วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ชัดรัค เมชาคและอาเบดเนโก



ชัดรัค เมชาคและอาเบดเนโก

ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกทูลพระราชาว่า “ข้าแต่เนบูคัดเนสซาร์ ข้าพระบาททั้งหลายไม่จำเป็นจะต้องตอบฝ่าพระบาทในเรื่องนี้

ดาเนียล 3:16

ชัดรัคเมชาคและเอเบดเนโกเป็นชายหนุ่มชาวฮีบรูที่ถูกประเทศอื่นจับตัวไปและให้ทำงานในสถานที่ของกษัตริย์ กษัตริย์ของประเทศใหม่นี้ต้องการให้พวกเขาบูชารูปเคารพของตัวเอง แต่ชายหนุ่มทั้งสามปฏิเสธเพราะพวกเขาบูชาแต่พระเจ้าเท่านั้น

กษัตริย์โกรธมาก จึงสั่งให้โยนพวกเขาลงในเตาเผา คุณอาจเคยได้ยินเรื่องราวเหล่านี้มาบ้างแล้ว  แต่ว่าไฟไม่ทำอันตรายต่อพวกเขาเลย ไม่ได้เผาเส้นผมหรือเสื้อผ้าของพวกเขา พวกเขาไม่มีแม้กลิ่นไหม้ แต่พวกเขากลับยังมีชีวิตอยู่ นั่นเพราะพระเจ้าคุ้มครองพวกเขา  คุณอาจยังไม่รู้ส่วนอื่น ๆ ของเรื่องนี้ นั่นคือ ชายหนุ่มทั้งสามบอกกับกษัตริย์ว่าพวกเขาไม่ได้ปกป้องตัวเองต่อหน้ากษัตริย์เพราะพวกเขารู้ว่าพระเจ้าจะปกป้องพวกเขา 

ในชีวิตจริงคุณอาจต้องเจอกับการกล่าวโทษ การปฏิเสธ การกล่าวหาเท็จ และความเกลียดชัง  จงอย่ากังวลกับการคิดปกป้องตัวเองหรือการคิดเอาคืน  หากคุณมั่นใจว่าคุณยึดมั่นทำสิ่งที่ถูกต้องตามพระคำของพระเจ้าอย่างจริงจัง จริงใจ  จงอย่ากังวลกับเสียงคนอื่นหรือสิ่งที่คนอื่นคิดอยู่เลย จงปล่อยให้พระเจ้าดูแลคุณ

ในโลกใบนี้เราอาจมีศัตรูอยู่รอบด้าน แต่ท่ามกลางสิ่งเหล่านั้น พระคำของพระเจ้าจะทำให้คุณอยู่สูงกว่า ดังนั้นจงปฏิเสธที่จะกลัว เพราะว่าพระเจ้าทรงอยู่กับคุณ

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา ขอบพระคุณที่ทรงนำข้าพระองค์ไปสู่ชัยชนะเสมอ และช่วยข้าพระองค์ให้ชนะในทุกวัน ต่อสู้ทุกการทนทุกข์หรือศัตรู ข้าพระองค์ใช้สิทธิอำนาจของข้าพระองค์ในพระคริสต์ เหนือทุกความสามารถของศัตรู และข้าพระองค์มีชัยชนะในเวลานี้และตลอดไป ในนามพระเยซู อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

 rorthai.com

วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ดาเนียล แบบอย่างของรักษาชีวิตให้เป็นคนของพระเจ้า

 




ดาเนียล

แต่ดาเนียลตั้งใจว่าจะไม่ทำให้ตัวเป็นมลทินด้วยอาหารชั้นสูงของกษัตริย์ หรือด้วยเหล้าองุ่นซึ่งพระองค์เสวย ท่านจึงขอหัวหน้าขันทีให้อนุญาตเพื่อท่านจะไม่ทำตัวเองเป็นมลทิน

ดาเนียล 1: 8

พระธรรมดาเนียลบันทึกในช่วงที่คนอิสราเอลตกไปเป็นทาสในบาบิโลน ถูกกดขี่ข่มเหงจากกษัตริย์ที่ไม่นับถือพระเจ้า และคนยิวได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัส มีชายหนุ่มสี่คนต้องตกไปเป็นเชลยด้วย คือ ดาเนียล ฮานันยาห์ มิชาเอลและอาซาริยาห์ (เปลี่ยนชื่อเป็นภาษาบาบิโลน เบลเทซัสซาร์ ชัดรัค เมเชค เอเบดเนโก) 

ในพันธสัญญาเดิมพระเจ้าทรงบัญชาให้คนของพระองค์กินอาหารบางชนิดเท่านั้น เมื่อดาเนียลถูกจับเข้าคุกและถูกส่งไปยังประเทศอื่น กษัตริย์ที่นั่นได้จัดเตรียมอาหารสำหรับข้าราชการใหม่ของพวกเขาซึ่งรวมถึงอาหารต้องห้ามบางส่วน ดาเนียลเลือกที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของพระเจ้าและขอกินอาหารที่พระเจ้าอนุญาตเท่านั้น สิ่งนี้อาจดูไม่เสี่ยงสำหรับคุณ แต่ในสมัยนั้นกษัตริย์อาจสั่งสังหารนักโทษได้เลย

ดาเนียลและเพื่อนยืนยันที่จะไม่ทำตัวเป็นมลทิน   ด้วยอาหารชั้นสูงของกษัตริย์หรือด้วยเหล้าองุ่น ” (ดาเนียล.1:8) ดาเนียลและเพื่อนๆปฏิเสธอาหารจากโต๊ะเสวยของพระราชาซึ่งเป็นอาหารที่ดีที่สุดอย่างไม่แยแส เพื่อป้องกันไม่ให้ ร่างกายเป็นมลทิน ด้วยอาหารที่ไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการของชาวอิสราเอล เพราะอาหารเหล่านั้นอาจผ่านการบูชารูปเคารพ พวกเขาพร้อมเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพื่อรักษาความเชื่อที่มีต่อพระเจ้า

ดาเนียลเป็นฮีโร่เพราะเขายืนหยัดเพื่อความเชื่อของเขา แม้ว่ามันจะหมายถึงการตายก็ตาม การเป็นคริสเตียนหมายความว่าคุณต้องยืนหยัดเพื่อความเชื่อของคุณ เพราะพระเจ้าจะได้รับเกียรติเมื่อคุณลงมือทำ  

