วันที่สองร้อยสิบเจ็ด
- จงฟังเสียงของปัญญา
1ลูกเอ๋ย หากเจ้ารับถ้อยคำของเรา
และสะสมคำบัญชาของเราไว้กับตัว
2หากเจ้าเงี่ยหูฟังปัญญา
ใจจดใจจ่อเพื่อที่จะเข้าใจ
สุภาษิต 2:1-2
คุณมีเรื่องมากมายที่อยากจะพูดออกไปใช่ไหม?
มันก็ดีนะที่ได้พูด! แต่คุณต้องไม่ลืมที่จะเป็นผู้ฟังที่ดีด้วย!
พระเจ้าต้องการให้เราเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
และพระองค์ก็ขอให้เราฟังเสียงของปัญญา การเรียนรู้ทำให้เกิดปัญญา การเป็นคนชอบพูดไม่ผิด
แต่ต้องพิจารณาไตร่ตรอง หรือรู้จักคิดก่อนจะพูดอะไรออกไป ให้ใช้ปัญญา ใช้เหตุผล
ไม่ควรใช้อารมณ์ หรือเวลาที่ผู้ปกครองกำลังว่ากล่าวตักเตือน
สอนคุณ ให้คำแนะนำ ขอให้คุณเปิดหู เปิดใจรับฟังพวกเขาด้วย
และให้แน่ใจว่าตัวคุณเองได้ใส่ใจ ตั้งใจฟังในสิ่งที่คนอื่นกำลังพูดกับคุณ
ไม่ใช่ในหัวสมองคิดแต่ว่า เมื่อไหร่จะถึงตาคุณได้พูดบ้าง เพราะหากเป็นแบบนั้น
ก็เท่ากับว่า ตัวคุณได้ปิดโอกาสตัวเองในการรับรู้ความคิดเห็น
ปิดโอกาสในการเรียนรู้สิ่งใหม่จากคนอื่น และถ้าหากว่า ในขณะที่คนอื่นกำลังพูดอยู่นั้น
แล้วคุณมีคำถามที่อยากจะถาม ยกมือขึ้น แล้วรอโอกาส และถาม โดยไม่ต้องอายที่จะถาม
เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ฟังมากกว่าผู้พูด คุณจะมีโอกาสได้เรียนรู้
สิ่งใหม่ ๆ จากบทสนทนานั้น ๆ ได้กว่าคนอื่น ดังนั้นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจึงเป็นประโยชน์ต่อเราทุกคน
ข้อคิดระหว่างวัน
ภูมิปัญญาของคนแต่ละคนอาจรู้แตกต่างกันออกไป
ดังนั้นปัญญาจึงมีอยู่ในทุก ๆ วงสนทนา หากเราอยากเรียนรู้สิ่งใหม่
จงกล้าเปิดใจที่จะรับฟัง เพื่อแลกเปลี่ยน เรียนรู้แนวคิดใหม่ ๆ เพื่อมาปรับใช้ในหน้าที่การงานและชีวิตของตัวเราเอง
อย่ายึดเอาตนเองเป็นหลัก!
ให้เราอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดาของลูกทั้งหลาย
บางครั้งการนั่งฟังใครบางคนพูดก็เป็นเรื่องยากสำหรับลูกอยู่เหมือนกัน
เพราะบางครั้งลูกเองก็อยากจะพูดตอบโต้อะไรออกไปบ้าง เสนอความคิดในแนวของลูกบ้าง ขอพระองค์โปรดทรงช่วยให้ลูกมีความอดทนในการเป็นผู้ฟังที่ดี
และช่วยให้ลูกมีสติปัญญามากพอในการดำเนินชีวิตในแต่ละวันด้วยเทอญ
ลูกขออธิษฐานในพระนามของพระเยซูคริสต์
อาเมน
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านที่สละเวลามาอธิษฐานร่วมกันนะคะ
การฝึกฟังเสียงของพระเจ้าและติดตามการทรงนำของพระวิญญาณฯเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก
พระเจ้าอยากจะบอกถึงแผนการของพระองค์ที่มีต่อชีวิตของเรา
แผนการของพระเจ้าเป็นแผนการที่ดี แต่เราอาจจะพลาดจากการทรงนำได้
ถ้าเราไม่ฝึกฝนในการฟังเสียงของพระเจ้าหรือไม่เชื่อฟังพระองค์.
อย่าเก็บพระพรและสิ่งดี
ๆที่พระเจ้าทรงมอบให้เราไว้เพียงคนเดียว แต่จงทำให้พระพรนี้เจริญเติบโต
และเกิดประโยชน์กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เราทุกคนอาจได้รับพระพรที่แตกต่างกันไป
แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นคือ การวางใจ ที่พระเจ้าทรงมอบให้เราทุกคน
ถ้าเรารักพระเจ้า การรับใช้จะไม่เป็นภาระและไม่ใช่การจำใจทำ
แต่จะเป็นโอกาสและเป็นความยินดีที่ได้รับใช้
และสายตาของเราจะมองหาหนทางที่จะรับใช้ให้ดีมากยิ่งๆ ขึ้นไปเสมอ
ถ้าเรารักพระองค์
และไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใด
อย่าย่อท้อต่อการทำหน้าที่ประกาศข่าวดี จงแบ่งปันและบอกเล่าถึงความรักของพระองค์ให้โลกได้รู้ว่า
ความรักของพระองค์นั่นยิ่งใหญ่ มั่นคงและจะคงอยู่ตลอดไป
อย่าลืมศึกษาพระคัมภีร์กันไปวันละนิดวันละหน่อยนะคะ
เพราะไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับพระเจ้านะคะ
สิ่งที่เกินกำลังมนุษย์
ไม่ได้เกินกำลังพระเจ้า
เมื่อไม่มีเรี่ยวแรงจะลุกเดิน
จงพึ่งในพละกำลังของพระเจ้า
เมื่อไม่เข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้นกับชีวิต
จงวางใจในพระสัญญา
♥ ชีวิตเราเต็มไปด้วยปัญหาและการทดลองมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นภาระหน้าที่ที่หนัก ปัญหาของคนที่เรารัก ปัญหาเรื่องสุขภาพ
ปัญหาด้านการเงิน อุปสรรคต่าง ๆ หรือแม้แต่ความเข้าใจผิดจากคนรอบข้าง
♥ อย่าตกหลุมพรางของรายละเอียดของปัญหา ...
ขอพระจิตเจ้าช่วยเราให้มองเห็นภาพทั้งหมดในมุมกว้าง ... ในแต่ละวัน
จงตั้งใจแน่วแน่ที่จะยืนขึ้นเพื่อมองทุกอย่างในมุมสูง
มองทุกอย่างด้วยความยินดีในพระพรที่พระเยซูเจ้าประทานแก่เราท่ามกลางการทดลองต่าง ๆ
ไม่มีครูใดดีกว่า
"พระจิตเจ้า" ไม่มีถ้อยคำใดที่ดีกว่า "พระวาจา"
พระองค์ไม่เคยสาย
พระองค์ไม่เคยช่วยเราช้าเกินไป แต่พระองค์ทรงทันเวลาเสมอ
♥ “ข้าแต่พระเยซูเจ้า
โปรดเปิดตาลูกให้เห็นงานของพระองค์ที่ได้ทำเพื่อลูก
พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งลูกไปแม้ขณะเดียว โปรดช่วยลูกให้วางใจในพระองค์ ลูกจะขอรักพระองค์ตลอดไป ลูกขอถวายทุก ๆ
กิจการการงานไว้กับพระองค์ด้วยเทอญ อาเมน
KC
LOVE GOD
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น