วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

พระคัมภีร์สำคัญกับเรายังไง ทั้งตอนนั้นและตอนนี้

 



ความคิดตอนเด็ก กับตอนแก่
ตอนนั้น กับตอนนี้(ในวัยสี่สิบกว่า)
คิดต่างกันแค่ไหน???
ตอนเด็ก อยากมีเพื่อนเยอะ
ตอนนี้ จำนวนไม่สำคัญเท่าคุณภาพกับใจที่ให้กัน
จะกี่ปีกี่วันความสัมพันธ์ไม่เปลี่ยนแปลง
รัก ห่วงใย ใส่ใจเหมือนเคย แอบมากกว่าด้วย
ตอนเด็ก พยายามทำให้เพื่อนพอใจและยอมรับ
ตอนนี้ ถ้าคนที่ใช่ เราไม่ต้องพยายามเปลี่ยนเลย
ไม่ต้องพยายาม FIT IN
เพราะเขาจะเป็นเพื่อนกับเรา และรักในตัวตนของเรา
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
พวกเขาก็จะยังคงอยู่และใส่ใจเราเสมอ
ตอนเด็ก มองโลกแง่ดี อยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์
ตอนนี้ ประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนให้รู้ว่า
คนจริงใจ ไม่ว่ายังไงเขาก็จะยังอยู่กับเรา
นอกนั้น ผ่านมาเพื่อผลประโยน์แล้วจากไป
หรือแค่อยากมาอัพเดทเรื่องของเราก็เท่านั้น
ตอนเด็ก บอบบางกับคำคน ประมาณว่า "อ่อนแอก็แพ้ไป"
ตอนนี้ จะเริ่มปล่อยวาง และช่างมัน มากขึ้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว
เริ่มเข้าใจมากขึ้นว่า ทุกอย่างมีวาระของมัน
มีผ่านเข้ามา เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป
ปิดหู ปิดตา บิดวาจาบ้างก็ได้ ชีวิตพบสันติสุขขึ้นเยอะ
ตอนเด็ก อยากพูด อยากเถียง
ตอนนี้ เข้าใจมากขึ้นว่าการขับเคลื่อนชีวิตให้ประสบผลดีนั้น
ควรไวในการฟัง ช้าในการพูดและช้าในการโกรธ
ตอนเด็ก ชอบการพบปะ รวมกลุ่ม
ตอนนี้ จะเริ่มชอบ ความสงบมากกว่าอะไรที่สนุกฉาบฉวย
วันนี้ใช้ชีวิตให้ยุ่งยากน้อยที่สุด ก็เพียงพอแล้ว
ตอนเด็ก ฝันหวานถึงอนาคต
ตอนนี้ เริ่มคิดถึงอดีตในมุมที่เคยมีความสุข
ตอนเด็ก คาดหวัง ออกไปทางฟุ้งซ่านก็มีบ่อย
ตอนนี้ ไม่คาดหวังถึงความสุขของวันพรุ่งนี้
แต่ตั้งใจที่จะมีความสุข กับวันนี้ ตอนนี้
อยากจะทำให้เต็มที่และดีที่สุด
ทั้งกับคนที่เรารัก และรักเรา
เพราะไม่รู้เลยว่าเราจะมีพรุ่งนี้ได้อีกกี่วัน

ตอนเด็ก เสื้อผ้าอยากตามเทรน อยากๆๆไม่สิ้นสุด ดิ้นรนหามา
ตอนนี้ ใส่อะไรก็ได้ที่เหมาะกับเรา ถูกแพงก็ได้ตามแรงของเรา

ตอนเด็ก อยากสวย อยากหล่อ อยากดูดี
บางคนขนาดยอมทำทุกวิถีทาง เสี่ยงบ้างก็มี
แม้รู้ทั้งรู้ว่า ผลที่ได้จะคงอยู่เพียงระยะสั้น
ตอนนี้ อยากมีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ไม่ต้องพึ่งโรงหมอก็พอ

ตอนเด็ก อยากออกไปเห็นโลกกว้าง
ตอนนี้ ​ในโลกกว้างบางครั้งก็เหนื่อยใจมากอยู่นะ
อยากกลับไปอยู่ในโลกที่มี พ่อแม่ พี่น้องพร้อมหน้า
สนุกสนานเหมือนอย่างที่เคย

