วันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

พระเจ้ารอให้เรา "อธิษฐาน" ไม่ใช่ต้องการฟังเราพูดกันถึงเรื่องการอธิษฐาน


ตื่นตอนเเช้าให้อธิษฐานกันก่อน
ให้พระเจ้าประทานพระพรในวันนี้
ก่อนจะกินจะโมทนาพระคุณพระเจ้าแสนดี
ก่อนจะนอนเฝ้าทูลอ้อนวอนทุกทุกที

ทำสิ่งใดให้อธิษฐานกันก่อน
อย่าใจร้อนไม่รอพระองค์คงไม่ดี
ไม่สบายทั้งกายและใจพระองค์รักษาทุกที
สิ่งดี ๆ พระองค์ทรงเตรียมให้เรา
เวลาที่อธิษฐาน ให้อ้อนวอนด้วยสุดใจ
ไม่ต้องมีความสงสัย ไม่ต้องกระวนกระวายสิ่งใด
หากสิ่งที่ขอ พระเจ้าทรงพอพระทัย
ทุกเรื่องที่ฝากเอาไว้ จะพบเจอคำตอบ

ทำไม​ต้อง​อธิษฐาน? พระเจ้า​จะ​ตอบ​เรา​ไหม?
คำ​ตอบ​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล
ใช่ พระเจ้า​จะ​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​ของ​คุณ​อย่าง​แน่นอน จาก​ประสบการณ์​ของ​ผู้​คน​และ​คัมภีร์​ไบเบิล​เอง​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระเจ้า​ตอบ​คำ​อธิษฐาน คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “พระองค์ จะ​ทรง​โปรด​ตาม​ความ​ปรารถนา​ของ​คน​ทั้ง​หลาย​ที่​เกรง​กลัว​พระองค์ พระองค์​จะ​ทรง​สดับ​ฟัง​คำ​ร้อง​ทุกข์​ของ​เขา​และ​จะ​ทรง​ช่วย​เขา​ให้​รอด​ด้วย”
สดุดี 145:19
19  พระองค์​ให้​คน​ที่​เกรง​กลัว​พระองค์​ได้​ทุก​สิ่ง​ที่​ต้องการ  พระองค์​ฟัง​พวก​เขา​ร้อง​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ​และ​ช่วย​พวก​เขา

แต่​พระเจ้า​จะ​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​ของ​คุณ หรือ​ไม่​ก็​ขึ้น​อยู่​กับ​คุณ

สิ่ง​สำคัญ​สำหรับ​พระเจ้า
·       อธิษฐาน​ถึง​พระเจ้า พระเจ้า​เท่า​นั้น​ที่​เป็น “ผู้​สดับ​คำ​อธิษฐาน”  
สดุดี 65:2  พระองค์​ผู้​ฟัง​คำ​อธิษฐาน คน​ทุก​ชนิด​จะ​มา​หา​พระองค์

·       อธิษฐาน​สอดคล้อง​กับ​พระ​ประสงค์​หรือ​ข้อ​เรียก​ร้อง​ของ​พระเจ้า​ดัง​ที่​มี​บอก​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล
1 ยอห์น 5:14  เรา​มั่น​ใจ​ใน​พระเจ้า​ว่า ถ้า​เรา​ขอ​อะไร​ก็​ตาม​ที่​สอดคล้อง​กับ​ความ​ประสงค์​ของ​พระองค์ พระองค์​จะ​ฟัง​เรา

·       อธิษฐาน​ใน​นาม​ของ​พระ​เยซู ซึ่ง​เป็น​การ​ให้​เกียรติ​พระองค์ พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “ไม่​มี​ใคร​จะ​มา​ถึง​พระ​บิดา​ได้​นอก​จาก​มา​ทาง​เรา”
ยอห์น 14:6
6  พระ​เยซู​ตอบ​เขา​ว่า “ผม​เป็น​ทาง​นั้น เป็น​ความ​จริง และ​เป็น​ชีวิต ไม่​มี​ใคร​จะ​มา​ถึง​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​ได้​นอก​จาก​มา​ทาง​ผม

·       อธิษฐาน​ขอ​ด้วย​ความ​เชื่อ และ​ขอ​ให้​มี​ความ​เชื่อ​มาก​ขึ้น​ทุกๆวัน
มัทธิว 21:22  ถ้า​คุณ​มี​ความ​เชื่อ ไม่​ว่า​คุณ​จะ​อธิษฐาน​ขอ​อะไร​ก็​จะ​ได้​รับ”

