วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2564

คำตอบสำหรับการอธิษฐาน

 


คำตอบสำหรับการอธิษฐาน

ทุกสิ่งที่ท่านอธิษฐานขอด้วยความเชื่อก็จะได้”

มัทธิว 21:22

1 พงศ์กษัตริย์ 18 เล่าเรื่องราวว่าเอลียาห์ศาสดาพยากรณ์ถูกส่งไปยังสะมาเรียโดยมีข้อความว่าฝนจะมาในไม่ช้า ทั้งๆที่ไม่มีวี่แววของฝน แต่เอลียาห์มีความเชื่อว่าฝนกำลังจะมาเพราะพระเจ้าตรัสเช่นนั้น เอลียาห์ส่งคนรับใช้ไปเจ็ดครั้งเพื่อดูว่ามีเมฆมาหรือไม่ ทุกครั้งที่คนรับใช้กลับมารายงานว่าไม่มีอะไร แต่ในครั้งที่เจ็ดคนรับใช้กลับมารายงานว่ามีเมฆเล็กน้อย และแล้วฝนก็ตกในไม่ช้า ศรัทธาคือการเชื่อในสิ่งที่คุณมองไม่เห็น คุณอาจไม่เห็นคำตอบสำหรับคำอธิษฐานของคุณในทันที แต่จงมีศรัทธาต่อไปและคุณจะได้รับ อย่ายอมแพ้! จงทูลขอและวางใจในพระเจ้าต่อไป พระองค์สัญญาว่าจะตอบเรา

ท่านเอลียาห์ก็เป็นมนุษย์เหมือนพวกเรา ท่านอธิษฐานอย่างร้อนใจที่ฝนจะไม่ตก และฝนก็ไม่ตกรดแผ่นดินนานสามปีครึ่ง เมื่อท่านอธิษฐานอีกครั้ง ฟ้าก็เทฝนลงมา และทำให้แผ่นดินเกิดพืชผล ถอดความจากยากอบ 5:17-18

การอธิษฐานของเอลียาห์จากพันธสัญญาเดิม เป็นคำ อธิษฐานที่ทำให้เราเห็นพลังคำอธิษฐานอย่างชัดเจน คำอธิษฐานของเขาทำให้ฝนหยุดตกไปถึงสามปีครึ่ง และ เมื่อเขาทูลขออีก พระเจ้าก็ประทานฝนให้ ท่านเป็นคน เหมือนอย่างเรา มีความกลัว ต้องทนทุกข์ ยากลำบาก แต่สิ่งที่ท่านต่างก็คือ ท่านอธิษฐานอย่างร้อนใจ ร้อนรน เอาจริงเอาจัง เชื่อแน่ว่าพระเจ้าจะประทานให้ พิจารณาท่านให้ดี และเปลี่ยนชีวิตอธิษฐานของเรา

สิ่งที่คริสเตียนต้องตระหนักคือความสำคัญของการอธิษฐานด้วยความเชื่อ พระเจ้าทรงโปรดลูกของพระองค์ที่มีท่าทีแห่งความเชื่อในการเข้าเฝ้าพระองค์ด้วยความเชื่อและความถ่อมใจ มีความกล้าและความมั่นใจในการอธิษฐานทูลขอต่อพระองค์ พระเจ้าพร้อมที่จะช่วยเหลือลูกของพระองค์ด้วยความเมตตากรุณา “ฉะนั้นขอให้เราทั้งหลายจงมีใจกล้าเข้ามาถึงพระที่นั่งแห่งพระคุณ เพื่อเราจะได้รับพระเมตตา และจะได้รับพระคุณที่จะช่วยเราในขณะที่ต้องการ”(ฮบ.4:16)

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

 bubee.net

 jaisamarnchurch.org


วันอังคารที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2564

คำแนะนำจากพระเจ้า

 


คำแนะนำจากพระเจ้า

เราจะแนะนำและสอนเจ้าถึงทางที่เจ้าควรจะเดินไป

เราจะให้คำปรึกษาแก่เจ้าและเฝ้าดูเจ้าอยู่

สดุดี 32: 8

ลองจินตนาการว่าตัวคุณเองกำลังเดินหลงอยู่กลางป่า คุณไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนจึงไม่รู้ทาง ไม่มีอะไรในป่านอกจากคุณและธรรมชาติ ตอนนี้คุณพยายามหาทางกลับบ้าน คุณมองไปรอบ ๆ ตัวคุณและเห็นทางเดินมากมาย แต่ไม่มีสัญลักษณ์บ่งบอกว่าทางไหนนำไปสู่ทางที่ถูกต้อง คุณไม่รู้จะเลือกไปทางไหน คุณไม่รู้เลยว่าเส้นทางไหนจะพาคุณกลับถึงบ้าน

บางครั้งชีวิตก็เป็นเช่นนั้น อาจเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับสิ่งต่างๆทุกเรื่องได้อย่างถูกต้อง คุณอาจกังวลว่าคุณอาจทำผิดพลาด แต่อย่ากังวลไปเลยเพราะว่าชีวิตของคุณไม่ได้ถูกทิ้งไว้โดยไม่มีทิศทางหรือคำแนะนำให้ พระเจ้าจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและนำทางคุณไปในเส้นทางที่ถูกต้องในการดำเนินชีวิต

ถ้าชีวิตในฝ่ายร่างกายของมนุษย์เรา เรายังต้องการการนำฉันใด ชีวิตในฝ่ายจิตวิญญาณของเรา เราก็ต้องการการนำด้วยฉันนั้น   และผู้ที่จะนำชีวิตในฝ่ายจิตวิญญาณของเราได้เป็นอย่างดีที่สุด ยอดเยี่ยมที่สุด ปลอดภัยที่สุด นั่นก็คือ พระเจ้า ที่เป็นผู้ทรงสร้างเราขึ้นมา และก็เป็นเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นจริงๆ

