วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2561

จะใช้ชีวิตอย่างไรให้เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า



จะใช้ชีวิตอย่างไรให้เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าของฉัน

วันนี้ข้าพเจ้าได้ใช้เวลาเงียบๆนั่งคิดทบทวน ว่าข้าพเจ้าได้ใช้ชีวิตอย่างไรในแต่ละวันบ้าง นั่งๆนึกดูระยะนี้ ข้าพเจ้าให้เวลากับพระแค่นิดๆหน่อยๆ แป๊ปๆเดียวในแต่ละวัน แต่ส่วนใหญ่จะหมดไปกับการดูซีรี่ส์ ทุกครั้งที่ดูซีรี่ส์ ข้าพเจ้าก็จะรู้สึกผิดในใจเสมอว่า ทำไมข้าพเจ้าจึงให้เวลากับสิ่งอื่นมากกว่าการใช้เวลากับพระ วันนี้ข้าพเจ้าได้ตั้งใจว่าวันนี้จะให้เวลากับพระและข้าพเจ้าได้อ่านเจอข้อความหนุนใจดีๆนี้จากเพจ http://www.followhissteps.com จึงอยากนำมาแบ่งปัน เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ว่าเราจะใช้ชีวิตอย่างไรให้เป็นที่พอพระทัยพระองค์

"16 จงชื่นบานอยู่เสมอ
17 จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ
18 จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า สำหรับพวกท่านในพระเยซูคริสต์" (1เธสะโลนิกา 5:16-18 ThaiTSV2002)

พระเจ้าทรงป็นเจ้าของชีวิตของเรา เราต้องตระหนักอยู่เสมอว่า เราจะต้องดำเนินชีวิตอย่างไรจึงจะเป็นที่ชอบพระทัยของพระองค์

พระธรรม 1เธสะโลนิกา 5:16-18 ตอนนี้ได้บอกไว้อย่างชัดเจนว่า ชีวิตที่พระเจ้าทรงพอพระทัย มีอย่างน้อย 3 ประการด้วยกัน

1. ความชื่นชมยินดี
"จงชื่นบานอยู่เสมอ" (1เธสะโลนิกา 5:16-18)

ความชื่นชมยินดีเป็นลักษณะพิเศษที่พวกเราคริสเตียนมี เพราะพระเยซูคริสต์ทรงประทานสันติสุขที่แท้จริงให้แก่เราแล้ว และสันติสุขนี้เองที่ทำให้เรามีชีวิตที่มีความชื่นชมยีนดีได้ตลอดเวลา จึงไม่น่าแปลกใจที่นักบุญเปาโลได้เน้นย้ำให้ชาวฟิลิปปีชื่นชมยีนดีอยู่ตลอดเวลา

"จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่า จงชื่นชมยินดีเถิด"  (ฟิลิปปี 4:4 ThaiTSV2002)

ผลดีของการชื่นชมยินดีคือ
1. เป็นที่ชอบพระทัยของพระเจ้า ถ้าชีวิตของเรายังหงอยเหงา วิตกกังวลมาก กลัวหลายสิ่งหลายอย่าง เป็นทุกข์ในเรื่องนั้นเรื่องนี้ วุ่นวายไปหมดจนขาดสันติสุข ชีวิตของเราก็จะขาดสง่าราศีในการเป็นลูกของพระเจ้า และจะไม่เป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าอย่างแน่นอน ตรงกันข้าม ถ้าเรามีสันติสุขในชีวิต เราจะมีความสงบ เราจะรู้จักพึ่งพาในพระเจ้าตลอดเวลา และจะสามารถผจญกับทุกสิ่งในชีวิตได้ แม้ว่าจะต้องเจอปัญหาในชีวิตเหมือนคนอื่น ๆ แม้ต้องอยู่ในสังคมที่เลวร้ายต่าง ๆ เช่นกับคนอื่น เราก็จะยังสามารถชื่นชมยินดีได้ และจะเป็นพยานเพื่อที่จะถวายเกียรติแด่พระเจ้า และแน่นอน ชีวิตของเราก็จะเป็นที่ชอบพระทัยแก่พระเจ้า