ตอนเด็ก การให้ที่ทำให้ผู้รับมีความสุข คือการให้เงิน
ตอนนี้ การให้มีหลากหลาย นอกจากให้ทุนทรัพย์แล้ว
เรายังให้ใจ ให้เวลา ให้สิ่งดีๆ ให้ความเห็นอกเห็นใจ
ให้โอกาส และให้อภัย ซึ่งมันยั่งยืนกว่าแค่ให้เงิน
เงินหมด ความสัมพันธ์อาจหดหาย
แต่ถ้าใส่ใจ ให้เวลา มันจะถนอมทุกความสัมพันธ์ให้ยาวนาน
"ตอนเด็ก เห็นเพื่อนมีแฟนแล้วอยากมีบ้าง" หลายคนจึงใช้ชีวิตอินเลิฟมากแบบ"ยอม ฉันยอมเจ็บปวดยอม ร้าวรวดอุรา ยอม แม้รักจะพาไป เข่นฆ่า เย้ยหยันเล่นอยากลองรัก ดูสักหน่อยจะปล่อยให้ช้ำ ก็จำต้องเป็นจะสุขหรือทุกข์ยากแค้นลำเค็ญจะลองให้เห็น รักเป็นฉันใด" อยู่กับความเพ้อฝันจริงๆ นางเอกซีรี่ไปเลยจ้า
"ตอนนี้ คำนิยามของคำว่าแฟน" เปลี่ยนไปจากตอนเด็กเยอะมาก เพราะแฟนสำหรับเราในวันนี้คือคนที่รักเราทั้งยามสุข ยามทุกข์ รักเราทั้งตอนหน้าสด รักเราได้ในวันที่เราทำตัวไม่น่ารัก หัวเราะและร้องไห้ไปด้วยกัน เป็นกำลังใจให้กัน ส่งเสริมกันในทางที่ดี มีอนาคตร่วมกัน และเขาก็ตั้งใจทำให้มันเป็นจริง เป็นที่พึ่งให้เราได้ เกื้อหนุนและ สนับสนุนซึ่งกันและกันทั้งในแง่จิตวิญญาณและการ ดำเนินชีวิต มีความเชื่อเดียวกัน อยู่กับความจริงและทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน
"ตอนเด็ก" พอมีความรักมักทำตัวเหมือนเล่นมิวสิควีดีโอ Passionate love เป็นความรักแบบเสน่หา เป็นความเร่าร้อนทางกาย และทางใจ และสื่อถึงการมีความสัมพันธ์ทางเพศ แบบในซีรี่ละครความรักของวัยรุ่น หรือคนหนุ่มสาวในตอนนี้เลยที่ต่างก็ต้องการอยู่ใกล้ชิดแนบสนิทกัน เป็นความรักความชอบที่ตอบสนองความต้องการตามธรรมชาติ อยากรู้อยากลองอยากเห็น ใช้อารมณ์นำและอยู่เหนือความถูกต้อง เหมาะสม ซึ่งจริงๆแล้วความรักไม่ใช่แค่การพลีกายเลยนะเด็กน้อยเอ๋ย ถ้าใครอ่านอยู่ อย่าคิดพลีกายถวายตัวให้ความรักในวัยเด็กนะคะ เพราะในชีวิตจริงคุณยังจะต้องพบเจอกับคนรักและความรักอีกมากมายหลายรูปแบบในชีวิต คุณในวัยนี้ควรรักเรียนและรักตนเองให้มาก ๆ ใส่ใจคำพ่อแม่สอน เพื่อว่าแก่ตัวไปจะได้มีแต่ความทรงจำดีๆ ที่คุณภาคภูมิใจได้นะคะ รักแรกไม่ใช่รักสุดท้าย อย่ายอมแลกหรือจบชีวิตเรา เพราะชีวิตของเรามีอะไรอีกเยอะแยะให้เรียนรู้ และถ้าคุณใฝ่หาวิชาความรู้ในวัยเด็กพอโตไปอย่างน้อยคุณก็จะได้พึ่งพาตนเอง และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมคุณจะพบคนที่ใช่สำหรับคุณ แต่ถ้าใครยังไม่พบคู่อย่างน้อยคุณก็ยังมีวิชาความรู้ไว้คอยดูแลตัวเองได้
"ตอนนี้" ความรัก คือ Companionate love เป็นความรักที่พัฒนามาเป็นความรักแบบร่วมทุกข์ร่วมสุข มีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน โดยอาจจะมีความสัมพันธ์ทางเพศหรือไม่มีก็ได้ มีลักษณะของการเป็นเพื่อนร่วมเดินทาง มุ่งประโยชน์ต่อคู่ของตน เช่น คู่ตายายของเราหลายคู่ที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันจนแก่เฒ่า มีความเป็นผู้ใหญ่ และครองชีวิตคู่ได้อย่างปกติสุข ความรักคือการเห็นถึงคุณค่าของกันและกัน ถึงแม้มันจะไม่ราบรื่นไปทุกเรื่องแต่เราก็ต้องหาความสมดุลและปรับตัวเข้าหากัน การไม่เห็นแก่ตัว การซื่อสัตย์และจริงใจ การสนับสนุนและให้กำลังใจกัน ความรักในตอนนี้คือ การปรารถนาเห็นคนที่เรารักมีความสุข การมีความเมตตากรุณาต่อกัน รู้จักให้อภัย ซึ่งกันและกัน การมีความเชื่อในทิศทางเดียวกันจะช่วยส่งเสริมชีวิตคู่ของเราให้ยืนยาวและมั่นคง
