พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้
แสดงความเมตตากรุณาและความยุติธรรม ในปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
อ่านอพยพ 20:1 ถึง 23:19; มัทธิว 17:14–27
22ห้ามรังแกหญิงม่ายหรือลูกกำพร้า 23ถ้าเจ้ารังแกเขา
และเขาร้องทุกข์ต่อเรา เราจะฟังคำร้องทุกข์ของเขาแน่นอน (อพยพ 22:22–23)
การปกป้องคุ้มครองหญิงม่ายและเด็กกำพร้าในข้อนี้แสดงถึงความห่วงใยของพระเจ้าที่มีต่อผู้เปราะบางและถูกละเลยในสังคม
ข้อนี้แสดงถึงหลักการความรับผิดชอบต่อสังคมที่กว้างขึ้นและภาระหน้าที่ในการดูแลผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ
ข้อนี้เน้นย้ำถึงคุณค่าของความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ และการปฏิบัติอย่างยุติธรรมต่อสมาชิกทุกคนในสังคม
โดยไม่คำนึงถึงสถานะทางสังคมหรือสถานการณ์ของพวกเขา
โดยกล่าวถึงการปฏิบัติต่อหญิงม่ายและเด็กกำพร้าโดยเฉพาะ
ในประเพณีคริสเตียนทั่วไป
ข้อนี้ได้รับการตีความว่าเป็นการเรียกร้องให้ผู้เชื่อดำเนินการเพื่อแสดงถึงลักษณะนิสัยที่เมตตาและยุติธรรมของพระเจ้าโดยการดูแลผู้เปราะบางในชุมชนของพวกเขา
นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นการเตือนใจว่าวิธีที่สังคมปฏิบัติต่อสมาชิกที่เปราะบางที่สุดจะสะท้อนถึงลักษณะทางศีลธรรมและจริยธรรมของสังคมนั้นๆ พระคำข้อนี้ท้าทายบุคคลและชุมชนให้ตรวจสอบทัศนคติและการกระทำของพวกเขาต่อผู้ถูกละเลย
และแสวงหาวิธีที่จะให้การสนับสนุนและการปกป้องพวกเขาอย่างจริงจัง
โดยสรุปแล้ว อพยพ 22:22-23 คำสั่งนี้หยั่งรากลึกในประเด็นกว้างๆ
ของความยุติธรรมทางสังคม ความเห็นอกเห็นใจ และการปกป้องผู้เปราะบาง คำสั่งนี้สะท้อนถึงความห่วงใยของพระเจ้าที่มีต่อผู้ถูกละเลย
และทำหน้าที่เป็นการเรียกร้องให้ผู้เชื่อดำเนินการเพื่อนำเอาค่านิยมเหล่านี้มาใช้ในปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นและในการสร้างชุมชนของตน เป็นคำเตือนที่ทรงพลังถึงความห่วงใยของพระเจ้าที่มีต่อผู้เปราะบาง
และความคาดหวังของพระองค์ว่าประชาชนของพระองค์จะสะท้อนความเมตตากรุณาและความยุติธรรมของพระองค์ในการโต้ตอบกับผู้อื่น
ข้อพระคัมภีร์นี้ยังเตือนเราถึงความสำคัญของการสนับสนุนสิทธิและสวัสดิการของผู้เปราะบาง
เนื่องจากเราถูกเรียกให้เป็นมือและเท้าของพระเจ้าในโลกนี้
ความท้าทายสำหรับวันนี้: เอาใจใส่ผู้ยากไร้ที่คุณพบเจอเป็นพิเศษ
จงยื่นพระหัตถ์ของพระเจ้าโดยแสดงความเมตตาต่อพวกเขา
เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
ag.org
bible.art
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น