เปาโล
24เมื่อนายคุกรับคำสั่ง จึงพาเปาโลกับสิลาสไปขังยังห้องชั้นใน
เอาเท้าใส่ขื่อแน่นหนา
25แต่ในเวลาประมาณเที่ยงคืน
ขณะเปาโลกับสิลาสกำลังอธิษฐานและร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าและนักโทษทั้งหลายในคุกกำลังฟังอยู่
กิจการ 16: 24-25
เปาโลถูกจับในข้อหาประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซู แต่นั่นไม่เคยหยุดยั้งเขาได้ เปาโลและสิลาส
เขาทั้งสองถูกกล่าวหา ถูกจับถอดเสื้อและถูกเฆี่ยนด้วยไม้ และถูกโยนเข้าคุก การถูกขังอยู่ในคุกชั้นในนั้นเสมือนอยู่ในความมืด
และเขาทั้งสองคนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เพราะเท้าถูกใส่ขื่ออย่างแน่นหนา แต่ทั้งสองคนได้อธิษฐานทูลต่อพระเจ้าอย่างเปิดเผยและได้ร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ด้วย
เปาโลเองไม่ได้รู้สึกหดหู่หรือโกรธพระเจ้า เปาโลเป็นฮีโร่ก็เพราะเขามักจะใช้ทุกสถานการณ์เพื่อบอกคนอื่น
ๆ เกี่ยวกับพระเยซู
เปาโลและสิลาสร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าแม้ว่าพวกเขาจะถูกล่ามโซ่ ในชีวิตของคุณเองก็เช่นกัน หากมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นจงอย่าโกรธและเสียใจอยู่เลย ให้คุณหาวิธีขอบคุณพระเจ้าและบอกคนอื่น ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่พระองค์ทำเพื่อคุณแทน
“พี่น้องทั้งหลาย เมื่อใดที่ท่านเผชิญความทุกข์ยากนานาประการ
จึงถือเป็นเรื่องน่ายินดี
เพราะท่านรู้ว่าการทดสอบความเชื่อของท่านนั้นทำให้เกิดความอดทนบากบั่น
จงอดทนบากบั่นให้ถึงที่สุด
เพื่อท่านจะเติบโตเต็มที่และสมบูรณ์เพียบพร้อมไม่มีสิ่งใดบกพร่องเลย” (ยากอบ 1:1-3
อมตธรรม) การที่เราสรรเสริญพระเจ้าท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้ายที่เรากำลังเผชิญหน้านั้น
การสรรเสริญของเราเป็นพลังที่จะนำให้เราสามารถทะลุผ่านสถานการณ์ที่เลวร้ายเหล่านั้น
และยิ่งกว่านั้นสิ่งที่เราได้คือ การทรงเสริมสร้างเราให้เข้มแข็งขึ้น
เป็นคนใหม่ตามพระประสงค์ของพระเจ้า
“...เรายังชื่นชมยินดีในความทุกข์ยากของเราด้วย
เพราะรู้ว่าความทุกข์ยากนั้นก่อให้เกิดความบากบั่น
ความบากบั่นทำให้เกิดอุปนิสัยที่พิสูจน์แล้วว่าใช้การได้
และอุปนิสัยเช่นนั้นทำให้เรามีความหวัง และความหวังทำให้เราไม่ผิดหวัง...”(โรม
5:3-5)
ไม่ว่าเราจะต้องพบพานเผชิญหน้ากับความทุกข์แบบใดขนาดไหนก็ตาม
เป็นการคุ้มค่าอย่างยิ่งที่เราจะสรรเสริญพระเจ้า เมื่อต้องตกในความทุกข์ยากลำบาก
หรือ ตกอยู่ในความเครียด เศร้าใจ ให้เราเลือกที่สรรเสริญพระเจ้า
เลือกที่จะไว้วางใจในแผนงานของพระองค์ข้างหน้าที่มีสำหรับชีวิตของเราตามแผนการของพระองค์(แม้เราจะไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไรในข้างหน้า)
ในทุกสถานการณ์ชีวิตให้เราเลือกที่จะสรรเสริญพระเจ้า
ไม่ว่าเราจะต้องได้รับบาดแผลและเจ็บปวด แล้วท่านจะประหลาดใจอย่างยิ่งว่า
การสรรเสริญนำความชื่นชมยินดีเข้ามาในชีวิตของเรา
เมื่อเรากล้าหาญที่จะขอบคุณและสรรเสริญพระเจ้า ด้วยน้ำตาและความอ่อนแอของเรา
คนอื่นๆก็จะเห็นว่ามีบางสิ่งที่แตกต่าง
และก็คงเป็นเหมือนผู้คุมในคุกที่พบว่านักโทษทั้งสองคนนี้มีบางสิ่งบางอย่างที่ดึงดูดความสนใจของพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง ผลที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นี้คือ ผู้คุมในคุกและทุกคนในครัวเรือนของเขากลับใจและเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์
ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก
หนังสือ One minute
devotions
suthailand.org
prasitemmaus.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น