วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561

วิธีคิดบวก ในโลก อันหยุ่งเหยิงนี้ และพระ​คัมภีร์​ช่วย​เรา​เป็น​คน​คิด​บวกได้อย่างไร? มาอ่านดูนะคะ



วิธีคิดบวก ในโลก อันหยุ่งเหยิงนี้
เวลาเจองานหนัก
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ โอกาส ในการ เตรียมพร้อม สู่ความ เป็น มืออาชีพ

เวลาเจอปัญหาซับซ้อน
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ บทเรียนที่จะสร้าง ปัญญา ได้อย่างวิเศษ

เวลาเจอความทุกข์หนัก
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ แบบฝึกหัด ที่จะช่วยให้เกิด ทักษะ ในการ ดำเนินชีวิต


เวลาเจอนายจอมละเมียด
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ การฝึกตน ให้เป็น คนสมบูรณ์แบบ (Perfectionist)

เวลาเจอคำตำหนิ
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ การชี้ขุมทรัพย์ มหาสมบัติ

เวลาเจอคำนินทา
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ การสะท้อนว่า เรายังคงเป็น คน ที่มีความหมาย

เวลาเจอความผิดหวัง
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ วิธีที่ธรรมชาติ กำลังสร้าง ภูมิคุ้มกัน ให้กับชีวิต

เวลาเจอความป่วยไข้
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ การเตือน ให้เห็นคุณค่า ของการ รักษาสุขภาพ ให้ดี

เวลาเจอความพลัดพราก
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ บทเรียนของ การรู้จักยืนหยัด ด้วยตัวเอง

เวลาเจอลูกหัวดื้อ
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ โอกาสทอง ของการพิสูจน์ ความเป็นพ่อแม่ ที่แท้จริง

เวลาเจอแฟนทิ้ง
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ ความเป็นอนิจจัง ที่ทุกชีวิต มีโอกาสพานพบ

เวลาเจอคนที่ใช่แต่เขามีคู่แล้ว
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ ประจักษ์พยานว่า ไม่มีใคร ได้ทุกอย่าง ดั่งใจหวัง

เวลาเจอภาวะหลุดจากอำนาจ
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ ความอนัตตา ของชีวิต

ที่สุด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตของเรา
จงจำไว้ว่า พระเจ้าทรงรักเรา
ทรงเดินเคียงข้างเราเสมอ
We will never walk alone

ชีวิตคิดบวก เรื่องจริงของชีวิต
ข้อคิดในการใช้ชีวิต โดยปรับมุมมองเมื่อต้องพบเจอปัญหาต่างๆ ทั้งยังจะช่วยลดความเครียด โดยการคิดบวก
วลาเจอศัตรูคอยกลั่นแกล้ง ให้บอกตัวเองว่านี่คือบททดสอบที่ว่า “มารไม่มี บารมีไม่เกิด”
เวลาเจอวิกฤต ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทพิสูจน์สัจธรรม “ในวิกฤติย่อมมีโอกาส”
เวลาเจองานหนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสในการเตรียมพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ
เวลาเจอปัญหาซับซ้อน ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทเรียนที่จะสร้างปัญญาได้อย่างวิเศษ
เวลาเจอความทุกข์หนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือแบบฝึกหัดที่จะช่วยให้เกิดทักษะในการดำเนินชีวิต
เวลาเจอนายจอมละเมียด ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการฝึกตนให้เป็นคนสมบูรณ์แบบ (Perfectionist)
เวลาเจอคำตำหนิ ให้บอกตวเองว่า นี่คือการชี้ขุมทรัพย์มหาสมบัติ
เวลาเจอคำนินทา ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการสะท้อนว่าเรายังคงเป็นคนที่มีความหมาย
เวลาเจอความผิดหวัง ให้บอกตัวเองว่า นี่คือวิธีที่ธรรมชาติกำลังสร้างภูมิคุ้มกันให้กับชีวิต
เวลาเจอความป่วยไข้ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการเตือนให้เห็นคุณค่าของการรักษาสุขภาพให้ดี
เวลาเจอแฟนทิ้ง ให้บอกตัวเองว่า นี่คือความเป็นอนิจจังที่ทุกชีวิตมีโอกาสพานพบ
เวลาเจอคนกลิ้งกะล่อน ให้บอกตัวเองว่า นี่คืออุทาหรณ์ของชีวิตที่ไม่น่าเจริญรอยตาม
เวลาเจอคนที่ใช่ แต่เขามีคู่แล้ว ให้บอกตัวเองว่า นี่คือประจักษ์พยานว่าไม่มีใครได้ทุกอย่างดั่งใจหวัง
เวลาเจออุบัติเหตุ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือตำเตือนว่าจงอย่าประมาทซ้ำอีกเป็นอันขาด
เวลาเจอภาวะหลุดจากอำนาจ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือความอนัตตาของชีวิตและสรรพสิ่ง
เวลาเจอความจน ให้บอกตัวเองว่า นี่คือวิธีที่ธรรมชาติเปิดโอกาสให้เราได้ต่อสู้ชีวิต
เวลาเจอคนเลว ให้บอกตัวเองว่า นี่คือตัวอย่างของชีวิตที่ไม่พึงประสงค์
เวลาเจอความตาย ให้บอกตัวเองว่า นี่คือฉากสุดท้ายที่จะทำให้ชีวิตมีความสมบูรณ์

พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อย และแบกภาระหนัก จงมาพบเราเถิด เราจะให้ท่านได้พักผ่อน จงรับแอกของเราแบกไว้ และมาเป็นศิษย์ของเรา เพราะเรามีใจสุภาพอ่อนโยนและถ่อมตน จิตใจของท่านจะได้รับการพักผ่อน  เพราะว่าแอกของเราอ่อนนุ่มและภาระที่เราให้ท่านแบกก็เบา” (มัทธิว 11:28-30)
kamsonbkk.com

พระ​คัมภีร์​ช่วย​เรา​เป็น​คน​คิด​บวก
การ​ทดสอบ​อะไร​จะ​ช่วย​เรา​ให้​เป็น​คน​คิด​บวก?
อัครสาวก​เปาโล​พูด​ถึง​การ​ทดสอบ​อย่าง​หนึ่ง​ที่​จะ​ช่วย​ให้​เรา​เป็น​คน​คิด​บวก เขา​เตือน​พี่​น้อง​ใน​ประชาคม​โครินท์​ว่า “จง​หมั่น​ทดสอบ​ว่า​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ยึด​มั่น​กับ​หลัก​ความ​เชื่อ​หรือ​ไม่” (2 โครินธ์ 13:5 ให้​พวก​คุณ​คอย​ตรวจ​สอบ​ตัว​เอง​ว่า​ยัง​ใช้​ชีวิต​ตาม​ความ​เชื่อ​ของ​คริสเตียน​อยู่​ไหม ทดสอบ​ตัว​เอง​อยู่​เรื่อย ๆ เพื่อ​พิสูจน์​ว่า​พวก​คุณ​เป็น​คน​อย่าง​ไร​จริง ๆ+ พวก​คุณ​ไม่​รู้​หรือ​ว่า​พระ​เยซู​คริสต์​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กับ​พวก​คุณ? นอก​เสีย​จาก​ว่า​พวก​คุณ​เป็น​คน​ที่​พระเจ้า​ไม่​ยอม​รับ ) “หลัก​ความ​เชื่อ” ที่​ว่า​นี้​หมาย​ถึง​คำ​สอน​ทั้ง​หมด​ของ​คริสเตียน​ที่​เขียน​ไว้​ใน​พระ​คัมภีร์ เรา​ต้อง​เทียบ​ดู​ว่า​คำ​พูด​และ​การ​กระทำ​ของ​เรา​ตรง​กับ​คำ​สอน​ใน​พระ​คัมภีร์​ไหม ถ้า​ใช่ เรา​ก็​ผ่าน​การ​ทดสอบ​และ​แสดง​ว่า​เรา​กำลัง “ยึด​มั่น​กับ​หลัก​ความ​เชื่อ” แต่​เรา​ต้อง​ให้​พระ​คัมภีร์​ตรวจ​สอบ​เรา​ทุก​ด้าน​และ​ทำ​ตาม​คำ​สอน​ทั้ง​หมด​ของ​พระ​คัมภีร์ ไม่​ใช่​เลือก​ทำ​เฉพาะ​บาง​อย่าง—(ยากอบ. 2:10, 11 ถ้า​ใคร​เชื่อ​ฟัง​กฎหมาย​ของ​โมเสส​ทั้ง​หมด​แต่​แล้ว​ทำ​พลาด​ไป​ข้อ​หนึ่ง ก็​ถือ​ว่า​เขา​เป็น​ผู้​ฝ่าฝืน​กฎหมาย​ทั้ง​หมด+ 11 อย่า​ลืม​ว่า​พระองค์​ที่​บอก​ว่า “อย่า​เล่นชู้”+ ก็​บอก​ด้วย​ว่า “อย่า​ฆ่า​คน”+ ดัง​นั้น ถ้า​คุณ​ไม่​เล่นชู้​แต่​ฆ่า​คน คุณ​ก็​เป็น​ผู้​ฝ่าฝืน​กฎหมาย​อยู่​ดี)


