ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ
วันนี้ดวงตาของคุณกำลังสื่ออะไรออกไปยังผู้อื่นบ้าง
เพราะฉะนั้น
ใจข้าพเจ้าจึงยินดีและจิตวิญญาณก็เปรมปรีดิ์
ร่างกายของข้าพเจ้าก็อาศัยอยู่อย่างปลอดภัยด้วย
สดุดี 16:9
ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ ดวงตาเป็นสิ่งที่สะท้อนความรู้สึกนึกคิดและจิตวิญญาณ
การแสดงออกทางสายตานั้น
สามารถบ่งชี้ได้ว่ามนุษย์ทุกคนใช้วิธีการแสดงออกทางสีหน้าเพื่อสื่อสารทางสังคม สายตาที่เปล่งประกายนั้นสามารถสะท้อนอารมณ์
และความรู้สึกของคุณได้เป็นอย่างดี
คุณเคยเจอใครที่มีแววตาเปล่งประกายบ้างไหม? คนที่คุณแค่มองดูแววตาและใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขา คุณก็สามารถรับรู้ได้ถึงความสุขที่เปี่ยมล้นในใจที่ส่งผ่านออกมาทางแวววตาคู่นั้น
แววตาของเขาเปรียบเสมือนกับหน้าต่างกระจกสีที่แววววาว มันจะส่องแสงระยิบระยับ ดวงตานั้นได้สะท้อนถึงความมั่นคง
หนักแน่น ความซื่อสัตย์ และความรักของพระเจ้า คุณจะสัมผัสได้ถึงความสุขที่เขามีเพราะว่าความสุขจากจิตใจที่ร่าเริงยินดีนี้
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัว ! เขาไม่ได้แสร้งทำเป็นมีความสุขนะ
แต่เขาเป็นอย่างนั้นจริงๆ!และ การที่ได้อยู่ใกล้ ๆ คนแบบนี้มันจะทำให้ใครก็ตามที่อยู่ใกล้มีความสุขไปด้วย
เพราะพวกเขามีพลังงานบวกที่ส่งผ่านมาถึงคนข้างๆได้
นี่เป็นข่าวดี: คุณสามารถเป็นคนๆนั้นได้! คุณสามารถเป็นกระจกสีที่ส่องแสงแวววาวระยิบระยับบานนั้น ซึ่งหน้าที่ของมันคือคอยส่องประกายให้กับพระเยซู
คุณจะชื่นชมยินดีได้เมื่อคุณเรียนรู้ที่จะดำเนินชีวิตอยู่ในความรักของพระเยซู วางใจและเชื่อในพระองค์ ไม่ว่าสิ่งรอบตัวจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด
คุณก็ไม่กลัวเพราะคุณรู้ว่าพระเจ้าคือผู้ควบคุมทุกอย่าง และคุณรู้ว่าพระองค์รักคุณ
เมื่อความเชื่อของคุณมั่นคงไม่สั่นคลอนไปกับแรงกระแทกของปัญหา คุณก็จะมีสันติสุขในใจ
ดวงตาและรอยยิ้มบนใบหน้าของคุณจะส่องประกายระยิบระยับให้แก่คนรอบข้างได้เห็น
เขาจะสัมผัสได้ถึงความสุขนั้น
การดำเนินชีวิตทุกอย่างของมนุษย์ขึ้นอยู่ที่ใจเป็นตัวกำหนด
ในพระคัมภีร์ สุภาษิต 17:22 กล่าวว่า “ใจร่าเริงเป็นยาอย่างดี” ใจร่าเริงแปลได้อีกอย่างว่า
“ใจที่เป็นสุข” มิใช่เป็นการเสแสร้งแกล้งทำจากภายนอก (เหมือนกับพวกนักแสดงต่างๆตามทางหน้าจอทีวี
หลายคนจะหน้าชื่นอกตรม ต่อหน้าคนอื่นต้องคอยหัวเราะร่าเริง แต่พออยู่ที่บ้านพวกเขากลับเงียบขรึมและเป็นโรคซึมเศร้า)
แต่ทว่ามันเกิดขึ้นจากส่วนลึกภายในจิตใจ “จิตใจที่เป็นสุขทำให้หน้าตาสดใส
จิตใจที่ร้าวรานทำให้ดวงวิญญาณแหลกสลาย” และ “ประกายตาที่สดใส นำความสุขมาสู่จิตใจ การได้ยินข่าวดี
ทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย” (สุภาษิต 15:13,30)
เมื่อจิตใจของคุณยินดี จิตวิญญาณก็เปรมปรีดิ์ คุณจะขอบคุณพระเจ้าได้ในทุกสถานการณ์
และความสุขจากภายใจใจคุณจะส่องประกายระยิบระยับออกมา จนใครๆ
ก็อยากจะรู้ว่า ทำไมคุณถึงเปล่งประกายราวกับดวงดาว!
อะไรที่ทำให้คุณยิ้มได้แบบนี้! พวกเขาอาจจะเปลี่ยนใจและอยากเข้ามาทำความรู้จักกับพระเยซูเป็นการส่วนตัวบ้างก็ได้
ใครจะรู้!
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดาที่รัก ลูกต้องการส่องแสงเปล่งประกายเพื่อพระองค์!
ลูกอยากมีความสุขจนคนอื่นๆสามารถมองเห็นผ่านผ่านแววตาที่สดใสและรอยยิ้มที่สดชื่นจริงใจของลูกได้ แล้วพวกเขาก็จะพูดว่า "ว้าว! ฉันก็อยากได้สัมผัสกับความสุขแบบนั้นบ้างจังเลย!" ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า
อาเมน
ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก
หนังสือ 3 minute devotions
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น