วันที่หนึ่งร้อยเจ็บสิบ
– จงฟังเสียงของพระเยซู
แกะของเราฟังเสียงของเรา
เรารู้จักแกะนั้นและแกะนั้นตามเรา
ยอห์น 10:27
คนเลี้ยงแกะจะคอยทำหน้าที่ปกป้องและชี้นำฝูงแกะของเขา
ผู้เลี้ยงที่ดีจะไม่ละทิ้งแกะของเขาให้อยู่ลำพัง
และแกะเองก็เรียนรู้ที่จะจำเสียงของผู้เป็นคนเลี้ยงแกะ คนที่คอยบอกว่ามันควรจะไปทางไหน
พระเยซูบอกเราว่า พระองค์เป็นคนเลี้ยงแกะที่ดีของเรา
ดังนั้นเราจึงควรทำตามคำแนะนำหรือฟังเสียงที่พระองค์ทรงตรัสกับเรา! แต่เสียงของพระเยซูมีลักษณะเป็นอย่างไรล่ะ? พระองค์ทรงเป็นทั้ง “ผู้เลี้ยงแกะ” และ
“ประตูแกะ”
การเป็นผู้เลี้ยงแกะแสดงถึงความเป็นเจ้าของแกะของพระองค์ที่ต่างจากคนรับจ้างทั่วไป
ทรงเรียกชื่อแกะแต่ละตัว แกะเหล่านั้นจำเสียงของพระองค์ได้ ประการสำคัญ
พระองค์ทรงยอมตายเพื่อฝูงแกะ ส่วนการเป็น “ประตูแกะ” แสดงถึงความเป็นผู้นำของพระองค์ที่นำฝูงแกะมาหาพระบิดาเจ้า
และปกป้องคุ้มครองแกะให้ได้รับความปลอดภัย
ใครที่มาหาพระเยซูเจ้าและฟังเสียงของพระองค์จะไม่หลงทางและจะได้รับชีวิตนิรันดร
และให้เราเลียนแบบความรักของผู้เลี้ยงแกะที่ดีในการปฏิบัติต่อผู้อื่น
หากพระเยซูเจ้าเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดีสำหรับเรา เราจะต้องดำรงตนในความรักของพระองค์ในชีวิตประจำวันของเรา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความรักต่อผู้อื่น “ถ้าท่านมีความรักต่อกัน
ทุกคนจะรู้ว่าท่านเป็นศิษย์ของเรา” (ยน 13:35) ที่สำคัญมากกว่านั้น
หากเราต้องการเป็นผู้เลี้ยงที่ดีเช่นเดียวกับพระองค์ เราจะต้องมีชีวิตที่สนิทสัมพันธ์กับพระบิดาเจ้า
ในการรักซึ่งกันและกันกับเพื่อนพี่น้อง ในครอบครัว หมู่คณะ และหมู่บ้านของเรา
ข้อคิดระหว่างวัน
พระเยซูเจ้าทรงยืนยันกับเราในวันนี้ว่า
พระองค์เป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ทรงรักและรู้จักแกะทุกตัว
ทรงดูแลเอาใจใส่แกะแต่ละตัวเป็นอย่างดี และทรงปกป้องฝูงแกะจากสุนัขป่าและอันตรายต่างๆ
ด้วยชีวิตของพระองค์ พระองค์ไม่ได้ทิ้งฝูงแกะแล้วหนีไป ปล่อยให้แกะอยู่ตามยถากรรม
หรือทิ้งให้เผชิญกับอันตรายตามลำพังเหมือนผู้รับจ้างทั่วไป
แต่พระองค์ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้แกะทุกตัวปลอดภัยและไม่กระจัดกระจายไป เพื่อว่า “จะมีแกะแต่ฝูงเดียวและนายชุมพาบาลแต่ผู้เดียว”
ให้เราอธิษฐาน
ข้าแต่พระเยซูที่รัก
ลูกขอขอบพระคุณที่พระองค์ทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดีของลูกเสมอมา
ขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกเรียนรู้ที่จะได้ยินเสียงของพระองค์อย่างชัดเจนในแต่ละวันด้วยเทอญ
ลูกขออธิษฐานในพระนามของพระเยซูคริสต์
อาเมน
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านที่สละเวลามาอธิษฐานร่วมกันนะคะ
การฝึกฟังเสียงของพระเจ้าและติดตามการทรงนำของพระวิญญาณฯเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก
พระเจ้าอยากจะบอกถึงแผนการของพระองค์ที่มีต่อชีวิตของเรา
แผนการของพระเจ้าเป็นแผนการที่ดี แต่เราอาจจะพลาดจากการทรงนำได้
ถ้าเราไม่ฝึกฝนในการฟังเสียงของพระเจ้าหรือไม่เชื่อฟังพระองค์.
