ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน
สิ่งที่พระเยซูพูดเป็นความจริง
อ่านยอห์น 5:30-31
ในข้อพระคัมภีร์ของวันนี้
เราเริ่มเห็นว่าพระเยซูทรงเสนอข้อเท็จจริงต่อผู้นำชาวยิวว่าพระองค์เป็นพระบุตรของพระเจ้า
ในการป้องกันที่ดีจะต้องมีหลักฐาน สิ่งที่พระเยซูกำลังทำอยู่คือการนำเสนอหลักฐานว่าพระองค์เป็นใคร
30“เราจะทำสิ่งใดตามใจไม่ได้
เราได้ยินอย่างไรเราก็พิพากษาอย่างนั้น และการพิพากษาของเราก็ยุติธรรม
เพราะเราไม่ได้มุ่งที่จะทำตามใจของเราเอง แต่ตามพระประสงค์ของผู้ทรงใช้เรามา
31ถ้าเราเป็นพยานให้แก่ตัวเราเอง คำพยานของเราก็ไม่จริง – ยอห์น 5:30
หลักฐานแรกที่พระเยซูทรงนำเสนอคือคำพยานของพระองค์เอง
เห็นได้ชัดว่าเราไม่สามารถพึ่งพาคำพูดของคนคนเดียวได้ ดังนั้นเราจะได้ดูหลักฐานอื่นๆ
ที่พระองค์นำเสนอในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือเราต้องทราบว่าพระเยซูไม่ทรงถอยหนีจากการเรียกพระองค์เองว่าเป็นพระบุตรของพระเจ้า
ฉันรู้ว่าถ้าฉันถูกกดดันโดยผู้นำที่มีอำนาจเช่นคนที่พระองค์กำลังพูดด้วย
ฉันคงจะถอยกลับไป ถ้าฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันพูดอาจทำให้ฉันเดือดร้อนมาหรือถูกฆ่าได้
ฉันคงต้องคิดทบทวนสิ่งที่จะพูดอีกครั้ง
แต่พระเยซูกลับไม่คิดทบทวน พระเยซูทรงทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพระองค์หากพระองค์อ้างว่าพระองค์เป็นพระเจ้า
แต่พระองค์ก็ยังคงอ้างเช่นนั้นจริงๆ แล้วทำไมพระองค์จึงทำเช่นนั้น
ฉันคิดว่าคำอธิบายที่สมเหตุสมผลที่สุดสำหรับข้อเท็จจริงเหล่านี้คือ พระเยซูคือพระเจ้าจริงๆ
แล้วทำไมคนเราจะพูดอะไรที่อาจทำให้ตัวเองต้องถูกฆ่าได้
เว้นเสียแต่ว่ามันจะเป็นความจริงทั้งหมด
สิ่งที่พระเยซูทำคือการให้คำพยานถึงพระองค์เอง
และพระองค์ทรงทำเช่นนั้นโดยรู้ถึงผลที่ตามมาจากพระวจนะของพระองค์ ดังนั้น
พระเยซูจึงน่าจะพูดความจริง ถูกต้องแล้ว เราต้องเชื่อด้วยศรัทธาว่าสิ่งที่พระเยซูพูดเป็นความจริง
นี่เป็นคำอธิบายที่ดีที่สุดว่าทำไมพระองค์จึงพูดเช่นนั้น พระองค์จะไม่มีแรงจูงใจอื่นใดที่จะอ้างว่าพระองค์เป็นพระเจ้า
เว้นเสียแต่ว่าพระองค์จะเป็นพระเจ้า
ความจริงของวันนี้: พระเยซูทรงเป็นพยานว่าพระองค์คือพระเจ้า
ข้อพระคัมภีร์ประจำวันเหล่านี้เต็มไปด้วยเนื้อหาที่ยอดเยี่ยม
เมื่อวัยรุ่นอ่านพวกเขาจะเติบโตในการดำเนินกับพระเจ้า
รวมถึงการให้ข้อคิดทางวิญญาณซึ่งจะช่วยให้วัยรุ่นรู้จักความรักของพระเจ้าอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
studentdevos.com.com
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น