ไม่มีเครื่องไม้ เครื่องมือหรืออุปกรณ์ชนิดใดๆทั้งสิ้นในโลกใบนี้ ที่จะนำชีวิตทั้งในฝ่ายโลกและในฝ่ายจิตวิญญาณของมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลมากที่สุด นอกเหนือจากองค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรา ซึ่งนั่นหมายความว่า มิใช่ด้วยการที่มนุษย์นั้นพยายามที่จะดำเนินชีวิตของตนเองอย่างดีที่สุด แล้วเราก็คิดว่าชีวิตของเรานั้นมันก็คงจะดีไปเอง มันไม่ใช่เลย

ถ้าองค์พระเยซูคริสต์เจ้า ผู้ซึ่งเป็นพระบุตรของพระเจ้าแท้ ๆ  ยังต้องการการทรงนำจากพระบิดาของพระองค์ในแต่ละวันทุกวัน แล้วเราเป็นผู้ใดเล่า ถึงจะไม่ให้พระองค์ทรงนำ 1 ) ชีวิตของเรา , ครอบครัวของเรา 2 ) คริสตจักรของเราหรือการรับใช้ของเรา 3 ) ธุรกิจของเรา การงานหรือการอาชีพของเรา

เบื้องหลังคนที่ประสบความสำเร็จที่สุด และอยู่รอดในทุกๆสถานการณ์

ไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นคนรวย..

ไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นคนที่มีความรู้ หรือชื่อเสียง...

แต่เป็นเพราะว่า "พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังชีวิตของเขา"

พระวิญญาณบริสุทธิ์ คือ “พระผู้ช่วย” พระองค์มีความรู้ มีสติปัญญาและสามารถช่วยเหลือเราได้ในทุกๆเรื่อง พระองค์เป็นผู้ประทานฤทธิ์เดชให้แก่เรา ซึ่งช่วยทำให้เกิดการเติบโตขึ้นฝ่ายจิตวิญญาณ (โรม 12, 1 โครินธ์:12, เอเฟซัส 4)

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่ทรงนำพาและห่วงใยลูกทุกย่างก้าว โปรดช่วยให้ลูกวางใจในพระองค์ทุกวัน ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

pga-church.org

เฟสบุคพระเจ้ามีจริง - God is Real

 thaiodb.org


วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2564

แกะเหล่านั้นจะไม่มีวันพินาศ

 


ความปลอดภัย

เราให้ชีวิตนิรันดร์แก่แกะทั้งหลาย แกะเหล่านั้นจะไม่มีวันพินาศและจะไม่มีใครแย่งชิงแกะนั้นไปจากมือของเราได้

ยอห์น 10:28

พระเยซูผู้เลี้ยงแกะที่ดีของเราทรงรู้จักเราแต่ละคนเป็นการส่วนตัว พระองค์ทรงคอยดูแลเรา แนะนำเรา และพูดคุยกับเรา เมื่อเราฟังเสียงของพระองค์และติดตามพระองค์ พระองค์ทรงโอบแขนรอบตัวเราและกอดเราไว้ใกล้ๆ พระองค์ แม้ว่าซาตานอาจพยายามดึงเราออกจากพระเยซู แต่มันก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ พระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรักของเราพิสูจน์แล้วว่า พระองค์ทรงมีฤทธิ์อำนาจเหนือซาตานเมื่อพระองค์ทรงเป็นขึ้นจากความตายและเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ โดยความเชื่อในพระเยซูเราได้รับของประทานแห่งชีวิตนิรันดร์และพระสัญญาว่าเราจะไม่มีวันพินาศเลย

ไม่มีอะไรและไม่มีใครสามารถพรากคุณไปจากพระเจ้าได้ ไม่มีอะไรจริงๆ! พระองค์จะไม่ปล่อยให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น พระองค์มอบของขวัญแห่งชีวิตนิรันดร์ให้คุณเพื่อที่คุณจะได้อยู่กับพระองค์ตลอดไป

 แม้ว่าพระคริสตธรรมคัมภีร์จะชี้ให้เห็นอย่างชัดจนว่า ผู้เชื่อแท้ทุกคนที่ได้รับความรอดแล้วจะไม่พินาศอีกเลยก็ตาม แต่เราก็ไม่ประมาท เพราะพระคัมภีร์สอนว่า เมื่อพระเจ้าทรงรับเราเป็นบุตรแล้ว ถ้าเราทำผิดเราก็ต้องได้รับการตีสอนจากพระองค์ ฮบ.12: 5 – 12

พระเจ้าทรงตีสอนเราเพราะ

พระองค์ทรงรักเรา ฮบ.12: 5

เพื่อเป็นประโยชน์แก่เรา ฮบ. 12: 10

เพื่อให้เราได้เข้าในวิสุทธิ์สถานของพระองค์ ฮบ.12 :10

เพื่อไม่ให้เราถูกพพิพากษาไปกับโลก 1 คร.11: 12

แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า การตีสอนนั้น ๆ จะต้องมาในแบบเดียวกันทุกครั้งไป เพราะพระเจ้าทรงทราบดีว่า บุตรของพระองค์แต่ละคน ควรได้รับการตีสอนในรูปแบบใด ซึ่งพระเจ้าเป็นผู้ไม่เคยผิดพลาดจะเป็นผู้จัดการให้เหมาะสมทุกครั้งไป

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

เฟสบุค LHM Thailand ก้าวไปสู่ความสว่าง

 jaisamarnchurch.org


วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2564

ชีวิตนิรันดร์

 


ชีวิตนิรันดร์

เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า คนที่วางใจก็มีชีวิตนิรันดร์

ยอห์น 6:47

พระวรสารในวันนี้กล่าวถึงคนที่วางใจก็จะมีชีวิตนิรันดร์ ชีวิตที่ไม่มีสิ้นสุดคือชีวิตนิรันดร์ และผู้ที่เชื่อวางใจในพระเยซูจะได้รับชีวิตนิรันดร์