ดาเนียลคนดีของพระเจ้า ผู้มีชีวิตที่เราน่าศึกษา ท่านเป็นผู้ประสบความสำเร็จทั้งต่อพระเจ้าและมนุษย์อย่างหาที่ติมิได้ ผลดีของการเป็นคนดีของพระเจ้าส่งเสริมให้ท่านได้รับความสำเร็จสูงสุดในหน้าที่การงานและเกิดประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมชาติ เพื่อนร่วมโลก และพระราชกิจของพระเจ้า และเพราะดาเนียลมีพระเจ้าและพระลักษณะของพระองค์อยู่ในชีวิตของท่าน ดาเนียล ได้พิสูจน์ให้คนมากมายได้เห็นพระเจ้าในตัวท่านผ่านการดำเนินชีวิต   จากคำพยานและการสรรเสริญของกษัตริย์สมัยนั้นบอกให้เรารู้ ว่าพวกเขายำเกรงพระเจ้าเพราะความดี ความสัตย์ซื่อของดาเนียลที่มีต่อพระเจ้า

ในพระธรรมดาเนียล 6:3 ได้ประกาศแก่ดาเนียลว่า “ วิญญาณเลิศสถิตกับท่าน” ดาเนียลมีสติปัญญาที่ยอดเยี่ยม คุณก็ควรจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ขอให้ความสว่างของพระเจ้าและสติปัญญาของพระองค์ปรากฏอยู่ในตัวคุณ ดังนั้นเมื่อคุณพูด จงฝึกฝนและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่นในทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า นั่นคือเป็นตัวอย่างและเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้อื่น ให้ผู้คนเห็นความดีของคุณและถวายพระสิริแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า จงดำเนินชีวิตให้เป็นพรแก่ผู้อื่นให้ได้มากที่สุด ขอพระสิริจงมีแด่พระเจ้า !

คนของพระเจ้าไม่ดำเนินชีวิตขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เพราะเขาจะดำเนินชีวิตขึ้นอยุ่กับพระเจ้า  ดาเนียลกับเพื่อนแสดงให้เห็นว่า พระเจ้า ยังคงเป็นศูนย์กลางในชีวิตของพวกเขาเสมอ เราควรดำเนินชีวิตกับพระเจ้าอย่างใกล้ชิด เพื่อจะรักษาชีวิตให้เป็นคนของพระเจ้าได้จนกว่าจะได้กลับไปอยู่กับพระเจ้าอีกครั้งในบ้านสวรรค์นิรันดร์ ถ้าเราไม่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้า หรือเราไม่ได้รู้จักพระเจ้าจริงๆ ค่านิยมของโลก ความสนุกเย้ายวนในโลกก็จะล่อลวงให้เราเป็นคนของโลกนี้ ไม่ใช่เป็นคนของพระเจ้า

“คริสเตียนควรมีจุดยืนในการเป็นคนของพระเจ้าที่ดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้ แต่ไม่ได้เป็นของโลกนี้” เราควรจะดำเนินชีวิตให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้า ด้วยการรับใช้พระเจ้า โดยการทูลขอสติปัญญา ขอความรู้ ขอความเข้าใจ เมื่อเราต้องเผชิญสถานการณ์ยากลำบาก หรือถูกทดสอบทดลองให้ทำผิดต่อพระเจ้า ขอให้เราสามารถผ่านไปได้แบบมีชัยชนะ เกิดผล ประสบความสำเร็จ เพราะมีพระเจ้าประทานความสามารถ ประทานปัญญา ประทานชัยชนะให้กับเรา เหมือนที่ดาเนียลและเพื่อนได้รับ

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

 thai.bible

 actsdaily.com 



วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ดาวิด กับโกลิอัท

 


ดาวิด

และดาวิดทูลต่อไปว่า “พระยาห์เวห์ผู้ทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากอุ้งเท้าของสิงโต และจากอุ้งเท้าของหมี จะทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากมือของคนฟีลิสเตียนี้” และซาอูลจึงตรัสแก่ดาวิดว่า “จงไปเถอะ และพระยาห์เวห์จะสถิตอยู่กับเจ้า”

1 ซามูเอล 17:37

ดาวิด เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่สองของราชอาณาจักรอิสราเอล กล่าวกันว่ามีคุณธรรมและเป็นนักการทหารที่มีความสามารถ นอกจากนี้ยังเป็นนักดนตรี กวี   ดาวิดในวัยเด็กเป็นเพียงเด็กเลี้ยงแกะธรรมดา แต่เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกและมีอุปนิสัยกล้าหาญไม่เกรงกลัวใคร โดยอาสาเข้าต่อสู้ตัวต่อตัวกับ โกไลอัท นักรบร่างมหึมาผู้เป็นทหารเอกของชาวฟิลิสเตีย  ดาวิด​เอา​ชนะชาว​ฟีลิสเตีย​คนนี้​ด้วย​สลิง​และ​ก้อน​หิน​เพียงก้อนเดียว เขาได้คว่ำ​โกลิอัท​ลงและฆ่า​เขา​เสีย  ดาวิดจึงมีความดีความชอบและได้เข้ามารับใช้พระเจ้าซาอูล

พระเจ้ามักทรงใช้คนที่ไม่สลักสำคัญเพื่อให้ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ มีอะไรบ้างที่พระองค์ทรงประสงค์ให้คุณทำ แต่คุณรู้สึกเหมือนไม่พร้อม? ดาวิดไม่รีรอให้กษัตริย์ซาอูลหาเสื้อเกราะชุดเล็กให้แก่เขา เขาไม่ยอมเสียเวลาศึกษาชั้นเชิงในการทำศึกสงคราม เขาใช้ของประทานที่เขามี และพระเจ้าประทานชัยชนะให้แก่เขา

พระเจ้าไม่เพียงแต่อยู่ในอาชีพของดาวิด พระเจ้ายังฝึกมือของดาวิด พระองค์ทรงพร้อมที่จะสร้างและปั้นชีวิตท่านขึ้นมา เพื่อรองรับอนาคตที่ทรงจัดเตรียมให้กับท่าน

ในหน้าที่การงานที่ยุ่งยาก พระเจ้าไม่เพียงแต่อยู่กับเราในงานของเรา แต่พระเจ้ายังฝึกฝีมือของเรา

เราเลือกสิ่งแวดล้อมไม่ได้ มีหลายเงื่อนไขที่เราเลือกไม่ได้ เรามีความจำกัดมากมาย เราแก้ตัว ท้อใจมากมาย แต่แม้เราเลือกและแก้ไขไม่ได้ ท่ามกลางเงื่อนไขข้อจำกัดนั้น พระเจ้าทรงทำสิ่งใหม่ในชีวิตของเราได้