ทำไม​เรา​ควร​ตรวจ​ดู​ตัว​เอง​ว่า​เรา “ยึด​มั่น​กับ​หลัก​ความ​เชื่อ​หรือ​ไม่”?
คุณ​อาจ​ไม่​กล้า​ตรวจ​สอบ​ความ​เชื่อ​ของ​ตัว​เอง โดย​เฉพาะ​ถ้า​คุณ​คิด​ว่า​จะ​ไม่​ผ่าน​แน่ ๆ แต่​ความ​คิด​ของ​พระ​เจ้า​สำคัญ​กว่า​และ​สูง​ส่ง​กว่า​ความ​คิด​ของ​เรา​มาก (อิสยาห์.  55:8, 9 พระ​เจ้า​พูด​ว่า “ความ​คิด​ของ​เรา​ไม่​เหมือน​กับ​ความ​คิด​ของ​เจ้า+และ​แนว​ทาง​ของ​เรา​ก็​ไม่​เหมือน​กับ​แนว​ทาง​ของ​เจ้า9 เหมือน​กับ​ที่​ท้องฟ้า​สูง​กว่า​แผ่นดิน แนว​ทาง​ของ​เรา​ก็​เหนือ​กว่า​แนว​ทาง​ของ​เจ้าและ​ความ​คิด​ของ​เรา​ก็​สูง​ส่ง​กว่า​ความ​คิด​ของ​เจ้า ) พระองค์​สังเกต​ดู​ผู้​รับใช้​แต่​ละ​คน​ไม่​ใช่​เพื่อ​ดู​ว่า​เรา​มี​ข้อ​บกพร่อง​ตรง​ไหน​แต่​เพื่อ​มอง​หา​ข้อ​ดี​ของ​เรา​และ​ช่วย​เรา เมื่อ​คุณ​ใช้​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ตรวจ​ดู​ตัว​เอง​ว่า “ยึด​มั่น​กับ​หลัก​ความ​เชื่อ​หรือ​ไม่” คุณ​ก็​จะ​เห็น​ว่า​พระเจ้า​มอง​คุณ​อย่าง​ไร แล้ว​คุณ​ก็​จะ​ไม่​คิด​ลบ​อีก​ต่อ​ไป เพราะ​คุณ​รู้​ว่า​จริง ๆ แล้ว​คุณ​มี​ค่า​มาก​ใน​สายตา​ของ​พระ​ยะโฮวา เหมือน​กับ​ว่า​คุณ​ได้​เปิด​ผ้า​ม่าน​ออก​เพื่อ​ให้​แสง​อาทิตย์​ที่​สดใส​ส่อง​เข้า​มา​ใน​ห้อง​ที่​มืด​มิด​ของ​คุณ

เรา​จะ​ได้​ประโยชน์​อะไร​จาก​เรื่อง​ราว​ของ​ผู้​ซื่อ​สัตย์​ใน​พระ​คัมภีร์?
วิธี​ทดสอบ​ที่​ได้​ผล​อย่าง​หนึ่ง​คือ วิเคราะห์​เรื่อง​ราว​ของ​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อ​สัตย์​ใน​พระ​คัมภีร์ ลอง​เปรียบ​เทียบ​สภาพการณ์​และ​ความ​รู้สึก​ของ​พวก​เขา​กับ​ตัว​คุณ​เอง คิด​ดู​ว่า​ถ้า​คุณ​เจอ​เหตุ​การณ์​แบบ​เดียว​กัน​คุณ​จะ​ทำ​อย่าง​ไร ​ใน​พระ​คัมภีร์​​จะ​ช่วย​ตรวจ​ดู​ว่า​คุณ “ยึด​มั่น​กับ​หลัก​ความ​เชื่อ” หรือ​ไม่ และ​ช่วย​คุณ​ให้​มอง​ตัว​เอง​ใน​แง่​บวก
wol.jw.org