ชีวิตนิรันดร์เป็นมากกว่าการมีอยู่ที่ไม่รู้จบสิ้นเป็นคุณภาพชีวิตที่เต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี คำถามคือคุณเชื่อในพระเยซูไหม? ถ้าเชื่อ คุณมีชีวิตนิรันดร์ คุณไม่ต้องให้ไปสวรรค์ก่อนถึงจะได้รับ คุณได้รับตอนนี้เลย เป็นของคุณในเวลานี้ ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าคุณมีชีวิตนิรันดร์ บางทีคุณอาจจะยังไม่ได้บังเกิดใหม่ นี่คือเวลาของคุณ คุณสามารถรับชีวิตนิรันดร์ได้เดี๋ยวนี้โดยขอเชิญพระเยซูเข้ามาในใจของคุณ เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของคุณ

 เมื่อคุณต้อนรับพระคริสต์ คุณได้รับชีวิตนิรันดร์ คุณได้รับชีวิตอย่างพระเจ้า รับธรรมชาติของพระเจ้า คุณได้รับรู้ถึงความเป็นพระบิดาของพระเจ้า คุณเป็นหนึ่งกับพระองค์

ของขวัญแห่งชีวิตนิรันดร์สัญญาไว้กับผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ นั่นหมายถึงการมีชีวิตอยู่ตลอดไปกับพระเยซูในสวรรค์ ร่างกายของคุณจะตาย แต่คุณไม่ต้องกลัวสิ่งนั้นเพราะวิญญาณของคุณจะยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไป พระเยซูตรัสว่าคุณจะได้รับร่างกายจากสวรรค์  1 โครินธ์ 15:53 กล่าวว่า เพราะว่าสิ่งที่เสื่อมสลายได้นี้ต้องสวมด้วยสิ่งที่เสื่อมสลายไม่ได้ และสภาพที่ต้องตายนี้ต้องสวมด้วยสภาพที่ไม่ตาย  เมื่อสิ่งที่เสื่อมสลายได้นี้สวมด้วยสิ่งที่เสื่อมสลายไม่ได้และสภาพที่ต้องตายนี้สวมด้วยสภาพที่ไม่ตาย เมื่อนั้นพระวจนะที่เขียนไว้จะสำเร็จว่า “ความตายก็ถูกกลืนเข้าในชัยชนะแล้ว   เหล็กในของความตายนั้นคือบาป และอำนาจของบาปคือธรรมบัญญัติ  สาธุการแด่พระเจ้า ผู้ประทานชัยชนะแก่เรา โดยพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

หากคุณต้องการต้อนรับเอาพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด นี่คือตัวอย่างคำอธิษฐาน (ขอให้คุณจำไว้ว่า การกล่าวตามคำอธิษฐานหรือการอธิษฐานแบบใดๆก็ตาม ไม่ได้ช่วยให้คุณได้รับความรอด) มีเพียงความเชื่อและไว้วางใจในพระคริสต์เท่านั้น ที่ช่วยคุณให้รอดจากโทษของบาป คำอธิษฐานนี้เป็นวิธีการง่าย ๆ ที่จะแสดงถึงความเชื่อของคุณที่มีในพระเจ้า และเป็นการขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงไถ่คุณให้พ้นจากอำนาจบาป… “ ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าได้กระทำบาปต่อพระองค์ และข้าพเจ้าสมควรได้รับการลงโทษ แต่พระเยซูคริสต์ทรงรับโทษไปจากชีวิตของข้าพเจ้า เพื่อข้าพเจ้าจะได้รับการยกโทษโดยผ่านทางความเชื่อในองค์พระคริสต์ ข้าพเจ้ายินดีหันหลังให้กับความบาปทั้งปวงของข้าพเจ้า และขอมอบความไว้วางใจในพระองค์สำหรับการไถ่ข้าพเจ้าให้พ้นจากบาป ขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระคุณอันยิ่งใหญ่และการให้อภัยจากพระองค์ ซึ่งเป็นของขวัญแห่งชีวิตนิรันดร์! ขออธิษฐานในพระนามขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า .. อาเมน!”

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ข้าพระองค์ขอบคุณสำหรับชีวิตของพระองค์และธรรมชาติของพระองค์ที่ข้าพระองค์ได้รับในพระคริสต์ ข้าพระองค์ได้ตระหนักถึงความจริงแห่งแผ่นดินของพระเจ้า ขอบพระคุณที่ทรงรักข้าพระองค์และประทานชีวิตของพระองค์และธรรมชาติที่ชอบธรรมของพระองค์แก่ข้าพระองค์ ซึ่งทำให้ข้าพระองค์ดำเนินอยู่ในการสถิตของพระองค์ และดำเนินในการครอบครอง ในนามพระเยซู อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

 gotquestions.org

 rorthai.com


วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2564

การวางใจในพระเจ้านั้นจะขจัดความกลัวออกไป

 



การวางใจในพระเจ้านั้นจะขจัดความกลัวออกไป  

เพราะว่าพระเจ้าไม่ได้ประทานใจที่ขลาดกลัวแก่เรา แต่ประทานใจที่ประกอบด้วยฤทธานุภาพ ความรัก และการบังคับตนเองแก่เรา

2 ทิโมธี 1: 7

ความกลัวเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกคน  ความกลัวนั้นมีทั้งที่เป็นประโยชน์และเป็นโทษ  และจิตใจที่ขลาดกลัวนั้นก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า  ความกลัวมีอิทธิพลต่อเรา  เราจึงกลัวการถูกปฏิเสธ  เรากลัวกับความไม่มั่นคงในชีวิต  เรากลัวอนาคต และเรากลัวกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ  และความกลัวนั้นครอบงำเราทำให้เราไม่สามารถไว้ใจพระเจ้าผู้ทรงเป็นที่พึ่งพาของเราได้ 

