วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ความบาปคืออะไร?


   
แก่นของบาป คือ การปฏิเสธพระเจ้า และปฏิเสธที่จะยอมรับความรักของพระองค์ สิ่งนี้แสดงออกด้วยการไม่เคารพต่อพระบัญญัติของพระองค์ 

    บาปเป็นเรื่องที่มากกว่าความประพฤติไม่ถูกต้อง คือ ไม่ใช่เป็นเพียงความอ่อนแอทางจิต ในความรู้สึกส่วนลึกที่สุด การปฏิเสธทุกประการ หรือ การทำลายบางสิ่งบางอย่างที่ดี ก็คือการปฏิเสธความดีในตัวเอง คือการปฏิเสธพระจ้า ในมิติที่ลึกซึ้งและน่ากลัวที่สุดของบาป คือ การแยกออกจากพระเจ้า ดังนั้น จึงเป็นการแยกออกจากแหล่งกำเนิดของชีวิต ด้วยเหตุนี้ความตายจึงเป็นผลที่ตามมาอีกประการหนึ่งของบาป โดยทางพระเยซูเจ้าเท่านั้น เราจึงจะเข้าใจถึงมิติของบาปที่สุดจะหยั่งถึง    พระเยซูเจ้าทรงประสบกับการปฏิเสธของพระเจ้าในความเป็นมนุษย์ของพระองค์ พระองค์ทรงรับอำนาจความตายของบาปไว้ด้วยพระองค์เอง เพื่อที่จะไม่ต้องตกมายังเรา ซึ่งเราเรียกสิ่งนี้ว่า การไถ่กู้ - 

ความอ่อนแอของมนุษย์มิอาจล้มคว่ำแผนการของพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพได้ พระเจ้าสถาปนิกผู้ศักดิ์สิทธิ์ทรงสามารถทำงานได้ แม้กับอิฐหินที่สั่นคลอน” พระคาร์ดินัล ไม่เคิล วัน ฟูลเลเบอร์ (1869-1952 พระอัครสังฆราชแห่งมิวนิคและเฟรซิง)
“ที่ใดบาปทวีขึ้น ที่นั่นพระหรรษทานก็ยิ่งทวีมากกว่า” (รม 5 : 20ข)
“เมื่อพระหัตถ์ของพระคริสตเจ้าถูกตะปูตรึงไว้บนไม้กางเขนนั้น พระองค์ทรงตอกตรึงบาปของเราไว้บนไม้กางเขนนั้นด้วย”
 kamsonbkk.com
  
ความบาปคืออะไร?
เมื่อพูดถึงความบาป ในพระคริสตธรรมคัมภีร์หมายถึง “การทำผิดพระประสงค์ของพระเจ้า” หรือ “การตกต่ำจากมาตรฐานของพระเจ้า” หรือ “การไม่เชื่อฟังพระเจ้า” ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการเน้นที่ท่าทีภายในความคิดจิตใจของมนุษย์มากกว่าการกระทำ เพราะการกระทำสิ่งที่ไม่ดีและทำความชั่วร้ายทั้งปวงล้วนเกิดมาจากความคิดจิตใจที่ตกต่ำจากมาตรฐานของพระเจ้านั่นเอง

ความบาปสำคัญต่อเราอย่างไร?
ในมุมมองของพระคริสตธรรมคัมภีร์ “ความบาป” เป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของมนุษย์ ความบาปทำให้มนุษย์ตกต่ำจากมาตรฐานที่พระเจ้าวางไว้ ความบาปทำให้มนุษย์เห็นแก่ตัวและเต็มไปด้วยกิเลสตัณหา ความบาปทำให้เกิดการกระทำที่ผิดศีลธรรม ความบาปทำให้สังคมเสื่อมโทรม ความบาปทำให้โลกไม่น่าอยู่สำหรับมนุษย์อีกต่อไป และในที่สุดความบาปนี้แหละจะนำมนุษย์ไปสู่การพิพากษาและการลงโทษอย่างแสนสาหัสจากพระเจ้า

เราเป็นคนบาปด้วยหรือ?