ผู้รับใช้ของพระเจ้าคนนี้กำลังสะท้อนให้เห็นว่า ท่ามกลางสิ่งจำกัด ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่จำกัด พระเจ้าทรงกำลังทำสิ่งใหม่ ทรงฝึกปรือฝีมือของเราขึ้นใหม่ อยู่ที่ว่าเราจะยอมให้พระเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องและกระทำพระราชกิจของพระองค์ท่ามกลางสิ่งจำกัดเหล่านี้เพื่อแสดงฝีพระหัตถ์ของพระองค์หรือไม่

ปีศาจต้องการทำให้คุณกลัวทุกสิ่ง แต่จำไว้ว่าสำหรับพระเจ้าคุณไม่จำเป็นต้องกลัว ไม่มียักษ์ใหญ่เกินพระเจ้า! คุณกำลังเผชิญกับยักษ์ใหญ่ตนไหนอยู่บ้างในเวลานี้? เป็นยักษ์ใหญ่มะเร็งร้าย หรือมรสุมชีวิตครอบครัว? หรือความเดือดร้อนเรื่องเงินๆทองๆ หรือกำลังว่างงาน? ไม่ว่ายักษ์ใหญ่ตนนั้นของคุณจะเป็นอะไร จงกล้าเผชิญกับมันด้วยกำลังของพระเจ้า และจงยอมให้พระองค์มีชัยชนะในศึกสงครามแทนคุณ

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้าโปรดช่วยให้ข้าพระองค์ไม่ให้ตกอยู่ในความกลัว ข้าพระองค์อยากจะกล้าหาญและเชื่อใจพระองค์ได้เหมือนที่ดาวิดทำ  ขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

followhissteps

suthailand

วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

แซมสัน ชาวนาศีร์

 


แซมสัน

แต่ท่านบอกฉันว่า ‘นี่แน่ะ เจ้าจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย ฉะนั้นอย่าดื่มเหล้าองุ่นหรือของมึนเมา อย่ากินของมลทินทุกอย่าง เพราะเด็กนั้นจะเป็นนาศีร์แด่พระเจ้าตั้งแต่เกิดจนตาย’ ”

ผู้วินิจฉัย 13: 7

แซมสันเป็นชาวนาศีร์ และมีความแข็งแกร่งที่สามารถทำลายฝ่ายศัตรูได้ และทำในสิ่งที่ดูเหนือมนุษย์ เช่น การสังหารสิงโตด้วยมือเปล่า และสังหารทหารชาวฟิลิสตีนด้วยกระดูกกรามของลา

แซมสันเป็นคนที่พระเจ้าเลือกไว้สำหรับพระองค์ตั้งแต่ยังอยู่ในท้องแม่ พระเจ้าตั้งให้เขาเป็นคนบริสุทธิ์เพื่อถวายตัวแด่พระเจ้า แต่แซมสันเลือกเองที่จะออกนอกลู่นอกทาง ไม่รักษาคำสอนของพ่อและแม่ของเขา ทำให้เหตุร้ายตามมามากมาย แต่ภายใต้การครอบครองของพระเจ้า การเข่นฆ่าทำลายล้างชาวฟิลิสเตียเริ่มจากการละเมิดของแซมสัน การหลอกลวงของภรรยา ความโกรธแค้นของชาวเมือง แต่ผลที่ตามมาก็ไม่พ้นไปจากแผนการของพระเจ้าที่จะทำลายชาวฟิลิสเตียที่ข่มเหงประชากรของพระองค์ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งสะท้อนภาพการครอบครองของพระเจ้าเหนือการตายบนไม้กางเขนของพระเยซู ชาวยิวที่จับพระองค์ไปกล่าวโทษพระองค์ ให้พระองค์ต้องโทษประหารชีวิต สาวกเพื่อนๆ ของพระองค์ต่างพากันหมดหวังในเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับพระองค์ แต่โดยพระปัญญาของพระเจ้า แผนการแห่งความรอดโดยการไถ่ของพระเยซูกลับสำเร็จลุล่วงโดยสมบูรณ์

พระเจ้าปรารถนาให้ลูกของพระเจ้าคือคนที่เชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ ดำเนินชีวิตให้บริสุทธิ์เพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์ และเพื่อชีวิตของเราจะไปดีมาดีบนแผ่นดินโลก เมื่อคุณต้องตัดสินใจเลือกทำบางสิ่ง ให้คุณเลือกทำสิ่งที่ถูกต้องและเชื่อฟังทำตามคำสั่งของพระเจ้าที่คุณได้อ่านจากพระคัมภีร์ อย่าให้คุณเลือกทำตามใจที่อยากจะได้ หรือตามใจอารมณ์โกรธของคุณเอง แซมสันเป็นตัวอย่างให้คุณเห็นแล้วว่าเมื่อเขาไม่เชื่อฟังคำของพ่อแม่และบัญญัติของพระเจ้า เขาต้องพบกับปัญหามากมาย ความเจ็บปวดใจ การหลอกลวง การเข่นฆ่าและการแก้แค้น

คุณอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนแซมสัน แต่พระเจ้าประทานของขวัญพิเศษให้กับเราทุกคนแตกต่างกัน เพราะพระเจ้าต้องการให้คุณแตกต่าง พระองค์ทรงมอบของขวัญแก่คุณเพื่อที่คุณจะใช้มันเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา ลูกขอขอบพระคุณสำหรับของประทานอัศจรรย์ที่พระองค์ประทานให้แก่ลูก ขอทรงช่วยให้ลูกเข้าใจว่า พระองค์ประทานของประทานให้ลูกเพื่อช่วยหนุนใจผู้เชื่อคนอื่นๆ และเพื่อบอกข่าวความรักของพระองค์ให้แก่โลกนี้ ลูกต้องการทำให้พระองค์พอพระทัย ขอโปรดสำแดงของขวัญพิเศษของลูกและวิธีใช้ เพื่อที่ลูกจะได้ใช้มันเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์ ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

 wonderfulwordproject.org

วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

โยเซฟ เป็นแบบอย่างของคนที่ยกโทษคนที่ทำร้ายตน

 


โยเซฟ

19โยเซฟจึงบอกพวกเขาว่า “อย่ากลัวเลย เราเป็นดังพระเจ้าหรือ? 20พวกท่านคิดร้ายต่อเราก็จริง แต่ฝ่ายพระเจ้าทรงดำริให้เกิดผลดีดังที่เป็นอยู่วันนี้ คือช่วยชีวิตคนเป็นอันมาก

