ตื่นตอนเเช้าให้อธิษฐานกันก่อน
ให้พระเจ้าประทานพระพรในวันนี้
ก่อนจะกินจะโมทนาพระคุณพระเจ้าแสนดี
ก่อนจะนอนเฝ้าทูลอ้อนวอนทุกทุกที
ทำสิ่งใดให้อธิษฐานกันก่อน
อย่าใจร้อนไม่รอพระองค์คงไม่ดี
ไม่สบายทั้งกายและใจพระองค์รักษาทุกที
สิ่งดี
ๆ พระองค์ทรงเตรียมให้เรา
เวลาที่อธิษฐาน
ให้อ้อนวอนด้วยสุดใจ
ไม่ต้องมีความสงสัย
ไม่ต้องกระวนกระวายสิ่งใด
หากสิ่งที่ขอ
พระเจ้าทรงพอพระทัย
ทุกเรื่องที่ฝากเอาไว้
จะพบเจอคำตอบ
ทำไมต้องอธิษฐาน? พระเจ้าจะตอบเราไหม?
คำตอบจากคัมภีร์ไบเบิล
ใช่
พระเจ้าจะตอบคำอธิษฐานของคุณอย่างแน่นอน
จากประสบการณ์ของผู้คนและคัมภีร์ไบเบิลเองแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าตอบคำอธิษฐาน
คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “พระองค์
จะทรงโปรดตามความปรารถนาของคนทั้งหลายที่เกรงกลัวพระองค์ พระองค์จะทรงสดับฟังคำร้องทุกข์ของเขาและจะทรงช่วยเขาให้รอดด้วย”
สดุดี 145:19
19
พระองค์ให้คนที่เกรงกลัวพระองค์ได้ทุกสิ่งที่ต้องการ พระองค์ฟังพวกเขาร้องขอความช่วยเหลือและช่วยพวกเขา
แต่พระเจ้าจะตอบคำอธิษฐานของคุณ
หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคุณ
สิ่งสำคัญสำหรับพระเจ้า
· อธิษฐานถึงพระเจ้า พระเจ้าเท่านั้นที่เป็น
“ผู้สดับคำอธิษฐาน”
สดุดี
65:2 พระองค์ผู้ฟังคำอธิษฐาน
คนทุกชนิดจะมาหาพระองค์
· อธิษฐานสอดคล้องกับพระประสงค์หรือข้อเรียกร้องของพระเจ้าดังที่มีบอกไว้ในคัมภีร์ไบเบิล
1
ยอห์น 5:14 เรามั่นใจในพระเจ้าว่า ถ้าเราขออะไรก็ตามที่สอดคล้องกับความประสงค์ของพระองค์
พระองค์จะฟังเรา
· อธิษฐานในนามของพระเยซู
ซึ่งเป็นการให้เกียรติพระองค์ พระเยซูตรัสว่า
“ไม่มีใครจะมาถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางเรา”
ยอห์น
14:6
6 พระเยซูตอบเขาว่า “ผมเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีใครจะมาถึงพระเจ้าผู้เป็นพ่อได้นอกจากมาทางผม
· อธิษฐานขอด้วยความเชื่อ
และขอให้มีความเชื่อมากขึ้นทุกๆวัน
มัทธิว
21:22 ถ้าคุณมีความเชื่อ
ไม่ว่าคุณจะอธิษฐานขออะไรก็จะได้รับ”
· ถ่อมใจและจริงใจ
คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “แม้ว่าพระยะโฮวาผู้เป็นใหญ่ยิ่ง, พระองค์ยังทรงระลึกถึงคนต่ำต้อย”
สดุดี
138:6 แม้พระยะโฮวาสูงส่ง
แต่พระองค์ก็สนใจคนถ่อม ส่วนคนหยิ่งนั้นพระองค์ไม่อยากอยู่ใกล้
สิ่งที่ไม่สำคัญสำหรับพระเจ้า
· สีผิวหรือเชื้อชาติ
“พระเจ้าไม่ทรงลำเอียง
แต่พระองค์ทรงชอบพระทัยคนที่ยำเกรงพระองค์และประพฤติชอบธรรมไม่ว่าจะเป็นคนชาติใด”
กิจการ
10:34, 35
เปโตรจึงเริ่มพูดว่า “ตอนนี้ผมเข้าใจจริง ๆ
แล้วว่าพระเจ้าไม่ลำเอียง
พระองค์ยอมรับทุกคนที่เกรงกลัวพระองค์และทำสิ่งที่ถูกต้อง
ไม่ว่าเขาจะเป็นคนชาติไหนก็ตาม
· ท่าอธิษฐาน คุณจะอธิษฐานถึงพระเจ้าในท่านั่ง
ก้มตัว คุกเข่า หรือท่ายืนก็ได้
1
พงศาวดาร 17:16
กษัตริย์ดาวิดก็เข้ามานั่งต่อหน้าพระยะโฮวาและอธิษฐานว่า
“พระยะโฮวาพระเจ้าของผม
ผมเป็นใครและวงศ์ตระกูลของผมสำคัญอย่างไรพระองค์ถึงพาผมมาไกลขนาดนี้?