คนที่สร้างพลังบวก
1. มักจะพูดในแง่ดี ยิ้มและยิ้ม
2. มักจะฟัง มากกว่าพูด
3. หนุนใจมากกว่าตำหนิ
4. ปราถนาดี มากกว่าจับผิด
5. พูดลับหลังผู้อื่น ในแง่ดี
#อบอุ่นอภัยง่าย
#เรียบง่ายไม่ใช้อำนาจ. #มักดึงดูดคนมาหา

คนที่สร้างพลังลบ
1. มักพูดลบๆ ตรึงเครียด
2. ขี้บ่น ไม่ยอมทิ้งอดีต
3. ตำหนิ น่าเบื่อ
4. จับผิด ไม่พูดส่วนดีคนอื่น
5. พูดลับหลัง ในแง่ลบ
#กดดันเจ้าคิดเจ้าแค้น
#ใช้อำนาจ #คนมักจะกลัวไม่กล้าเข้าหา

-ฟีลิปปี 2:13-16 เพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้ทรงกระทำกิจอยู่ภายในท่าน
ให้ท่านมีใจปรารถนาทั้งให้ประพฤติตามชอบพระทัยของพระองค์
จงทำสิ่งสารพัดโดยปราศจากการบ่นและการทุ่มเถียงกัน
เพื่อท่านทั้งหลายจะไม่ถูกติเตียน และไม่มีความผิด
เป็น บุตรที่ปราศจากตำหนิของพระเจ้า ในท่ามกลาง
พงศ์พันธุ์ที่คดโกงและวิปลาส ท่านปรากฏในหมู่พวกเขา
ดุจดวงสว่างต่างๆในโลก จงยึดมั่นในพระวาทะแห่งชีวิต
เรียนพระคัมภีร์ ออนไลน์ กับ เจริญ ยธิกุล




วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2561

อย่าเป็นคนที่มีนิสัยขี้ทะเลาะ เพราะอยู่ที่ไหนก็จะไม่เป็นพระพรแก่คนรอบข้าง



พระธรรมสุภาษิตในพระคัมภีร์ มีการเขียนไว้และสอนเกี่ยวกับเรื่องราวของการทะเลาะไว้เยอะมากหากเราอ่านสุภาษิตวันละบทจะทำให้เราเป็นคนฉลาดหลักแหลมขึ้นเพราะว่ามีทั้งหมด 31 บท หากเราสามารถอ่านและศึกษาได้วันละบทก็ จะทำให้เราเป็นคนที่มีสติปัญญาเข้าใจและยอมรับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตได้เป็นอย่างดี

คนที่ชอบทะเลาะวิวาทให้เราลองสังเกตดูเราจะเห็นว่าเขาเป็นคนที่มีชีวิตมีปัญหา แน่นอน

คนแบบนี้อยู่ตรงไหนก็จะมีปัญหาตลอดเวลา คนขี้ทะเลาะคือคนโง่ประเภทหนึ่ง ที่จะสร้างเรื่องราวได้ตลอดเวลา เพียงเพื่อให้ตนเองได้ความสะใจ และคิดว่าตนคือผู้เก่ง ผู้ชนะ แต่หารู้ไม่ว่ามันจะนำพาความวิบัติมาให้ตน

คนฉลาดมีสติปัญญาเขาจะไม่ยินดีกับเรื่องราวที่จะนำมาซึ่งการทะเลาะวิวาท เพราะมันจะนำมาซึ่งความเกลียดชัง และบ่อนทำลาย เขาจะไม่ไปเสียเวลากับการวิวาท

คนที่ชอบเยาะเย้ยถากถาง เป็นลักษณะของคนที่นำมาซึ่งการวิวาท ปากไม่สร้างสรรค์ ชอบสร้างปัญหาให้บานปลายใหญ่โตไปเรื่อย

คนชอบวิวาทจะมีนิสัยชอบยิ่งชิง ชอบอยากได้ของคนอื่น. แม้จะต้องไปมีเรื่องทะเลาะวิวาท พิพาทต่างๆ แต่เพื่อให้ได้ครอบครองสิ่งของต่างๆเหล่านั้นเขาก็จะทำ

การทะเลาะวิวาททำให้เกิดการทรยศหักหลังกัน ทำให้คนไม่ซื่อสัตย์ต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นในสังคมพี่น้อง เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน

สุภาษิต10:12
ความเกลียดชังเร้าให้เกิดการวิวาทแต่ความรักให้อภัยการละเมิดทุกอย่าง

สุภาษิต13:10
ความโอหังมีแต่ก่อให้เกิดการวิวาทแต่ปัญญาจะอยู่กับผู้ที่รับคำแนะนำ.