ปฐมกาล 50: 19-20

โยเซฟ เป็นบุตรชายคนที่ 11 ของยาโคบ กับนางราเชล เมื่อโยเซฟยังเด็กพวกพี่ ๆ ต่างก็อิจฉาเขา วันหนึ่งพวกเขาโกรธโยเซฟมากจนขายเขาไปเป็นทาสให้กับพ่อค้าบางคน แล้วพวกเขาก็โกหกพ่อโดยบอกว่าโยเซฟถูกสัตว์ป่าฆ่า

พระเจ้าเฝ้ามองโยเซฟหลังจากที่พี่น้องขายเขา พระองค์มีแผนการสำหรับเขา โยเซฟเป็นคนทำงานหนักมากคนหนึ่งและในที่สุดเขาก็กลายเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดอันดับสองในอียิปต์ แต่เหตุผลที่โจเซฟเป็นวีรบุรุษนั่นก็เพราะว่า เขารู้จักการให้อภัย แม้ว่าเขาจะมีอำนาจมากขึ้น แต่เขาก็เลือกที่จะให้อภัยพี่น้องของเขา เพราะเขาเข้าใจดีว่า ในความโชคร้ายที่ถูกพี่น้องของตัวเองตั้งใจที่จะทำร้ายเขา แต่พระเจ้าทรงมีแผนการดีสำหรับเขา 

หากที่ผ่านมามีคนเคยทำร้ายจิตใจ ร่างกายของคุณ ไม่ว่าจะด้วยวาจา หรือการกระทำของเขาก็ตาม ขอให้คุณจำแบบอย่างของโยเซฟเอาไว้ การให้อภัยใครบางคนอาจจะเป็นเรื่องยากมาก แต่ก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่เราควรจะทำ และทำเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์

โยเซฟ เป็นแบบอย่างของคนที่ยกโทษคนที่ทำร้ายตน   การยกโทษตรงกันข้ามกับการแก้แค้น การไม่ยอมยกโทษนอกจากทำให้คนอื่นเจ็บแล้ว ตัวเราเองก็เจ็บด้วย ที่สำคัญโยเซฟ ประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะเขาสัตย์ซื่อ และไว้วางใจพระเจ้า

พระเจ้าต้องการให้เรารักพี่น้องของเรา และให้อภัยซึ่งกันและกัน เวลานี้เป็นเวลาเหมาะที่เราจะใคร่ครวญต่อพระพักตร์พระเจ้าว่ามีใครบ้างที่เราต้องยกโทษให้ ให้เราเอาแบบอย่างของโยเซฟ โดยการแสดงความรักแก่ผู้ที่ทำร้ายเรา

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาแห่งสวรรค์ โปรดช่วยให้ลูกไม่เป็นคนที่ช่างจดจำความผิดของผู้อื่น โปรดช่วยให้ลูกเป็นแสงแห่งความรักของพระองค์ และด้วยพระคุณและฤทธิ์เดชขององค์พระเยซูที่ทรงสถิตอยู่ในลูก โปรดช่วยให้ลูกกล้าที่จะยกโทษผู้อื่นเพื่อความรักของพระองค์จะได้ปลดปล่อยลูกให้เป็นไท ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

thaiodb.org


วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

โนอาห์ แบบอย่างของความเชื่อที่เชื่อฟัง และยำเกรงพระเจ้า

 


โนอาห์

13พระเจ้าจึงตรัสแก่โนอาห์ว่า “เราจะให้มนุษย์และสัตว์ทั้งปวงสิ้นสุดต่อหน้าเรา ด้วยเหตุว่า แผ่นดินโลกเต็มด้วยความโหดร้ายเพราะการกระทำของมนุษย์ ดูเถิด เราจะทำลายพวกเขาพร้อมกับแผ่นดินโลก 14เจ้าจงต่อเรือด้วยไม้สนโกเฟอร์ แล้วทำเรือเป็นห้องๆ และยาชันทั้งข้างในข้างนอก

ปฐมกาล 6: 13-14

โนอาห์มีชื่อเสียงมากเพราะเขาได้ช่วยชีวิตครอบครัวและสัตว์ต่างๆบนโลกด้วยการสร้างเรือใหญ่เพื่อปกป้องพวกเขาจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ นั่นเป็นเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมมาก แต่คุณเคยคิดไหมว่าโนอาห์ใช้เวลานานแค่ไหนในการสร้างเรือ นาวาเป็นเรือลำใหญ่มาก มันต้องใหญ่มากจนเขาสามารถใส่สัตว์ทุกชนิดบนโลกได้ พระเจ้าได้ให้คำตรัสและเตือนแก่โนอาห์แล้วเขาก็เริ่มสร้างมัน หลัง​จาก​ผ่าน​ไป​หลาย​สิบ​ปี เรือ​ก็​เริ่ม​เป็น​รูป​เป็น​ร่าง​ขึ้น โนอาห์​คง​มีความ​สุข​มาก​ที่​ครอบครัว​ร่วม​มือ​เป็น​อย่าง​ดี แม้​ผู้​คน​รอบ​ข้าง​จะ​มอง​ว่า​การ​สร้าง​เรือ​เป็น​เรื่อง​โง่​เขลา​และ​ไร้​สาระ แต่​โนอาห์​กับ​ครอบครัว​ก็​ยัง​ถือ​ว่า​งาน​นี้​สำคัญ​ที่​สุด​และ​ทำ​ต่อ​ไป​ด้วย​ความ​ซื่อ​สัตย์ หลาย​สิบ​ปี​ผ่าน​ไป เรือ​ใหญ่​ใกล้​เสร็จ​สมบูรณ์​แล้ว. เมื่อ​โนอาห์​อายุ​เกือบ 600 ปี หลังจากนั้นน้ำก็ท่วมโลกอยู่อย่างนั้นเป็นเวลา 150 วัน แล้วจึงค่อยๆลดลง นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง คนที่เชื่อก็รอด คนที่ไม่เชื่อรวมถึงสัตว์และพืชที่อยู่บนพื้นดินก็ถูกทำลาย ตายอยู่ในน้ำนั้น ในเหตุการณ์ครั้งนั้น มีโนอาห์และครอบครัวจำนวน 8 คนเท่านั้นที่รอด และสัตว์ต่างๆตามจำนวนที่พระเจ้าตรัสสั่งโนอาห์ให้นำขึ้นไปบนเรือไว้เท่านั้น นอกนั้น “ไม่รอด”

พระคัมภีร์ไม่ได้บอกว่าโนอาห์ใช้เวลานานแค่ไหนในการสร้างนาวา แต่อย่างน้อยก็ใช้เวลาหลายสิบปี ในช่วงเวลานั้นโนอาห์ต้องเผชิญกับการถูกล้อเลียนจากเพื่อนบ้านที่คิดว่าเขาเป็นบ้า ประชาชนต่างพากันไม่เชื่อและเยาะเย้ยโนอาห์ แต่โนอาห์ยังคงสร้างต่อไปเพราะเขาไว้วางใจพระเจ้า บางสิ่งที่พระเจ้าขอให้คุณทำอาจต้องใช้เวลานาน แต่จงซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าและทำในสิ่งที่พระองค์เรียกร้องให้คุณทำต่อไป

เหตุการณ์นี้ได้สอนให้เราเชื่อฟังพระเจ้าและสนใจคำเตือนของพระองค์ สิ่งที่มนุษย์ในสมัยโนอาห์ทำคือพวกเขาเพิกเฉยต่อสิ่งที่พระเจ้าทรงเตือน พวกเขาสนใจแต่ความสนุกสนาน สนใจที่จะตอบสนองความต้องส่วนตัวของเขาเท่านั้น สิ่งที่เขาได้รับคือความตาย และในยุคนี้เช่นเดียวกัน พระเยซูได้ทรงเตือนเราทุกคนเช่นเดียวกันตาม มัทธิว 24:37-39 พระเยซูปรารถนาจะช่วยเรา จึงทรงเตือนเรา และอย่าให้เราทั้งหลายเพิกเฉยต่อคำเตือนของพระองค์เหมือนคนในสมัยโนอาห์เพื่อเราทั้งหลายจะได้มีชีวิตรอด

ขอให้เรามีความเชื่อแบบโนอาห์ ให้เราเป็นผู้ที่เชื่อฟัง ยำเกรงพระเจ้าและ ไม่ใช่แค่คำพูดที่ปากเท่านั้น แต่สำแดงออกให้เห็นเป็นการกระทำ และให้ชีวิตของเราเป็นพรแก่ผู้อื่น แก่คนทั้งหลายที่ได้ผ่านเข้ามาพบเรา

ขอพระเจ้าทรงอวยพรทุกท่าน

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา โปรดช่วยให้ลูกเชื่อฟังและตอบสนองต่อสิ่งที่พระองค์ตรัสและเตือนทันที และลูกเชื่อว่าความยำเกรงพระเจ้าจะก่อให้เกิดสิ่งดีในชีวิตของลูก และนำมาซึ่งการอวยพร ความสุข ปัญญา ขอโปรดช่วยให้ลูกไม่เพียงแต่ฟัง แต่ทรงช่วยให้ลูกลงมือทำทันทีจนสำเร็จครบถ้วนทุกอย่าง เพราะลูกต้องการให้พระองค์ใช้ลูกเหมือนกับเช่นโนอาห์ ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

threemonthonchurch.org


วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

โมเสส

 


โมเสส

พระเจ้าจึงตรัสกับโมเสสว่า “เราเป็นผู้ซึ่งเราเป็น” แล้วพระองค์ตรัสว่า “ไปบอกชนชาติอิสราเอลดังนี้ว่า ‘พระองค์ผู้ทรงพระนามว่า เราเป็นทรงใช้ข้าพเจ้ามาหาท่านทั้งหลาย’ ”

อพยพ 3:14

ก่อนที่โมเสสจะนำชาวอิสราเอลออกจากการเป็นทาส เขาเองก็เติบโตมาในอียิปต์ วันนึงเขาได้เห็นคนอียิปต์กำลังทำร้ายทาสชาวอิสราเอล โมเสสต้องการช่วยคนชนชาติเดียวกันกับตนเขาจึงพลั้งมือฆ่าคนอียิปต์นั้นเสีย ด้วยเหตุนี้เองโมเสสจึงต้องหลบหนีการลง โทษของกษัตริย์ เขาได้หนีไปอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารซึ่งเรียกว่า “ซีนาย” เป็นเวลานานถึง 40 ปี อยู่มาวันหนึ่งโมเสสได้พบเหตุการณ์ที่น่าประหลาดมาก เขาเห็นพุ่มไม้ซึ่งมีไฟกำลังลุกโชนอยู่ แต่พุ่มไม้นั้นไม่มอดไหม้ แล้วพระเจ้าพูดกับโมเสสผ่านทางพุ่มไม้นั้น พระเจ้าต้องการให้โมเสสช่วยชาวอิสราเอลให้รอดพ้นจากการเป็นทาสในอียิปต์ นั่นเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับเขาและในตอนแรกโมเสสก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองคู่ควรกับภาระกิจนี้ แต่โมเสสก็เลือกที่จะฟังพระเจ้าและเชื่อฟังพระองค์และเขาได้กลายเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่

คุณเองก็สามารถฟังเสียงของพระเจ้าได้เช่นเดียวกันกับโมเสส เพราะว่าพระเจ้าทรงตรัสกับคุณเช่นกัน แต่พระองค์อาจจะไม่ใช้พุ่มไม้ที่ถูกไฟไหม้ แต่เป็นไปได้มากว่าที่พระองค์จะตรัสกับคุณผ่านทางพระคัมภีร์ในพระคำของพระองค์ ในสมัยนั้นโมเสสไม่มีคัมภีร์ไบเบิลให้พึ่งพา แต่คุณมี พระเจ้าจะตรัสกับคุณเมื่อคุณอ่านพระคำของพระองค์ งานของคุณก็เหมือนกันกับงานของโมเสส  นั่นคือคุณต้องเชื่อฟัง

ด้วยเหตุนี้ในฐานะผู้เชื่อของพระเจ้าคุณสามารถนำข่าวประเสริฐไปสู่คนทั้งหลายได้ด้วยหลากหลายวิธีการ     มิใช่โดยการเป็นผู้ที่ดีรอบคอบครบถ้วนเสียก่อน    แต่ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นและตรงสู่พระเจ้า   คุณสามารถบอกถึงความรักของพระองค์ที่่ทรงมีต่อคุณและครอบครัวให้กับทุก ๆ คนได้รับทราบได้ตลอดเวลา  เช่น  การอธิษฐานเผื่อการสำแดงความรักการพูดถึงพระคุณของพระองค์ที่ทรงประทานแก่คุณ ฯลฯ  การกระทำเช่นนี้อย่างสม่ำเสมอ   จะเป็นการสร้างความมั่นใจที่คุณมีต่อพระเจ้า   และขณะเดียวกันก็เป็นการแสดงตัวอย่างชัดเจนว่า  คุณอยู่ฝ่ายพระเจ้าที่พร้อมจะรักทุก ๆ คน  มิใช่มีพระเจ้าเพียงแค่ในจิตใจเท่านั้นแต่ยังสำแดงออกด้วยการกระทำด้วย

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา เพื่อที่จะเป็นเช่นโมเสส ลูกจึงอยากได้ยินพระดำรัสของพระองค์ในทุกๆวันและลูกอยากจะเชื่อฟังพระองค์ในทุกๆเรื่อง ขอพระองค์โปรดใช้ลูกเพื่อนำข่าวประเสริฐไปสู่คนทั้งหลาย ให้เขาได้รู้เกี่ยวกับความรักของพระองค์และความปรารถนาของพระองค์และเพื่อช่วยปลดปล่อยพวกเขาจากบาป ขอให้ลูกเข้มแข็งในการดำเนินชีวิตที่ยึดหลักคำสอนของพระองค์ โปรดช่วยให้ลูกใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยการรู้จักรักและรับใช้พระองค์อย่างซื่อสัตย์     ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

 rnrnewlife.com 

วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

อับราฮัม

 


อับราฮัม

ท่านทูลว่า “ขอองค์เจ้านายอย่าทรงพระพิโรธเลย ข้าพระองค์ขอทูลอีกครั้งนี้ครั้งเดียว สมมุติว่า ทรงพบเพียงสิบคนที่นั่น” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลายเพราะเห็นแก่สิบคนนั้น”

ปฐมกาล 18:32

พระเจ้าทรงใช้อับราฮัมให้เป็นบรรพบุรุษของชาวอิสราเอลทั้งหมดและพระเจ้าประทานบุตรให้กับเขาในวัยชรา พระเจ้าเลือกอับราฮัมเพราะเขามีศรัทธามาก อับราฮัมสวดอ้อนวอนอย่างหนักเพื่อผู้คน เมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์เป็นสถานที่ที่ชั่วร้ายและมีบาปเยอะมาก พระเจ้าวางแผนที่จะลงโทษพวกเขา แต่อับราฮัมมีความเมตตาต่อผู้คนเหล่านั้นและพยายามทูลขอให้พระเจ้าช่วยพวกเขา โดยให้เงื่อนไขว่าหากตัวท่านสามารถค้นพบคนชอบธรรมได้จำนวนสิบคน ขอพระเจ้าโปรดเมตตาเขาด้วย

พระเจ้าทรงฟังที่อับราฮัมขอและสัญญาว่าแม้ว่าจะมีคนชอบธรรมแค่สิบคนในเมืองนั้นพระองค์จะไม่ทำลายพวกเขา แต่น่าเสียดายที่คนในเมืองต่างจมอยู่กับความชั่วร้ายจนพระเจ้ายังคงต้องทำลายพวกเขา อับราฮัมเป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ นั่นเป็นเพราะความศรัทธาและความเต็มใจที่จะวิงวอนเพื่อผู้อื่น เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คุณเองก็สามารถอธิษฐานเผื่อคนอื่นได้เช่นเดียวกัน วันนี้ให้เรา เชื่อฟังพระเจ้า วางใจพระเจ้า ขอที่เราจะเป็นเหมือนอับราฮัม

วันนี้คุณจะอธิษฐานเผื่อใครได้บ้าง?

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา ขอพระองค์โปรดสวมหัวใจที่รักการอธิษฐานให้กับลูก และโปรดสอนให้ลูกเลิกคิดถึงแต่ความต้องการของตนเอง และรู้จักอธิษฐานเพื่อผู้อื่นให้มาก ลูกอยากอธิษฐานเพื่อเพื่อนพ่อแม่พี่น้องเพื่อนที่รักและคนรอบข้างของลูก ลูกอยากนำเขาเข้ามารู้จักกับความรักของพระองค์ และหันมาหาพระองค์ พึ่งพาพระองค์ และมีความหวังในพระองค์ ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions


วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

เมื่อพระเจ้าตรัสว่าไม่

 


เมื่อพระเจ้าตรัสว่าไม่

พวกท่านขอและไม่ได้รับเพราะขอผิด หวังจะเอาไปสนองความปรารถนาชั่วของตนเอง

ยากอบ 4: 3

มีเด็กผู้ชายสามคนที่ต้องการให้ครูมอบแอปเปิ้ลให้พวกเขา แต่ครูก็มีแอปเปิ้ลเพียงลูกเดียว เด็กชายคนแรกเริ่มเอ่ยขอแอปเปิ้ล จากนั้นเด็กชายคนที่สองก็มาขอแอปเปิ้ลเช่นกัน แต่เด็กชายคนที่สามกลับไม่พูดอะไรเลย คุณครูจึงมอบแอปเปิ้ลให้เด็กชายคนที่สอง ทำไมนะเหรอ? เพราะครูรู้จักเด็ก ๆ ของเธอดี ครูรู้ดีว่าเด็กชายคนแรกต้องการเพียงเพื่อเอาแอปเปิ้ลที่ได้ไปขว้างปาใส่คนอื่นด้วยความสนุก ส่วนเด็กชายคนที่สามเขาไม่คิดจะขอหรือพูดอะไรกับครูเลย แน่นอนว่าครูจึงไม่ได้ให้แอปเปิ้ลแก่เขา

เมื่อพระเจ้าตรัสว่า”ไม่” กับคำอธิษฐานของเรา นั่นอาจเป็นเพราะพระองค์รู้ว่าคำตอบนั้นจะลงเอยด้วยการทำร้ายคุณเองหรือคนรอบข้าง  หรือไม่พระองค์ก็รู้อยู่แล้วว่าแรงจูงใจของคุณนั้นไม่ถูกต้อง

บางครั้งคุณอาจไม่ได้รับในสิ่งที่คุณต้องการ หรืออาจเป็นเพราะคุณเองก็อาจจะไม่เคยอธิษฐานเลยด้วยซ้ำ พระเจ้าเป็นพระเจ้าที่แสนดี และพระองค์ก็รู้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับคุณด้วยเช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นคริสเตียน หรือไม่ใช่คริสเตียน  เราต่างก็ต้องเจอกับสิ่งที่ดีและร้าย สิ่งที่เราหวัง และไม่สมหวังทั้งสิ้น  ไม่ใช่เป็นคริสเตียนแล้วจะพบสิ่งที่ถูกใจเสมอไป เราอาจพบกับสิ่งที่ไม่ใช่ก็ได้  เราควรมาเรียนรู้กันว่าเราควรมีท่าทีอย่างไรในการตอบสนองกับสถานการณ์ที่เราเผชิญอยู่อย่างถูกต้อง ท่าทีที่ถูกต้องคือการมีจิตใจที่ยำเกรงพระเจ้า การยอมรับน้ำพระทัยของพระเจ้า เราไม่ควรน้อยใจ หรือเสียใจ และไม่ควรอิจฉาคนอื่น   นี่เป็นท่าทีที่คริสเตียนควรปฎิบัติตาม นี่เป็นการแสดงออกด้วยการเชื่อฟังพระเจ้าอย่างเต็มที่ 

