การทำงานเป็นทีม
เพราะว่าเราร่วมกันทำงานเพื่อพระเจ้า ท่านทั้งหลายเป็นไร่นาของพระเจ้า
และเป็นตึกของพระองค์
1โครินธ์3:9
มีชายคนหนึ่งพยายามจะแบกกล่องหนักๆ คนเดียวแต่ตัวเขาเองก็ทำไม่ได้ สักพักก็มีชายอีกคนเข้ามาแบกช่วย
แม้พวกเขาสองคนสามารถเคลื่อนย้ายกล้องได้ก็จริง
แต่มันก็ยังถือว่าหนักอยู่มากจึงทำให้เคลื่อนย้ายได้ช้า แต่สักพักก็มีชายคนที่สามเข้ามาช่วยพวกเขาแบก
และแล้วชายทั้งสามก็สามารถยกกล่องนั้นไปได้อย่างง่ายดาย การทำงานเป็นทีมจะช่วยให้คุณทำสิ่งต่างๆ
ได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น
พระเจ้าทรงเชื่อในการทำงานเป็นทีม พระองค์ไม่ได้เลือกศิษย์เพียงคนหนึ่งแต่พระองค์ทรงเลือกศิษย์ถึงสิบสองคน
พระเยซูทรงสอนสาวกให้ทำงานเป็นทีม สาวกที่เดินตามพระเยซู มี 12 คน
บางครั้งเมื่อพระองค์ไปในที่ต้องการความเชื่อมั่นเป็นเป็นพิเศษ
พระองค์เลือกสาวกไปด้วย 3 คน คือเปโตร ยากอบ และยอห์น ทรงสอนเขาเป็นกลุ่ม
ให้เขาช่วยพระองค์เป็นทีม ให้เขาร่วมมือกันทำงานเป็นทีม เวลาพระเยซูส่งสาวกออกไปประกาศข่าวประเสริฐ
พระองค์จะส่งเขาออกไปเป็นคู่ๆ ( ลูกา 10:1 )
ทำไมการร่วมกันทำงาน เป็นทีมจึงเป็นวิธีการของพระเยซู
(1)
จะได้ช่วยเหลือกัน เมื่อมีคนหนึ่งล้มอีกคนจะได้ช่วยพยุง
เมื่อคนหนึ่งท้ออีกคนจะได้หนุนใจ เมื่อคนหนึ่งสร้างอีกคนจะได้เสริม
(2)
มีพลังในการทำงาน เพราะเชือกสามเกลียวขาดยาก
(3)
ชดเชยส่วนที่ขาด เวลาเราทำงานเป็นทีม
ประการหนึ่งที่เราต้องยอมรับ คือเรามีความสามารถต่างกัน
ไม่มีใครเก่งทุกอย่าง นี่เป็นเหตุผลที่พระคัมภีร์เปรียบเทียบคริสตจักรว่าเป็นเหมือนร่างกาย
และเราแต่ละคนเป็นอวัยวะแห่งพระกาย คนหนึ่งเป็นปากอีกคนเป็นตา
ทำไมตาต้องแข่งกับปาก เพราะทั้งสองอวัยวะไม่เหมือนกัน
พระเจ้าทรงสร้างให้ต่างกันเพื่อชดเชยส่วนที่เรามิได้มีมิใช่หรือ
แม้แต่มือขวาที่เข้มแข็ง ถ้าขาดมือซ้าย
ความเข้มแข็งของมือขวาก็คือความอ่อนแอของร่างกายไปทันที
(4)
ช่วยปกป้องคุ้มครองกันและกัน
(5)
ทำให้อุ่นใจ พระคัมภีร์ว่า นอนคนเดียวไม่อุ่น
สองคนถึงจะอุ่น พระคัมภีร์ข้อนี้พูดถึงสามีภรรยา
แต่ก็อาจหมายถึงความอบอุ่นในทีมงานได้ด้วย เปาโลกับทิโมธีก็เหมือนกัน
เปาโลมารอทีมงานอยู่ทีเอเธนส์ ทำไรไม่ได้มาก
แต่พอทิโมธีมาถึงท่านก็เริ่มงานอย่างกระฉับกระเฉง เพราะอุ่นใจไงล่ะ
(6)
ทำให้คำอธิษฐานของเรามีพลัง
นี่เป็นพระดำรัสของพระเยซูไม่ใช่หรือ ถ้าในพวกท่านที่อยู่ในโลกสองคนจะร่วมใจกันขอสิ่งใด พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์ก็จะทรงกระทำให้ (มัทธิว 18:19)
(7)
ทำให้สังคมเห็นความรัก พระเยซูตรัสกับสวกของพระองค์ว่าถ้าท่านรักกันและกัน
ดังนี้แหละทุกคนก็จะรู้ว่าท่านเป็นสาวกของเรา” (ยอห์น 13:35) คนเดียวจะรักกับใคร หรือทำให้ใครดู
แต่พอมีสองคน คนก็จับตาดูว่าทั้งสองจะเป็นอย่างไร
สรุป ก็คือ ให้เราทำงานเป็นทีม ร่วมมือกันแล้วพระเจ้าจะนำเราไปสู่ความสำเร็จ
ใน 1 โครินธ์ เปาโลเขียนเกี่ยวกับวิธีการทำงานเป็นทีมที่มีคนบางคนทำหน้าที่หว่านเมล็ดพืช
นั่นคือการประกาศบอกคนอื่นเกี่ยวกับพระเยซู และมีบางคนช่วยส่งเสริมให้ความเชื่อนั้นมันเติบโต
โดยการทำตัวเป็นเพื่อนที่ดี ยึดมั่นในความเชื่อของพวกเขาและเป็นตัวอย่างที่ดี และมีบางคนนำการเก็บเกี่ยวมาสู่ โดยการอธิษฐานร่วมกัน
แต่สิ่งสำคัญคืองานนั้นจะสำเร็จลุล่วงด้วยดีหรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละคนจะเต็มใจทำส่วนของตนให้ดีพอหรือยัง
หากวันนี้คุณกำลังร่วมแรงร่วมใจในการทำงานของพระเจ้าอยู่ก็เท่ากับว่าคุณกำลังถวายเกียรติแด่พระองค์แล้ว
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดา โปรดช่วยลูกให้รู้จักทำงานเป็นทีม ลูกอยากจะทำงานที่พระองค์มอบหมายให้สำเร็จลุลาวง
และลูกอยากจะทำมันให้ดีที่สุด ! ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า
อาเมน
ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก
หนังสือ One minute devotions
Bangkokfellowship
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น