พระเจ้าเข้าใจในความอ่อนแอและความไม่สมบูรณ์ของเรา  พระองค์จึงประทานกำลังใจให้กับเราในการต่อสู้กับความกลัวซึ่งพบในพระคัมภีร์ตลอดทั้งเล่ม

การวางใจในพระเจ้านั้นจะขจัดความกลัวออกไป  แม้เราต้องตกอยู่ในความยากลำบาก สิ้นหวัง  และท้อถอยใจ  พระองค์จะทรงประทาน  “จิตที่กอปรด้วยฤทธิ์ ความรัก และการบังคับตนเองให้แก่เรา” (2ทิโมธี1:7)    พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทับอยู่ในชีวิตของเรา  และพระคัมภีร์ว่า  “พระเจ้าคือความรัก”  และ “ความรักขจัดความกลัวไปเสีย”  ยิ่งเราติดสนิทกับพระเจ้ามากเท่าไหร่  ความกลัวในชีวิตของเราก็จะลดหายไปมากเท่านั้น

เมื่อเราแสวงหาพระเจ้าอย่างสุดจิตสุดใจ  เราจะเกิดความไว้วางใจในพระองค์  เราจะไม่กลัวสิ่งต่างๆ ที่เข้ามาขัดขวางทำลายชีวิตของเราอีกต่อไป   คนที่เข้ามา  “...ลี้ภัยอยู่ในพระองค์นั้นเปรมปรีดิ์  ให้เขา ร้องเพลงด้วยความชื่นชมยินดีอยู่เสมอ และขอทรงป้องกันเขา ไว้ เพื่อคนที่รักพระนามของ พระองค์จะปรีดาปราโมทย์อยู่ในพระองค์”  (สดุดี5:11)

หากคุณเป็นลูกของพระเจ้าคุณ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ใด ๆ เมื่อคุณเริ่มกลัว โปรดจำไว้ว่าความกลัวของคุณไม่ได้มาจากพระเจ้า แต่พระองค์ทรงสัญญาว่าจะประทาน  “จิตที่กอปรด้วยฤทธิ์ ความรัก และการบังคับตนเองให้แก่เรา”

ขอพระคุณดำรงอยู่กับบรรดาคนที่รักพระเยซูคริสตเจ้าของเรา อย่างไม่มีวันเสื่อมสลาย

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ลูกขอขอบพระคุณสำหรับของขวัญอันทรงพลังของความรักและความมีวินัยในตนเองที่พระองค์ได้ทรงประทานให้ ลูกจะยืนหยัดในคำสัญญาของพระองค์ทุกครั้งเมื่อลูกรู้สึกกังวลและเกิดความกลัว ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

เฟสบุคคริสตจักรพระกรุณาธิคุณ


วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2564

พระเจ้าทรงเป็นความเข้มแข็งของฉัน

 


พระเจ้าทรงเป็นความเข้มแข็งของฉัน

พระองค์ประทานกำลังแก่คนอ่อนเปลี้ย

และผู้ไม่มีพลังนั้นพระองค์ทรงให้มีเรี่ยวแรงมาก

อิสยาห์ 40:29

ในยามที่เหนื่อย ... พระเจ้าทรงเป็นกำลัง

ในยามที่ท้อแท้ ... พระเจ้าทรงเป็นความหวัง

ในยามที่กลัวและหวาดวิตก ... พระเจ้าทรงเป็นสันติสุข

พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นแหล่งกำลังทั้งหมดและพระองค์ทรงดำเนินชีวิตอยู่ในตัวคุณ โรม 8:26 กล่าวว่า “…พระวิญญาณก็ทรงช่วยเมื่อเราอ่อนกำลังด้วย…” กล่าวอีกนัยหนึ่งว่ากำลังของพระองค์มีพร้อมอยู่สำหรับคุณและเข้าควบคุมเมื่อคุณคิดว่าคุณอ่อนแอที่สุด

จงให้สายตา ‘จับจ้องที่พระเจ้า’ เพราะพระองค์ทรงเป็นเป้าหมายของเรา (ฮบ.12:2) เป็นแบบอย่างที่ดีที่เราควรเลียนแบบ (อฟ.5:1) ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา และเราจะเห็นการช่วยกู้ของพระองค์ที่อัศจรรย์แน่นอน (สดด.91:16) และพระองค์ทรงรักเรา และรักมากด้วยความรักที่มั่นคงและเป็นนิรันดร์ (ยรม.31:3)

“หนุนกำลัง” แปลว่า เราต้องพึ่งพาอาศัยพระองค์ ผู้ทรงเป็นแหล่งแห่งพลัง พระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ ทรงปัญญา มั่งคั่ง แปลว่า เราต้องอธิษฐาน ถามพระองค์ วางใจพระองค์ ขอเรี่ยวแรง กำลังใจจากพระองค์

“หนุนกำลัง” มิได้แปลว่า เราพึ่งพระองค์ในจุดเริ่มต้น แต่เราต้องพึ่งพระองค์อย่างต่อเนื่อง มิได้แปลว่า งานจะไร้อุปสรรค ตรงกันข้าม ทุก ๆ อุปสรรคที่ประดังเข้ามา เราขอเรี่ยวแรงจากพระองค์เสมอไม่ท้อถอย

ดังนั้นคุณจะต้องป่าวประกาศด้วยการตระหนักอย่างสม่ำเมอว่า “พระยาห์เวห์ทรงเป็นกำลังแห่งชีวิตข้าพเจ้า” และเมื่อคุณพูดอย่างนั้น คุณก็ได้รับการเสริมกำลังขึ้น

เมื่อชีวิตทำให้คุณอ่อนล้า จงขอกำลังจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