เนหะมีย์
8:6
เอสราสรรเสริญพระยะโฮวาพระเจ้าเที่ยงแท้องค์ยิ่งใหญ่
ประชาชนทุกคนก็พูดว่า “อาเมน* อาเมน” และชูมือขึ้น
แล้วซบหน้าลงกับพื้นหมอบนมัสการพระยะโฮวา
ดาเนียล
6:10
เมื่อดาเนียลรู้ว่ามีการออกกฎหมายนั้น เขาก็กลับบ้าน
ที่บ้านของเขามีห้องบนดาดฟ้า
มีหน้าต่างเปิดอยู่ซึ่งหันไปทางกรุงเยรูซาเล็ม เขาขึ้นไปคุกเข่าอธิษฐานและสรรเสริญพระเจ้าอย่างที่เคยทำเป็นประจำวันละ
3 ครั้ง
มาระโก
11:25 และเมื่อคุณอธิษฐาน
คุณต้องให้อภัยคนที่ทำให้คุณโกรธ
แล้วพระเจ้าผู้เป็นพ่อของคุณที่อยู่ในสวรรค์ก็จะให้อภัยคุณด้วยเมื่อคุณทำผิด”
· อธิษฐานออกเสียงหรืออธิษฐานในใจ
พระเจ้าตอบคำอธิษฐานแม้แต่เมื่อคุณอธิษฐานในใจ
เนหะมีย์
2:1-6 ในเดือนนิสาน* ปีที่ 20 ที่กษัตริย์อาร์ทาเซอร์ซิสปกครอง
เมื่อกษัตริย์ต้องการจะดื่มเหล้าองุ่น ผมนำเหล้ามารินให้ท่านตามปกติ
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านในครั้งนี้ หน้าตาของผมดูเศร้าหมองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
2 กษัตริย์จึงถามผมว่า “ทำไมดูเศร้า
ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วยอะไร? นี่แสดงว่ามีเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจอยู่ล่ะสิ”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ผมตกใจมาก
3 ผมจึงบอกกษัตริย์ว่า “ขอให้ท่านอายุยืนยาว
ตอนนี้เมืองซึ่งเป็นที่ฝังศพบรรพบุรุษของผมเหลือแต่ซากปรักหักพัง
ประตูเมืองถูกไฟเผาจนเหลือแต่ซาก เมื่อเป็นอย่างนี้
จะไม่ให้ผมโศกเศร้าได้ยังไงครับ” 4
กษัตริย์จึงถามผมว่า “แล้วคิดจะทำยังไง?” ตอนนั้นเอง
ผมก็รีบอธิษฐานถึงพระเจ้าแห่งสวรรค์ทันที 5
และบอกกษัตริย์ไปว่า “ถ้าผมเป็นผู้รับใช้ที่ท่าน
· ไม่ว่าเรื่องที่คุณเป็นห่วงจะเป็นเรื่องสำคัญหรือไม่
พระเจ้าสนับสนุนคุณให้ ‘ละความกังวลทั้งสิ้นของคุณไว้กับพระองค์เพราะพระองค์ทรงห่วงใยคุณ’
1
เปโตร 5:7
และฝากความกังวลทั้งหมดไว้กับพระองค์ เพราะพระองค์ห่วงใยคุณ
.jw.org/th
แล้วทำไมพระเจ้าไม่ทรงตอบคำอธิษฐานของทุกคนเล่า?
มันอาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า
พวกเขาอาจจะรู้ว่าพระเจ้านั้นทรงดำรงอยู่ และอาจจะนมัสการพระเจ้าบ้างเป็นบางครั้ง
แต่สำหรับบางคนที่ไม่เคยได้รับการตอบคำอธิษฐานคงจะเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า
และยิ่งไปกว่านั้นก็คือพวกเขาไม่เคยได้รับการอภัยโทษบาปของพวกเขาอย่างสมบูรณ์จากพระเจ้า
คุณอาจจะถามว่า แล้วเรื่องนี้มาเกี่ยวข้องอะไรด้วยเล่า? นี่คือคำอธิบาย “ดูเถิด
พระหัตถ์ของพระเจ้า ไม่ได้สั้นลง ที่จะช่วยให้รอดไม่ได้
หรือพระกรรณตึงซึ่งจะทรงไม่ได้ยิน แต่ว่าความบาปชั่วของเจ้าทั้งหลาย
ได้กระทำให้เกิดการแยก ระหว่างเจ้ากับพระเจ้าของเจ้า
และบาปของเจ้าทั้งหลายได้บังพระพักตร์ของพระองค์เสียจากเจ้า พระองค์จึงมิได้ยิน”3
เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกถึงการถูกตัดขาดจากพระเจ้า
เมื่อผู้คนเริ่มทูลขอสิ่งหนึ่งสิ่งใดจากพระเจ้า เขาจะทูลว่าอย่างไรนะ? พวกเขาเริ่มต้นด้วย “พระเจ้า
ข้าพเจ้าต้องการความช่วยเหลือจากพระองค์ในปัญหานี้จริงๆ ...” หลังจากนั้นเขาจะหยุด
และติดตามด้วยการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง... “ข้าพเจ้ารู้ว่า
ข้าพเจ้าไม่ใช่คนที่สมบูรณ์นัก
และจริงๆแล้วข้าพเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทูลขอสิ่งนี้ต่อพระองค์...” มันเป็นความรู้สึกลึกๆถึงความบาปและความล้มเหลวของแต่ละบุคคล
และความรู้สึกว่า “ฉันกำลังล้อเล่นอยู่กับใครกันนี่? สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือการที่เขาจะสามารถรับการอภัยโทษบาปทั้งหลายของพวกเขาได้อย่างไร
เขาอาจจะไม่รู้ว่า เขาสามารถเข้ามาสู่การมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าได้และเมื่อนั้นพระเจ้าจะทรงได้ยินเมื่อเขาอธิษฐาน
นี่คือรากฐานของการที่พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของคุณ
แล้วเราจะต้องทำอะไรบ้าง? พระเจ้าทรงประสงค์จะทำสิ่งใด?
