกนี้
แต่ขอที่จะทรงให้ข้าพระองค์ลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการอวยพรเด็กๆ เหล่านั้น
อธิษฐานในพระนามของพระเยซู ผู้ที่รักเด็กๆ ทุกคน อาเมน
KC Love GOD
“พระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของคนที่เหมือนเด็กเหล่านี้”
เป็นธรรมเนียมของพ่อแม่ชาวยิวที่จะนำเด็กมาให้รับบีผู้มีชื่อเสียงอวยพรเนื่องในโอกาสครอบรอบวันเกิด 1 ขวบ
แต่สถานการณ์ในขณะนั้นคือ
พระเยซูเจ้ากำลังมุ่งหน้าลงใต้สู่แคว้นยูเดีย
โดยมีการทรมานและความตายบนไม้กางเขนรอคอยพระองค์อยู่เบื้องหน้า
แน่นอนว่าพระองค์ทรงเครียดและเต็มไปด้วยความกดดัน
พวกอัครสาวกเองก็ทราบดีและพยายามปกป้องพระองค์จากสิ่งกวนใจต่าง ๆ นานา
จนถึงขั้นต้องดุพ่อแม่เด็กในครั้งนี้
แต่พระองค์กลับตรัสว่า
“ปล่อยให้เด็กเล็ก ๆ มาหาเราเถิด อย่าห้ามเลย” (ข้อ 14) แล้วทรงอุ้มและอวยพรเด็กเหล่านั้น
ช่างเป็นภาพและเสียงที่น่าประทับใจสักเพียงใด !!!
เด็กเล็ก ๆ
มีคุณลักษณะอะไรหรือ พระเยซูเจ้าจึงรักและให้ความสำคัญมากถึงกับตรัสว่า
“พระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของคนที่เหมือนเด็กเหล่านี้” ?
1. เด็กมีความสุภาพ จริงอยู่มีเด็กบางคนชอบแสดงออก
แต่ก็มีจำนวนน้อยและส่วนใหญ่เป็นเพราะการอบรมหรือได้เห็นแบบอย่างผิด ๆ จากผู้ใหญ่
โดยทั่วไปเด็กไม่ชอบออกงาน ไม่ชอบเด่น ไม่ชอบออกหน้า
แต่ชอบหลบอยู่หลังผู้ใหญ่
นั่นเป็นเพราะพวกเขายังไม่รู้จักความหยิ่งจองหอง ยศถาบรรดาศักดิ์
หรือชื่อเสียงเกียรติยศ
และที่สำคัญคือ พวกเขายังไม่รู้จักค้นพบ
“ความสำคัญของตนเอง” !
2. เด็กมีความนบนอบ ภายนอก เด็กอาจดูเหมือนซุกซน
ดื้อดึง แต่จริง ๆ แล้วสัญชาติญาณของเด็กคือความนบนอบ เหตุผลคือเด็กยังไม่รู้จักหยิ่งจองหองจนไม่ยอมขึ้นกับผู้อื่นแบบไม่ลืมหูลืมตา
ซึ่งรังแต่จะทำให้ตัวเองแยกจากพ่อแม่ เพื่อน ๆ หรือแม้แต่พระเจ้า
3. เด็กมีความวางใจ เห็นได้จาก
3.1
เด็กยอมรับผู้ที่เหนือกว่า
เพราะพวกเขาตระหนักดีว่าตนด้อยปัญญา ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ จึงยอมรับและวางใจผู้ที่รู้มากกว่า มีความสามารถมากกว่า
ดังเช่นพ่อแม่ และครูบาอาจารย์ เป็นต้น
3.2
เด็กไว้ใจคนอื่นแม้แต่คนแปลกหน้า
ซึ่งหลายครั้งนำไปสู่การล่อลวงและอาจถึงขั้นเป็นอันตรายต่อตัวเด็กเอง
กระนั้นก็ตาม
ความวางใจของเด็กยังเป็นสิ่งที่น่ารักและไม่ควรมีผู้ใดฉกฉวยโอกาสจากความน่ารักนี้....
เพราะเด็ก “เชื่อในความดีของคนอื่นเสมอ” !
4. เด็กไม่จดจำความผิด
เพราะเด็กไม่รู้จักสะสมความขมขื่นและความเคียดแค้น แม้เมื่อเด็กได้รับการปฏิบัติอย่างอยุติธรรม
เขาก็ลืม...
ลืมจนไม่คิดว่าต้องให้อภัย !
ความรักของพระเยซูที่มีต่อเด็กๆ
ตอนที่ผู้คนไม่ได้ใส่ใจเป็นคำเตือนที่ดีเยี่ยมมาก เป็นการเตือนให้เห็นความรักของพระเจ้าในสิ่งที่โลกมักจะละเมิดหรือทอดทิ้ง
พระองค์เรียกเรามาให้รักคนที่ไม่มีใครรัก คนที่ถูกลืม คนที่ถูกทำร้ายและถูกทอดทิ้ง
ทำไมน่ะหรือ? เพราะอิสราเอลก็เป็นแบบนั้นตอนอยู่ในอียิปต์
และเป็นสิ่งที่ทำให้พระเยซูอยู่ที่กางเขน และนั่นคือสิ่งที่เราเป็น
หากเราไม่ได้รับพระคุณ (โรม 5:6-11) เราจะอ้างได้อย่างไรว่าเรารู้จักความรอด
ถ้าเราไม่แบ่งปันกับผู้อื่นที่ต้องการพระคุณ? เราจะอ้างได้อย่างไรว่าเราเป็นลูกศิษย์ของพระเยซู
ถ้าเราไม่แสดงความรักต่อผู้ที่โลกไม่สนใจ
คำอธิษฐาน
พระบิดา ข้าพระองค์อยากจะมีความเป็นพ่อแม่มากขึ้นเช่นเดียวกับพระองค์
— เป็นพ่อแม่ที่แสดงความบริสุทธิ์และมีความรักให้กับลูกๆ ของตัวเอง
และเป็นพ่อแม่ผู้อ่อนโยน สำหรับเด็กๆ ที่ถูกลืม ขอทรงช่วยให้ข้าพระองค์ไม่เพียงแต่จะตื่นตัวเมื่อรู้เกี่ยวกับเด็กที่ถูกละเลยหรือการละเมิดเด็กในโลกนี้
แต่ขอที่จะทรงให้ข้าพระองค์ลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการอวยพรเด็กๆ เหล่านั้น
อธิษฐานในพระนามของพระเยซู ผู้ที่รักเด็กๆ ทุกคน อาเมน
KC Love GOD