วิธีคิดบวก
ในโลก อันหยุ่งเหยิงนี้
เวลาเจองานหนัก
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือ โอกาส ในการ เตรียมพร้อม สู่ความ เป็น มืออาชีพ
เวลาเจอปัญหาซับซ้อน
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือ บทเรียนที่จะสร้าง ปัญญา ได้อย่างวิเศษ
เวลาเจอความทุกข์หนัก
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือ แบบฝึกหัด ที่จะช่วยให้เกิด ทักษะ ในการ ดำเนินชีวิต
เวลาเจอนายจอมละเมียด
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือ การฝึกตน ให้เป็น คนสมบูรณ์แบบ (Perfectionist)
เวลาเจอคำตำหนิ
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือ การชี้ขุมทรัพย์ มหาสมบัติ
เวลาเจอคำนินทา
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือ การสะท้อนว่า เรายังคงเป็น คน ที่มีความหมาย
เวลาเจอความผิดหวัง
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือ วิธีที่ธรรมชาติ กำลังสร้าง ภูมิคุ้มกัน ให้กับชีวิต
เวลาเจอความป่วยไข้
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือ การเตือน ให้เห็นคุณค่า ของการ รักษาสุขภาพ ให้ดี
เวลาเจอความพลัดพราก
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือ บทเรียนของ การรู้จักยืนหยัด ด้วยตัวเอง
เวลาเจอลูกหัวดื้อ
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือ โอกาสทอง ของการพิสูจน์ ความเป็นพ่อแม่ ที่แท้จริง
เวลาเจอแฟนทิ้ง
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือ ความเป็นอนิจจัง ที่ทุกชีวิต มีโอกาสพานพบ
เวลาเจอคนที่ใช่แต่เขามีคู่แล้ว
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือ ประจักษ์พยานว่า ไม่มีใคร ได้ทุกอย่าง ดั่งใจหวัง
เวลาเจอภาวะหลุดจากอำนาจ
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือ ความอนัตตา ของชีวิต
ที่สุด
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตของเรา
จงจำไว้ว่า
พระเจ้าทรงรักเรา
ทรงเดินเคียงข้างเราเสมอ
We
will never walk alone
ชีวิตคิดบวก เรื่องจริงของชีวิต
ข้อคิดในการใช้ชีวิต โดยปรับมุมมองเมื่อต้องพบเจอปัญหาต่างๆ
ทั้งยังจะช่วยลดความเครียด โดยการคิดบวก
เวลาเจอวิกฤต ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทพิสูจน์สัจธรรม
“ในวิกฤติย่อมมีโอกาส”
เวลาเจองานหนัก ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือโอกาสในการเตรียมพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ
เวลาเจอปัญหาซับซ้อน ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือบทเรียนที่จะสร้างปัญญาได้อย่างวิเศษ
เวลาเจอความทุกข์หนัก ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือแบบฝึกหัดที่จะช่วยให้เกิดทักษะในการดำเนินชีวิต
เวลาเจอนายจอมละเมียด ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือการฝึกตนให้เป็นคนสมบูรณ์แบบ (Perfectionist)
เวลาเจอคำตำหนิ ให้บอกตวเองว่า นี่คือการชี้ขุมทรัพย์มหาสมบัติ
เวลาเจอคำนินทา ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการสะท้อนว่าเรายังคงเป็นคนที่มีความหมาย