คำอธิษฐาน

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ ขอบพระคุณสำหรับพระกำลังของพระองค์ ทรงอุ้มข้าพระองค์ไว้ยามที่อ่อนแอ โปรดช่วยให้ข้าพระองค์ถวายเกียรติแด่พระองค์ในชัยชนะทุกอย่างของชีวิต ขอโปรดประทานกำลังให้ข้าพระองค์เผชิญกับสถานการณ์ในวันนี้ ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

 thaiodb.org

rorthai.com


วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2564

พระเจ้าอยู่กับคุณเสมอ

 


พระเจ้าอยู่กับคุณเสมอ

ท่านอย่าเป็นคนเห็นแก่เงิน จงพอใจในสิ่งที่ท่านมีอยู่ เพราะว่าพระองค์ได้ตรัสว่า “เราจะไม่ละท่านหรือทอดทิ้งท่านเลย”

ฮีบรู 13: 5

หลายคนอาจเคยมีประสบการณ์ที่เคยทำให้รู้สึกว่าตนเองเคยถูกทอดทิ้ง ช่างเป็นความรู้สึกที่ยากเกินทนเวลาที่ไม่มีใครใส่ใจเรา เป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดอย่างแสนสาหัสจริงๆ แม้ว่ามนุษย์จะทอดทิ้งเรา แต่ความรักและการทรงสถิตอยู่ของพระเจ้านั้นแน่นอน พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะไม่ทอดทิ้งเรา ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ใดพระเจ้าสัญญาว่าจะอยู่กับคุณ พระองค์อยู่เคียงข้างคุณเสมอ คุณไม่ได้อยู่คนเดียวเพียงลำพังเพราะพระเจ้าสัญญาว่าจะไม่จากไปหรือทอดทิ้งคุณ

ช่วงเวลาเหล่านั้นที่คุณมองไปรอบๆ และมองไม่เห็นสิ่งที่แสดงถึงการสถิตอยู่ของพระองค์ พระเจ้าทรงอยู่ที่นั่นกับคุณ พระองค์จะไม่ทรงทิ้งคุณไป แม้ในเวลาที่ทุกคนทิ้งคุณไป พระองค์ทรงอยู่กับคุณเสมอ ดังนั้นจงมีความกล้า มีกำลังขึ้น และเต็มด้วยความยินดี พระเจ้าทรงสถิตอยู่กับคุณ และพระองค์ทรงสถิตภายในคุณ คุณไม่เคยอยู่ตามลำพัง!

พระเจ้าไม่เคยผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับลูกของพระองค์ แม้ว่าเราจะถูกมนุษย์ทอดทิ้ง เรายังสามารถมั่นใจในพระสัญญาของพระองค์ได้ว่าจะไม่มีสิ่งใดมาทำให้เรา “ขาดจากความรักของพระคริสต์ได้” (รม.8:35-39)

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณพระองค์สำหรับความรักและความสัตย์ซื่อของพระองค์ ความสัตย์ซื่อของพระองค์มีอยู่ตลอดไปเป็นนิจ พระองค์ทรงเปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา ลูกเข้มแข็งและมีความกล้าหาญในฤทธิ์เดชแห่งพระกำลังของพระองค์ ลูกจะไม่เคยอ่อนล้า ขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระคุณและความรักนิรันดร์ของพระองค์ ลูกรักพระองค์หมดหัวใจของข้าพระองค์  โปรดช่วยลูกให้จำไว้ว่าพระองค์จะไม่ทิ้งลูกไปในยามลำบากหรือในช่วงเวลาแห่งความสุข

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

 thaiodb.org

rorthai.com


วันพุธที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2564

พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของเรา

 


พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของเรา

พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของเรา

เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่ในยามยากลำบาก

สดุดี 46: 1

บางครั้งเราก็เผชิญการคุกคามที่ทำให้เราอยากวิ่งหาที่หลบภัย บางคนแสวงหาความมั่นคงจากทรัพย์สมบัติหรือความสัมพันธ์ แต่ผู้เชื่อในพระคริสต์มีที่ลี้ภัยที่มั่นคงกว่า เพราะพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าและพระองค์ทรงทำทุกสิ่งได้เพื่อเรา ดังนั้นการปกป้องที่ดีที่สุดสำหรับเราจึงอยู่ในพระเจ้า ถ้าวันนี้คุณกำลังเผชิญกับปัญหา จงเข้าหาพระองค์ผู้ทรงเป็นป้อมปราการเข้มแข็งคุณจะได้ลี้ภัยอยู่ในการดูแลของพระองค์

พระเจ้าสัญญาว่าพระองค์จะเป็นที่หลบภัยและเป็นกำลังที่เข้มแข็งอยู่เคียงข้างคุณเสมอในยามลำบาก พระองค์จะอยู่เคียงข้างคุณเสมอเมื่อคุณต้องการพระองค์ หรือเมื่อคุณกลัว หรือเมื่อคุณมีปัญหา หรือแม้แต่เวลาที่คุณต้องการคุยกับพระองค์ พระองค์ไม่เคยจากไปไหน พระเจ้าอยู่กับคุณเสมอ

ยามชีวิตต้องเผชิญความท้าทายและความลำบากทั้งหลายโหมกระหน่ำ พระคริสต์เป็นผู้ปลอบโยนและช่วยชูค้ำจิตวิญญาณชอกช้ำกลับหายดี พระเจ้าทรงเป็นที่พักพิงอันปลอดภัยทั้งในยามสุขและยามทุกข์

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา ขอบพระคุณที่ทรงเป็นศิลาซึ่งลูกสามารถเข้าลี้ภัย และไม่ว่าลูกจะอยู่ที่ไหน หรือในสถานการณ์ใด พระองค์ทรงอยู่กับลูกเสมอ โปรดช่วยให้ลูกระลึกว่าแม้ในคืนอันมืดมิดที่สุด พระองค์ทรงเป็นป้อมปราการเข้มแข็งของลูก พระองค์ทรงเป็นที่หลบภัยและความเข้มแข็งของลูก ลูกไว้ใจพระองค์ ลูกขอขอบพระคุณที่ลูกสามารถพึ่งพาพระองค์ได้เมื่อลูกต้องการความช่วยเหลือ ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

 thaiodb.org


วันอังคารที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2564

จงให้เขา แล้วพวกท่านจะได้รับ

 


