พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้
เมฆแห่งความรุ่งโรจน์
อ่าน 2 พงศาวดาร 5:1 ถึง 7:22; ยอห์น
7:14–36
สตีเฟนผู้เผยแพร่ศาสนาจบการประชุมฟื้นฟูที่พระวิหารแคลวารีพอร์ตแลนด์
และบินกลับบ้านที่ฟลอริดา สองวันอาทิตย์ต่อมาก็เกิดขึ้น
เมฆหมอกก่อตัวขึ้นที่ด้านบนเพดานวิหาร และเคลื่อนตัวลงมาช้าๆ
เมฆหมอกไปโดนคณะนมัสการก่อน ซึ่งกำลังนมัสการด้วยเพลงอยู่ที่แท่นด้านบน ไม่สามารถเล่นเครื่องดนตรีต่อไปได้
พวกเขาจึงล้มลงกับพื้น วางเครื่องดนตรีไว้ข้างๆ เมื่อเมฆลอยขึ้นในที่สุด
ผู้คนก็ออกมาข้างหน้าและให้การเป็นพยาน หลายคนรายงานว่าพวกเขาหายจากโรค
บางคนรู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าวิ่งผ่านร่างกายของพวกเขา
ชาวอิสราเอลสัมผัสได้ถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าเมื่อพระวิหารได้รับการอุทิศ
อยู่มาพวกคนเป่าแตรและพวกนักร้องจะทำให้คนได้ยินเขาทั้งหลายร้องเพลงสรรเสริญ
และเพลงโมทนาพระคุณพระเยโฮวาห์เป็นเสียงเดียวกัน
และเมื่อเขาร้องขึ้นพร้อมกับแตรและฉาบกับเครื่องดนตรีอย่างอื่น
ในการถวายสรรเสริญแด่พระเยโฮวาห์ว่า “เพราะพระองค์ประเสริฐ เพราะความเมตตาของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์”
พระนิเวศคือพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ก็มีเมฆเต็มไปหมด
จนปุโรหิตจะยืนปรนนิบัติไม่ได้ด้วยเหตุเมฆนั้น
เพราะสง่าราศีของพระเยโฮวาห์เต็มพระนิเวศของพระเจ้า (2 พงศาวดาร 5:13–14)
พระสิริของพระเจ้าเป็นสิ่งที่จับต้องได้และสามารถแสดงออกมาได้หลายวิธี
เช่น สัญลักษณ์ การอัศจรรย์ หรือแม้แต่เมฆศักดิ์สิทธิ์ บางครั้งเราสามารถมองเห็นหรือสัมผัสพระสิริของพระองค์ได้
แต่บางครั้งก็ไม่สามารถทำได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
พระสิริของพระองค์จะอยู่ที่นั่นเสมอเมื่อผู้เชื่อสองหรือสามคนมารวมตัวกันในพระนามของพระองค์
(มัทธิว 18:20)
ข้อคิดประจำวัน:
เข้ามาด้วยใจที่คาดหวังทุกครั้งที่คุณไปโบสถ์
เราสนับสนุน
และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
ag.org
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น