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา ลูกเองยังมีความต้องการหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิต แต่ลูกก็เชื่อว่าพระองค์จะตอบคำอธิษฐานของลูกได้ดีที่สุด แม้ว่าคำตอบของพระองค์จะเป็นไม่ก็ตามที่ลูกขอ ลูกขอขอบพระคุณสำหรับสิ่งที่พระองค์ทรงเปิดเผย ซึ่งมอบความหวัง สันติสุขและความรักแก่ลูก ขอโปรดช่วยให้ลูกเติบโตขึ้นในความรักเพื่อพระองค์อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

threemonthonchurch.org

 thaiodb.org


วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

อธิษฐานตลอดเวลา

 


อธิษฐานตลอดเวลา

เลิก​กังวล​ได้​แล้ว แต่​ให้​อธิษฐาน​ใน​ทุกๆ​สถานการณ์ และ​ขอ​ใน​สิ่ง​ที่​คุณ​ต้องการ​จาก​พระเจ้า และ​เมื่อ​อธิษฐาน​ก็​ให้​ขอบคุณ​พระเจ้า​ด้วย

ฟิลิปปี 4: 6

สำหรับคริสเตียน การอธิษฐานควรเป็นเหมือนการหายใจ คุณไม่ต้องคิดที่จะหายใจเพราะอากาศออกแรงดันที่ปอดของคุณและผลักดันให้คุณต้องหายใจโดยอัตโนมัติ เช่นเดียวกัน เมื่อเราเกิดมาในครอบครัวของพระเจ้า เราเข้าสู่บรรยากาศฝ่ายวิญญาณที่ซึ่งพระเจ้าทรงประทับ และพระคุณได้ออกแรงกดดัน หรือส่งอิทธิพลต่อชีวิตของเรา การอธิษฐานจึงเป็นการตอบสนองปกติต่อแรงดันนั้น ในฐานะผู้เชื่อ เราจึงได้เข้าสู่บรรยากาศสวรรค์ที่จะหายใจในอากาศแห่งคำอธิษฐาน

บางครั้งคุณอาจรู้สึกไม่อยากอธิษฐาน เพราะคุณอาจกำลังรู้สึกโกรธ-เศร้าหรือสิ้นหวังอยู่ แต่ช่วงเวลาที่คุณไม่รู้สึกอยากอธิษฐานมักเป็นช่วงเวลาที่คุณต้องอธิษฐานมากที่สุด ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไม่รู้สึกอยากจะอธิษฐาน ขอให้คุณใช้เวลาสักครู่และอธิษฐานขอพระเจ้าเพื่อช่วยให้คุณรู้สึกอยากอธิษฐาน! พระเจ้ารู้ทุกอย่างอยู่แล้ว แต่พระองค์ก็ยังอยากได้ยินทุกคำจากคุณ

เมื่อเราดำเนินชีวิตแต่ละวัน   การอธิษฐานควรเป็นการตอบสนองอันดับแรกต่อทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความคิดกังวลทุกอย่าง และงานที่ไม่พึงปรารถนาทุกอย่าง การขาดการอธิษฐานจะเป็นเหตุให้เราพึ่งพาตนเองแทนที่จะพึ่งพาพระคุณพระเจ้า โดยแก่นแท้ การอธิษฐานโดยไม่หยุดเป็นการพึ่งพาพระเจ้าสม่ำเสมอและช่วยให้เราติดสนิทกับพระบิดาเจ้า

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา ตอนนี้ลูกไม่รู้สึกอยากอธิษฐาน แต่ขอพระองค์โปรดช่วยลูกด้วยเพราะการอธิษฐานเป็นสิ่งที่ลูกต้องการมากที่สุดในชีวิต  ลูกขอขอบพระคุณที่ทรงเชื้อเชิญให้ลูกมีความสัมพันธ์กับพระองค์ เพราะพระองค์ปรารถนาที่จะรับฟังลูกอยู่เสมอ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

 gotquestions.org

 thaiodb.org


วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้ที่จะอธิษฐาน

 


วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้ที่จะอธิษฐาน

ข้าแต่​พระยาห์เวห์ แต่​ส่วน​ข้าพเจ้า ข้าพเจ้า​เพียง​อธิษฐาน​ขอให้​พระองค์​ยอมรับ​ข้าพเจ้า​เท่านั้น ข้าแต่​พระเจ้า​โปรด​ตอบ​ข้าพเจ้า​ด้วย​ความรักมั่นคง​ของ​พระองค์ และ​ด้วย​ฤทธิ์​อำนาจ​แห่ง​การช่วยกู้​ที่​พึ่งพิง​ได้​ของ​พระองค์

สดุดี 69:13

 เค พยายามเรียนรู้วิธีการเล่นสเก็ตบอร์ด แต่เขาก็ต้องหกล้มอยู่หลายครั้ง เด็กบางคนก็หัวเราะเยาะเขา แต่เอไม่ได้ทำแบบนั้น เอเป็นนักเล่นสเก็ตที่เก่งคนหนึ่ง เขาบอก เค ว่าการเรียนรู้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เคต้องพยายามต่อไป อย่าท้อ และทิ้งมันไป มันทำให้เค มีกำลังใจขึ้น และพยายามฝึกเล่นสเก็ตไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดฝีมือการเล่นของเขาก็พัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ

การอธิษฐานก็เช่นเดียวกัน คุณเรียนรู้ที่จะอธิษฐานโดยการอธิษฐานบ่อยๆ เมื่อคุณเริ่มต้นครั้งแรกคุณอาจรู้สึกเบื่อหน่ายบ้างเล็กน้อย แต่อย่าปล่อยให้สิ่งนั้นหยุดคุณ เพราะหากคุณยังอธิษฐานต่อไปมันจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณ  พระเจ้าชอบที่จะได้ยินคุณอธิษฐาน แม้ว่าคำพูดของคุณจะไม่ได้สมบูรณ์แบบทั้งหมด  ขอแค่พยายามใช้เวลาพูดคุยกับพระองค์บ่อยๆ นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

การอธิษฐานเป็นการเปิดอกพูดคุยกับพระเจ้าเหมือนเราเปิดอกพูดกับเพื่อนสนิท  การอธิษฐานไม่ได้มีไว้เพื่อให้พระเจ้ารู้จักเรา  แต่มีไว้เพื่อให้เราต้อนรับพระองค์  การอธิษฐานไม่ได้นำพระเจ้าลงมาหาเรา  แต่นำเราขึ้นไปหาพระองค์  พระเจ้าทรงพร้อมและเต็มพระทัยที่จะสดับฟังคำอธิษฐานที่จริงใจของบุตรที่ต่ำต้อยที่สุดของพระองค์