สุภาษิต15:18
คนอารมณ์ร้อนเร้าให้เกิดการวิวาทแต่คนที่โกรธช้าก็ระงับการพิพาท.

สุภาษิต17:19
ผู้รักการละเมิดก็รักการวิวาท. ผู้ทำประตูบ้านของตนให้สูงก็แสวงหาการทำลาย.

สุภาษิต18:6
ริมฝีปากของคนโง่นำการวิวาทมาและปากของเขาก็เชื้อเชิญการโบย.

สุภาษิต20:3
ที่จะหลีกเลี่ยงการวิวาทก็เป็นเกียรติสำหรับคนเราแต่คนโง่ทุกคนจะทะเลาะวิวาทกัน

สุภาษิต26:20-21
ทะเลาะก็เป็นเหตุให้การวิวาทลุกลาม ฉันนั้น.

สุภาษิต28:25
คนโลภเร้าให้เกิดการวิวาทแต่ผู้ที่วางใจในพระยาเวห์จะเจริญรุ่งเรือง

สุภาษิต29:22
คนขี้โมโหเร้าให้เกิดการวิวาทและคนเจ้าอารมณ์ก็ทำให้เกิดการทรยศมากขึ้น

ตรวจสอบตัวเราเองด่วน เพราะการเป็นคนชอบทะเลาะ จะเป็นการทำตัวให้ไม่เป็นพระพรแก่ผู้พบเห็น หรือผู้คนรอบข้าง.

ม้าจะลากของไม่ได้ในขณะที่มันกำลังเตะอยู่. มนุษย์ก็เช่นเดียวกันเราจะไม่สามารถพูดจาไพเราะได้ถ้าปากของเรายังพูดจาหาเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง กับคนอื่นอยู่ตลอดเวลา.

ถ้าเราเป็นคนชอบทะเลาะวิวาทหาเรื่องทะเลาะอยู่เรื่อยบางทีมันอาจไม่ได้ส่งผลดีต่อชีวิตของเราซะทีเดียวเพราะสุดท้ายแล้วสิ่งไรร้ายมันจะวน กลับมาที่ตัวเองนั่นแหละ แล้วคนขี้ทะเลาะก็เปรียบเสมือนว่าคนคนนั้นมีอีคิวต่ำเพราะเขาจะเป็นคนที่มีปัญหาทางอารมณ์ซึ่งเป็นเหตุผลทำให้คนหลายคนประสบความล้มเหลวในชีวิตต่อให้เก่งแค่ไหนแต่มีภาวะอารมณ์ต่ำก็ไม่สามารถประคับประคอง ชีวิตได้ดีเพราะคนที่มีอีคิวต่ำก็คือคนที่พร้อมจะชนเสมอเป็นคนที่พร้อมจะมีเรื่องเสมอไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ถ้าเค้าไม่ได้ดั่งใจเค้าก็จะเป็นคนที่มีจุดเดือดต่ำแม้จะถูกสะกิดอยู่นิดเดียวก็สามารถระเบิดออกมาได้

อันที่จริงแล้วน้ำพระทัยของพระเจ้าไม่ต้องการให้เราเป็นคน ชอบทะเลาะหรือชอบไปมีเรื่องกับคนโน้นคนนี้เลยนะ. เอาจริงๆแล้วตามน้ำพระทัยของพระเจ้าพระองค์เน้นในเรื่องการทำลายความเป็นศัตรูให้หายไป พระเจ้าทรงเป็นองค์แห่งความรัก.

