ความวิตกกังวลใจ
“เพราะเหตุนี้ เราบอกท่านทั้งหลายว่า
อย่ากระวนกระวายถึงชีวิตของตนว่าจะเอาอะไรกิน หรือจะเอาอะไรดื่ม
และอย่ากระวนกระวายถึงร่างกายของตนว่าจะเอาอะไรนุ่งห่ม ชีวิตสำคัญยิ่งกว่าอาหารไม่ใช่หรือ? และร่างกายสำคัญยิ่งกว่าเครื่องนุ่งห่มไม่ใช่หรือ?
มัทธิว 6:25
มีเรียม มักจะกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเธอ เธอกระวนกระวายใจว่าสิ้นเดือนนี้ถ้าเงินเดือนออกมาแล้วมันจะพอให้เธอได้เก็บไว้ใช้จ่ายไหม?
ไหนจะค่ากิน
ค่าเช่า ค่าเทอมลูก ค่าซ่อมรถ ค่าเน็ต ค่าน้ำ ค่าไฟ จิปาถะอีกมากมาย มีเรียมวิตกกับเรื่องนี้มากจนเธอเริ่มมีปัญหาในการนอนหลับตอนกลางคืนเพราะความกังวลทั้งหมด และเธอเริ่มมีปัญหาของสุขภาพตามมา
อย่ากังวลกับอนาคตของคุณ เพราะถ้าคุณมัวแต่กังวล คุณจะไม่มีสมาธิกับสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ตอนนี้ พระเจ้ามีแผนสำหรับชีวิตของคุณ ดังนั้นจงทำหน้าที่ในแต่ละวันของคุณให้เต็มที่และดีที่สุด
พระเจ้าไม่ต้องการให้คุณกังวล เพราะเมื่อคุณกังวล แสดงว่าคุณไม่ไว้วางใจพระเจ้า
พระองค์สัญญาว่าจะคอยแนะนำคุณ ดูแลคุณ และอยู่กับคุณ หลังจากอ่านพระวาจาในวันนี้แล้วขอให้คุณผ่อนคลายความเครียดในทุกเรื่อง
เพราะว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของพระเจ้า
พระองค์ทรงอยู่ใกล้คุณเสมอ
ให้คุณลองคิดถึงความแตกต่างระหว่างความวิตกกังวลใจและความห่วงใย
อย่างไหนเกิดผลมากที่สุดและอย่างไหนทำให้เกิดแรงจูงใจมากที่สุด
พระธรรมบริบทนี้นำเราให้หันมาพิจารณาดูว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา
ทรัพย์สินเงินทองและข้าวของต่างๆหรือชีวิต ? ให้คุณมองดูฝูงนกและหมู่มวลดอกไม้ที่ได้รับพระพรจากพระผู้สร้างของเรา ให้คุณดูยาโคบเป็นตัวอย่าง
ยาโคบเรียนรู้ที่จะเชื่อวางใจในพระเจ้าและยอมสู้งานหนัก เขาเรียนรู้ในการเชื่อพึ่งพระผู้สร้างของเขาสำหรับทุกส่วนในชีวิตของเขา
เราได้รับการท้าทายจากพระดำรัสของพระเยซูคริสต์ที่บอกอย่างชัดเจนว่าเราควรมีทัศนคติที่แตกต่าง คนส่วนใหญ่มักจะวิตกกังวลว่าอาหารมื้อต่อไปจะกินอะไรดี สาละวนกับเรื่องเสื้อผ้า-หน้าผม แต่เราควรจะแตกต่างจากคนเหล่านั้น เพราะความวิตกกังวลจะทำลายเรา ทำให้เราเฉื่อยช้าลง ทำให้เรารู้สึกเหนื่อย และทำให้เราเบนเป้าหมายออกจากพระเจ้า ความวิตกกังวลแสดงให้เห็นถึงความเชื่ออันตื้นเขินของเรา การแสวงหาสิ่งดีที่พระเจ้ามีไว้สำหรับเราย่อมมีค่ามากกว่ากันเยอะเลย ความกังวลอาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่มนุษย์อย่างเราจะรู้สึกแต่อย่าให้ใจของเราต้องทุกข์กับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นจนลืมมองเห็นพระพรเล็กๆน้อยๆที่ผ่านเข้ามาในวันนี้
เราอาจจะมีความห่วงใยอยู่ในเวลานี้หรือในวันพรุ่งนี้
แต่สิ่งที่เราควรทำคือการแสวงหาแผนการของพระเจ้าสำหรับอนาคตของเรา และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับแผนการ นั้นๆของพระองค์
เราต้องมีความเชื่อในพระเจ้าผู้ทรงจัดสรรประทาน เราได้รับการเตือนใจว่าชีวิตในแต่ละวันก็มีความทุกข์พออยู่แล้ว
แต่แน่นอนก็มีพระพรสำหรับเราในแต่ละวันด้วยด้วยเช่นกัน
ไตร่ตรอง
จดเป็นรายการออกมาว่าสิ่งที่คุณวิตกกังวลนั้นมีอะไรบ้าง
ทูลขอให้พระเจ้าทรงเปลี่ยนความวิตกกังวลเป็นความห่วงใย และให้เปลี่ยนความสงสัยเป็นการพึ่งพาในพระเจ้าสำหรับทุกสิ่งที่จำเป็นในชีวิตของคุณ
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดา โปรดทรงช่วยให้ข้าพระองค์วางใจพระองค์และอย่ากังวลถึงอนาคตของข้าพระองค์จนหลงลืมพระพรในวันนี้
โปรดทรงเปลี่ยนความวิตกกังวลเป็นความห่วงใย และโปรดเปลี่ยนความสงสัยให้เป็นการพึ่งพาในพระองค์สำหรับทุกสิ่งที่จำเป็นในชีวิตของข้าพระองค์
อาเมน
ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก
หนังสือ One minute
devotions
suthailand
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น