เมื่อคุณเป็นผู้ให้คุณก็จะได้รับ

จงให้เขา แล้วพวกท่านจะได้รับด้วยแบบยัดสั่นแน่นพูนล้นเต็มหน้าตักของท่าน เพราะว่าเมื่อท่านตวงให้เขาเท่าไร ท่านก็จะได้รับการตวงกลับคืนไปเท่านั้นเช่นกัน”

ลูกา 6:38

มีหลายวิธีที่คุณจะเป็นผู้ให้ การให้เป็นสิ่งที่บอกถึงความมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ไม่ว่าการให้นั้นจะเป็นในรูปแบบไหนก็ตาม แล้ววันนี้ตัวเราได้เป็น ผู้ให้ ที่ดีบ้างหรือยัง?

การเป็นผู้ให้ไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าที่เราจะทำได้ การให้มีหลายรูปแบบ และการให้ที่ดีต้องมาจากความสบายใจของเรา ไม่ได้ให้เพราะความฝืนใจ หรือหวังว่าจะได้รับบางสิ่งตอบกลับมา การให้ด้วยความปรารถนาดี คือเราไม่หวังสิ่งใดตอบแทนจากสิ่งที่เราได้ให้ไป การให้ในสิ่งที่ดี นั่นก็หมายถึงการให้สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้รับ เช่น ให้กำลังใจ ให้ความรู้ หรือให้โอกาส การให้อภัยเป็นสิ่งที่ใครหลายคนอาจมองว่าทำได้ยากแต่ถ้าคุณทำได้คุณก็จะมีความสุขกับชีวิตมากขึ้นกว่าเดิมเป็นหลายเท่า  เราสามารถให้ได้ทุกอย่างที่เราอยากจะให้ แต่ต้องไม่ทำให้ตนเองลำบาก เพราะหากเราให้โดยที่ตัวเราลำบาก ความสุขที่ตั้งใจไว้หวังว่าจะได้จากการให้ก็จะไม่เกิด แต่จะได้ความทุกข์กลับมาแทน  ดังนั้น ก่อนจะมอบน้ำใจให้ใครต่อใคร ก็ควรประมาณตนก่อนเป็นสิ่งแรก การให้ในสิ่งที่เรามีจึงดีที่สุด

การให้ในสิ่งที่เรามี และสามารถทำได้บ่อยๆคือ การให้ความรัก ความเข้าใจ ความเอาใจใส่ ให้กำลังใจ ให้เวลา มอบความปรารถนาดีอย่างจริงใจ ให้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ สิ่งเหล่านี้เราสามารถให้กันและกันได้ในทุกๆ วัน

เมื่อคุณอวยพรผู้อื่นคุณก็ได้รับพระพร ความยิ่งใหญ่ของคุณคือการทำให้คนอื่นยิ่งใหญ่ และนั่นคือความชื่นชมยินดีที่แท้จริง เป็นการดำเนินชีวิตในระดับที่สูงขึ้นเมื่อคุณเรียนรู้ที่จะละความสนใจในตนเองและห่วงใยความต้องการที่จำเป็นของผู้อื่น และเป็นผู้อวยพรและผู้ให้  พระเจ้าสัญญาว่าจะตอบแทนคุณเมื่อคุณรู้จักให้ แต่อย่าลืมหัวใจหลักของการเป็นผู้ให้ ว่าเราทำมันไปเพราะมันเป็นสิ่งที่ควรทำ อย่าทำเพียงแค่ว่าหวังสิ่งที่พระเจ้าจะตอบแทน  เมื่อคุณได้เป็นผู้ให้ มันจะรู้สึกดีและมีผลที่น่าพอใจเสมอ คุณไม่มีทางรู้เลยว่ามันจะมีผลดีตอบกลับมาหาคุณได้อย่างไรบ้าง แต่คุณอาจจะต้องประหลาดใจ! ในสิ่งที่พระเจ้าทรงมีแผนไว้เพื่อคุณแน่นอน

 คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า  โปรดสำแดงให้ลูกได้เห็นว่าลูกจะเป็นผู้ให้ในทุกๆวันได้อย่างไรบ้าง ลูกต้องการพระพรจากพระองค์ในชีวิตของลูก เพื่อที่ลูกจะได้แบ่งปันและใช้มันให้เป็นพรกับคนอื่นได้ให้มากที่สุด ขอโปรดช่วยให้ลูกมีใจรักที่จะเป็นผู้ให้อย่างจริงใจ โดยไม่คิดหวังสิ่งใดนอกจากความสุขใจ และทำเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์ ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions


วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2564

คุณเป็นสมาชิกคนสำคัญในครอบครัวของพระเจ้า

 


คุณเป็นสมาชิกคนสำคัญในครอบครัวของพระเจ้า

แต่ทุกคนที่ยอมรับพระองค์ คือคนที่เชื่อในพระนามของพระองค์นั้น พระองค์ก็จะประทานสิทธิให้เป็นลูกของพระเจ้า