รีบสำรวจตัวเองตอนนี้เลยว่าเป็นคนชอบขี้ทะเลาะหรือเปล่า

อย่าทะนงตนว่าตนเองเก่งกล้าสามารถ หรือมีเงิน มีตำแหน่ง มีอำนาจรุ่งเรือง
หากพระเจ้าไม่ประทานลมปราณ พร้อมกับพระพรต่างๆ เราทำอะไรไม่ได้เลย
ให้เราสำนึกว่าทุกสิ่งที่เรามีล้วนเป็นของประทานอย่างไม่มีเงื่อนไขจากพระองค์

♡♡♡ อ่าน 2 ปต 1:1-7 ♡♡♡ พระคริสตเจ้าประทานทุกสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้เรามีชีวิตอย่างเลื่อมใสศรัทธา เพราะเรารู้จักพระองค์ผู้ทรงเรียกเราอาศัยพระสิริรุ่งโรจน์ และพระฤทธานุภาพของพระองค์

ความลับที่มนุษย์รักษาได้ยากที่สุด
คือความเห็นเกี่ยวกับตัวเอง.

ข้าพเจ้าสำนึกอยู่เสมอว่า พระเป็นเจ้าทรงพระเมตตาต่อข้าพเจ้ามากเพียงใด
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงขอบอกพวกท่านว่า
อย่าคิดว่าตัวท่านดีกว่าที่เป็นอยู่จริงๆ
จงใช้วิจารณญาณ แล้วจงวัดสภาพของตัวท่านเอง
โดยสำนึกว่า
พระเป็นเจ้าทรงประทานความเชื่อ
ให้แก่ท่านมากมายเพียงใด
(โรม 12:3)

สิ่งที่พระเจ้าทอดพระเนตรคือท่าทีใจใจของคุณ การทำให้พระองค์ทรงพอพระทัยคือความปรารถนาที่ลึกที่สุดของคุณหรือไม่ นี่คือเป้าหมายชีวิตของเปาโล "เหตุฉะนั้นตั้งเป้าหมายของเราว่าจะอยู่ในกายนี้ดีหรือไม่อยู่ก็ดี เราก็จะทำตัวให้เป็นที่พอพระทัยของพระองค์ (2 โครินธ์ 5:9) เมื่อเราดำเนินชีวิตโดยคำนึงถึงนิรันดรกาล การจดจ่อของเราก็จะเปลี่ยนไปจาก"ฉันจะหาความสุขจากชีวิตนี้ได้มากแค่ไหน" เป็น "พระเจ้าทรงพอพระทัยเพราะชีวิตฉันมากแค่ไหน"

พระเจ้าทรงมองหาคนที่เหมือนโนอาห์ในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดคือคนที่ตั้งใจจะมีชีวิตเพื่อให้พระเจ้าพอพระทัย พระคัมภีร์กล่าวว่า "พระเจ้าทรงมองลงมาจากฟ้าสวรรค์ดูลูกหลานของมนุษย์ว่า จะมีคนใดบ้างที่ฉลาด ที่เสาะแสวงหาพระเจ้า" (สดุดี 14:2)
ลองให้เราถามตัวเราเองว่า เราจะตั้งเป้าหมายชีวิตเพื่อให้พระเจ้าพอพระทัยหรือไม่
+++ จงขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับทุกสิ่งในชีวิตของเรา ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกท่านเสมอ +++


“อยู่ในแผ่นดินทุรกันดาร ดีกว่าอยู่กับผู้หญิงที่ขี้ทะเลาะและจู้จี้ขี้บ่น”
(สุภาษิต 21:19)

บลาๆๆ ไม่มีอะไรจะน่าหน่ายใจไปกว่าการอยู่ใกล้คนที่พ่นน้ำลายออกมาเป็นคำบ่น ทันทีที่เราเปิดปากบ่นระบบการรับฟังของเราก็จะปิดลง การบ่นกับการทะเลาะมักมาเป็นของคู่กัน การบ่นเป็นการระบายออกที่ไม่ช่วยให้สถาการณ์ดีขึ้นและยังแสดงถึงการไม่วางใจพระเจ้าด้วย พระเจ้าไม่ปรารถนาให้เราเป็นคนขี้บ่นแต่อยากให้เราเข้ามาหาพระองค์ เพื่อระบายความในใจต่อพระองค์ “ประชาชนเอ๋ย จงวางใจในพระองค์ตลอดเวลา จงระบายความในใจของท่านต่อพระองค์ พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยของเรา” (สดุดี 62:8)