"17 แม้ต้นมะเดื่อไม่มีดอกบาน หรือเถาองุ่นไม่มีผล ผลมะกอกเทศก็ขาดไป ทุ่งนามิได้เกิดอาหาร ฝูงสัตว์ขาดไปจากคอก และไม่มีฝูงวัวที่ในโรง
18 ถึงกระนั้นข้าพเจ้าจะร่าเริงในพระเจ้า ข้าพเจ้าจะเปรมปรีดิ์ในพระเจ้าแห่งความรอดของข้าพเจ้า
19 พระเจ้าคือองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นกำลังของข้าพเจ้า พระองค์ทรงกระทำเท้าของข้าพเจ้าเหมือนอย่างตีนกวางตัวเมีย พระองค์ทรงกระทำให้ข้าพเจ้าเดินไปบนที่สูงทั้งหลายของข้าพเจ้า ถึงหัวหน้านักร้อง ใช้เครื่องสาย" (ฮาบากุก 3:17-19 ThaiTSV2002)

2. มีประโชน์แก่ตัวเราเองอย่างมาก ชีวิตที่มีความชื่นชมยินดีอยู่เสมอ ในสมองจะมีสาร Endorphin หลั่งมาตลอดเวลาในสมอง เป็นสารที่ทำให้เรามีความสุข ฮอร์โมนนี้เองที่ส่งเสริมให้สุขภาพของเราแข็งแรงขึ้น พระเจ้าทรงรักเรามาก พระองค์ทรงปรารถนาที่จะให้เราทั้งหลายมีความสุข ให้เรามีความชื่นชมยินดีอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่สุขภาพร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณจะได้งดงามอยู่ตลอดเวลาด้วย

เพราะว่าภายในมีความสุข จึงทำให้เราดูไม่แก่ พี่น้องที่รักทุกท่าน เราอยู่ที่นี่ ถึงแม้ว่าอายุจะมากแล้ว แต่จริง ๆ แล้วพวกเรายังดูสาวและหนุ่มอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าเรามีสันติสุขขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าอยู่ในหัวใจนั่นเอง

"บุคคลผู้สนใจในพระวจนะจะพบของดี และคนที่วางใจในพระเจ้าจะสุขสบาย" (Proverbs 16:20 ThaiTSV1971)

2. ชีวิตที่อธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ
"จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ" (1เธสะโลนิกา 5:17 ThaiTSV2002)

ชีวิตของคริสเตียน มีสิทธิพิเศษในการที่จะสามารถอธิษฐานกับพระเจ้า และได้รับการปกป้องจากพระเจ้า

"ข้าพระองค์ไม่ได้ขอให้พระองค์เอาพวกเขาออกไปจากโลก แต่ขอให้ปกป้องเขาไว้ให้พ้นจากมารร้าย" (ยอห์น 17:15 ThaiTSV2002)

"แต่พวกท่านเป็น พงศ์พันธุ์ที่ทรงเลือกสรร เป็นพวกปุโรหิตหลวง เป็นชนชาติบริสุทธิ์ เป็นประชากรอันเป็นกรรมสิทธิ์ของพระเจ้า เพื่อให้พวกท่านประกาศพระเกียรติคุณ (แปลได้อีกว่า ประกาศกิจการอันอัศจรรย์) ของพระองค์ ผู้ได้ทรงเรียกพวกท่านให้ออกมาจากความมืด เข้าไปสู่ความสว่างอันมหัศจรรย์ของพระองค์" (1เปโตร 3:9 ThaiTSV2002)

ปุโรหิตมีบทบาทหน้าที่สำคัญในการอธิษฐาน ในการติดต่อกับพระเจ้า ในสมัยกลางของประวัติศาสตร์คริสตจักรได้มีการสอนผิดเพี้ยนว่าพระเท่านั้นที่จะสามารถอธิษฐาน เป็นตัวกลางกับพระเจ้าได้ แต่ท่านมาร์ติน ลูเธอร์ ผู้ซึ่งป็นพระเหมือนกัน ได้ออกมาคัดค้าน โดยใช้ข้อพระคัมภีร์นี้ยืนยันว่าเราทุกคนเป็นปุโรหิตหลวง คริสเตียนทุกคนมีสิทธิที่จะอธิษฐานติดต่อกับพระเจ้าได้โดยตรง ไม่ต้องอาศัยคนกลาง

"เพราะฉะนั้นท่านจงสารภาพบาปต่อกันและกัน และจงอธิษฐานเผื่อกันและกัน เพื่อท่านทั้งหลายจะได้รับการรักษาโรค คำวิงวอนของผู้ชอบธรรมนั้นมีพลังมากและเกิดผล" (ยากอบ 5:16 ThaiTSV2002)

