พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้
พระเจ้ายังคงตรัสซ้ำแล้วซ้ำเล่า
อ่านโยบ 32:1 ถึง 33:33; กิจการ
8:1–25
น่าเสียดายที่คนส่วนใหญ่พลาดคำแนะนำที่ดีที่สุด
“เพราะพระเจ้าตรัสวิธีหนึ่ง เออ สองวิธี
แต่มนุษย์ไม่รับรู้ ” (โยบ 33:14)
พระเจ้าตรัสกับมนุษย์มาตั้งแต่สมัยที่พระองค์ทรงสร้างพวกเขา พระองค์ทรงประทานจุดประสงค์ในการดูแลโลกและประทานข้อจำกัดเพื่อช่วยให้พวกเขาทำตามแผนของพระองค์ เมื่ออาดัมและเอวาเลือกที่จะทำบาป พระองค์ก็ตรัสอีกครั้งโดยสัญญาว่าจะมีพระผู้ไถ่มาทำลายศัตรู
พระเจ้ายังคงตรัสกับผู้ที่เต็มใจฟัง และพระคัมภีร์เป็นหนทางหลักที่พระองค์ตรัส แม้ว่าพระเจ้าอาจไม่ตรัสด้วยเสียงที่ได้ยินเสมอ แต่พระองค์ก็ทรงสื่อสารผ่านวิธีการต่างๆ รวมถึงพระคัมภีร์ การอธิษฐาน การสร้างสรรค์ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ภายในผู้เชื่อ
นี่คือวิธีที่เข้าใจการได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า:
ผ่านพระคัมภีร์:
พระคัมภีร์ถือเป็นพระวจนะของพระเจ้าที่ได้รับการดลใจ ซึ่งให้การชี้นำ การสั่งสอน และปัญญา
ผ่านการสวดอ้อนวอน:
การสวดอ้อนวอนช่วยให้ผู้เชื่อสามารถสื่อสารกับพระเจ้าและแสวงหาการชี้นำของพระองค์
ผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์:
พระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งสถิตอยู่ภายในผู้เชื่อสามารถให้การชี้นำ การปลอบโยน และการกระตุ้นเตือน
ผ่านการสร้างสรรค์:
ความงามและความซับซ้อนของโลกธรรมชาติสามารถชี้ให้เห็นถึงพลังและความคิดสร้างสรรค์ของพระเจ้า
ผ่านผู้เชื่อคนอื่น:
พระเจ้าสามารถตรัสผ่านคำแนะนำ การให้กำลังใจ และการสอนของคริสเตียนคนอื่น
ผ่านสถานการณ์:
พระเจ้าอาจใช้สถานการณ์ที่ยากลำบากหรือท้าทายเพื่อสอน ขัดเกลา หรือชี้นำผู้เชื่อ กุญแจสำคัญในการฟังเสียงของพระเจ้าคือการเอาใจใส่ นิ่งสงบ และเปิดใจรับฟังการสื่อสารของพระองค์ ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับการทำให้เสียงรบกวนและสิ่งรบกวนต่างๆ ในชีวิตสงบลงเพื่อฟังการกระตุ้นเตือนอันอ่อนโยนของพระองค์
พระเจ้ายังคงตรัสกับผู้ที่เต็มใจฟังผ่านทางพระคัมภีร์ แม้ว่าซาตานจะยังคงขัดขวางไม่ให้ผู้คนรับข่าวสารนั้นก็ตาม จงอธิษฐานขอพระเจ้าช่วยให้คุณได้แบ่งปันข่าวประเสริฐกับผู้ที่ยังไม่เคยได้ยินหรือไม่เคยตอบสนองต่อข่าวดีของพระองค์เลย
คำแนะนำในการอธิษฐาน: ข้าแต่พระเยซู โปรดช่วยผู้ที่ยังมองไม่เห็นและยังไม่เคยได้ยินข่าวประเสริฐได้รับรู้ข่าวดีนี้ด้วยเทอญ อาเมน
เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
ag.org
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น