พระองค์ทรงเรียกสาวกสิบสองคนของพระองค์มา
แล้วประทานสิทธิอำนาจให้พวกเขาขับผีโสโครกออกได้ และทรงให้รักษาโรคและความเจ็บป่วยทุกอย่างให้หายได้
มัทธิว 10:1
เมื่อแดง ทำแต้มให้กับทีมของเธอ เธอจะคุยโม้โอ้อวดว่าตัวเธอเก่งแค่ไหนและทีมต้องการเธอมากแค่ไหน แดงเรืองไม่เคยให้เครดิตกับโค้ชหรือเพื่อนร่วมทีมของเธอเลย เธอต้องการให้ความดีความชอบทั้งหมดแก่ตัวเองเท่านั้น
พระเยซูไม่เหมือนกับแดง เพราะพระเยซูช่วยฝึกฝน สอนงานเพื่อช่วยให้เหล่าสาวกสามารถทำสิ่งที่พระองค์ทำได้
ถ้าพระองค์ทรงเห็นแก่ตัวและต้องการดีความชอบทั้งหมด พระองค์คงไม่ช่วยให้สาวกคนอื่นๆทำปาฏิหาริย์ได้
แต่พระองค์ทรงทราบถึงเหตุการณ์ล่วงหน้าว่าเมื่อพระองค์เสด็จกลับสวรรค์ไปแล้วจะไม่มีใครทำตามพระวจนะของพระองค์
จึงเป็นการดีที่พระเยซูทรงฝึกสาวกให้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่!
เมื่อคุณมีความสามารถพิเศษหรือมีทักษะเก่งเฉพาะด้าน ก็อย่ายกตนข่มคนอื่น หรือหลงตนเอง แต่จงใช้ความสามารถที่คุณมีช่วยสอนช่วยพัฒนาให้คนอื่นดีขึ้นเช่นเดียวกันกับที่พระเยซูทรงทำ
เพราะพระเจ้าให้ความสามารถต่างๆมาเพื่อให้คุณได้ช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ใช่เพื่อเห็นแก่ตัวเอง
เมื่อเรารับใช้ผู้อื่นโดยไม่นึกถึงตนเอง
เราจะมีความเข้มแข็งทางวิญญาณ และมีความสุขมากขึ้น เมื่อเรามีส่วนในการรับใช้เพื่อนมนุษย์
การกระทำของเราไม่เพียงช่วยพวกเขาเท่านั้น แต่เราจะมีมุมมองใหม่ขึ้นในปัญหาของเรา
เมื่อเราสนใจผู้อื่นมากขึ้น เราจะมีเวลาสนใจตนเองน้อยลง ท่ามกลางปาฏิหาริย์แห่งการรับใช้
มีคำสัญญาของพระเยซูที่ว่าเมื่อเราเพลินอยู่กับการรับใช้ เราจะพบตัวตนของเรา! [อ่าน มัทธิว 10:39]
ข้อพระคัมภีร์
มัทธิว 10:39 ผู้ที่จะเอาชีวิตของตนรอด จะกลับเสียชีวิต
แต่ผู้ที่เสียชีวิตของตนเพราะเห็นแก่เราก็จะได้ชีวิตรอด
ยอห์น 10:10 ขโมยนั้นย่อมมาเพื่อจะลัก ฆ่า
และทำลาย เรามาเพื่อพวกเขาจะได้ชีวิตและจะได้อย่างครบบริบูรณ์
ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก
หนังสือ One minute
devotions
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น