เวลาเจอความผิดหวัง ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือวิธีที่ธรรมชาติกำลังสร้างภูมิคุ้มกันให้กับชีวิต
เวลาเจอความป่วยไข้ ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือการเตือนให้เห็นคุณค่าของการรักษาสุขภาพให้ดี
เวลาเจอแฟนทิ้ง ให้บอกตัวเองว่า นี่คือความเป็นอนิจจังที่ทุกชีวิตมีโอกาสพานพบ
เวลาเจอคนกลิ้งกะล่อน ให้บอกตัวเองว่า
นี่คืออุทาหรณ์ของชีวิตที่ไม่น่าเจริญรอยตาม
เวลาเจอคนที่ใช่ แต่เขามีคู่แล้ว ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือประจักษ์พยานว่าไม่มีใครได้ทุกอย่างดั่งใจหวัง
เวลาเจออุบัติเหตุ ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือตำเตือนว่าจงอย่าประมาทซ้ำอีกเป็นอันขาด
เวลาเจอภาวะหลุดจากอำนาจ ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือความอนัตตาของชีวิตและสรรพสิ่ง
เวลาเจอความจน ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือวิธีที่ธรรมชาติเปิดโอกาสให้เราได้ต่อสู้ชีวิต
เวลาเจอคนเลว ให้บอกตัวเองว่า นี่คือตัวอย่างของชีวิตที่ไม่พึงประสงค์
เวลาเจอความตาย ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือฉากสุดท้ายที่จะทำให้ชีวิตมีความสมบูรณ์
พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อย และแบกภาระหนัก
จงมาพบเราเถิด เราจะให้ท่านได้พักผ่อน จงรับแอกของเราแบกไว้ และมาเป็นศิษย์ของเรา
เพราะเรามีใจสุภาพอ่อนโยนและถ่อมตน จิตใจของท่านจะได้รับการพักผ่อน
เพราะว่าแอกของเราอ่อนนุ่มและภาระที่เราให้ท่านแบกก็เบา” (มัทธิว 11:28-30)
kamsonbkk.com
พระคัมภีร์ช่วยเราเป็นคนคิดบวก
การทดสอบอะไรจะช่วยเราให้เป็นคนคิดบวก?
อัครสาวกเปาโลพูดถึงการทดสอบอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้เราเป็นคนคิดบวก
เขาเตือนพี่น้องในประชาคมโครินท์ว่า
“จงหมั่นทดสอบว่าท่านทั้งหลายยึดมั่นกับหลักความเชื่อหรือไม่” (2
โครินธ์ 13:5 ให้พวกคุณคอยตรวจสอบตัวเองว่ายังใช้ชีวิตตามความเชื่อของคริสเตียนอยู่ไหม
ทดสอบตัวเองอยู่เรื่อย ๆ เพื่อพิสูจน์ว่าพวกคุณเป็นคนอย่างไรจริง ๆ+
พวกคุณไม่รู้หรือว่าพระเยซูคริสต์เป็นหนึ่งเดียวกับพวกคุณ? นอกเสียจากว่าพวกคุณเป็นคนที่พระเจ้าไม่ยอมรับ )
“หลักความเชื่อ”
ที่ว่านี้หมายถึงคำสอนทั้งหมดของคริสเตียนที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์
เราต้องเทียบดูว่าคำพูดและการกระทำของเราตรงกับคำสอนในพระคัมภีร์ไหม
ถ้าใช่ เราก็ผ่านการทดสอบและแสดงว่าเรากำลัง
“ยึดมั่นกับหลักความเชื่อ”
แต่เราต้องให้พระคัมภีร์ตรวจสอบเราทุกด้านและทำตามคำสอนทั้งหมดของพระคัมภีร์
ไม่ใช่เลือกทำเฉพาะบางอย่าง—(ยากอบ. 2:10, 11 ถ้าใครเชื่อฟังกฎหมายของโมเสสทั้งหมดแต่แล้วทำพลาดไปข้อหนึ่ง
ก็ถือว่าเขาเป็นผู้ฝ่าฝืนกฎหมายทั้งหมด+ 11 อย่าลืมว่าพระองค์ที่บอกว่า
“อย่าเล่นชู้”+ ก็บอกด้วยว่า “อย่าฆ่าคน”+ ดังนั้น
ถ้าคุณไม่เล่นชู้แต่ฆ่าคน คุณก็เป็นผู้ฝ่าฝืนกฎหมายอยู่ดี)
ทำไมเราควรตรวจดูตัวเองว่าเรา
“ยึดมั่นกับหลักความเชื่อหรือไม่”?
