วันที่สองร้อยสิบสี่ - การตั้งใจฟัง
พี่น้องที่รักพึงทราบข้อนี้คือ
ทุกคนควรไวในการฟัง ช้าในการพูด และช้าในการโกรธ
ยากอบ1:19
การพูดคุยเป็นเรื่องสนุก! แต่อย่าลืมว่า ต้องรู้จักฟังด้วยนะ!
เพราะการฟังทำให้เราเรียนรู้สิ่งใหม่
ๆ และยังช่วยในการสร้างมิตรภาพใหม่ ๆ ด้วย
เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้ปกครอง หรือคุณครู ผู้บริหาร
ผู้ร่วมงาน สมาชิกในครอบครัวพูดกับคุณ ขอให้คุณตั้งใจฟังอย่างตั้งใจ เพราะพวกเขาแต่ละคนล้วนมีความรู้
ความเข้าใจ และประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องราวมากมายที่แตกต่างกันไป การฟังจึงไม่ใช่เรื่องเสียหาย
เพราะบางครั้งการฟังเรื่องเล่าจากคนอื่นอาจช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องราวนั้น ๆ ได้ดีกว่าการอ่านในตำรา
และใช้เวลาไม่นาน เพราะพวกเขาได้ทำการย่อเรื่องราวให้กระทัดรัด
เพื่อทำให้คุณเข้าใจได้ง่ายขึ้นอีกด้วย สิ่งที่พวกเขาพูดอาจทำให้คุณปลอดภัย
ประหยัดเวลา อาจมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ทั้งนี้เราก็ต้องใช้วิจรณญาณในการเลือกฟังด้วย นอกจากนั้นคนที่เราต้องฟังอีกคนก็คือ เพื่อน เพราะเพื่อนที่ดีต้องรู้จักฟังความคิดเห็นของเพื่อนคนอื่น
ๆ ด้วย ดังนั้นคุณเองก็อย่าลืมทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีด้วย
บางครั้งก็เป็นเรื่องยากที่จะต้องรอคอยใครสักคนพูดจนจบ
หรือบางคนก็รอนานเกินไป เพราะคนพูดไม่พูดอะไรสักที แต่เรื่องแบบนี้เราฝึกฝนกันได้ ต้องใช้เวลา
ฝึกความอดทนในการตั้งใจฟัง และที่สำคัญก่อนที่เราจะตอบคำถามของใครหรือจะพูดอะไรออกไป
ตั้งใจคู่สนทนาให้ดี ๆ ฟังให้ชัด ๆ แล้วค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ตอบ เพราะการรู้จักฟังให้มากมันอาจเปลี่ยนสิ่งที่คุณจะพูดออกไปและเกิดผลดีมากกว่าผลเสียได้
ข้อคิดระหว่างวัน
อย่างแรกคือตั้งใจฟัง เข้าใจดีแล้วจึงค่อยพูดออกไป
คนเราสมัยนี้ มักจะคิดอะไร
แล้วก็พูดออกไปทันที ขาดการไตร่ตรอง จึงทำให้สังคมเกิดความวุ่นวาย ดังนั้นทุกวัน
ต้องเตือนตัวเองเสมอว่า คิดก่อนพูด ห้ามพูดแล้วค่อยมาคิดได้
เพราะพูดออกไปแล้วคำพูดจะเป็นนายของเราทันที
ให้เราอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดาของลูกทั้งหลาย
ขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกเป็นผู้ฟังที่ดี เป็นผู้ฟังที่น่ารัก มีมารยาทในการฟังเมื่อมีคนอื่นพูด
เพราะลูกอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จากเขาเหล่านั้นให้ได้มากที่สุด
ลูกขออธิษฐานในพระนามของพระเยซูคริสต์
อาเมน
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านที่สละเวลามาอธิษฐานร่วมกันนะคะ
การฝึกฟังเสียงของพระเจ้าและติดตามการทรงนำของพระวิญญาณฯเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก
พระเจ้าอยากจะบอกถึงแผนการของพระองค์ที่มีต่อชีวิตของเรา แผนการของพระเจ้าเป็นแผนการที่ดี
แต่เราอาจจะพลาดจากการทรงนำได้ ถ้าเราไม่ฝึกฝนในการฟังเสียงของพระเจ้าหรือไม่เชื่อฟังพระองค์.
อย่าเก็บพระพรและสิ่งดี
ๆที่พระเจ้าทรงมอบให้เราไว้เพียงคนเดียว แต่จงทำให้พระพรนี้เจริญเติบโต
และเกิดประโยชน์กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เราทุกคนอาจได้รับพระพรที่แตกต่างกันไป
แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นคือ การวางใจ ที่พระเจ้าทรงมอบให้เราทุกคน
ถ้าเรารักพระเจ้า
การรับใช้จะไม่เป็นภาระและไม่ใช่การจำใจทำ
แต่จะเป็นโอกาสและเป็นความยินดีที่ได้รับใช้
และสายตาของเราจะมองหาหนทางที่จะรับใช้ให้ดีมากยิ่งๆ ขึ้นไปเสมอ
ถ้าเรารักพระองค์
และไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใด
อย่าย่อท้อต่อการทำหน้าที่ประกาศข่าวดี จงแบ่งปันและบอกเล่าถึงความรักของพระองค์ให้โลกได้รู้ว่า
ความรักของพระองค์นั่นยิ่งใหญ่ มั่นคงและจะคงอยู่ตลอดไป
อย่าลืมศึกษาพระคัมภีร์กันไปวันละนิดวันละหน่อยนะคะ เพราะไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับพระเจ้านะคะ
สิ่งที่เกินกำลังมนุษย์
ไม่ได้เกินกำลังพระเจ้า
เมื่อไม่มีเรี่ยวแรงจะลุกเดิน
จงพึ่งในพละกำลังของพระเจ้า
เมื่อไม่เข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้นกับชีวิต
จงวางใจในพระสัญญา
♥ ชีวิตเราเต็มไปด้วยปัญหาและการทดลองมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาระหน้าที่ที่หนัก ปัญหาของคนที่เรารัก ปัญหาเรื่องสุขภาพ ปัญหาด้านการเงิน
อุปสรรคต่าง ๆ หรือแม้แต่ความเข้าใจผิดจากคนรอบข้าง
♥ อย่าตกหลุมพรางของรายละเอียดของปัญหา ... ขอพระจิตเจ้าช่วยเราให้มองเห็นภาพทั้งหมดในมุมกว้าง ... ในแต่ละวัน จงตั้งใจแน่วแน่ที่จะยืนขึ้นเพื่อมองทุกอย่างในมุมสูง
มองทุกอย่างด้วยความยินดีในพระพรที่พระเยซูเจ้าประทานแก่เราท่ามกลางการทดลองต่าง ๆ
ไม่มีครูใดดีกว่า
"พระจิตเจ้า" ไม่มีถ้อยคำใดที่ดีกว่า "พระวาจา"
พระองค์ไม่เคยสาย
พระองค์ไม่เคยช่วยเราช้าเกินไป แต่พระองค์ทรงทันเวลาเสมอ
♥ “ข้าแต่พระเยซูเจ้า โปรดเปิดตาลูกให้เห็นงานของพระองค์ที่ได้ทำเพื่อลูก
พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งลูกไปแม้ขณะเดียว โปรดช่วยลูกให้วางใจในพระองค์ ลูกจะขอรักพระองค์ตลอดไป ลูกขอถวายทุก ๆ
กิจการการงานไว้กับพระองค์ด้วยเทอญ อาเมน
KC
LOVE GOD
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น