พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ รักผู้อื่นด้วยความรักของพระองค์

 

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้

รักผู้อื่นด้วยความรักของพระองค์

อ่านสดุดี 1:1 ถึง 5:12; กิจการ 10:24–48

ในสมัยของเปโตร  ถือเป็นเรื่องต้องห้ามของชาวอิสราเอลที่จะรับประทานอาหารร่วมกับคนต่างศาสนา (คนที่ไม่ใช่ชาวยิว) และจะไม่เข้าร่วมกิจกรรมที่พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ทำ ดังนั้น ชาวอิสราเอลจึงหลีกเลี่ยงการติดต่อกับคนต่างศาสนา เพราะ พวกเขาไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับสิ่งที่อาจ เรียกว่า“ เป็นมลทินหรือไม่สะอาด”

 

เปโตรบอกพวกเขาว่า “ท่านทั้งหลายย่อมทราบดีว่าเป็นการขัดบทบัญญัติของเราที่ชาวยิวจะคบหาหรือเยี่ยมเยียนคนต่างชาติ แต่พระเจ้าได้ทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้าว่าไม่ควรเรียกใครว่าเป็นมลทินหรือไม่สะอาด(กิจการ 10:28)

 

เปโตรตระหนักว่าพระเจ้าทรงเสนอความรักและการให้อภัยแก่ทุกคน แม้แต่คนที่เปโตรไม่คาดคิด

 

อาจจะยังมีคริสเตียนอีกหลายคนที่ยังตัดสินคนอื่นที่ดูแล้วไม่เข้ากับอุดมคติของคริสเตียนแบบดั้งเดิมอย่างรวดเร็ว แต่ในฐานะที่เราเป็นผู้ที่ได้รับการอภัยแล้ว เราควรมอบพระคุณและความเมตตาแก่ผู้อื่นเช่นเดียวกับที่พระเจ้าประทานให้แก่เรา เพราะหากพระเจ้าไม่แสดงความลำเอียงหรืออคติต่อเรา เราเองก็ไม่ควรทำเช่นนั้นเช่นกัน

การรักผู้อื่นด้วยความรักของพระเจ้าหมายถึงการแสดงความรักที่ไม่เห็นแก่ตัว เสียสละ และเปลี่ยนแปลงชีวิต ซึ่งสะท้อนให้เห็นความรักที่พระเจ้ามีต่อมนุษยชาติ ความรักนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขหรือความชอบส่วนตัว แต่มอบให้ทุกคนอย่างเสรี เช่นเดียวกับความรักของพระเจ้า ความรักนี้เกี่ยวข้องกับการมอบพระคุณ การให้อภัย และความกรุณา แม้แต่กับผู้ที่ยากจะรัก

ต่อไปนี้คือการแบ่งย่อยความหมายของการรักผู้อื่นด้วยความรักของพระเจ้า:

1. ความรักเป็นลักษณะเฉพาะ:

ความรักต่อผู้อื่นเป็นเครื่องหมายเฉพาะของผู้ติดตามพระคริสต์อย่างแท้จริง

เป็นความรักที่อยู่เหนือความเข้าใจความรักของโลก โดยมุ่งไปสู่มาตรฐานที่สูงขึ้นที่พระเยซูกำหนดไว้

ความรักนี้เห็นได้ชัดจากวิธีที่เราปฏิบัติต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่แตกต่างจากเราหรือ ผู้ที่ทำผิดต่อเรา

2. แหล่งที่มาของความรัก:

ความรักของพระเจ้าเป็นรากฐานและแหล่งที่มาของความสามารถของเราในการรักผู้อื่น

เราจะรักผู้อื่นได้อย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อเราได้สัมผัสถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อตัวเราเอง และปล่อยให้ความรักนั้นไหลผ่านตัวเรา ความรักนี้ได้รับพลังจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทำให้เราสามารถรักผู้อื่นอย่างไม่เห็นแก่ตัวและเสียสละได้

3. มอบความรักให้ทุกคน:

พระเยซูทรงรักทุกคน รวมทั้งผู้ที่ถือว่าเป็นคนนอกคอก คนบาป และแม้แต่ศัตรู

เราถูกเรียกให้รักคนที่น่ารัก  แต่ก็ต้องรักคนที่ไม่น่ารักด้วย

ความรักนี้มอบให้กับผู้ที่แตกต่างจากเรา ผู้ที่กำลังเจ็บปวด และแม้แต่ผู้ที่ทำผิดต่อเรา

4. หลักฐานแห่งศรัทธา:

ความรักที่เรามีต่อผู้อื่นเป็นการแสดงศรัทธาของเราอย่างทรงพลัง

อัครสาวกยอห์นเน้นว่าการรักผู้อื่นเป็นหลักฐานแห่งศรัทธาของเรา ซึ่งหมายความว่าหากเราอ้างว่ารักพระเจ้าแต่ไม่รักผู้อื่น นั่นก็ขัดแย้งกันเอง

ความรักนี้เป็นพยานต่อโลก โดยแสดงให้พวกเขาเห็นพลังแห่งความรักของพระเจ้าที่เปลี่ยนแปลงชีวิต

5. ตัวอย่างของการรักผู้อื่น:

การรับใช้โดยไม่เห็นแก่ตัว: การรับใช้ผู้อื่นด้วยความอ่อนน้อมและเมตตากรุณา เช่นเดียวกับที่พระเยซูทรงทำ 

การให้อภัย: การให้อภัยแก่ผู้ที่ทำร้ายหรือทำผิดต่อเรา

ความเมตตาและความเห็นอกเห็นใจ: แสดงความอ่อนโยน ความเห็นอกเห็นใจ และความห่วงใยผู้อื่น

การให้กำลังใจ: เสริมสร้างและสนับสนุนผู้คนรอบข้างเรา

การเสียสละ: ให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้อื่นก่อนความต้องการของตนเอง

โดยพื้นฐานแล้ว การรักผู้อื่นด้วยความรักของพระเจ้าคือการสะท้อนถึงลักษณะนิสัยของพระองค์และมอบความรักของพระองค์ให้กับทุกคนที่เราพบเจอ เป็นวิธีที่ทรงพลังในการดำเนินชีวิตตามศรัทธาของเราและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลก

 

คำแนะนำในการอธิษฐาน: พระเจ้าข้า โปรดช่วยให้ลูกมองข้ามความแตกต่างและรักผู้อื่นด้วยความรักของพระองค์ อาเมน

 

  เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

 

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot