วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

พอเพียง เพียงพอ



 อย่าอาย... ถ้าเราไม่ได้ใส่เสื้อผ้าสวย หรือมีแฟชั่นใหม่ๆใส่ หรือมีของยี่ห้อเหมือนคนอื่นใส่ จงใส่แค่ที่เรามีใส่ และไม่ทำตัวสกปรก รกรุงรังก็พอ หมั่นทำความสะอาดร่างกาย หมั่นออกกำลังกายเพื่อให้มีสุขภาพดี แบบนี้ย่อมดีกว่าการดูดีแค่เปลือกนอก ทำจิตใจของเราให้เบิกบาน จิตใจดี ร่างกาย่อมดี

อย่าอาย..ถ้าไม่มีกระเป๋าคอเลคชั่นใหม่ถือ จงใช้ใบที่เรามีต่อไปถ้ามันยังไม่ขาด ถึงจะไม่ใช่แบรนด์ดังแต่นิยามของมันก็คือเอาไว้ใส่ของ
อย่าอาย...ถ้านาฬิกาที่เราใส่ ดูเก่า ถ้าหากมันยังบอกเวลาเราได้ตรงอยู่ ก็ไม่เห็นต้องเป็นทุกข์ว่ามันจะเก่าหรือใหม่
อย่าอาย...ที่มีมือถือรุ่นเก่า หน้าจอแตก ถ้าหากมันยังโทรออกได้ รับสายได้ ถ้าสภาพของมันยังเอื้ออำนวยต่อกิจวัตรการงานของเราได้ก็พอไม่ใช่หรือ ลดความอยากของเราลงแล้วเก็บเงินเอาไว้ซื้อในสิ่งที่จำเป็นมากกว่าก็ได้
อย่าอาย...ที่จะต้องนั่งกินข้าวข้างทาง ถึงมันจะไม่ได้ดูหรูหราหมาเห่า แต่ถ้ากินแล้วอร่อยถูกปากก็กินไป คนเรากระเพาะเท่านี้จะใส่อะไรเข้าไปนักหนา?
อย่าอาย...ถ้ารถของเรามันเก่า เพราะถ้ามันยังพาเราไปไหนมาไหนได้ ถึงที่หมายปลอดภัยก็จงพอใจ ถ้าเรากดต่อมความอยากได้ของตัวเองได้ เราก็จะไม่ทุกข์ ส่วนใครจะดูถูกดูแคลนเราก็เรื่องของเขา
อย่าอาย..ถ้าไม่มีบัตรเครดิตใช้ ให้เรารู้จักใช้เท่าที่เรามีก็พอ อย่าไปสร้างหนี้ อย่าไปซื้อของที่เราแค่อยากได้ เพราะหลังจากที่ได้มันมาคุณจะรู้สึกว่ามันคือภาระ
อย่าอาย...ถ้าเจอคนหวังดีแต่ประสงค์ร้ายมาวิพากษ์วิจารณ์เรา อย่าจมอยู่กับคำคนจนสูญเสียความเป็นตัวเอง อย่าพยายามเป็นเหมือนคนอื่น ให้เราใส่ใจกับจิตวิญญาณของตัวเรา ให้เราดำเนินชีวิตและตั้งมั่นอยู่บนสามสิ่งนี้ คือความเชื่อ ความหวังใจ ความรัก แต่ความรักใหญ่ที่สุด 1 โครินธ์ 13:13
อย่าอาย...ถ้าทำดี -ยึดความถูกต้อง- ยึดความซื่อสัตย์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่นก็แล้ว แต่ยังไม่ได้ดี จงจำไว้ว่า ทุกอย่างมีวาระของมันเสมอ พระองค์ทรงมองเห็นสิ่งที่เราทำ ถึงแม้มนุษย์จะมองไม่เห็น รางวัลและคำชื่นชมจากพระเจ้าสำคัญกว่าจากใครๆ จงวางใจและรอเวลาของพระองค์
แต่จงอาย...ถ้าเรามีงานทำ มีรายได้ แต่ยังไม่มีเงินเก็บ และยังหนี้สินบานเบอะ ชักหน้าไม่ถึงหลัง เพียงเพราะเราอยากได้อยากมีเกินแรงกำลังของตน วิ่งยืมคนนี้ที คนนั้นที และมันจะทำให้เราอายที่สุด คือถ้าเราไปเอ่ยยืมใครแล้วเขาปฏิเสธแถมดูถูกเหยียดหยามมาอีก (การเป็นหนี้บางกรณีอาจไม่มีทางเลือก แต่ถ้าหากคุณเลือกได้จงคิดให้ดีก่อนตัดสินใจเป็นหนี้)
การที่เขาไม่ให้ยืม เขาก็ไม่ผิด เราก็อย่าไปโกรธเกลียดกันเลย ให้นึกถึงใจเขาใจเรา เงินทองมันหายากนะ ไม่ได้เสกมาง่าย ๆ วันนี้ให้เราปรับเปลี่ยนความคิด ชีวิต จิตใจ และการกระทำของตัวเองใหม่ ถ้าอยากเห็นสิ่งใหม่ๆเกิดขึ้นในชีวิต เราก็ต้องไม่ใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ นะจ๊ะ
KC
วันนี้ลองนั่งนึกตรึกตรองนัยของคำว่า "พอเพียง"
จริงๆ แล้ว คำนี้สามารถนำไปใช้ได้
กับทุกๆ เรื่องราวในชีวิตคนเรา
เพราะหากเรารู้สึกว่า
เรามีสิ่งต่างๆ อยู่พอเพียงและเพียงพอแล้ว
การดิ้นรนแสวงหาหรือไขว่คว้า
มันก็จะลดลงไปด้วย
ความสุขที่เราได้รับมา ก็จะเพียงพอ
ไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป
จนเกิดสุขมากก็ทุกข์มาก
แต่จะกลายเป็น
ชีวิตและความสุข...
ที่พอเพียงและเพียงพอ

คนแต่ละคนก็มีคำนิยามของคำว่า ‘ความสุข’ ที่แตกต่างกันออกไป บางคนกล่าวว่า “ความสุข คือ สภาวะที่บุคคลรับรู้ว่าตนเองได้ทำในสิ่งที่ตนต้องการและทำได้สำเร็จ มีความพึงพอใจในสิ่งที่ตนมีและได้มา” บางคนก็ว่า “ความสุข ก็คือ การมีสิ่งที่ตนพึงพอใจ เช่นมีครอบครัวที่ดี มีสุขภาพที่ดี มีฐานะการเงิน และมีหน้าที่การงานที่ดี มีชื่อเสียงที่ดี” ฯลฯ

ในความเป็นจริง เราก็แค่เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ที่มีความสุขในชีวิตได้ ใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ทานอาหารแต่ละมื้อได้อย่างอิ่มหนำสำราญ มีเวลาได้ดูหนังดีๆ มีโอกาสฟังเพลงเพราะๆ มีห้วงเวลาที่ได้อยู่กับคนที่เรารัก ได้ทำอะไรดีๆ แก่เขา ได้สังสรรค์กับครอบครัว พูดคุย หัวเราะ ต่อกระซิก ปรึกษาหารือกัน ทำให้คนในครอบครัวมีความสุข และไม่ต้องใช้ชีวิตด้วยการวิ่ง วิ่งแล้วก็วิ่งเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ

หากวันนี้เรายังวิ่งอยู่ เราต้องเหนื่อยกับการวิ่งอยู่ตลอดเวลา ลองแวะ “พักเพื่อชีวิต” พักเพื่อตนเองได้ชื่นชมสิ่งต่างๆ เสียบ้าง เราจะได้มีเวลาเป็นของตนเองมากขึ้น ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกังวลและเป็นทุกข์ เป็นร้อน ที่จะต้องรีบไปให้ถึงปลายทาง ปล่อยใจเพลิดเพลินไปกับการหาความสุขของชีวิตจะดีกว่า เมื่อเรามีความสุขแล้ว เราก็จะพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ เมื่อเราพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ เราก็จะเห็นตัวตนของตัวเองได้ชัดเจนขึ้น มีความสนุกกับการใช้ชีวิตมากขึ้น เมื่อนั้นเราก็จะได้ไม่ต้องวิ่ง วิ่ง วิ่งให้เหนื่อยแรง และทุกข์อกทุกข์ใจเหมือนที่เคยเป็นมา…