ในพระคัมภีร์ 1เธสะโลนิกา จึงได้เขียนย้ำให้เราอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ เพราะการอธิษฐานวิงวอนมิได้เพียงอธิษฐานเพื่อขอเท่านั้น แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการมีสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้า เน้นเรื่องความผูกพันกับพระเจ้าตลอดเวลา หรือพูดอีกนัยหนึ่งว่า "การมีสัมพันธภาพกับพระเจ้าอยู่ตลอดเวลา" นั่นเอง เหมือนกับพ่อแม่ที่ปรารถนาที่จะให้ลูกมีความสัมพันธ์ที่ดีกับท่าน

นี่มิได้หมายความว่าเราจะต้องอธิษฐานกับพระเจ้าตลอดเวลาโดยไม่ต้องทำอะไรเลย เอาแต่อธิษฐานอย่างเดียว แต่หมายความว่าให้เราติดสนิทกับพระเจ้าทุกเวลา ทำงานก็คิดถึงพระเจ้าได้ เห็นธรรมชาติที่สวยงามก็คิดถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าได้ เจอปัญหาที่หนักใจก็คิดเสมอว่าพระเจ้าทรงสามารถช่วยได้ คนที่มีความผูกพันที่ดีกับพระเจ้า ไม่ว่าจะเจออะไรก็จะนึกถึงพระเจ้าเสมอ

มีนักวิชาการคนหนึ่งพูดไว้น่าสนใจว่า การอธิษฐานกับพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ หมายถึง การ Online กับพระเจ้าตลอดเวลา

เมื่อเราคิดถึงสิทธิอำนาจในการอธิษฐาน เราจะต้องขอบคุณพระเจ้ามาก ๆ เพราะจริง ๆ แล้วเราเป็นใคร เราดีเพียงไร เรามีเงื่อนไขที่ดีอย่างไร ที่พระเจ้าได้ทรงประทานสิทธินี้ให้แก่เรา ทั้งสิ้นล้วนเป็นพระคุณความรักของพระเจ้า พระองค์ทรงรัก และให้ความสำคัญแก่เรา

พี่น้องที่รัก ให้เรารักษาสัมพันธภาพที่ดีกับพระเจ้าตลอดเวลา อย่าให้ขาดเลย แล้วเราจะได้รับพลังจากพระเจ้าในการเผชิญปัญหาทั้งปวง ให้เรามีกำลังที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมีชัยชนะ

ข้อคิดที่อยากฝากให้เราได้คิด ได้แก่

อธิษฐานมาก จะเหนื่อยน้อย
อธิษฐานน้อย จะเหนื่อยมาก
ไม่อธิษฐานเลย จะเหนื่อยเปล่า

"6 อย่ากระวนกระวายในสิ่งใดๆเลย แต่จงทูลพระเจ้าให้ทรงทราบทุกสิ่งที่พวกท่านขอ โดยการอธิษฐานและการวิงวอน พร้อมกับการโมทนาพระคุณ
7 แล้วสันติสุขของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านทั้งหลายไว้ในพระเยซูคริสต์" (ฟิลิปปี 4:6-7 ThaiTSV2002)


3. ชีวิตที่รู้จักขอบคุณพระเจ้าในทุกกรณี
"จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า สำหรับพวกท่านในพระเยซูคริสต์" (1เธสะโลนิกา 5:18 ThaiTSV2002)

ขอบคุณพระเจ้าในทุกกรณี หมายความว่า ขอบคุณพระเจ้าในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าสถานการณ์นั้นจะดีหรือไม่ดี นี่คือความหมายในพระคัมภีร์ที่ต้องการบอกกับเราว่า ไม่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเรา เราจะชอบหรือไม่ชอบ สมหวังหรือผิดหวัง ดีหรือไม่ดี ให้เราสามารถขอบพระคุณพระเจ้าได้ในทุกกรณี

ชีวิตคริสเตียน เรามีความมั่นใจว่าชีวิตของเราอยู่ในแผนการของพระเจ้าแล้ว เรามีพระเจ้าเป็นผู้ทรงนำพาชีวิตเรา สถิตกับเรา ปกป้องรักษาเราอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เพราะฉะนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นกับเราทุกเรื่อง เป็นเรื่องที่พระเจ้าทรงอนุญาตให้เกิดจึงจะเกิดขึ้นได้ พระเจ้าทรงมีน้ำพระทัยที่ดียอดเยี่ยมกับเราทุกคน เพียงแต่ว่าในขณะนี้เราจะยังไม่สามารถเข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้ง แต่ให้เรามั่นใจเถิดว่า พระองค์ทรงมีแผนการที่ดีให้กับผู้ที่รักพระองค์

