อย่ามัวแต่บ่นว่ามันไม่ยุติธรรมเลย
14จงทำทุกสิ่งโดยปราศจากการบ่นและการทุ่มเถียงกัน
15เพื่อท่านทั้งหลายจะไม่มีที่ติและไร้ความผิด
เป็นบุตรของพระเจ้าที่ปราศจากตำหนิท่ามกลางชนชาติที่คดโกงและวิปลาส
ท่านปรากฏในหมู่พวกเขาดุจดวงสว่างต่างๆ ในโลก 16จงยึดมั่นในพระวจนะแห่งชีวิต
เพื่อข้าพเจ้าจะมีความภูมิใจในวันของพระคริสต์ว่าข้าพเจ้าไม่ได้วิ่งแข่งโดยเปล่าประโยชน์
หรือตรากตรำโดยเปล่าประโยชน์
ฟิลิปปี 2:14-16
ลองนึกภาพว่า: คุณกำลังรู้สึกเหนื่อยแล้ว
หมดแรงแล้ว! เหน็ดเหนื่อยหลังจากวันที่ยาวนานที่โรงเรียน -ที่ทำงาน
คุณแค่อยากนอนเอนกาย พักผ่อน. เล่นวิดีโอเกม อ่านหนังสือ. หรือนอนคุยกับเพื่อนทางโทรศัพท์
แต่แล้วคุณได้ยินเสียงเรียกจากใครคนหนึ่ง...คุณรู้ดีว่ามันเป็นเสียงของแม่คุณ
และแม่ต้องการให้คุณไปล้างจาน หรือช่วยออกไปซื้อของบางอย่างให้ ไปทิ้งขยะ หรือขอให้คุณรีบๆไปอาบน้ำ แล้วคุณก็อยากจะร้องกรี๊ดออกมา ฮึมมมม! หรือ บางทีคุณอาจจะบ่นออกมาว่า "ทำไมต้องเป็นหนูด้วย
ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วยละแม่ อีกเดี๋ยวได้ไหมแม่ แม่ช่วยเรียกคนอื่นทำแทนได้ไหม? (มันไม่ยุติธรรมเลยนะ
แม่ อะไรก็เรียกแต่หนู!")
นี่คือปัญหาของการมีทัศนคติที่คิดว่าเรื่องนี้ไม่ยุติธรรม:
พระเยซูบอกเราว่าอย่ามีทัศนคติแบบนั้น เพราะอันที่จริงพระองค์บอกว่าเราควรจะทำทุกอย่างโดยปราศจากการบ่น
ฟังดูแล้วมันไม่น่าเป็นไปได้เลยใช่ไหม แต่ถึงยังไงเราก็ควรจะพยายามต่อไป! การบ่นพึมพำมีผลต่อสุขภาพของเราด้วยนะคะ โดยเฉพาะสุขภาพจิต เมื่อเรามีเรื่องไม่พอใจหรือขุ่นมัวหลายๆเรื่องสะสม
เราจะรู้สึก หมดหวัง ตกเป็นเหยื่อ และรู้สึกแย่เกี่ยวกับตนเอง เราต้องเรียนรู้ที่จะตอบสนองในแบบที่พระองค์ต้องการให้เราทำ ถึงบางครั้งมันจะไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป แต่พระองค์จะให้เกียรติลูกๆที่มีใจชื่นชมยินดีและเชื่อฟังเสมอ!
ไม่ว่าวันนี้คุณจะอยู่ในบทบาทลูก-พ่อแม่-ลูกจ้าง-ผู้นำ-เพื่อน-สามีภรรยา
หรืออะไรก็ตาม ในทุกๆความสัมพันธ์
เราต่างก็มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ไม่มีอะไรจะน่าหน่ายใจไปกว่าการอยู่ใกล้คนที่พ่นน้ำลายออกมาเป็นคำบ่น
ทันทีที่เราเปิดปากบ่นระบบการรับฟังของเราก็จะปิดตัวลงทันที การบ่นกับการทะเลาะมักมาเป็นของคู่กัน และพระเจ้าไม่ปรารถนาให้เราเป็นคนขี้บ่นแต่อยากให้เรา
ทำทุกอย่างโดยปราศจากการบ่น โดยสิ่งนั้นต้องตั้งอยู่ในความถูกต้อง
หลายคนอาจสงสัยว่า ไม่ได้บ่นนะ ก็แค่ระบายเอง
แล้วมันต่างกันอย่างไร?
ข้อสังเกต คนขี้บ่นมักต่อว่าสิ่งรอบตัว
โดยละเว้นตัวเอง หรือเลือกไม่พูดถึงตนเองหากรู้ว่าสิ่งที่ตนบ่นนั้นมีสาเหตุมาจากผลของการกระทำของตนเอง
คนขี้บ่นไม่ต้องการความยากลำบากเลย และอยู่ร่วมกับมันไม่ได้เลย
ซึ่งสะท้อนถึงระดับความอดทนที่ต่ำ
ข้อสังเกต การระบาย คือการพูดถึงสิ่งที่ตนเองรู้สึก
ไม่ใช่การชี้ให้เห็นว่ารอบตัวไม่มีอะไรดีเลย การได้ระบายก็เพื่อปรารถนาหนทางในการที่จะทำให้ตนสามารถอยู่ท่ามกลางความยากลำบากนั้นๆได้
หรือสามารถผ่านพ้นมันไปได้
ดังนั้นเราต้องระมัดระวังในการรักษาชีวิตไม่ให้บ่น
ขอให้เราแต่ละคนเลือกที่จะเดินตามเส้นทางของพระเจ้า ซึ่งมันเป็น “วัตถุประสงค์และแบบแผนการดำรงอยู่ที่พระองค์มีไว้สำหรับเรา”
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดาที่รัก บางครั้งมันยากมากที่จะทำสิ่งต่าง ๆ โดยไม่บ่นออกมาเลย
วันนี้ลูกขอให้พระองค์ช่วยลูกตอบสนองในลักษณะที่จะนำความสุขมาสู่หัวใจของพระองค์ด้วยเทอญ
ลูกอยากเป็นลูกที่พระองค์ภาคภูมิใจ! ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน
ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก
หนังสือ 3 minute devotions
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น