เอโนค
โดยความเชื่อ เอโนคจึงถูกรับขึ้นไปเพื่อไม่ให้ท่านประสบกับความตาย
ไม่มีผู้ใดพบท่านเพราะพระเจ้าทรงรับท่านไปแล้ว เพราะก่อนที่จะรับท่านขึ้นไปนั้น
ท่านได้รับการรับรองแล้วว่าท่านเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า
ฮีบรู 11: 5
ในช่วงชีวิตของเอโนค มนุษย์ชั่วช้ามาก
ตอนนั้นผ่านมา 7 ชั่วอายุคนนับจากอาดัม
ร่างกายของมนุษย์ยังใกล้เคียงกับความสมบูรณ์แบบเหมือนที่อาดัมกับเอวาเคยมี
คนในสมัยนั้นจึงอายุยืนมาก
แต่พวกเขามีสภาพศีลธรรมที่เลวร้ายและไม่นับถือพระเจ้า
ในคนรุ่นที่ 3
มีความชั่วร้ายอีกอย่างหนึ่งเกิดขึ้นคือ พวกเขาเริ่มใช้ชื่อพระเจ้าอย่างไม่เหมาะสม
เพราะแทนที่จะใช้เพื่อนมัสการพระเจ้า พวกเขากลับดูหมิ่นเหยียดหยามและขาดความนับถือต่อชื่อที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์—ปฐมกาล
4:8, 23-26
นั่นทำให้เกิดศาสนาที่เสื่อมทรามอย่างแพร่หลายในสมัยเอโนค
เมื่อเอโนคโตขึ้นเขาต้องตัดสินใจว่า
เขาจะเลือกทำตามผู้คนรอบตัวในสมัยนั้น
หรือจะเลือกพระยะโฮวาพระเจ้าเที่ยงแท้ผู้สร้างสวรรค์และโลก? เขาคงประทับใจมากที่ได้เรียนรู้เรื่องของอาเบลที่ต้องตายเพราะนมัสการพระเจ้าในแบบที่พระองค์พอใจ
เอโนคตัดสินใจใช้ชีวิตแบบเดียวกันนั้น
เพราะที่ปฐมกาล 5:22 บอกว่า เอโนค
“ใช้ชีวิตอย่างที่พระเจ้าเที่ยงแท้พอใจต่อไป” พระคัมภีร์ใช้ประโยคสำคัญนี้กับเขาเป็นคนแรก
นี่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า
เอโนคเชื่อฟังพระเจ้าถึงแม้ไม่มีใครในโลกนับถือพระองค์เลย
เอโนคไม่ใช่มนุษย์สมบูรณ์แบบแต่เขาใช้ชีวิตอย่างที่พระเจ้าพอใจและช่วยให้ลูกหลานมีความเชื่อ เอโนคอาจรู้สึกโดดเดี่ยวที่ต้องรักษาความเชื่อตามลำพังในโลกที่ผู้คนไม่มีความเชื่อ
เอโนคประกาศคำเตือนของพระเจ้าอย่างไม่หวั่นกลัวและยังต้องประกาศคนเดียวอีกด้วย!
ความเชื่อของเอโนคอาจกระตุ้นเราให้ถามตัวเองว่าเรามีมุมมองต่อโลกนี้เหมือนพระเจ้าไหม?
คำพิพากษาที่เอโนคประกาศอย่างกล้าหาญในตอนนั้นยังช่วยเตือนเราในทุกวันนี้เหมือนที่ได้เตือนผู้คนในสมัยของเอโนคหรือเปล่า?
ในหนังสือปฐมกาลบอกไว้สั้น ๆ ว่า
“เอโนคใช้ชีวิตอย่างที่พระเจ้าเที่ยงแท้พอใจอยู่เสมอ
แล้วก็ไม่มีใครเห็นเขาอีกเลย เพราะพระเจ้ารับเขาไป” (ปฐมกาล 5:24)
พระเจ้ารับเขาไปอย่างไร? อัครสาวกเปาโลอธิบายว่า “เพราะความเชื่อ
เอโนคถูกรับไปเพื่อจะไม่ต้องเจอความตาย
และไม่มีใครพบเขาอีกเลยเพราะพระเจ้ารับเขาไป แต่ก่อนที่เขาจะถูกรับไป
เขามีหลักฐานยืนยันแล้วว่าพระองค์พอใจเขา” (ฮีบรู 11:5)
พวกเราหลายคนกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตนี้
แต่เอโนครู้ดีว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือการทำให้พระเจ้าพอพระทัย
เห็นได้ชัดว่าเขาทำได้ดีทีเดียวเพราะเขาเป็นที่รู้จักในฐานะบุคคลที่พระเจ้าพอใจ
ถ้าคุณต้องหาเลี้ยงครอบครัว
ขอให้คิดว่าคุณจะได้ประโยชน์จากตัวอย่างความเชื่อของเอโนคอย่างไร
แม้การจัดหาสิ่งที่จำเป็นสำหรับครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญ
แต่ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการดูแลครอบครัวให้มีความเชื่อในพระเจ้า
(1 ทิโมธี 5:8) คุณจะทำอย่างนั้นได้ไม่ใช่ด้วยคำพูดเท่านั้นแต่ด้วยการกระทำของคุณ
และถ้าคุณเลือกใช้ชีวิตแบบที่พระเจ้าพอใจเหมือนเอโนคโดยทำตามมาตรฐานของพระองค์
ครอบครัวคุณจะมีสิ่งล้ำค่าให้พวกเขาเลียนแบบ
นั่นก็คือตัวอย่างของคุณเอง
มีบางสิ่งที่เราต้องเรียนจากเขาตั้งแต่ตอนนี้
เพราะหลังจากที่เปาโลพูดถึงเอโนคแล้ว เปาโลยังบอกอีกว่า
“ถ้าไม่มีความเชื่อก็ไม่มีทางทำให้พระเจ้าพอใจได้” (ฮีบรู 11:6)
นี่เป็นเหตุผลที่หนักแน่นสำหรับเราทุกคนที่จะเลียนแบบความเชื่อที่กล้าหาญของเอโนค!
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดา ลูกไม่อยากจะกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆบนโลกนี้มากไปกว่าพระองค์
โปรดแสดงวิธีการที่จะทำให้ลูกสามารถดำเนินชีวิตให้ทุกคนเป็นที่รู้จักในฐานะคนที่ทำให้พระองค์พอพระทัยเหมือนกับเอโนคด้วยเทอญ
ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน
ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก
หนังสือ One minute
devotions
jw.org
rnrnewlife.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น