ทำความรู้จักศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
ชื่อ "โรมัน คาทอลิก" (Roman Catholic) มาจากประเพณีที่ถือเอากรุงโรมเป็นศูนย์กลางของคริสต์ศาสนา เป็นสำนักของสันตะปาปา (Pope) ซึ่งเป็นสังฆราชของกรุงโรมและเป็นหัวหน้าของบรรดาสังฆราชทั่วโลก จึงเป็นหัวหน้าของคริสต์ศาสนนิกชน (โรมันคาทอลิก) ทั่วโลกด้วย
คำว่า "คาทอลิก" แปลว่า "สากล" (Universal) หมายถึง ศาสนาที่เป็นของสากลโลกสำหรับชน ทุกชาติ ทุกภาษา และทุกชั้น ในสังคม คริสต์ศาสนนิกชนนิกายโรมันคาทอลิก ไม่ถือว่าตนเองเป็นนิกายหนึ่งของคริสต์ศาสนา แต่ถือเป็นคริสต์ศาสนาที่เที่ยงแท้และสากลสืบเนื่องมาจากอัครสาวก เมื่อไม่ถือว่าเป็น "นิกาย" หนึ่ง แต่ถือว่าเป็นศาสนจักรของพระเยซูที่เที่ยงแท้ จึงถือว่าคริสต์ศาสนนิกชนที่ไม่ใช่โรมันคาทอลิก คือผู้ที่ได้แยกตัวออกไปเพราะความเข้าใจต่างกัน
การปกครองศาสนจักรคาทอลิก นิกายโรมันคาทอลิกวางระเบียบการบริหารการปกครองของศาสนจักรและวินัยสงฆ์ ที่เข้มงวด ในการบริหารมีผู้นำในตำแหน่งสูงสุด คือ สันตะปาปา (Pope) แห่งโรม รองลงมา คือ คาร์ดินัล (Cardinals) ซึ่งเป็นผู้ช่วยสันตะปาปา คัดเลือกมาจากประเทศต่างๆ เพื่อมาทำหน้าที่บริหารดดยตรงที่นครวาติกัน (Vatican) สำหรับการปกครองในแต่ละประเทศแบ่งออกเป็นอัครสังฆมณฑลซึ่งมีอัครสังฆราช (Archbishop) ปกครอง และสังฆมณฑล ซึ่งมีสังฆราช (Bishop) เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ สังฆมณฑลแบ่งเป็นวัดมีเจ้าอาวาสปกครองและมีปลัดเจ้าอาวาสเป็นผู้ช่วย พระสงฆ์ (บาทหลวง) ทุกรูปต้องอยู่ใต้สถาบันการปกครองของศาสนจักรนี้
การปกครองศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 2 อัครสังฆมณฑล และ 8 สังฆมณฑล มีอัครสังฆราช และสังฆราช (คาทอลิก) อยู่ 10 องค์รวมกันเป็นสภาพระสังฆราชแห่งประเทศไทย ขึ้นตรงต่อพระสันตะปาปา สำนักวาติกันที่กรุงโรม
ในปี พ.ศ. 2526 สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 ทรงแต่งตั้งพระคาร์ตินัล อันหมายถึงพระราชาคณะในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการประชุมเลือกพระสันตะปาปา ในจำนวนที่ทรงแต่งตั้งใหม่นี้มีอาร์คบิชอบ หรืออัครสังฆราชของคริสตจักรในประเทศไทยได้รับแต่งตั้งด้วย คืออาร์คบิชอบ ไมเคิล มีชัย กิจบุญชู ซึ่งเป็นพระราชาคณะคริสต์ศาสนาในไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2514 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระคาร์ดินัล (Cardinal) รูปแรกจากประเทศไทย
ผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เรียกตนเองว่า คริสตัง และนิกายโปรเตสแตนท์ เรียกตนเองว่า คริสเตียน
หลักความเชื่อของคริสต์ศาสนา
หลักความเชื่อดั้งเดิมที่พวกอัครสาวกได้วางไว้ เพื่อให้ศาสนนิกชนท่อง เมื่อนมัสการพระเจ้าหรือเมื่อทำพิธีรับศีล เรียกในภาษาละตินว่า เครโด (Credo) และยังคงใช้อยู่ในศาสนจักรคาทอลิก มี 6 ประการ ดังนี้
1. ข้าพเจ้าเชื่อในพระเป็นเจ้าองค์เดียว พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ เนรมิตฟ้าดินทั้งสิ่งที่เห็นได้ และสิ่งที่เห็นไม่ได้
2. เชื่อในพระเยซูคริสต์เจ้า พระบุตรแต่องค์เดียวของพระเป็นเจ้า ทรงบังเกิดจากพระบิดาก่อนกัปป์ก่อนกัลป์ เป็นพระเป็นเจ้า จากพระเป็นเจ้าเป็นองค์ความสว่างจากองค์ความสว่างเป็นพระเป็นเจ้าแท้ จากพระเป็นเจ้าแท้มิได้ถูกสร้าง แต่ทรงบังเกิดร่วมพระธรรมชาติเดียวกับพระบิดา องค์พระบุตรนี้ได้ทรงเนรมิตทุกสิ่งขึ้นมา เพราะเห็นแก่เรามนุษย์ เพื่อช่วยเราให้รอด พระองค์จึงเสด็จจากสวรรค์
เดชะพระจิต พระองค์ทรงรับเอากายจากพรหมจารีมารีอามาเป็นมนุษย์ พระองค์ยังทรงถูกตรึงกางเขน เพื่อเรา ทรงรับทรมานและถูกฝังไว้ สมัยปอนติอุสปิลาส ทรงคืนชีพในวันที่สามตามที่กล่าวไว้ในพระคัมภีร์ เสด็จสู่สวรรค์ประทับเบื้องขวาพระบิดา พระองค์จะเสด็จมาอีกด้วยราศีรุ่งโรจน์เพื่อพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย รัชสมัยของพระองค์จะไม่มีสิ้นสุด
3. ข้าพเจ้าเชื่อในพระเจิดจ้า ผู้ประทานชีวิต ทรงเนื่องมาจากพระบิดาและพระบุตร พระองค์ดำรัสทางผู้ประกาศศาสนา
4. ข้าพเจ้าเชื่อในพระศาสนจักร หนึ่งเดียว ศักดิ์สิทธิ์ สากล และสืบเนื่องมาจากอัครสาวก
5. ข้าพเจ้าเชื่อในการยกบาป ยอมรับว่าพิธีล้างที่ยกบาปมีแต่พิธีเดียว
6. ข้าพเจ้าเชื่อในการคืนชีพของร่างกาย ข้าพเจ้ารอวันที่ผู้ตายจะคืนชีพ และเชื่อชีวิตของภพหน้า
แหล่งที่มา : catholicthailand.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น