ขอทานชื่อลาซารัส
19“มีเศรษฐีคนหนึ่งนุ่งห่มผ้าสีม่วงและผ้าป่านเนื้อดี
อยู่อย่างรื่นเริงฟุ่มเฟือยทุกๆ วัน 20และมีคนยากจนคนหนึ่งชื่อลาซารัส
เป็นแผลทั้งตัว นอนอยู่ที่ประตูรั้วบ้านของเศรษฐี
ลูกา 16:19-21
ช่างเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับลาซารัส ชายขอทานผู้ยากไร้ ไม่มีอะไรที่เป็นของเขาในชีวิตบนโลกนี้ เขายากจน แถมยังป่วยด้วย เขาหิวข้าวมากจริงๆ ! ลาซารัสไปขอเศษอาหารจากโต๊ะของเศรษฐี ขอแค่เศษเสี้ยวเล็กๆ น้อยๆ มันก็จะทำให้เขามีความสุขได้แล้ว แต่ดูเหมือนเศรษฐีผู้มีทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ได้ทำอะไรเพื่อลาซารัสเลย เขาเพียงมองผ่านไปเท่านั้นและแม้สุนัขก็มาเลียแผลของเขา ต่อมาคนขอทานผู้ยากจนนั้นก็ตาย และพวกทูตสวรรค์นำเขาไปอยู่กับอับราฮัม ส่วนเศรษฐีคนนั้นก็ตายด้วย และถูกฝังไว้
เมื่อเรื่องราวดำเนินต่อไป เราได้เรียนรู้ว่าเมื่อชายทั้งสองตาย
ลาซารัสได้ไปสวรรค์ ส่วนเศรษฐีก็ไปที่นรกและต้องตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน
มีช่องว่างขนาดใหญ่ (ให้คุณนึกถึงรอยแยกของหลุมที่มีขนาดใหญ่และลึกมาก)
ระหว่างสวรรค์กับนรก ตัวเศรษฐีสามารถมองเห็นข้ามรอยแยกนั้นขึ้นไปแล้วมองเห็นลาซารัสชายขอทานผู้ยากไร้อยู่ข้างบน
เขากำลังมีความสุขกับชีวิตในบ้านสวรรค์ของเขา และคนรวยนั้นได้ร้องขอน้ำดื่มเพียงหยดเดียวเพื่อช่วยทำให้ลิ้นของเขาเย็นลง
แต่ช่องว่างนั้นใหญ่และลึกเกินไปที่ลาซารัสจะเอื้อมไปถึงเขาได้
ประเด็นคือ บางคนรอบกายเราที่ดูเหมือนจะมีทุกอย่างในชีวิต(ที่บนโลกนี้)
แต่ในท้ายที่สุด ความร่ำรวยนั้นไม่ได้ช่วยให้ใครไปสวรรค์ได้เลย
สิ่งเดียวที่สำคัญคือ ในขณะที่เขามีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ความสัมพันธ์ส่วนตัวของเขากับพระเยซูเป็นอย่างไร?