ชีวิตที่ทุกข์หลายๆ ครั้งมาจาก
การไม่รู้จักพอ และไม่รู้จักประมาณตน
รวมทั้งไม่รู้จักตน...ทำให้ไม่รู้จักพอ
คนเราดำรงชีวิตไปตามกระแสสังคม
มองสิ่งรอบนอกจนลืมมองตนเอง
อยากได้...อยากมี....อยากเป็น
และพยายามวิ่งตามไขว่คว้า
เพื่อให้ได้มาไว้ครอบครอง
ยิ่งไม่มีก็ยิ่งอยากได้
พอยิ่งอยากได้ก็ยิ่งพยายามหาหนทาง
สุดท้ายก็เหมือนว่าวิ่งไปหาความทุกข์
มาใส่ตัวเอง...เสียมากกว่า
แต่ถ้าคนเรารู้จักพอ...มีแค่ไหนก็ใช้แค่นั้น
อยู่แบบไหนก็กินแบบนั้น
อาจหามาเพิ่มเพื่อความสุขในชีวิตเล็กๆ น้อยๆ
โดยไม่ต้องไปหยิบยืมหรือดิ้นรนแสวงหา
ให้เกิดทุกข์กายทุกข์ใจ
ชีวิตก็เรียบง่าย...ไม่เหน็ดเหนื่อย
ความสุขอาจบางเบา
แต่มันจะยั่งยืน...ตลอดไป
นี่แหล่ะ...ชีวิตที่พอเพียง...

ผู้มีใจยากจน ย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา ผู้เป็นทุกข์โศกเศร้า ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้รับการปลอบโยน ผู้มีใจอ่อนโยน ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้รับแผ่นดินเป็นมรดก ... ท่านทั้งหลายย่อมเป็นสุข เมื่อถูกเขาดูหมิ่น ข่มเหงและใส่ร้ายต่างๆนานาเพราะเรา จงชื่นชมยินดีเถิด เพราะบำเหน็จรางวัลของท่านในสวรรค์นั้นยิ่งใหญ่นัก
แม้ว่าเราจะพบกับความเศร้าโศกในบางครั้ง เราจะพบว่า พระเจ้ามิได้ทรงทอดทิ้งเราให้อยู่ตามลำพัง พระองค์จะประทับอยู่กับเรา และคอยปลอบประโลมใจเราเสมอ การที่เรามีความทุกข์ เราจะนึกถึงพระ และได้รับพระเมตตาจากพระองค์ในที่สุด จงยอมรับว่า เราเป็นทุกข์ และมันไม่ได้เป็นนายเหนือเรา การเป็นสุข เกิดจากการยอมรับว่าตนเองเป็นผู้มีความทุกข์ และยอมรับสภาพแห่งทุกข์นั้น พร้อมที่จะเข้าพึ่งพาอาศัยพระเมตตาจากพระเจ้า การเป็นทุกข์เกิดจากความไม่เป็นอิสระของใจเรา การตกเป็นทาสของอารมณ์ การไม่ปล่อยวาง และเมื่อเรายอมรับได้ เมื่อนั้น เราจะพบว่า เราได้รับการปลอบโยนจากพระองค์ผู้ไม่เคยทอดทิ้งเรา

  ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า
พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน (สดด.23.1)

คุณมีความพอใจมั้ยตอนนี้ ณจุดจุดนี้  คุณจะพอใจในสิ่งที่คุณมีอยู่ในเวลานี้ และพอใจกับสภาพของคุณในเวลานี้ได้ ก็ต่อเมื่อคุณชื่นชมยินดีอย่างยิ่งในองค์พระผู้เป็นเจ้า คุณจะเผชิญกับทุกสถานการณ์ได้อย่างถูกต้อง  เมื่อคุณเชื่อว่า ฤทธิ์อำนาจอยู่ในพระองค์
 
ขอให้เราดำเนินชีวิตด้วยความพอใจ ไม่ใช่ด้วยการบ่น
เครดิตจากเพจ
ถ้อยคำแห่งการเยียวยาและกำลังใจ
bloggang
matichon.co.th
kattcrewslovegod.blogspot

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...