ดังนั้น เมื่อเราเข้ามาทูลขอความเมตตาและพระพรจากพระเจ้า  จิตใจของเราจะต้องมีวิญญาณแห่งความรักและการให้อภัย มั่นใจในพระเจ้าไม่เปลี่ยนแปลง  และต้องอธิษฐานด้วยความเชื่อ ที่สำคัญอีกอย่างคือความพากเพียรในการอธิษฐานเพราะมันเป็นเงื่อนไขหนึ่งของการได้รับคำตอบ  เราจะต้องอธิษฐานอยู่เสมอหากเราต้องการเติบใหญ่ขึ้นในความเชื่อและประสบการณ์  เราจะต้อง  “ขะมักเขม้นอธิษฐาน”  อธิษฐานอย่างต่อเนื่องเพื่อ  “เฝ้าระวังอยู่ในการนั้นด้วยการขอบพระคุณ”  เราจะต้องอธิษฐานร่วมกันในครอบครัว  และเหนือสิ่งอื่นใด  เราจะต้องไม่ละเลยการอธิษฐานเป็นการส่วนตัว  เพราะนี่คือชีวิตของจิตวิญญาณ  เพราะจิตวิญญาณที่ละเลยการอธิษฐานจะไม่มีทางเจริญเติบใหญ่ขึ้นได้

จงนำทุกสิ่งที่ทำให้ความนึกคิดของท่านวุ่นวายไปหาพระองค์  ไม่มีสิ่งใดใหญ่เกินไปที่พระองค์จะทรงแบกรับไว้ไม่ได้  เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ค้ำชูโลกไว้  พระองค์ทรงควบคุมเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในจักรวาล

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา ขอพระองค์โปรดประทานสติปัญญาเพื่อให้ลูกได้รู้วิธีและการใช้คำในการอธิษฐาน  เพื่อให้การอธิษฐานของลูกเป็นที่พอพระทัยพระองค์ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

 sites.google.com


วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

พระเจ้าตอบอย่างไร? เมื่อเราอธิษฐาน

 


พระเจ้าตอบอย่างไร?

พระยาห์เวห์​พูด​กับ​โมเสส​ว่า “เจ้า​คิด​ว่า​มือ​ของ​พระยาห์เวห์​สั้น​ไป​หรือ​ยังไง เดี๋ยว​เจ้า​จะ​ได้​เห็น​ว่า​สิ่ง​ที่​เรา​พูด​นั้น​จะ​เกิดขึ้น​กับเจ้าไหม”

กันดารวิถี 11:23

เมื่อคุณอธิษฐาน พระเจ้าจะตอบสนองในรูปแบบต่างๆ บางครั้งพระองค์ก็เข้ามาแทรกแซงในสถานการณ์ที่คุณกำลังอธิษฐานอยู่ บางครั้งพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ตรัสกับจิตใจของคุณและให้คำตอบแก่คุณ แต่วิธีหลักที่พระเจ้าทรงเผยสำแดงคือผ่านพระคำของพระองค์  การอ่านพระคัมภีร์จะทำให้คุณจะพบคำตอบส่วนใหญ่ที่คุณกำลังมองหาแน่นอน

ถ้าเราทูลขอสิ่งใดตามพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์ก็ทรงโปรดฟังเรา และใจความสำคัญคือ การอธิษฐานของเราต้องเป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้า เมื่อไหร่ก็ตามที่เราอธิษฐานในลักษณะนี้ พระคัมภีร์บอกเราชัดเจนว่า พระเจ้าทรงรับฟังเรา แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่เราอธิษฐานต่อพระเจ้า เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์ ? คำตอบคือ พระเจ้าได้มอบพระคัมภีร์อันเสร็จสมบูรณ์แล้วมาให้กับพวกเรา เมื่อเราอ่านสิ่งที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ เราจะทราบได้ถึงพระประสงค์ของพระเจ้า เราไม่ต้องคาดคะเน หรือ เดาสุ่มในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง พระคำของพระเจ้าจะบอกเราอย่างชัดเจนผ่านทางลายลักษณ์อักษร

หากวันนี้คุณยังรู้สึกโดดเดี่ยว หรือกำลังรู้สึกว่าถูกลืมและยังไม่มีความรักดีๆเข้ามาในชีวิต พระคัมภีร์บอกว่าพระเจ้ารักคุณมากมายจนมอบพระบุตรเพียงองค์เดียวเพื่อคุณ หากคุณยังกังวลเกี่ยวกับอนาคตของคุณ พระคัมภีร์กล่าวว่าพระเจ้าจะนำทางคุณและชี้ทางที่คุณควรจะไป หน้าที่ของเราคืออธิษฐานและวางใจในพระองค์ ดังนั้นในฐานะผู้เชื่อเราจำเป็นต้องศึกษาพระคัมภีร์ เรียนรู้และจดจำข้อพระคำของพระเจ้า ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่า พระเจ้าชอบสิ่งใด เกลียดชังสิ่งใด เมื่อเรามีพื้นฐานเหล่านี้ตามข้อพระคัมภีร์ เราก็จะรู้ได้ว่าสิ่งที่เรากำลังอธิษฐานต่อพระเจ้านั้นเป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์หรือไม่ 

ความเชื่อของเรามีความมั่นคงได้ก็ต่อเมื่อเราอ่านและศึกษาพระคัมภีร์อย่างสม่ำเสมอ พระเจ้ามอบพระคัมภีร์เอาไว้ เพื่อช่วยเสริมสร้างความเชื่อของพวกเรา หลายครั้งมีเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในชีวิตของเรา แต่เราก็ยังสามารถวางใจในสิ่งที่พระเจ้าบอกเราผ่านทางพระคัมภีร์ได้เสมอ

สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือพระเจ้าจะได้ยินคำอธิษฐานเสมอและพรองค์จะตอบเสมอ เมื่อเราอธิษฐานต่อพระเจ้าด้วยความเชื่อ อธิษฐานด้วยความจริงใจ พระเจ้าตอบแน่นอน 100% หลายครั้งคำตอบของพระเจ้าอาจจะไม่ถูกใจคุณ แต่รับรองว่าชัวร์และถูกต้องที่สุด

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

CBN Thailand

 thaiodb.org

youngtimothy.blog


พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าพายุของคุณ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าพายุของคุณ อ่านมัทธิว 8:1 ถึง 11:1 ​    25 และพวกสาวกมาปลุกพระองค์ ทูลว่า “องค์พร...