วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2564

จงสรรเสริญพระเจ้าเมื่อคุณเศร้า

 


จงสรรเสริญพระเจ้าเมื่อคุณเศร้า

5จิตใจของข้าเอ๋ย ไฉนเจ้าจึงฝ่ออยู่?

ไฉนเจ้าจึงกระสับกระส่ายอยู่ภายใน?

จงหวังในพระเจ้า เพราะข้าจะยกย่องพระองค์อีก

ผู้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด

6ข้าแต่พระเจ้า จิตใจของข้าพระองค์ฝ่ออยู่ภายใน

เพราะฉะนั้น ข้าพระองค์จึงระลึกถึงพระองค์

สดุดี42:5-6

คุณไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีเมื่อความเป็นจริงจิตใจของคุณกำลังเศร้าและเป็นทุกข์  พระเจ้าทรงรับรู้ถึงความเจ็บปวดทั้งหมดที่คุณกำลังเผชิญอยู่ พระองค์ทรงเข้าใจความรู้สึกของคุณ แต่ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะขอบพระคุณพระเจ้าไม่ได้ในวันที่ชีวิตกำลังเจอกับปัญหาหรือภาระมากมายที่คุณแบกรับมันไว้อยู่ในใจ  เพราะวันแห่งความทุกข์ไม่ได้เป็นตัวกำหนดว่าคุณควรหยุดสรรเสริญพระเจ้า ที่จริงแล้ว ในวันที่คุณรู้สึกแย่ที่สุด มันควรจะเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่คุณจะสรรเสริญพระเจ้าและขอบพระคุณพระองค์

ดังนั้นในครั้งต่อไปที่คุณรู้สึกแย่ ให้ถามตัวเองว่าทำไมคุณถึงเศร้า อะไรคือสาเหตุ? แล้วหลังจากนั้นให้คุณเริ่มสรรเสริญพระเจ้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้คุณสรรเสริญพระเจ้าในสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับคุณนะ แต่มันคือการสรรเสริญพระเจ้าในสิ่งที่พระองค์ทรงเป็นและที่สำคัญคือ สรรเสริญเพราะพระองค์ทรงรักคุณมากแค่ไหน

วันนี้ ตอนนี้แม้ว่าจะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น คุณจะพบว่าการสรรเสริญพระเจ้าสามารถช่วยบรรเทาใจคุณได้ในทุกปัญหา หากคุณอ่านพระคัมภีร์ในบทสดุดีคุณจะพบว่า กษัตริย์ ดาวิดสรรเสริญพระเจ้า แม้แต่ในยามที่เขารู้สึกท้อแท้และเศร้า แต่เขาก็หวังในพระเจ้าและวางใจในพระองค์ ซึ่งคุณเองก็สามารถทำได้เช่นกัน

ให้คุณดำเนินชีวิตด้วยความยินดี แต่อย่าดำเนินชีวิตโดยให้มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณหรือรอบตัวคุณ หรือสิ่งที่คนอื่นพูดหรือปฏิบัติกับคุณ หรือขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของคุณ คุณสามารถมีความยินดีท่ามกลางปัญหาได้ ในพระคัมภีร์ ยากอบ 1:2 กล่าวว่าจงนับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีเมื่อคุณผ่านปัญหาต่างๆ พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ อย่าหวั่นไหวไปกับสถานการณ์ที่ยากลำบากต่างๆ จงขอบพระคุณและชื่นชมยินดีอยู่เสมอ โดยรู้ว่าคุณเป็นมากกว่าผู้พิชิต ไม่ว่าสถานการณ์และสภาพแวดล้อมภายนอกจะเป็นอย่างไร ให้คุณชื่นชมยินดีด้วยความสุขเหลือล้นและเต็มล้นด้วยพระสิริของพระเจ้า โดยรู้ว่าทุกสิ่งนั้นจะเกิดผลดีเพื่อคุณแน่นอน

วันนี้ให้คุณถามตัวเองดูว่า คุณต้องการมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้ามากขึ้นหรือไม่? ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่คุณจะขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่พระองค์ทรงทำในชีวิตของคุณ อย่าลืมขอบคุณด้วยความสุขและความเศร้า ความเจ็บปวด ให้คุณมีใจขอบพระคุณพระเจ้าทั้งในยามสุขและในยามทุกข์   เท่านี้นี้ยังไม่เพียงพอที่จะสรรเสริญพระเจ้า  คุณควรแสดงความขอบคุณด้วยการถวายเกียรติพระเจ้าด้วยทุกกิจการงานประจำวันที่ทำ ขอบคุณพระเจ้าอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน พระคัมภีร์กล่าวว่าเราทุกคนควรรักษาแนวการสื่อสารที่เปิดกว้างกับพระบิดาไว้ตลอดเวลาและขอบคุณสำหรับงานทั้งหมดของพระองค์ในชีวิตของเรา

ให้คุณดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระเจ้าเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์ด้วยความเป็นอยู่ของคุณ วิธีที่ดีที่สุดในการแสดงความขอบคุณคือการมอบชีวิตของคุณแด่พระองค์เนื่องจากเราจำเป็นต้องหันเหจากบาปและความปรารถนาของเราเอง การที่จะทำเช่นนั้นได้จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป แต่อย่างไรก็ตามพระเจ้าให้เรามีชีวิตอิสระในการเลือกเสมอ แต่เมื่อไหร่ที่คุณเลือกทางของพระองค์ ให้คุณลองนึกภาพถึงพระพรที่จะหลั่งไหลออกมาหลังจากที่คุณเสริมสร้างความสัมพันธ์กับพระองค์แล้ว

สิ่งสำคัญคือ การอธิษฐานและอ่านพระคัมภีร์ทุกวัน จงกลับใจจากบาปของคุณและฟังพระสุรเสียงของพระองค์ในทุกการตัดสินใจของคุณ

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา เมื่อลูกเศร้าใจ ทุกข์ใจ ลูกอาจไม่ได้รู้สึกถึงการสรรเสริญ และการขอบพระคุณพระองค์ แต่ขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกไม่หลงลืมมันไป  เพราะว่าลูกเองก็ต้องการสรรเสริญ และขอบพระคุณพระองค์ในช่วงเวลาที่เลวร้ายเช่นกัน วันนี้ไม่ใช่วันง่ายๆ แต่ลูกรู้ว่าพระองค์ทรงดูแลอยู่ ลูกขอขอบคุณสำหรับความรักที่ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีวันสิ้นสุดของพระองค์   ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7

  ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7   จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ จงมั่นคงในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาแล้ว และ...