คุณอาจไม่กล้าตรวจสอบความเชื่อของตัวเอง
โดยเฉพาะถ้าคุณคิดว่าจะไม่ผ่านแน่ ๆ แต่ความคิดของพระเจ้าสำคัญกว่าและสูงส่งกว่าความคิดของเรามาก
(อิสยาห์. 55:8, 9 พระเจ้าพูดว่า
“ความคิดของเราไม่เหมือนกับความคิดของเจ้า+และแนวทางของเราก็ไม่เหมือนกับแนวทางของเจ้า9
เหมือนกับที่ท้องฟ้าสูงกว่าแผ่นดิน แนวทางของเราก็เหนือกว่าแนวทางของเจ้าและความคิดของเราก็สูงส่งกว่าความคิดของเจ้า
)
พระองค์สังเกตดูผู้รับใช้แต่ละคนไม่ใช่เพื่อดูว่าเรามีข้อบกพร่องตรงไหนแต่เพื่อมองหาข้อดีของเราและช่วยเรา
เมื่อคุณใช้พระคำของพระเจ้าตรวจดูตัวเองว่า
“ยึดมั่นกับหลักความเชื่อหรือไม่”
คุณก็จะเห็นว่าพระเจ้ามองคุณอย่างไร
แล้วคุณก็จะไม่คิดลบอีกต่อไป เพราะคุณรู้ว่าจริง ๆ
แล้วคุณมีค่ามากในสายตาของพระยะโฮวา
เหมือนกับว่าคุณได้เปิดผ้าม่านออกเพื่อให้แสงอาทิตย์ที่สดใสส่องเข้ามาในห้องที่มืดมิดของคุณ
เราจะได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องราวของผู้ซื่อสัตย์ในพระคัมภีร์?
วิธีทดสอบที่ได้ผลอย่างหนึ่งคือ
วิเคราะห์เรื่องราวของผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ในพระคัมภีร์
ลองเปรียบเทียบสภาพการณ์และความรู้สึกของพวกเขากับตัวคุณเอง
คิดดูว่าถ้าคุณเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันคุณจะทำอย่างไร ในพระคัมภีร์จะช่วยตรวจดูว่าคุณ
“ยึดมั่นกับหลักความเชื่อ” หรือไม่ และช่วยคุณให้มองตัวเองในแง่บวก
wol.jw.org
คนที่สร้างพลังบวก
1. มักจะพูดในแง่ดี ยิ้มและยิ้ม
2. มักจะฟัง มากกว่าพูด
3. หนุนใจมากกว่าตำหนิ
4. ปราถนาดี มากกว่าจับผิด
5. พูดลับหลังผู้อื่น ในแง่ดี
#อบอุ่นอภัยง่าย
#เรียบง่ายไม่ใช้อำนาจ.
#มักดึงดูดคนมาหา
คนที่สร้างพลังลบ
1. มักพูดลบๆ ตรึงเครียด
2. ขี้บ่น ไม่ยอมทิ้งอดีต
3. ตำหนิ น่าเบื่อ
4. จับผิด ไม่พูดส่วนดีคนอื่น
5. พูดลับหลัง ในแง่ลบ
#กดดันเจ้าคิดเจ้าแค้น
#ใช้อำนาจ #คนมักจะกลัวไม่กล้าเข้าหา
-ฟีลิปปี 2:13-16 เพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้ทรงกระทำกิจอยู่ภายในท่าน
ให้ท่านมีใจปรารถนาทั้งให้ประพฤติตามชอบพระทัยของพระองค์
จงทำสิ่งสารพัดโดยปราศจากการบ่นและการทุ่มเถียงกัน
เพื่อท่านทั้งหลายจะไม่ถูกติเตียน และไม่มีความผิด
เป็น บุตรที่ปราศจากตำหนิของพระเจ้า ในท่ามกลาง
พงศ์พันธุ์ที่คดโกงและวิปลาส ท่านปรากฏในหมู่พวกเขา
ดุจดวงสว่างต่างๆในโลก จงยึดมั่นในพระวาทะแห่งชีวิต
เรียนพระคัมภีร์ ออนไลน์ กับ เจริญ ยธิกุล