ยอห์น 1:12

คุณเคยใฝ่ฝันที่จะเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงหรือเป็นดาราภาพยนตร์หรือไม่? หรืออาจจะเป็นวีระบุรุษหรือคนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักเป็นที่ยอมรับในสังคมไหม? มีอะไรที่เป็นไปได้สำหรับคุณบ้าง? คำตอบคือ มี คุณเป็นผู้ที่ได้รับเกียรติ คุณเป็นสมาชิกคนสำคัญในครอบครัวของพระเจ้า นั่นเป็นเหตุผลของการเชื่อในพระเจ้าเพราะความเชื่อทำให้คุณเป็นลูกของพระเจ้าโดยอัตโนมัติซึ่งหมายความว่าคุณเป็นลูกของพระเจ้าผู้เป็นราชาของกษัตริย์ทั้งหมดและคุณไม่สามารถมีฐานะสูงไปกว่านั้นได้อีกแล้ว คุณเป็นบุตรของพระเจ้าคุณเป็นบุตรหญิงบุตรชายในอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลทั้งหมด เมื่อเรามอบความไว้วางใจในพระคริสต์ พระเจ้าก็กลายเป็นพระบิดาของเรา เรากลายเป็นบุตรของพระองค์ ผู้เชื่อคนอื่นๆ กลายเป็นพี่น้องของเรา และคริสตจักรเป็นครอบครัวฝ่ายวิญญาณของเรา

คุณจะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการเป็นลูกของพระเจ้าเพราะพระเจ้าบิดาของคุณจะคอยดูแลคุณตลอดไป ตอนนี้คุณสามารถยืดอกรับด้วยความภูมิใจโดยรู้ว่าคุณเป็นลูกของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ คุณเป็นครอบครัวของพระเจ้า การเป็นลูกของพระเจ้าคือการได้ใกล้ชิดสนิทสนมและรู้สึกปลอดภัยใน พระบิดาผู้ทรงรักเรา ยอมรับเรา และต้องการรู้จักเรา การได้เป็นบุตรในครอบครัวของพระองค์คือการกลับบ้านที่แสนวิเศษ นี่คือฐานะที่พิเศษสุดแล้วสำหรับเราคริตชน  สิ่งสำคัญอีกอย่างของการรู้ว่าเราเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของพระเจ้า คือเวลาที่เราติดตามพระองค์เราก็จะยอมออกจากความเคยชินฝ่ายโลก และเป็นอิสระจากการแสวงหาการยอมรับจากผู้อื่นอีกด้วย

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา ลูกรับพระองค์เข้ามาในชีวิตของลูกและลูกเชื่อในนามของพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์  ลูกขอบพระคุณที่ทำให้ลูกเป็นสมาชิกคนสำคัญในครอบครัวของพระองค์และพาลูกเข้าสู่อาณาจักรของพระองค์ โปรดช่วยให้ลูกสำแดงความเป็นลูกของพระองค์ ขอทรงปลดปล่อยลูกให้ดำเนินชีวิตโดยพระวิญญาณพระองค์เพื่อลูกจะได้เล่าเรื่องความรักและความหวังของพระองค์ ให้คนรอบข้างได้รู้จักพระองค์ ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

 thaiodb.org


วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2564

เอโนค

 


เอโนค

โดยความเชื่อ เอโนคจึงถูกรับขึ้นไปเพื่อไม่ให้ท่านประสบกับความตาย ไม่มีผู้ใดพบท่านเพราะพระเจ้าทรงรับท่านไปแล้ว เพราะก่อนที่จะรับท่านขึ้นไปนั้น ท่านได้รับการรับรองแล้วว่าท่านเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า

ฮีบรู 11: 5

ใน​ช่วง​ชีวิต​ของ​เอโนค มนุษย์​ชั่ว​ช้า​มาก ตอน​นั้น​ผ่าน​มา 7 ชั่ว​อายุ​คน​นับ​จาก​อาดัม ร่าง​กาย​ของ​มนุษย์​ยัง​ใกล้​เคียง​กับ​ความ​สมบูรณ์​แบบ​เหมือน​ที่​อาดัม​กับ​เอวา​เคย​มี คน​ใน​สมัย​นั้น​จึง​อายุ​ยืน​มาก แต่​พวก​เขา​มี​สภาพ​ศีลธรรม​ที่​เลว​ร้าย​และ​ไม่​นับถือ​พระเจ้า

ใน​คน​รุ่น​ที่ 3 มี​ความ​ชั่ว​ร้าย​อีก​อย่าง​หนึ่ง​เกิด​ขึ้น​คือ พวก​เขา​เริ่ม​ใช้​ชื่อ​พระเจ้า​อย่าง​ไม่​เหมาะ​สม เพราะ​แทน​ที่​จะ​ใช้​เพื่อ​นมัสการ​พระเจ้า พวก​เขา​กลับ​ดูหมิ่น​เหยียด​หยาม​และ​ขาด​ความ​นับถือ​ต่อ​ชื่อ​ที่​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​พระองค์—ปฐมกาล 4:8, 23-26

นั่น​ทำ​ให้​เกิด​ศาสนา​ที่​เสื่อม​ทราม​อย่าง​แพร่​หลาย​ใน​สมัย​เอโนค เมื่อ​เอโนค​โต​ขึ้น​เขา​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​ว่า เขา​จะ​เลือก​ทำ​ตาม​ผู้​คน​รอบ​ตัว​ใน​สมัย​นั้น หรือ​จะ​เลือก​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​ผู้​สร้าง​สวรรค์​และ​โลก? เขา​คง​ประทับใจ​มาก​ที่​ได้​เรียน​รู้​เรื่อง​ของ​อาเบล​ที่​ต้อง​ตาย​เพราะ​นมัสการ​พระ​เจ้า​ใน​แบบ​ที่​พระองค์​พอ​ใจ เอโนค​ตัดสิน​ใจ​ใช้​ชีวิต​แบบ​เดียว​กัน​นั้น เพราะ​ที่​ปฐมกาล 5:22 บอก​ว่า เอโนค “ใช้​ชีวิต​อย่าง​ที่​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​พอ​ใจ​ต่อ​ไป” พระคัมภีร์​ใช้​ประโยค​สำคัญ​นี้​กับ​เขา​เป็น​คน​แรก นี่​แสดง​ให้​เห็น​อย่าง​ชัดเจน​ว่า เอโนค​เชื่อ​ฟัง​พระเจ้า​ถึง​แม้​ไม่​มี​ใคร​ใน​โลก​นับถือ​พระองค์​เลย

