จงสรรเสริญพระเจ้าเมื่อคุณเศร้า
5จิตใจของข้าเอ๋ย ไฉนเจ้าจึงฝ่ออยู่?
ไฉนเจ้าจึงกระสับกระส่ายอยู่ภายใน?
จงหวังในพระเจ้า เพราะข้าจะยกย่องพระองค์อีก
ผู้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด
6ข้าแต่พระเจ้า จิตใจของข้าพระองค์ฝ่ออยู่ภายใน
เพราะฉะนั้น ข้าพระองค์จึงระลึกถึงพระองค์
สดุดี42:5-6
คุณไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีเมื่อความเป็นจริงจิตใจของคุณกำลังเศร้าและเป็นทุกข์
พระเจ้าทรงรับรู้ถึงความเจ็บปวดทั้งหมดที่คุณกำลังเผชิญอยู่
พระองค์ทรงเข้าใจความรู้สึกของคุณ แต่ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะขอบพระคุณพระเจ้าไม่ได้ในวันที่ชีวิตกำลังเจอกับปัญหาหรือภาระมากมายที่คุณแบกรับมันไว้อยู่ในใจ
เพราะวันแห่งความทุกข์ไม่ได้เป็นตัวกำหนดว่าคุณควรหยุดสรรเสริญพระเจ้า
ที่จริงแล้ว ในวันที่คุณรู้สึกแย่ที่สุด มันควรจะเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่คุณจะสรรเสริญพระเจ้าและขอบพระคุณพระองค์
ดังนั้นในครั้งต่อไปที่คุณรู้สึกแย่ ให้ถามตัวเองว่าทำไมคุณถึงเศร้า
อะไรคือสาเหตุ? แล้วหลังจากนั้นให้คุณเริ่มสรรเสริญพระเจ้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้คุณสรรเสริญพระเจ้าในสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับคุณนะ
แต่มันคือการสรรเสริญพระเจ้าในสิ่งที่พระองค์ทรงเป็นและที่สำคัญคือ
สรรเสริญเพราะพระองค์ทรงรักคุณมากแค่ไหน
วันนี้ ตอนนี้แม้ว่าจะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น
คุณจะพบว่าการสรรเสริญพระเจ้าสามารถช่วยบรรเทาใจคุณได้ในทุกปัญหา
หากคุณอ่านพระคัมภีร์ในบทสดุดีคุณจะพบว่า กษัตริย์ ดาวิดสรรเสริญพระเจ้า แม้แต่ในยามที่เขารู้สึกท้อแท้และเศร้า
แต่เขาก็หวังในพระเจ้าและวางใจในพระองค์ ซึ่งคุณเองก็สามารถทำได้เช่นกัน
ให้คุณดำเนินชีวิตด้วยความยินดี แต่อย่าดำเนินชีวิตโดยให้มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณหรือรอบตัวคุณ
หรือสิ่งที่คนอื่นพูดหรือปฏิบัติกับคุณ หรือขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของคุณ คุณสามารถมีความยินดีท่ามกลางปัญหาได้ ในพระคัมภีร์ ยากอบ 1:2
กล่าวว่าจงนับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีเมื่อคุณผ่านปัญหาต่างๆ พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ
อย่าหวั่นไหวไปกับสถานการณ์ที่ยากลำบากต่างๆ จงขอบพระคุณและชื่นชมยินดีอยู่เสมอ
โดยรู้ว่าคุณเป็นมากกว่าผู้พิชิต ไม่ว่าสถานการณ์และสภาพแวดล้อมภายนอกจะเป็นอย่างไร
ให้คุณชื่นชมยินดีด้วยความสุขเหลือล้นและเต็มล้นด้วยพระสิริของพระเจ้า
โดยรู้ว่าทุกสิ่งนั้นจะเกิดผลดีเพื่อคุณแน่นอน
วันนี้ให้คุณถามตัวเองดูว่า คุณต้องการมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้ามากขึ้นหรือไม่? ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่คุณจะขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่พระองค์ทรงทำในชีวิตของคุณ
อย่าลืมขอบคุณด้วยความสุขและความเศร้า ความเจ็บปวด ให้คุณมีใจขอบพระคุณพระเจ้าทั้งในยามสุขและในยามทุกข์ เท่านี้นี้ยังไม่เพียงพอที่จะสรรเสริญพระเจ้า
คุณควรแสดงความขอบคุณด้วยการถวายเกียรติพระเจ้าด้วยทุกกิจการงานประจำวันที่ทำ
ขอบคุณพระเจ้าอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
พระคัมภีร์กล่าวว่าเราทุกคนควรรักษาแนวการสื่อสารที่เปิดกว้างกับพระบิดาไว้ตลอดเวลาและขอบคุณสำหรับงานทั้งหมดของพระองค์ในชีวิตของเรา
ให้คุณดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระเจ้าเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์ด้วยความเป็นอยู่ของคุณ
วิธีที่ดีที่สุดในการแสดงความขอบคุณคือการมอบชีวิตของคุณแด่พระองค์เนื่องจากเราจำเป็นต้องหันเหจากบาปและความปรารถนาของเราเอง
การที่จะทำเช่นนั้นได้จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป แต่อย่างไรก็ตามพระเจ้าให้เรามีชีวิตอิสระในการเลือกเสมอ
แต่เมื่อไหร่ที่คุณเลือกทางของพระองค์ ให้คุณลองนึกภาพถึงพระพรที่จะหลั่งไหลออกมาหลังจากที่คุณเสริมสร้างความสัมพันธ์กับพระองค์แล้ว
สิ่งสำคัญคือ การอธิษฐานและอ่านพระคัมภีร์ทุกวัน จงกลับใจจากบาปของคุณและฟังพระสุรเสียงของพระองค์ในทุกการตัดสินใจของคุณ
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดา เมื่อลูกเศร้าใจ ทุกข์ใจ ลูกอาจไม่ได้รู้สึกถึงการสรรเสริญ
และการขอบพระคุณพระองค์ แต่ขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกไม่หลงลืมมันไป เพราะว่าลูกเองก็ต้องการสรรเสริญ
และขอบพระคุณพระองค์ในช่วงเวลาที่เลวร้ายเช่นกัน วันนี้ไม่ใช่วันง่ายๆ แต่ลูกรู้ว่าพระองค์ทรงดูแลอยู่
ลูกขอขอบคุณสำหรับความรักที่ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีวันสิ้นสุดของพระองค์ ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน
ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก
หนังสือ One minute
devotions
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น