เราสามารถเขียนสิ่งที่พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ที่จะทำในชีวิตของเราได้มากมายหลายหน้าเลยทีเดียว
ตลอด
ทั้งเล่มของพระคริสตธรรมคัมภีร์ได้พรรณนาถึงรูปแบบของความสัมพันธ์ที่ทรงอยากให้เรามีประสบการณ์กับพระองค์
และลักษณะชีวิตที่ทรงต้องการที่จะประทานให้กับเรา
ลองดูตัวอย่างจากข้อพระคัมภีร์ต่อไปนี้
“เพราะฉะนั้นพระเจ้าทรงรอคอยที่จะทรงพระกรุณาเจ้าทั้งหลาย
เพราะฉะนั้นพระองค์จึงทรงลุกขึ้นเพื่อเมตตาเจ้า เพราะพระเจ้า
เป็นพระเจ้าแห่งความยุติธรรม ผู้ที่คอยท่าพระองค์จะได้รับพระพร”7
“สำหรับพระเจ้าพระองค์นี้ พระมรรคาของพระองค์ก็บริบูรณ์
พระสัญญาของพระเจ้าพิสูจน์แล้วเป็นความจริง
พระองค์ทรงเป็นโล่ของบรรดาผู้ที่ลี้ภัยอยู่ในพระองค์”8
“แต่พระเจ้าทรงปรีดีในคนที่ยำเกรงพระองค์และคนที่ความหวังของเขาอยู่ในความรักมั่นคงของพระองค์”9
อย่างไรก็ตาม
การทรงสำแดงถึงความรักและความซื่อตรงที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ต่อคุณก็คือสิ่งนี้
พระเยซูตรัสว่า “ไม่มีผู้ใดมีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ คือการที่ผู้หนึ่งผู้ใดจะสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหายของตน”10
นี่คือสิ่งที่พระเยซูทรงกระทำเพื่อเรา และดังนั้น “... ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเรา
ใครจะขัดขวางเรา? พระองค์ผู้มิได้ทรงหวงพระบุตรองค์เดียวของพระองค์
แต่ได้ทรงโปรดประทานพระบุตรนั้นเพื่อประโยชน์แก่เรา ถ้าเช่นนั้นพระองค์จะไม่ทรงโปรดประทานสิ่งสารพัดให้เราทั้งหลายด้วยกันกับพระบุตรนั้นหรือ?”11
แล้วคำอธิษฐานที่
“ไม่ได้รับคำตอบ”ล่ะ?
แน่นอนว่าคนเรายังคงมีความป่วยไข้และบางคนก็เสียชีวิตไป
หรือปัญหาทางการเงินก็เกิดขึ้นจริง และ
สถานการณ์ที่ยุ่งยากหลายอย่างสามารถที่จะเกิดขึ้นได้ แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป
พระเจ้าทรงบอกให้เรามอบความห่วงกังวลของเราไว้กับพระองค์
แม้ว่าสถานการณ์นั้นยังคงน่ากลุ้มใจอยู่ก็ตาม
“จงละความกระวนกระวายของท่านไว้กับพระองค์
เพราะว่าพระองค์ทรงห่วงใยท่านทั้งหลาย”12
สถานการณ์อาจจะดูเหมือนว่ามันควบคุมไม่ได้ แต่จริงๆแล้วไม่เป็นเช่นนั้น
เมื่อโลกทั้งโลกดูเหมือนจะถล่มทลายลงมา
แต่พระเจ้านั้นทรงสามารถที่จะรักษาเราไว้ได้ ณ
เวลานี้เองที่คนๆหนึ่งจะสามารถรู้สึกสำนึกในพระคุณ ว่าเขารู้จักกับพระเจ้า
“...องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ใกล้แล้ว อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆเลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า
ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ
แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจ
จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์”13
พระเจ้าอาจจะทรงจัดเตรียมทางออก หรือ
ทางแก้ปัญหาของคุณในแบบที่เหนือกว่าที่คุณจะจินตนาการว่าจะเป็นไปได้
บางทีคริสเตียนทุกคนคงจะสามารถ
เขียนตัวอย่างลักษณะนี้ออกมาในชีวิตของเขาเองได้ด้วย