เขาได้ต้อนรับพระเยซูคริสต์มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอด และรับการอภัยโทษจากพระบิดาเจ้า หรือไม่? หากไม่มีสิ่งนั้นเขาก็จะไม่ได้อยู่บนสวรรค์
ดังนั้นความร่ำรวยทั้งหมดในโลกนี้จะไม่สามารถช่วยพวกเราคนใดคนหนึ่งได้เลย
ข้อสรุปที่ดีคือ
ในชีวิตประจำวันที่รีบเร่งของเรา เราได้ “เห็น” ความลำบากของผู้คนแล้วลงมือช่วยเขามากน้อยแค่ไหน
ความรักที่เรามีได้แสดงออกไปต่อผู้ที่ยากลำบากกว่าเราแค่ไหน
ข้อควรจำ ความสามารถในการ “เห็น”
ความทุกข์ใจของผู้อื่นเป็นสัญลักษณ์ของสาวกพระเยซูคริสต์
พระเยซูทรงรักเรา ทรงเห็นใจเรา
และทรงลงมาเพื่อเรา วันนี้คุณได้เห็นใครไหมที่กำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่
อย่าให้เราเป็นเหมือนเศรษฐีที่ได้แค่มองแต่กลับไม่ได้ทำอะไรเลย
สวรรค์จะเป็นที่น่าเกรงขามสำหรับผู้ที่เลือกพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด
นรกจะเป็นที่น่าสะพรึงกลัวมากสำหรับคนที่ปฏิเสธพระองค์
เราควรบอกข่าวประเสริฐแก่ผู้หลงหายไปอย่างเร่งด่วนมากขึ้น พระคัมภีร์กล่าวชัดเจนว่ามีเพียงผู้เดียวและทางเดียวที่จะไปถึงสวรรค์-โดยทางพระเยซูคริสต์
พระเยซูได้ทรงให้คำเตือนนี้แก่เรา “จงเข้าไปทางประตูแคบ
เพราะประตูใหญ่และทางกว้างนำไปสู่ความพินาศ และคนเป็นอันมากเข้าไปทางนั้น
ส่วนประตูเล็กและทางแคบนำไปสู่ชีวิต และมีเพียงไม่กี่คนที่ค้นพบ” (มัทธิว 7:13-14)
ถ้าคุณต้องการต้อนรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของคุณ
รับการอภัยโทษจากพระเจ้า นี่คือตัวอย่างคำอธิษฐาน (ขอให้คุณจำไว้ว่า..
การกล่าวตามคำอธิษฐานหรือการอธิษฐานแบบใดๆก็ตาม ไม่ได้ช่วยให้คุณได้รับความรอด)
มีเพียงความเชื่อและได้ไว้วางใจในพระเยซูคริสต์เท่านั้นที่ช่วยคุณให้ได้รับความรอดจากโทษของความบาป คำอธิษฐานนี้เป็นวิธีการง่ายๆ
ที่จะแสดงถึงความเชื่อของคุณที่มีในพระเจ้า
และเป็นการขอบพระคุณพระองค์ที่ได้ทรงนำคุณให้พ้นจากอำนาจของความบาป… “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าได้กระทำผิดบาปต่อน้ำพระทัยของพระองค์
และข้าพเจ้าสมควรจะได้รับการลงโทษนั้นๆ
แต่พระเยซูคริสต์ได้ทรงยอมรับโทษบาปนั้นไปจากชีวิตของข้าพเจ้า
เพื่อข้าพเจ้าจะได้รับการอภัยโทษ โดยผ่านทางความเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้า
ข้าพเจ้ายินดีหันหลังให้กับความบาปทั้งปวงของข้าพเจ้า
และขอมอบความไว้วางใจให้กับพระองค์ทรงนำชีวิตของข้าพเจ้าให้พ้นจากบาปทั้งปวงด้วย
ขอขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระคุณอันยิ่งใหญ่และการให้อภัยจากพระองค์
ซึ่งเป็นของขวัญแห่งชีวิตนิรันดร์! ขออธิษฐานในพระนามขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า ..
อาเมน!”
ขอพระเจ้าอวยพระพร
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระเจ้า ลูกดีใจที่รู้ว่ามีสิ่งหนึ่งที่จะพาลูกไปสวรรค์ได้
นั่นก็คือการต้อนรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด และรับการอภัยโทษจากพระบิดาเจ้า พระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์
พระเยซูเป็นเพียงผู้เดียวและทางเดียวที่จะนำลูกไปถึงสวรรค์ นับจากนี้ลูกจะดำเนินชีวิตและติดตามพระเยซูอย่างดีที่สุด
ลูกขอขอบพระคุณที่ให้โอกาสลูกได้มีส่วนร่วมในแผ่นดินสวรรค์และได้ใช้เวลาชั่วนิรันดร์กับพระองค์ที่นั่น!
ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก
หนังสือ 3 minute devotions
kanoklee.medium
knowgod
dondaniele
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น