เอโนค​ไม่​ใช่​มนุษย์​สมบูรณ์​แบบ​แต่​เขา​ใช้​ชีวิต​อย่าง​ที่​พระเจ้า​พอ​ใจ​และ​ช่วย​ให้​ลูก​หลาน​มี​ความ​เชื่อ เอโนค​อาจ​รู้สึก​โดด​เดี่ยว​ที่​ต้อง​รักษา​ความ​เชื่อ​ตาม​ลำพัง​ใน​โลก​ที่​ผู้​คน​ไม่​มี​ความ​เชื่อ เอโนค​ประกาศ​คำ​เตือน​ของ​พระเจ้า​อย่าง​ไม่​หวั่น​กลัว​และ​ยัง​ต้อง​ประกาศ​คน​เดียว​อีก​ด้วย! ความ​เชื่อ​ของ​เอโนค​อาจ​กระตุ้น​เรา​ให้​ถาม​ตัว​เอง​ว่า​เรา​มี​มุม​มอง​ต่อ​โลก​นี้​เหมือน​พระเจ้า​ไหม? คำ​พิพากษา​ที่​เอโนค​ประกาศ​อย่าง​กล้า​หาญ​ใน​ตอน​นั้น​ยัง​ช่วย​เตือน​เรา​ใน​ทุก​วัน​นี้​เหมือน​ที่​ได้​เตือน​ผู้​คน​ใน​สมัย​ของ​เอโนคหรือเปล่า?

ใน​หนังสือ​ปฐมกาล​บอก​ไว้​สั้น ๆ ว่า “เอโนค​ใช้​ชีวิต​อย่าง​ที่​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​พอ​ใจ​อยู่​เสมอ แล้ว​ก็​ไม่​มี​ใคร​เห็น​เขา​อีก​เลย เพราะ​พระเจ้า​รับ​เขา​ไป” (ปฐมกาล 5:24) พระเจ้า​รับ​เขา​ไป​อย่าง​ไร? อัครสาวก​เปาโล​อธิบาย​ว่า “เพราะ​ความ​เชื่อ เอโนค​ถูก​รับ​ไป​เพื่อ​จะ​ไม่​ต้อง​เจอ​ความ​ตาย และ​ไม่​มี​ใคร​พบ​เขา​อีก​เลย​เพราะ​พระเจ้า​รับ​เขา​ไป แต่​ก่อน​ที่​เขา​จะ​ถูก​รับ​ไป เขา​มี​หลักฐาน​ยืน​ยัน​แล้ว​ว่า​พระองค์​พอ​ใจ​เขา” (ฮีบรู 11:5)

พวกเราหลายคนกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตนี้ แต่เอโนครู้ดีว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือการทำให้พระเจ้าพอพระทัย เห็นได้ชัดว่าเขาทำได้ดีทีเดียวเพราะเขาเป็นที่รู้จักในฐานะบุคคลที่พระเจ้าพอใจ

 ถ้า​คุณ​ต้อง​หา​เลี้ยง​ครอบครัว ขอ​ให้​คิด​ว่า​คุณ​จะ​ได้​ประโยชน์​จาก​ตัว​อย่าง​ความ​เชื่อ​ของ​เอโนค​อย่าง​ไร แม้​การ​จัด​หา​สิ่ง​ที่​จำเป็น​สำหรับ​ครอบครัว​เป็น​เรื่อง​สำคัญ แต่​ไม่​มี​อะไร​สำคัญ​ไป​กว่า​การ​ดู​แล​ครอบครัว​ให้​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า (1 ทิโมธี 5:8) คุณ​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น​ได้​ไม่​ใช่​ด้วย​คำ​พูด​เท่า​นั้น​แต่​ด้วย​การ​กระทำ​ของ​คุณ และ​ถ้า​คุณ​เลือก​ใช้​ชีวิต​แบบ​ที่​พระเจ้า​พอ​ใจ​เหมือน​เอโนค​โดย​ทำ​ตาม​มาตรฐาน​ของ​พระองค์ ครอบครัว​คุณ​จะ​มี​สิ่ง​ล้ำ​ค่า​ให้​พวก​เขา​เลียน​แบบ นั่น​ก็​คือ​ตัว​อย่าง​ของ​คุณ​เอง

มี​บาง​สิ่ง​ที่​เรา​ต้อง​เรียน​จาก​เขา​ตั้ง​แต่​ตอน​นี้ เพราะ​หลัง​จาก​ที่​เปาโล​พูด​ถึง​เอโนค​แล้ว เปาโล​ยัง​บอก​อีก​ว่า “ถ้า​ไม่​มี​ความ​เชื่อ​ก็​ไม่​มี​ทาง​ทำ​ให้​พระเจ้า​พอ​ใจ​ได้” (ฮีบรู 11:6) นี่​เป็น​เหตุ​ผล​ที่​หนักแน่น​สำหรับ​เรา​ทุก​คน​ที่​จะ​เลียน​แบบ​ความ​เชื่อ​ที่​กล้า​หาญ​ของ​เอโนค!

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา ลูกไม่อยากจะกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆบนโลกนี้มากไปกว่าพระองค์ โปรดแสดงวิธีการที่จะทำให้ลูกสามารถดำเนินชีวิตให้ทุกคนเป็นที่รู้จักในฐานะคนที่ทำให้พระองค์พอพระทัยเหมือนกับเอโนคด้วยเทอญ ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

jw.org

rnrnewlife.com


พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าพายุของคุณ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าพายุของคุณ อ่านมัทธิว 8:1 ถึง 11:1 ​    25 และพวกสาวกมาปลุกพระองค์ ทูลว่า “องค์พร...