วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2562

เวลานิ่งเงียบ เวลาพูดจา



วันที่สามร้อยห้าสิบห้า-  เวลานิ่งเงียบ เวลาพูดจา
1มีเวลาสำหรับทุกสิ่ง
มีกำหนดเวลาสำหรับกิจกรรมทุกอย่าง ภายใต้ฟ้าสวรรค์นี้
7เวลาฉีกขาด เวลาซ่อมแซม
เวลานิ่งเงียบ เวลาพูดจา
ปัญญาจารณ์ 3:1,7

     คุณเคยต้องเก็บกดอารมณ์ของตัวเองเอาไว้บ้างไหม? ไม่ว่าจะเป็นตอนอารมณ์ดี/ มีความสุขมาก หรือเสียใจมาก หรือตื่นเต้นมาก คุณอยากจะรีบเล่าเรื่องราวของคุณให้ใครสักคนฟัง แต่ในสถานการณ์หรือว่าสถานที่ที่คุณอยู่นั้นมันไม่เอื้ออำนวย เช่นในห้องเรียน/ ในห้องประชุม/ ในโบสถ์ หรืออื่น ๆ ก็ว่ากันไป คุณจะทำยังไง?

     ในพระคัมภีร์กล่าวไว้มากมายเกี่ยวกับเรื่องของการเป็นคนใจดี มีเมตตา มีน้ำใจ และการรู้จักให้เกียรติคนอื่น นั่นหมายความว่า บางครั้งคุณเองก็ต้องมีมารยาท และรู้จักรอคอยเวลาที่เหมาะสม หรือที่เราเรียกกันว่ากาลเทศะ ต่อให้คุณอยากจะถาม หรืออยากจะบอกเล่าเรื่องราวที่คุณรู้มา หรือเรื่องราวของตัวคุณเอง คุณจะต้องรอเวลาที่เหมาะสม เพราะบางครั้งหากคุณใจร้อนไม่รู้จักกาลเทศะ แล้วพูดโพล่งออกไป มันอาจมีผลเสียต่อตัวคุณเอง แต่หากคุณรู้จักอดทนรอสักนิด พอทุกคนพร้อมและตั้งใจฟังในสิ่งที่คุณพูดจนจบ แล้วคุณจะรู้สึกดีใจมากที่คนอื่น ๆ สนใจในเรื่องที่คุณกำลังพูดและให้เกียรติ โดยการเป็นผู้ฟังที่ดีจนจบ

     ดังนั้นในเมื่อตัวเราเองยังต้องการให้คนอื่นเป็นผู้ฟังที่ดีและสนใจกับสิ่งที่เราจะพูด และต้องการเห็นเขาให้เกียรติเราในการเป็นผู้พูด ทุกอย่างต้องเริ่มต้นจากตัวเราก่อน ฝึกเรียนรู้เรื่องมารยาทในการพูดขั้นพื้นฐาน และปฏิบัติต่อคนอื่นในแบบที่เราอยากได้จากคนอื่น แบบนี้ดีที่สุด

ข้อคิดประจำวัน
บางครั้งสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำให้กับเพื่อนของคุณ หรือคนรอบข้างได้ ก็คือการเป็นผู้ฟังที่ดี แค่นั้นก็พอแล้วจริง ๆ ฟังแบบเงียบ ๆ ไม่ต้องพูดเยอะ เพราะบางคนเขาต้องการแค่ใครสักคนที่รับฟังสิ่งที่เขาอัดอั้นอยู่ในใจก็พอแล้ว เขาไม่ได้ต้องการการแนะนำ หรืออื่นใด

ให้เราอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดาของลูกทั้งหลาย ขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกสามารถรู้ว่าเวลาไหนที่ลูกควรจะพูด และเวลาไหนที่ลูกควรจะเงียบ เพราะหากปราศจากการนำของพระองค์แล้ว ลูกอาจทำเรื่องผิดพลาดมากมาย
ลูกขออธิษฐานในพระนามของพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านที่สละเวลามาอธิษฐานร่วมกันนะคะ
การฝึกฟังเสียงของพระเจ้าและติดตามการทรงนำของพระวิญญาณฯเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก พระเจ้าอยากจะบอกถึงแผนการของพระองค์ที่มีต่อชีวิตของเรา แผนการของพระเจ้าเป็นแผนการที่ดี แต่เราอาจจะพลาดจากการทรงนำได้ ถ้าเราไม่ฝึกฝนในการฟังเสียงของพระเจ้าหรือไม่เชื่อฟังพระองค์.

อย่าเก็บพระพรและสิ่งดี ๆที่พระเจ้าทรงมอบให้เราไว้เพียงคนเดียว แต่จงทำให้พระพรนี้เจริญเติบโต และเกิดประโยชน์กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เราทุกคนอาจได้รับพระพรที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นคือ การวางใจ ที่พระเจ้าทรงมอบให้เราทุกคน

ถ้าเรารักพระเจ้า การรับใช้จะไม่เป็นภาระและไม่ใช่การจำใจทำ แต่จะเป็นโอกาสและเป็นความยินดีที่ได้รับใช้ และสายตาของเราจะมองหาหนทางที่จะรับใช้ให้ดีมากยิ่งๆ ขึ้นไปเสมอ ถ้าเรารักพระองค์    และไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใด  อย่าย่อท้อต่อการทำหน้าที่ประกาศข่าวดี จงแบ่งปันและบอกเล่าถึงความรักของพระองค์ให้โลกได้รู้ว่า ความรักของพระองค์นั่นยิ่งใหญ่ มั่นคงและจะคงอยู่ตลอดไป  อย่าลืมศึกษาพระคัมภีร์กันไปวันละนิดวันละหน่อยนะคะ เพราะไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับพระเจ้านะคะ 

สิ่งที่เกินกำลังมนุษย์ ไม่ได้เกินกำลังพระเจ้า
เมื่อไม่มีเรี่ยวแรงจะลุกเดิน จงพึ่งในพละกำลังของพระเจ้า
 เมื่อไม่เข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้นกับชีวิต จงวางใจในพระสัญญา

 ไม่มีครูใดดีกว่า "พระจิตเจ้า" ไม่มีถ้อยคำใดที่ดีกว่า "พระวาจา"
พระองค์ไม่เคยสาย พระองค์ไม่เคยช่วยเราช้าเกินไป แต่พระองค์ทรงทันเวลาเสมอ

“ข้าแต่พระเยซูเจ้า โปรดเปิดตาลูกให้เห็นงานของพระองค์ที่ได้ทำเพื่อลูก พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งลูกไปแม้ขณะเดียว โปรดช่วยลูกให้วางใจในพระองค์  ลูกจะขอรักพระองค์ตลอดไป ลูกขอถวายทุก ๆ กิจการการงานไว้กับพระองค์ด้วยเทอญ อาเมน
KC LOVE GOD

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7

  ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7   จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ จงมั่นคงในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาแล้ว และ...