คริสตชนคือใคร
1.
คำ “คริสตชน คริสเตียน คริสตัง (คริสต+องค์) มาจากคำ “คริสต์” คริสตชนจึงแปลว่า
ผู้นับถือพระคริสตเจ้า เมื่อพูดว่าใครผู้หนึ่ง
“ดำรงชีวิตแบบคริสตชน”
ย่อมหมายความว่าผู้นั้นตัดสินใจแน่วแน่เด็ดขาดที่จะจงรักภักดี
และเดินตามพระฉบับแบบของพระคริสตเจ้า นับเป็นการมีชีวิตร่วมสนิทกับพระองค์
ผู้เป็นพระเชษฐาพระผู้ไถ่ และเจ้านายของมนุษย์ทั้งหลาย
2.
พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้กระตุ้นปลุกชีวิตของคริสตชน
เป็นแบบฉบับของคริสตชนไม่ว่าในกิจการใดๆในเหตุการณ์ต่างๆของชีวิต
ไม่ว่าเวลายินดีหรือขัดสน ไม่ว่าเวลาทำงานหรือหยุดพักผ่อน รวมถึงเวลาเสี่ยงภัยและประจญภัย
ตลอดเวลากระสับกระส่ายใกล้จะตาย คริสตชนสามารถมองดูพระเยซูคริสตเจ้า
ผู้เสด็จมาก่อนและสอนว่า ต้องไปหาพระเป็นเจ้าอย่างไร
คริสตชนเมื่ออ่านพระวรสารบ่อยๆจนคุ้น ก็จะพบพระวาจาและพระฉบับของพระคริสตเจ้า
ซึ่งทรงแนะให้ประพฤติอย่างไรในภาวะการณ์ต่างๆ
3.
การถือตามพระฉบับแบบของพระคริสตเจ้าทุกๆเวลานั้น
ไม่ใช่เป็นเพียงการเอาอย่างในข้อปลีกย่อยภายนอกเท่านั้นที่เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
แต่เป็นการลอกแบบสภาพจิตใจ
ซึ่งพระคริสตเจ้าได้สำแดงให้เห็นประจักษ์ในพระชนม์ชีพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรับทนทรมานและสิ้นพระชนม์ของพระบิดาและความรักต่อมนุษย์ด้วยน้ำใจกว้างขวาง
ตามที่พระองค์ตรัสว่า “เราไม่ได้มาเพื่อให้คนอื่นรับใช้
แต่เพื่อรับใช้ผู้อื่นและอุทิศชีวิตเป็นค่าไถ่มนุษย์ทั้งหลาย” (มธ.20.28)
อัครธรรมทูตเปาโลก็เขียนไว้ว่า “ขอให้พวกท่านมีความรู้สึกแบบเดียวกับที่มีอยู่ในองค์พระเยซูคริสตเจ้าเถิด”
(ฟป.2.5)
4.
ความพยายามของคริสตชนที่จะถือตามพระคริสตเจ้านี้
พระจิตเป็นผู้ปลุกให้เกิดขึ้นและบำรุงให้คงอยู่
พระจิตเป็นผู้เปลี่ยนแปลงภายในคริสตชน
และดลใจให้มีความรู้สึกเหมือนกับพระคริสตเจ้า
คือให้มีความจงรักภักดีเยี่ยงบุตรต่อพระบิดาและให้มีน้ำใจดีต่อมนุษย์
คริสตชนที่มีผู้นำทางเช่นนี้ย่อมปฏิบัติการต่างๆได้เยี่ยงบุตรของพระเป็นเจ้า
และเดินตามรอยพระยุคลบาทของพระคริสตเจ้าอย่างอิสระ
ทำไมทุกคนจึงไม่เป็นคริสตชน
มิใช่ทุกคนที่ปรารถนาจะเป็นคริสตชน
และพระเจ้าไม่ทรงปรารถนาจะบังคับให้ผู้ใดติดตามพระเยซูเจ้า มีบางคนมิใช่แต่เพียงปฏิเสธพระคริสตเจ้าเท่านั้น
แต่ยังกระทำการเลวร้ายต่อคริสตชนอีกด้วย นั่นเป็นเพราะว่า
พวกเขาไม่เข้าใจถึงความรักที่พระเจ้ามีต่อพวกเขา เราต้องพยายามบอกพวกเขาให้ทราบถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อพวกเขา
ข้อความสำคัญ
พระเยซูเจ้าภาวนาว่า
“แต่บัดนี้ ข้าพเจ้ากำลังกลับไปเฝ้าพระองค์ ข้าพเจ้ากล่าววาจานี้
ขณะที่ยังอยู่ในโลก
เพื่อบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงมอบให้ข้าพเจ้าจะมีความยินดีบริบูรณ์พร้อมกับข้าพเจ้า
ข้าพเจ้ามอบพระวาจาของพระองค์ให้เขาเหล่านั้นแล้วและโลกเกลียดชังเขาเพราะเขาไม่เป็นของโลก
เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าไม่เป็นของโลก
ข้าพเจ้าไม่ได้วอนขอพระองค์ให้ทรงยกเขาออกจากโลกแต่วอนขอให้ทรงรักษาเขาให้พ้นจากมารร้าย
เขาไม่เป็นของโลกเช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าไม่เป็นของโลก” (ยอห์น 17:13-16)
พระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง
มัทธิว 7:14;
ประตูและทางซึ่งนำไปสู่ชีวิตนั้นคับแคบ
คนที่พบทางนี้มีจำนวนน้อย
ยอห์น 15:9
พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร
เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด
kamsonbkk.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น