·       ถ่อม​ใจ​และ​จริง​ใจ คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “แม้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ผู้​เป็น​ใหญ่​ยิ่ง, พระองค์​ยัง​ทรง​ระลึก​ถึง​คน​ต่ำต้อย”
สดุดี 138:6  แม้​พระ​ยะโฮวา​สูง​ส่ง แต่​พระองค์​ก็​สนใจ​คน​ถ่อม ส่วน​คน​หยิ่ง​นั้น​พระองค์​ไม่​อยาก​อยู่​ใกล้

สิ่ง​ที่​ไม่​สำคัญ​สำหรับ​พระเจ้า
·       สี​ผิว​หรือ​เชื้อชาติ “พระเจ้า​ไม่​ทรง​ลำเอียง แต่​พระองค์​ทรง​ชอบ​พระทัย​คน​ที่​ยำเกรง​พระองค์​และ​ประพฤติ​ชอบธรรม​ไม่​ว่า​จะ​เป็น​คน​ชาติ​ใด”
กิจการ 10:34, 35  เปโตร​จึง​เริ่ม​พูด​ว่า “ตอน​นี้​ผม​เข้าใจ​จริง ๆ แล้ว​ว่า​พระเจ้า​ไม่​ลำเอียง พระองค์​ยอม​รับ​ทุก​คน​ที่​เกรง​กลัว​พระองค์​และ​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง ไม่​ว่า​เขา​จะ​เป็น​คน​ชาติ​ไหน​ก็​ตาม

·       ท่า​อธิษฐาน คุณ​จะ​อธิษฐาน​ถึง​พระเจ้า​ใน​ท่า​นั่ง ก้ม​ตัว คุกเข่า หรือ​ท่า​ยืน​ก็​ได้
1 พงศาวดาร 17:16  กษัตริย์​ดาวิด​ก็​เข้า​มา​นั่ง​ต่อ​หน้า​พระ​ยะโฮวา​และ​อธิษฐาน​ว่า “พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​ผม ผม​เป็น​ใคร​และ​วงศ์​ตระกูล​ของ​ผม​สำคัญ​อย่าง​ไร​พระองค์​ถึง​พา​ผม​มา​ไกล​ขนาด​นี้?

เนหะมีย์ 8:6  เอสรา​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​องค์​ยิ่ง​ใหญ่ ประชาชน​ทุก​คน​ก็​พูด​ว่า “อาเมน* อาเมน” และ​ชู​มือ​ขึ้น แล้ว​ซบ​หน้า​ลง​กับ​พื้น​หมอบ​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา
ดาเนียล 6:10  เมื่อ​ดาเนียล​รู้​ว่า​มี​การ​ออก​กฎหมาย​นั้น เขา​ก็​กลับ​บ้าน ที่​บ้าน​ของ​เขา​มี​ห้อง​บน​ดาดฟ้า มี​หน้าต่าง​เปิด​อยู่​ซึ่ง​หัน​ไป​ทาง​กรุง​เยรูซาเล็ม เขา​ขึ้น​ไป​คุกเข่า​อธิษฐาน​และ​สรรเสริญ​พระเจ้า​อย่าง​ที่​เคย​ทำ​เป็น​ประจำ​วัน​ละ 3 ครั้ง

มาระโก 11:25  และ​เมื่อ​คุณ​อธิษฐาน คุณ​ต้อง​ให้​อภัย​คน​ที่​ทำ​ให้​คุณ​โกรธ แล้ว​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​ของ​คุณ​ที่​อยู่​ใน​สวรรค์ก็​จะ​ให้​อภัย​คุณ​ด้วย​เมื่อ​คุณ​ทำ​ผิด”