"เรารู้ว่า เหตุการณ์ทุกอย่างร่วมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า คือแก่คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์" (โรม 8:28 ThaiTSV 2002)

ด้วยเหตุนี้ เราจึงสามารถขอบคุณพระเจ้าได้ตลอดเวลา ได้ทุกเรื่อง ได้ในทุกกรณี

"จงขอบพระคุณพระเจ้าคือพระบิดาอยู่เสมอสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ในพระนามของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา" (เอเฟซัส 5:20)

มัทธิว เฮ็นรี นักเทศน์ผู้มีชื่อเสียง ขณะเดินทางไปเทศนาก็ถูกโจรวิ่งราวเอาสิ่งของไป คนที่ผ่านมาก็บอกว่า "ไม่น่าเกิดขึ้นเลย" แต่ท่านกลับบอกว่าในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ท่านมีถึง 4 เรื่องที่ท่านจะขอบพระคุณพระเจ้า

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ได้มีประสบการณ์ถูกวิ่งราว
คนที่ขโมยเอากระเป๋าไปเท่านั้น ไม่ได้ทำร้ายร่างกายเลย
แม้ว่าขโมยเอากระเป๋าทั้งกระเป๋าไป แต่ข้างในมีเงินอยู่ไม่มาก
ข้าพเจ้าเป็นคนที่ถูกวิ่งราว ข้าพเจ้าไม่ได้ยากไร้จนต้องไปวิ่งราวเอาของของคนอื่น
ท่านที่รักครับ เมื่อเรารู้จักขอบคุณพระเจ้า ไม่ว่าเรื่องใด ๆ เราก็จะสามารถขอบคุณพระเจ้าได้

ตรงข้ามกับการขอบคุณพระเจ้า ก็คือ เสียงบ่น เสียงว่า

น้ำชาในแก้วหนึ่ง มีเพียงครึ่งแก้ว คนที่มักบ่น จะมองว่ามีแค่ครึ่งแก้ว แต่สำหรับคนที่รู้จักของพระคุณพระเจ้าจะมองว่ามีตั้งครึ่งแก้ว แค่นี้ก็พอใจแล้ว

มีน้ำถ้วยหนึ่ง เต็มอยู่ คนที่ขี้บ่นเมื่อหยิบขึ้นมา ก็บอกว่า ทำไมใส่จนล้นขนาดนี้ล่ะ ทำให้มือเปียก แต่คนที่รู้จักขอบคุณพระเจ้าก็จะบอกว่า ถ้วยน้ำนี้เต็มล้น ช่างวิเศษอะไรเช่นนี้

คนที่รู้จักขอบคุณพระเจ้า ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ เขาก็ขอบคุณพระเจ้าได้ แม้พบปัญหาหรืออุปสรรค เขาก็จะสามารถขอบคุณพระเจ้า แล้วเขาก็จะบอกว่าอุปสรรคหรือปัญหาที่พบนั้น ไม่มากจนเกินไป

แต่คนที่ไม่รู้จักขอบคุณพระเจ้า แม้ว่าพระเจ้าจะประทานพระคุณให้พระเจ้าอย่างเต็มล้น แต่เขาก็จะบ่นว่า น้ำล้นอย่างนี้ มือถือถ้วยก็จะเปียกไปด้วย

"ขอขอบพระคุณพระเจ้า เพราะของประทานที่เกินความคาดคิดซึ่งพระองค์ประทานนั้น" (2โครินธ์ 9:15 ThaiTSV2002)
ขอขอบคุณข้อความหนุนใจดีที่เรียบเรียงโดยคุณ ธีรยสถ์ นิมมานนท์

อ่านจบแล้ว ข้าพเจ้าได้รับพลังเสริมฝ่ายจิดเพิ่มมากขึ้น คำหนุนใจนี้เหมือนเป็นเข็มทิศนำทางข้าพเจ้าให้กลับเข้าร่องเข้ารอยอีกครั้ง ในชีวิตของคนเรา ไม่แปลกที่เราจะเดินนอกลู่นอกทาง แต่เมื่อรู้ตัวแล้ว ให้พยายามหาทางกลับมาที่ที่เราควรจะเป็น และทำให้ดี สละเวลาของเราให้เวลาของเรากับพระเยอะๆ เปลี่ยนจากการออนไลน์กับข่าวสารบ้านเมืองหรือ ซีรี่ส์ มาเป็นออนไลน์กับพระเจ้าแทน ดีกว่านะคะ ว่าไม๊

ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกท่าน
KC

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7

  ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7   จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ จงมั่นคงในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาแล้ว และ...