อย่าเก็บพระพรและสิ่งดี
ๆที่พระเจ้าทรงมอบให้เราไว้เพียงคนเดียว แต่จงทำให้พระพรนี้เจริญเติบโต
และเกิดประโยชน์กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เราทุกคนอาจได้รับพระพรที่แตกต่างกันไป
แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นคือ การวางใจ ที่พระเจ้าทรงมอบให้เราทุกคน
ถ้าเรารักพระเจ้า
การรับใช้จะไม่เป็นภาระและไม่ใช่การจำใจทำ แต่จะเป็นโอกาสและเป็นความยินดีที่ได้รับใช้
และสายตาของเราจะมองหาหนทางที่จะรับใช้ให้ดีมากยิ่งๆ ขึ้นไปเสมอ
ถ้าเรารักพระองค์
และไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใด
อย่าย่อท้อต่อการทำหน้าที่ประกาศข่าวดี จงแบ่งปันและบอกเล่าถึงความรักของพระองค์ให้โลกได้รู้ว่า
ความรักของพระองค์นั่นยิ่งใหญ่ มั่นคงและจะคงอยู่ตลอดไป
อย่าลืมศึกษาพระคัมภีร์กันไปวันละนิดวันละหน่อยนะคะ
เพราะไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับพระเจ้านะคะ
สิ่งที่เกินกำลังมนุษย์
ไม่ได้เกินกำลังพระเจ้า
เมื่อไม่มีเรี่ยวแรงจะลุกเดิน
จงพึ่งในพละกำลังของพระเจ้า
เมื่อไม่เข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้นกับชีวิต
จงวางใจในพระสัญญา
♥ ชีวิตเราเต็มไปด้วยปัญหาและการทดลองมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นภาระหน้าที่ที่หนัก ปัญหาของคนที่เรารัก ปัญหาเรื่องสุขภาพ
ปัญหาด้านการเงิน อุปสรรคต่าง ๆ หรือแม้แต่ความเข้าใจผิดจากคนรอบข้าง
♥ อย่าตกหลุมพรางของรายละเอียดของปัญหา ...
ขอพระจิตเจ้าช่วยเราให้มองเห็นภาพทั้งหมดในมุมกว้าง ... ในแต่ละวัน
จงตั้งใจแน่วแน่ที่จะยืนขึ้นเพื่อมองทุกอย่างในมุมสูง
มองทุกอย่างด้วยความยินดีในพระพรที่พระเยซูเจ้าประทานแก่เราท่ามกลางการทดลองต่าง ๆ
ไม่มีครูใดดีกว่า
"พระจิตเจ้า" ไม่มีถ้อยคำใดที่ดีกว่า "พระวาจา"
พระองค์ไม่เคยสาย
พระองค์ไม่เคยช่วยเราช้าเกินไป แต่พระองค์ทรงทันเวลาเสมอ
♥ “ข้าแต่พระเยซูเจ้า
โปรดเปิดตาลูกให้เห็นงานของพระองค์ที่ได้ทำเพื่อลูก
พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งลูกไปแม้ขณะเดียว โปรดช่วยลูกให้วางใจในพระองค์ ลูกจะขอรักพระองค์ตลอดไป ลูกขอถวายทุก ๆ
กิจการการงานไว้กับพระองค์ด้วยเทอญ อาเมน
KC
LOVE GOD
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น