·       อธิษฐาน​ออก​เสียง​หรือ​อธิษฐาน​ใน​ใจ พระเจ้า​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​แม้​แต่​เมื่อ​คุณ​อธิษฐาน​ใน​ใจ
เนหะมีย์ 2:1-6  ใน​เดือน​นิสาน* ปี​ที่ 20 ที่​กษัตริย์​อาร์ทาเซอร์ซิสปกครอง เมื่อ​กษัตริย์​ต้องการ​จะ​ดื่ม​เหล้า​องุ่น ผม​นำ​เหล้า​มาริน​ให้​ท่านตาม​ปกติ แต่​เมื่อ​อยู่​ต่อ​หน้า​ท่าน​ใน​ครั้ง​นี้ หน้า​ตา​ของ​ผม​ดู​เศร้า​หมอง​อย่าง​ที่​ไม่​เคย​เป็น​มา​ก่อน 2  กษัตริย์​จึง​ถาม​ผม​ว่า “ทำไม​ดู​เศร้า ๆ ทั้ง ๆ ที่​ไม่​ได้​เจ็บ​ไข้​ได้​ป่วย​อะไร? นี่​แสดง​ว่า​มี​เรื่อง​ที่​ทำ​ให้​ไม่​สบาย​ใจ​อยู่​ล่ะ​สิ” เมื่อ​ได้​ยิน​อย่าง​นี้ ผม​ตกใจ​มาก
3  ผม​จึง​บอก​กษัตริย์​ว่า “ขอ​ให้​ท่าน​อายุ​ยืน​ยาว ตอน​นี้​เมือง​ซึ่ง​เป็น​ที่​ฝัง​ศพ​บรรพบุรุษ​ของ​ผม​เหลือ​แต่​ซาก​ปรัก​หัก​พัง ประตู​เมือง​ถูก​ไฟ​เผา​จน​เหลือ​แต่​ซาก เมื่อ​เป็น​อย่าง​นี้ จะ​ไม่​ให้​ผม​โศก​เศร้า​ได้​ยัง​ไง​ครับ” 4  กษัตริย์​จึง​ถาม​ผม​ว่า “แล้ว​คิด​จะ​ทำ​ยัง​ไง?” ตอน​นั้น​เอง ผม​ก็​รีบ​อธิษฐาน​ถึง​พระเจ้า​แห่ง​สวรรค์​ทันที 5  และ​บอก​กษัตริย์​ไป​ว่า “ถ้า​ผม​เป็นผู้​รับใช้​ที่​ท่าน​

·       ไม่​ว่า​เรื่อง​ที่​คุณ​เป็น​ห่วง​จะ​เป็น​เรื่อง​สำคัญ​หรือ​ไม่ พระเจ้า​สนับสนุน​คุณ​ให้ ‘ละ​ความ​กังวล​ทั้ง​สิ้น​ของ​คุณ​ไว้​กับ​พระองค์​เพราะ​พระองค์​ทรง​ห่วงใย​คุณ’
1 เปโตร 5:7  และ​ฝาก​ความ​กังวล​ทั้ง​หมด​ไว้​กับ​พระองค์ เพราะ​พระองค์​ห่วงใย​คุณ
.jw.org/th

แล้วทำไมพระเจ้าไม่ทรงตอบคำอธิษฐานของทุกคนเล่า?
มันอาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า พวกเขาอาจจะรู้ว่าพระเจ้านั้นทรงดำรงอยู่ และอาจจะนมัสการพระเจ้าบ้างเป็นบางครั้ง แต่สำหรับบางคนที่ไม่เคยได้รับการตอบคำอธิษฐานคงจะเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า และยิ่งไปกว่านั้นก็คือพวกเขาไม่เคยได้รับการอภัยโทษบาปของพวกเขาอย่างสมบูรณ์จากพระเจ้า คุณอาจจะถามว่า แล้วเรื่องนี้มาเกี่ยวข้องอะไรด้วยเล่า? นี่คือคำอธิบาย “ดูเถิด พระหัตถ์ของพระเจ้า ไม่ได้สั้นลง ที่จะช่วยให้รอดไม่ได้ หรือพระกรรณตึงซึ่งจะทรงไม่ได้ยิน แต่ว่าความบาปชั่วของเจ้าทั้งหลาย ได้กระทำให้เกิดการแยก ระหว่างเจ้ากับพระเจ้าของเจ้า และบาปของเจ้าทั้งหลายได้บังพระพักตร์ของพระองค์เสียจากเจ้า พระองค์จึงมิได้ยิน”3

เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกถึงการถูกตัดขาดจากพระเจ้า เมื่อผู้คนเริ่มทูลขอสิ่งหนึ่งสิ่งใดจากพระเจ้า เขาจะทูลว่าอย่างไรนะ? พวกเขาเริ่มต้นด้วย “พระเจ้า ข้าพเจ้าต้องการความช่วยเหลือจากพระองค์ในปัญหานี้จริงๆ ...” หลังจากนั้นเขาจะหยุด และติดตามด้วยการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง... “ข้าพเจ้ารู้ว่า ข้าพเจ้าไม่ใช่คนที่สมบูรณ์นัก และจริงๆแล้วข้าพเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทูลขอสิ่งนี้ต่อพระองค์...” มันเป็นความรู้สึกลึกๆถึงความบาปและความล้มเหลวของแต่ละบุคคล และความรู้สึกว่า “ฉันกำลังล้อเล่นอยู่กับใครกันนี่? สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือการที่เขาจะสามารถรับการอภัยโทษบาปทั้งหลายของพวกเขาได้อย่างไร เขาอาจจะไม่รู้ว่า เขาสามารถเข้ามาสู่การมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าได้และเมื่อนั้นพระเจ้าจะทรงได้ยินเมื่อเขาอธิษฐาน นี่คือรากฐานของการที่พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของคุณ

แล้วเราจะต้องทำอะไรบ้าง? พระเจ้าทรงประสงค์จะทำสิ่งใด?
เราสามารถเขียนสิ่งที่พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ที่จะทำในชีวิตของเราได้มากมายหลายหน้าเลยทีเดียว ตลอด ทั้งเล่มของพระคริสตธรรมคัมภีร์ได้พรรณนาถึงรูปแบบของความสัมพันธ์ที่ทรงอยากให้เรามีประสบการณ์กับพระองค์ และลักษณะชีวิตที่ทรงต้องการที่จะประทานให้กับเรา ลองดูตัวอย่างจากข้อพระคัมภีร์ต่อไปนี้

“เพราะฉะนั้นพระเจ้าทรงรอคอยที่จะทรงพระกรุณาเจ้าทั้งหลาย เพราะฉะนั้นพระองค์จึงทรงลุกขึ้นเพื่อเมตตาเจ้า เพราะพระเจ้า เป็นพระเจ้าแห่งความยุติธรรม ผู้ที่คอยท่าพระองค์จะได้รับพระพร”7 “สำหรับพระเจ้าพระองค์นี้ พระมรรคาของพระองค์ก็บริบูรณ์ พระสัญญาของพระเจ้าพิสูจน์แล้วเป็นความจริง พระองค์ทรงเป็นโล่ของบรรดาผู้ที่ลี้ภัยอยู่ในพระองค์”8 “แต่พระเจ้าทรงปรีดีในคนที่ยำเกรงพระองค์และคนที่ความหวังของเขาอยู่ในความรักมั่นคงของพระองค์”9

อย่างไรก็ตาม การทรงสำแดงถึงความรักและความซื่อตรงที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ต่อคุณก็คือสิ่งนี้ พระเยซูตรัสว่า “ไม่มีผู้ใดมีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ คือการที่ผู้หนึ่งผู้ใดจะสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหายของตน”10 นี่คือสิ่งที่พระเยซูทรงกระทำเพื่อเรา และดังนั้น “... ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเรา ใครจะขัดขวางเรา? พระองค์ผู้มิได้ทรงหวงพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ แต่ได้ทรงโปรดประทานพระบุตรนั้นเพื่อประโยชน์แก่เรา ถ้าเช่นนั้นพระองค์จะไม่ทรงโปรดประทานสิ่งสารพัดให้เราทั้งหลายด้วยกันกับพระบุตรนั้นหรือ?”11

แล้วคำอธิษฐานที่ “ไม่ได้รับคำตอบ”ล่ะ?
แน่นอนว่าคนเรายังคงมีความป่วยไข้และบางคนก็เสียชีวิตไป หรือปัญหาทางการเงินก็เกิดขึ้นจริง และ สถานการณ์ที่ยุ่งยากหลายอย่างสามารถที่จะเกิดขึ้นได้ แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป

พระเจ้าทรงบอกให้เรามอบความห่วงกังวลของเราไว้กับพระองค์ แม้ว่าสถานการณ์นั้นยังคงน่ากลุ้มใจอยู่ก็ตาม “จงละความกระวนกระวายของท่านไว้กับพระองค์ เพราะว่าพระองค์ทรงห่วงใยท่านทั้งหลาย”12 สถานการณ์อาจจะดูเหมือนว่ามันควบคุมไม่ได้ แต่จริงๆแล้วไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อโลกทั้งโลกดูเหมือนจะถล่มทลายลงมา แต่พระเจ้านั้นทรงสามารถที่จะรักษาเราไว้ได้ ณ เวลานี้เองที่คนๆหนึ่งจะสามารถรู้สึกสำนึกในพระคุณ ว่าเขารู้จักกับพระเจ้า “...องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ใกล้แล้ว อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆเลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์”13 พระเจ้าอาจจะทรงจัดเตรียมทางออก หรือ ทางแก้ปัญหาของคุณในแบบที่เหนือกว่าที่คุณจะจินตนาการว่าจะเป็นไปได้ บางทีคริสเตียนทุกคนคงจะสามารถ เขียนตัวอย่างลักษณะนี้ออกมาในชีวิตของเขาเองได้ด้วย แต่หากว่าสถานการณ์นั้นยังไม่ได้คลี่คลายไปในทางที่ดี พระเจ้ายังทรงสามารถประทานสันติสุขของพระองค์แก่เราในท่ามกลางสถานการณ์นั้นๆได้ พระเยซูตรัสว่า “เรามอบสันติสุขไว้ให้แก่ท่านทั้งหลาย สันติสุขของเราที่ให้แก่ท่านนั้น เราให้ท่านไม่เหมือนโลกให้ อย่าให้ใจของท่านวิตกและอย่ากลัวเลย”14

