วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2557

พระเจ้าคือใคร? พระองค์ทรงเป็นอย่างไร?

พระเจ้าคือใคร?

พระเจ้าคือใคร? พระองค์ทรงเป็นอย่างไร? พระลักษณะหกประการของพระเจ้า

พระเจ้าคือใคร... พระองค์ทรงเป็นที่รู้จักได้

พระเจ้า ผู้ซึ่งทรงสร้างจักรวาลอย่างกว้างใหญ่ไพศาลและบรรจงใส่รายละเอียดที่สร้างสรรของมันนั้น เป็นผู้ที่เราสามารถรู้จักได้ พระองค์ทรงบอกเราเกี่ยวกับพระองค์เอง และยิ่งไปกว่านั้น พระองค์ทรงต้อนรับเราเข้ามาในความสัมพันธ์ เพื่อที่เราจะสามารถทำความรู้จักกับพระองค์เป็นการส่วนตัวได้ ไม่ใช่แค่ที่เราจะรู้เกี่ยวกับพระองค์เท่านั้น แต่ที่เรายังสามารถรู้จักพระองค์แบบลึกซึ้งได้อีกด้วย
พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า “อย่าให้ผู้มีปัญญาอวดในสติปัญญาของตน อย่าให้ชายฉกรรจ์ อวดในความเข้มแข็งของตน อย่าให้คนมั่งมี อวดในความมั่งคั่งของตน แต่ให้ผู้อวด อวดในสิ่งนี้ คือในการที่ เขาเข้าใจและรู้จักเราว่า เราคือพระเจ้า ทรงสำแดงความรักมั่นคง ความยุติธรรม และความชอบธรรมในโลก เพราะว่าเราพอใจในสิ่งเหล่านี้ พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ” (เยเรมีห์ 9:23-24)

พระเจ้าคือใคร... พระองค์เป็นผู้ที่เราเข้าไปหาได้

พระเจ้าทรงเชื้อเชิญให้เราพูดคุยกับพระองค์ และรวมพระองค์เข้าไปด้วยเมื่อเรามีสิ่งที่ห่วงกังวลอยู่ในใจ เราไม่จำเป็นต้องมีการปรับพฤติกรรมของเราก่อน หรือไม่จำเป็นต้องทำตัวสุภาพ ถูกต้องตามหลักศาสนศาสตร์ หรือทำตัวให้บริสุทธิ์ พระองค์ทรงเต็มไปด้วยความรักและการยอมรับเมื่อเราเข้าไปหาพระองค์ เพราะนั่นคือธรรมชาติของพระองค์เอง
“พระเจ้าทรงสถิตใกล้ทุกคนที่ร้องทูลพระองค์ ทุกคนที่ร้องทูลพระองค์ด้วยใจจริง” (สดุดี 145:18)

พระเจ้าคือใคร... พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่สร้างสรร

ทุกสิ่งที่เราประดิษฐ์ขึ้นนั้น เกิดจากการนำวัสดุที่มีอยู่แล้ว มาประกอบเข้าด้วยกัน หรือ สร้างขึ้นจากความคิดที่มีมาก่อนหน้านั้นแล้ว พระเจ้าทรงมีความสามารถที่จะตรัสเพื่อให้สิ่งที่ไม่มี บังเกิดขึ้นมาได้ ไม่ใช่แค่กาแล็กซี่หรือรูปแบบของสิ่งมีชีวิตเท่านั้น แต่ทางแก้ของปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ด้วย พระเจ้าทรงสร้างสรร สิ่งต่างๆเพื่อเรา พระองค์ทรงอยากให้เรารับรู้และพึ่งพาในฤทธิ์อำนาจของพระองค์
“องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราใหญ่ยิ่ง และทรงฤทธานุภาพอุดม ความเข้าใจของ พระองค์นั้นวัดไม่ได้” ( สดุดี147:5)
“... ความอุปถัมภ์ของข้าพเจ้ามาจากไหน ? ความอุปถัมภ์ของข้าพเจ้ามาจากพระเจ้า ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก” (สดุดี121:1-2)