แต่หากว่าสถานการณ์นั้นยังไม่ได้คลี่คลายไปในทางที่ดี
พระเจ้ายังทรงสามารถประทานสันติสุขของพระองค์แก่เราในท่ามกลางสถานการณ์นั้นๆได้
พระเยซูตรัสว่า “เรามอบสันติสุขไว้ให้แก่ท่านทั้งหลาย
สันติสุขของเราที่ให้แก่ท่านนั้น เราให้ท่านไม่เหมือนโลกให้
อย่าให้ใจของท่านวิตกและอย่ากลัวเลย”14
ณ
จุดนี้เอง (ขณะเมื่อสถานการณ์ต่างๆยังคงยุ่งยากอยู่)
ที่พระเจ้าได้ทรงขอให้เรายังคงไว้วางใจในพระองค์ต่อไป นั่นคือ
“การดำเนินด้วยความเชื่อศรัทธาไม่ใช่แบบที่ตามองเห็น”
พระคัมภีร์ได้กล่าวเอาไว้เช่นนั้น แต่นี่ก็ไม่ใช่ความเชื่อแบบไร้เหตุผล
ความเชื่อนี้ขึ้นอยู่กับพระลักษณะของพระเจ้าเลยทีเดียว
รถยนต์ที่วิ่งอยู่บนสะพานโกลเด้นท์ เกท
วิ่งอยู่บนนั้นได้โดยความแข็งแรงของตัวสะพานเอง การที่คนขับจะรู้สึกหรือคิดอย่างไร
หรือได้พูด คุยอะไรกันบ้างกับผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยนั้น
ไม่ใช่สิ่งที่สลักสำคัญอะไร สิ่งที่ทำให้รถคันนั้นไปถึงอีกฝั่งอย่างปลอดภัยก็คือ
ความแข็งแรงของตัวสะพานซึ่งคนขับรถคันนั้นเต็มใจที่จะวางใจมันต่างหากที่สำคัญ
ในทำนองเดียวกัน
พระเจ้าทรงต้องการให้เราที่จะไว้วางใจในความจริงแห่งพระองค์
พระลักษณะของพระองค์...ความเมตตาเอ็นดู ความรัก พระปัญญา
ความชอบธรรมของพระองค์เพื่อเรา พระองค์ตรัสว่า
“...เราได้รักเจ้าด้วยความรักนิรันดร์
เพราะฉะนั้นเราจึงมีความรักมั่นคงต่อเจ้าสืบไป”15 “ประชาชนเอ๋ย จงวางใจในพระองค์ตลอดเวลา
จงระบายความในใจของท่านต่อพระองค์ พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยของเรา”16
everythaistudent.com
มีคนมาก...
ที่ชอบพูดเรื่องการอธิษฐาน
แต่มีคนน้อยนักที่รักการอธิษฐาน
แม้ว่าการอธิษฐานจะไม่ต้องเสียอะไรเลย...
นอกเสียจากเรื่องการให้ "เวลา"
อย่าคาดหวังข้าวในนา....
ถ้าไม่ยอมออกไปไถหว่าน
เราจะได้เก็บเกี่ยว....
ก็ต่อเมื่อเราหว่านลงแล้วเท่านั้น
พระเจ้ารอให้เรา "อธิษฐาน"
ไม่ใช่ต้องการฟังเราพูดกันถึงเรื่องการอธิษฐาน
.................................................
เยเรมีย์
33:3 พระเจ้าตรัสว่า...
'จงทูลเรา และเราจะตอบเจ้า
และจะบอกสิ่งยิ่งใหญ่ที่ซ่อนอยู่
ซึ่งเจ้าไม่รู้นั้นแก่เจ้า'
.................................................
เราจะรู้น้ำพระทัยพระเจ้าได้
ก็ด้วยการที่เรา "อธิษฐาน"
(เจิม
ซัม)
พระเจ้าทรงเสนอที่จะตอบคำอธิษฐาน ของลูกพระองค์
(คนทั้งหลายที่ได้ยอมรับพระองค์เข้าในชีวิตของเขาและแสวงหาโอกาสที่จะติดตามพระองค์)
พระองค์ทรงขอให้เรานำความห่วงกังวลทั้งหลายมาไว้ที่พระองค์ โดยการอธิษฐาน
และพระองค์จะทรงกระทำการของพระองค์ตามน้ำพระทัย เมื่อเราต้องเผชิญกับความยากลำบาก
เราควรที่จะวางความห่วงใยทั้งหลายเอาไว้ที่พระองค์ และรับเอาสันติสุขจากพระองค์ซึ่งอยู่เหนือสถานการณ์เหล่านั้น
พื้นฐานของความหวังและความเชื่อศรัทธาของเราอยู่ที่พระลักษณะของพระเจ้าเอง
ยิ่งเรารู้จักพระองค์ ดีขึ้นมากเท่าไหร่
เราก็ยิ่งไว้วางใจพระองค์ได้ง่ายขึ้นมากเท่านั้นด้วย
KC
LOVE GOD
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น