ตอนเด็ก ไม่ค่อยลึกซึ้งกับคำว่า "เรียนรู้จากความผิดพลาด"
ตอนนี้ ฝึกใช้ชีวิตแบบมองไปข้างหน้า "อย่างมีความหวัง" มองไปข้างหลัง "อย่างมีบทเรียน" ทุกสิ่งทุกอย่างคือการเรียนรู้ เรียนรู้จากอดีต ใส่ใจกับปัจจุบัน หันหน้าไปสู่อนาคตที่เบิกบานในทางของพระเจ้า ตอนนี้เริ่มเข้าใจแล้วว่าเราต้องเรียนรู้ “อดีต” เพื่อที่จะก้าวต่อไปอย่างมีความหวัง และความหวังเดียวที่คงอยู่กับเราเสมอมาคือความหวังในพระเจ้า หากรู้ว่าเคยผิดพลาด ขอแค่สำนึกและกลับใจและอย่าทำผิดซ้ำอีก
ตอนเด็ก ไม่ใส่ใจศึกษาพระคัมภีร์ แบบเข้าหูซ้าย และทะลุหูขวาบ้างก็มี
ตอนนี้ เริ่มเข้าใจดีแล้วว่า ทำไมเราต้องศึกษาพระคัมภีร์ตั้งแต่วัยเด็ก เพราะการอ่านพระคัมภีร์จะทำให้เราสามารถปรับทิศทางในการดำเนินชีวิตเพื่อจะมีแบบแผนและมาตรฐานเดียวกันในทางของพระเจ้า พระคัมภีร์ยังให้คำแนะนำมากมายต่อคำถามเช่น: ฉันจะดูตรงไหนว่าใครเป็นคู่ครอง? ฉันจะมีชีวิตสมรสที่ประสบความสำเร็จได้อย่างไร? ฉันจะเป็นเพื่อนที่ดีได้อย่างไร? ฉันจะเป็นพ่อแม่ที่ดีได้อย่างไร? ความสำเร็จคืออะไร แล้วฉันจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร? ฉันจะเปลื่ยนตัวเองได้อย่างไร? ชีวิตมีความหมายจริง ๆ ไหม? ฉันจะใช้ชีวิตอย่างไรที่จะไม่ต้องเสียใจทีหลัง? ฉันจะทำให้พระเจ้าพอพระทัยได้อย่างไร? ฉันจะได้รับการให้อภัยได้อย่างไร? ฉันจะจัดการและเอาชนะสถานการณ์ที่ไม่ยุติธรรมละที่แย่ ๆ ในชีวิตได้อย่างไร?
ความคิดข้อสุดท้ายเป็นคำตอบที่ดีที่สุดของการเริ่มต้นชีวิต ไม่ว่าจะเป็นในตอนนั้นหรือตอนนนี้ หากคุณเริ่มได้เร็ว ชีวิตคุณก็จะพบกับพระพรและสันติสุข ทุกๆตัวอักษรในพระคัมภีร์คุณไว้ใจได้แน่นอนและไม่มีข้อผิดพลาด ในข้อพระคัมภีร์ 2 ทิโมธี 3:16 กล่าวว่า “พระคัมภีร์ ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และเป็นประโยชน์ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี และการอบรมในทางธรรม เพื่อคนของพระเจ้าจะพรักพร้อมที่จะกระทำการดีทุกอย่าง” พระคัมภีร์จึงไม่ได้มีไว้สำหรับอ่านเล่น ๆ แต่เป็นหนังสือที่เราจะต้องศึกษาเพื่อที่เราจะนำความรู้นั้นมาประยุกต์ใช้ให้เกิดผลดีในชีวิตจริง
ขอให้​พระเยซูคริสตเจ้าสถิตกับท่าน เพื่อป้องกัน อยู่ในตัวท่านเพื่อคุ้มครอง อยู่ข้างหน้าท่านเพื่อ​นำทาง อยู่ข้างหลังเพื่อเฝ้าพิทักษ์ อยู่เหนือท่านเพื่อประทานพระพร
พระเจ้ารักเรา พระเจ้ารักคุณ
KCLOVEGOD
kattcrewslovegod.blogspotดอทคอม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...