พระเจ้าคือใคร... พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่ยกโทษให้

เราทำบาป เรามีแนวโน้มที่จะทำตามหนทางของเราเอง แทนที่จะเป็นหนทางของพระเจ้า และพระเจ้าทรงเห็นมันและทราบเกี่ยวกับมันด้วย พระเจ้าไม่ได้ทรงเพิกเฉยต่อความบาปเช่นนั้น แต่ทรงเตรียมที่จะพิพากษาและกล่าวโทษคนทั้งหลายเนื่องด้วยบาปของพวกเขา อย่างไรก็ตาม พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่มีการยกโทษให้และจะทรงอภัยให้เรา เริ่มตั้งแต่เมื่อเรามีความสัมพันธ์กับพระองค์ พระเยซู พระบุตรของพระเจ้า ทรงจ่ายแทนความบาปของเราด้วยการตายบนไม้กางเขนของพระองค์แล้ว พระองค์ทรงฟื้นขึ้นมาจากความตายและเสนอการอภัยโทษบาปนี้แก่เราแล้ว
“... คือความชอบธรรมของพระเจ้า ซึ่งทรงประทานโดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์ แก่ทุกคน ที่เชื่อ เพราะว่าคนทั้งหลายไม่ต่างกัน... แต่พระเจ้าทรงพระกรุณาให้เขาเป็นผู้ชอบธรรมโดยไม่ คิดมูลค่า โดยให้พระคริสต์เป็นผู้ไถ่เขาให้พ้นบาปแล้ว พระเจ้าได้ทรงตั้งพระเยซูไว้ให้เป็นที่ ลบล้างพระอาชญาโดยพระโลหิตของพระองค์ โดยความเชื่อจึงได้ผล...” (โรม3:22,24,25)

พระเจ้าคือใคร... พระองค์ทรงสัตย์จริง

ดังเช่นคนทั่วไปมักจะบอกให้เราทราบถึงความคิดและความรู้สึกของพวกเขา พระเจ้าทรงบอกกับเราอย่างชัดเจนถึงพระองค์เอง สิ่งที่ทำให้พระองค์แตกต่างจากเราคือ พระองค์ทรงไว้ซึ่งความสัตย์จริงอยู่เสมอ ทุกสิ่ง ที่ตรัสเกี่ยวกับพระองค์เองก็ดี เกี่ยวกับตัวเราก็ดี ล้วนแล้วแต่เป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ มันจริงยิ่งกว่าความรู้สึก ความคิด หรือการรับรู้ของเราเสียอีก ทุกอย่างที่พระเจ้าตรัสนั้นถูกต้องชัดเจนและสัตย์จริงทั้งหมด พระสัญญา ที่ทรงกระทำกับเรานั้น เรายึดถือได้อย่างเต็มที่ พระองค์ทรงหมายความตามนั้น เราสามารถที่จะยึดมั่นในพระดำรัสของพระองค์ได้
“การคลี่คลายพระวจนะของพระองค์ให้ความสว่าง ทั้งให้ความเข้าใจแก่คนรู้น้อย พระวจนะของพระองค์เป็นโคมสำหรับเท้าของข้าพระองค์ และเป็นความสว่าง แก่มรรคาของข้าพระองค์” (สดุดี119:130,105)

พระเจ้าคือใคร... พระองค์ทรงสามารถทำได้ทุกสิ่ง

คุณอยากจะทำทุกอย่างถูกต้อง 100% ตลอดเวลาไหม? พระเจ้าทรงเป็นเช่นนั้น พระปัญญาของพระองค์ ไม่มีขอบเขตจำกัด พระองค์ทรงเข้าพระทัยในทุกองค์ประกอบของสถานการณ์หนึ่งๆ รวมทั้งประวัติศาสตร์ ของมันและเหตุการณ์ต่างๆในอนาคตที่จะเกี่ยวข้องกับสถานการณ์นั้นๆด้วย คุณไม่จำเป็นต้องรายงาน ความคืบหน้าต่อพระองค์ หรือให้คำปรึกษากับพระองค์ หรือพยายามโน้มน้าวให้พระองค์ทรงทำในสิ่งที่ ถูกต้อง พระองค์จะทรงกระทำแน่ เพราะว่าทรงสามารถที่จะทำได้ และแรงจูงใจของพระองค์นั้นก็บริสุทธิ์ ถ้าเราไว้วางใจในพระองค์ พระองค์จะไม่ทรงทำสิ่งใดผิดพลาดเลย จะไม่ทรงเอาเปรียบ หรือหลอกลวงเรา เราสามารถวางใจได้ว่า พระองค์จะทรงกระทำสิ่งที่ถูกต้อง ในทุกสถานการณ์และทุกๆเวลา
“เออ อย่าให้ผู้ใดๆ ที่เฝ้าพระองค์อยู่นั้นได้อาย...” (สดุดี25:3)

 ขอบคุณข้อมูลจากเพจ everythaistudent.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7

  ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7   จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ จงมั่นคงในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาแล้ว และ...