ณ จุดนี้เอง (ขณะเมื่อสถานการณ์ต่างๆยังคงยุ่งยากอยู่) ที่พระเจ้าได้ทรงขอให้เรายังคงไว้วางใจในพระองค์ต่อไป นั่นคือ “การดำเนินด้วยความเชื่อศรัทธาไม่ใช่แบบที่ตามองเห็น” พระคัมภีร์ได้กล่าวเอาไว้เช่นนั้น แต่นี่ก็ไม่ใช่ความเชื่อแบบไร้เหตุผล ความเชื่อนี้ขึ้นอยู่กับพระลักษณะของพระเจ้าเลยทีเดียว รถยนต์ที่วิ่งอยู่บนสะพานโกลเด้นท์ เกท วิ่งอยู่บนนั้นได้โดยความแข็งแรงของตัวสะพานเอง การที่คนขับจะรู้สึกหรือคิดอย่างไร หรือได้พูด คุยอะไรกันบ้างกับผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยนั้น ไม่ใช่สิ่งที่สลักสำคัญอะไร สิ่งที่ทำให้รถคันนั้นไปถึงอีกฝั่งอย่างปลอดภัยก็คือ ความแข็งแรงของตัวสะพานซึ่งคนขับรถคันนั้นเต็มใจที่จะวางใจมันต่างหากที่สำคัญ

ในทำนองเดียวกัน พระเจ้าทรงต้องการให้เราที่จะไว้วางใจในความจริงแห่งพระองค์ พระลักษณะของพระองค์...ความเมตตาเอ็นดู ความรัก พระปัญญา ความชอบธรรมของพระองค์เพื่อเรา พระองค์ตรัสว่า “...เราได้รักเจ้าด้วยความรักนิรันดร์ เพราะฉะนั้นเราจึงมีความรักมั่นคงต่อเจ้าสืบไป”15 “ประชาชนเอ๋ย จงวางใจในพระองค์ตลอดเวลา จงระบายความในใจของท่านต่อพระองค์ พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยของเรา”16

everythaistudent.com


มีคนมาก...
ที่ชอบพูดเรื่องการอธิษฐาน
แต่มีคนน้อยนักที่รักการอธิษฐาน
แม้ว่าการอธิษฐานจะไม่ต้องเสียอะไรเลย...
นอกเสียจากเรื่องการให้ "เวลา"

อย่าคาดหวังข้าวในนา....
ถ้าไม่ยอมออกไปไถหว่าน

เราจะได้เก็บเกี่ยว....
ก็ต่อเมื่อเราหว่านลงแล้วเท่านั้น

พระเจ้ารอให้เรา "อธิษฐาน"
ไม่ใช่ต้องการฟังเราพูดกันถึงเรื่องการอธิษฐาน

.................................................
เยเรมีย์ 33:3 พระเจ้าตรัสว่า...
'จงทูลเรา และเราจะตอบเจ้า
และจะบอกสิ่งยิ่งใหญ่ที่ซ่อนอยู่ ซึ่งเจ้าไม่รู้นั้นแก่เจ้า'
.................................................

เราจะรู้น้ำพระทัยพระเจ้าได้
ก็ด้วยการที่เรา "อธิษฐาน"
(เจิม ซัม)

พระเจ้าทรงเสนอที่จะตอบคำอธิษฐาน ของลูกพระองค์ (คนทั้งหลายที่ได้ยอมรับพระองค์เข้าในชีวิตของเขาและแสวงหาโอกาสที่จะติดตามพระองค์) พระองค์ทรงขอให้เรานำความห่วงกังวลทั้งหลายมาไว้ที่พระองค์ โดยการอธิษฐาน และพระองค์จะทรงกระทำการของพระองค์ตามน้ำพระทัย เมื่อเราต้องเผชิญกับความยากลำบาก เราควรที่จะวางความห่วงใยทั้งหลายเอาไว้ที่พระองค์ และรับเอาสันติสุขจากพระองค์ซึ่งอยู่เหนือสถานการณ์เหล่านั้น พื้นฐานของความหวังและความเชื่อศรัทธาของเราอยู่ที่พระลักษณะของพระเจ้าเอง ยิ่งเรารู้จักพระองค์ ดีขึ้นมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งไว้วางใจพระองค์ได้ง่ายขึ้นมากเท่านั้นด้วย
KC LOVE GOD

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...