พระคริสตธรรมคัมภีร์กล่าวว่า “มนุษย์ทุกคนเป็นคนบาป” แม้แต่คนที่ไม่ได้ “ทำบาป” ก็ “เป็นคนบาป” เพราะการเป็นคนบาปเกิดจากการสืบสายเลือด กล่าวคือมนุษย์คนแรกที่พระเจ้าสร้าง(อาดัม)ได้ทำบาปโดยการไม่ยอมเชื่อฟังพระเจ้า แม้พระเจ้าจะตั้งกฎไว้เพียงข้อเดียวเท่านั้น และความจริงเขาก็ไม่มีความจำเป็นอะไรเลยที่ต้องไปกินผลไม้จากต้นที่พระเจ้าห้าม จากสายเลือดบาปของอาดัมนี้เอง ความบาปจึงตกทอดมาถึงมนุษย์ทุกคน แม้แต่เด็กที่ไม่มีใครสอนให้เขาทำในสิ่งที่ไม่มีเลยก็ยังมีแนวโน้มที่จะทำสิ่งไม่ดี แม้เราทุกคนจะพยายามทำดี แต่เราก็รู้ว่าในตัวเรายังมีอิทธิพลชั่วร้ายชักจูงให้เราไปทำสิ่งที่ไม่ดีเสมอ อิทธิพลชั่วร้ายนี้เองที่เป็น “ธรรมชาติบาป” หรือ “สายเลือดบาป” ที่ตกทอดมาถึงเราทุกคน ทำให้เราทุกคนเป็นคนบาป

ความบาปส่งผลต่อเราอย่างไร?
ความบาปทำให้มนุษย์ทำสิ่งที่เลวร้าย ยิ่งกว่านั้นอีก ความบาปจะนำมนุษย์ไปสู่กฎของความยุติธรรมของพระเจ้า แม้พระเจ้าจะรักมนุษย์มากเพียงไร แต่เพราะพระองค์ได้วางโทษไว้แล้วว่า “ถ้าเจ้าขืนกินในวันใด เจ้าจะตายในวันนั้นเป็นแน่” ดังนั้นพระเจ้าจึงต้องพิพากษาโทษมนุษย์ซึ่งโทษนั้นก็คือ “ความตาย”

เมื่อกล่าวถึงความตาย พระคริสตธรรมคัมภีร์หมายถึงความตาย 3 ลักษณะ คือ

ตายฝ่ายวิญญาณ คือ การที่มนุษย์ถูกตัดขาดจากพระเจ้า จิตใจของมนุษย์จึงไม่มีวันอิ่มและรู้สึกขาดสันติสุข เราจึงพยายามแสวงหาความสุขอื่น ๆ มาทดแทน แต่จนแล้วจนรอดเราก็ยังรู้สึกขาดอะไรไปอย่าง สิ่งนั้นคือ “สัมพันธภาพกับพระเจ้า”
ตายฝ่ายร่างกาย หมายถึงการที่วิญญาณแยกออกจากร่างกาย มนุษย์ทุกคนต้องตาย แม้ว่าจะพยายามหลีกหนีความตายอย่างไรก็หนีไม่พ้น ความตายเป็นศัตรูที่ใหญ่ที่สุดของมนุษย์
ตายชั่วนิรันดร์ หมายถึง การถูกลงทัณฑ์ทรมานในนรกบึงไฟ ถ้าเรายังไม่กลับใจใหม่ ไม่เชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ สักวันหนึ่งเมื่อการพิพากษาสุดท้ายมาถึง เราจะต้องตายชั่วนิรันดร์แน่นอน


angelfire.com

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าพายุของคุณ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าพายุของคุณ อ่านมัทธิว 8:1 ถึง 11:1 ​    25 และพวกสาวกมาปลุกพระองค์ ทูลว่า “องค์พร...