การบ่น กับการระบายความในใจไม่เหมือนกัน เพราะในการบ่นไม่มีที่ว่างให้กับความวางใจ การบ่นกับการทะเลาะมักมาเป็นของคู่กัน ส่วนการระบายความในใจนั้นคู่กับการปลอบประโลมหัวใจ
choojaiproject.org

อย่าเป็นคนคิดเล็กคิดน้อย
1.เพราะ เราอยู่กับคนที่เป็นคนบาป
คนย่อมมีสิ่งบกพร่องทุกๆคน รวมถึงตัวเรา
2. เรามีชีวิตเพื่อสร้างสันติสุข
ไม่ใช่หมกมุ่นกับเรื่องทำให้ทุกข์
3. มีเรื่องสำคัญต้องคิดอีกหลายเรื่อง
อย่าให้เรื่องไม่สำคัญมาทำลายสิ่งสำคัญๆ
#ฝึกมองข้ามความผิดหยุมหยิมแต่มองที่ความดีของคนจะได้มีความสุข

- -ฟีลิปปี 4:8 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ในที่สุดนี้ขอจงใคร่ครวญถึงสิ่งที่จริง สิ่งที่น่านับถือ สิ่งที่ยุติธรรม สิ่งที่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่ารัก สิ่งที่ทรงคุณ คือถ้ามีสิ่งใดที่ล้ำเลิศ สิ่งใดที่ควรแก่การสรรเสริญ ก็ขอจงใคร่ครวญดู- -

คนที่สร้างพลังบวก
1. มักจะพูดในแง่ดี ยิ้มและยิ้ม
2. มักจะฟัง มากกว่าพูด
3. หนุนใจมากกว่าตำหนิ
4. ปราถนาดี มากกว่าจับผิด
5. พูดลับหลังผู้อื่น ในแง่ดี
#อบอุ่นอภัยง่าย
#เรียบง่ายไม่ใช้อำนาจ. #มักดึงดูดคนมาหา

คนที่สร้างพลังลบ
1. มักพูดลบๆ ตรึงเครียด
2. ขี้บ่น ไม่ยอมทิ้งอดีต
3. ตำหนิ น่าเบื่อ
4. จับผิด ไม่พูดส่วนดีคนอื่น
5. พูดลับหลัง ในแง่ลบ
#กดดันเจ้าคิดเจ้าแค้น
#ใช้อำนาจ #คนมักจะกลัวไม่กล้าเข้าหา

-ฟีลิปปี 2:13-16 เพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้ทรงกระทำกิจอยู่ภายในท่าน
ให้ท่านมีใจปรารถนาทั้งให้ประพฤติตามชอบพระทัยของพระองค์
จงทำสิ่งสารพัดโดยปราศจากการบ่นและการทุ่มเถียงกัน
เพื่อท่านทั้งหลายจะไม่ถูกติเตียน และไม่มีความผิด
เป็น บุตรที่ปราศจากตำหนิของพระเจ้า ในท่ามกลาง
พงศ์พันธุ์ที่คดโกงและวิปลาส ท่านปรากฏในหมู่พวกเขา
ดุจดวงสว่างต่างๆในโลก จงยึดมั่นในพระวาทะแห่งชีวิต -
เรียนพระคัมภีร์ ออนไลน์ กับ เจริญ ยธิกุล



โลกสอนว่าแรงมา แรงกลับ แต่คำสอนของพระบิดาที่พระเยซูนำมาช่างตรงข้าม
ใครจะรับได้ ไม่โต้ตอบคนที่เป็นศัตรูทำร้ายเราและคนที่เรารัก เป็นไปได้หรือ
พระเยซูพิสูจน์ให้เห็นด้วยคำสอนและด้วยการมอบชีวิตบนกางเขน แทนการลงโทษ พระเจ้ากลับยอมตายแทนเรา

♡♡♡ อ่าน มธ 5:38-42 ♡♡♡ ท่านเคยได้ยินเขากล่าวว่า "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" แต่เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า อย่าโต้ตอบคนชั่ว ผู้ใดตบแก้มขวาของท่านจงหันแก้มซ้ายให้เขาด้วย
 Antony Blue

+++ บาป คือ ความเห็นแก่ตัว และความเกลียดชัง จะตัดวงจรบาปต้องเห็นแก่กัน และอภัย คืนดีกันเสมอ ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกท่านเสมอ +++
KC

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7

  ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7   จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ จงมั่นคงในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาแล้ว และ...