วันที่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบเจ็ด - จงเมตตาและสงสาร
เห็นใจกันและกัน ให้อภัยต่อกัน
31จงขจัดความขมขื่นทั้งสิ้น
ความเกรี้ยวกราด และความโกรธแค้น การทะเลาะและการใส่ร้ายป้ายสี
พร้อมทั้งการมุ่งร้ายทุกรูปแบบ 32จงเมตตาและสงสาร เห็นใจกันและกัน
ให้อภัยต่อกันเหมือนที่พระเจ้าทรงอภัยแก่ท่านในพระคริสต์
เอเฟซัส4:31-32
คุณเคยทำร้ายความรู้สึกของใครสักคนมาก่อนหรือไม่?
มันอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กสำหรับคุณ เช่น คุณลืมที่จะแบ่งปันของใช้ ของกินกับเพื่อนรักของคุณ
หรือลืมวันสำคัญของเพื่อนโดยที่คุณไม่รู้ตัวว่าได้ทำลงไป
แต่เพื่อนของคุณเขารู้สึกน้อยใจที่คุณไม่ได้แสดงความมีน้ำใจต่อเขา ไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าที่ควร
หรือบางครั้งคุณอาจจะดื้อและพูดจากระด้าง ไม่น่ารักกับพ่อแม่ของคุณในเวลาที่คุณรู้สึกไม่พอใจกับบางสิ่งบางอย่าง.
ผลลัพธ์ที่เกิดตามมาจากการกระทำของคุณคือ คุณได้ทำร้ายความรู้สึกของคนเหล่านั้น
อาจจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็ตาม วิธีการปรับปรุงและแก้ไขเพื่อทำให้สถานการณ์และความรู้สึกของเพื่อนและพ่อแม่ดีขึ้น
คือ การสำนึกผิดและกล้าหาญที่จะเข้าไปถามเพื่อขอการยกโทษจากพวกเขา
พระเจ้าต้องการเห็นคุณเป็นคนมีนิสัยใจดี
มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน รู้จักให้เกียรติผู้อื่น รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราอยู่เสมอ หากคุณเคยทำให้ใครบางคนต้องเสียใจ
ไม่ว่าด้วยความตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็ตาม สิ่งที่คุณควรต้องทำด่วนที่สุด ก็คือ
การกล่าวคำว่าขอโทษ และขอให้เขาอภัยให้ อย่าอายที่จะกล่าวคำว่า “ฉันเสียใจ” “ฉันขอโทษ”
เพราะคำสั้น ๆ คำนี้ เยียวยาและรักษามิตรภาพได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญต้องใช้ให้ถูกกาลเทศะ และต้องกล่าวออกมาจากใจ ไม่ใช่กล่าวด้วยความจำใจ
ข้อคิดระหว่างวัน
เราทุกคนสามารถให้อภัยซึ่งกันและกันได้
โดยไม่ควรจำกัดจำนวนครั้ง เพราะพระเจ้าทรงรักและอภัยให้เราทุกครั้งที่เราทำผิด โดยไม่เคยจำกัดครั้งเลยเช่นกัน
ให้เราอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดาของลูกทั้งหลาย
ขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกสามารถดำเนินชีวิตได้โดยยึดหลักคำสอนของพระองค์อย่างเคร่งครัด
ในการรู้จักรัก รู้จักเมตตา มีความสงสาร ต่อผู้อื่นเหมือนที่พระองค์ทรงมีต่อลูกเสมอมาด้วยเทอญ ลูกขออธิษฐานในพระนามของพระเยซูคริสต์ อาเมน
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านที่สละเวลามาอธิษฐานร่วมกันนะคะ
การฝึกฟังเสียงของพระเจ้าและติดตามการทรงนำของพระวิญญาณฯเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก
พระเจ้าอยากจะบอกถึงแผนการของพระองค์ที่มีต่อชีวิตของเรา
แผนการของพระเจ้าเป็นแผนการที่ดี แต่เราอาจจะพลาดจากการทรงนำได้
ถ้าเราไม่ฝึกฝนในการฟังเสียงของพระเจ้าหรือไม่เชื่อฟังพระองค์.
อย่าเก็บพระพรและสิ่งดี ๆที่พระเจ้าทรงมอบให้เราไว้เพียงคนเดียว
แต่จงทำให้พระพรนี้เจริญเติบโต และเกิดประโยชน์กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
เราทุกคนอาจได้รับพระพรที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นคือ การวางใจ
ที่พระเจ้าทรงมอบให้เราทุกคน
ถ้าเรารักพระเจ้า
การรับใช้จะไม่เป็นภาระและไม่ใช่การจำใจทำ
แต่จะเป็นโอกาสและเป็นความยินดีที่ได้รับใช้
และสายตาของเราจะมองหาหนทางที่จะรับใช้ให้ดีมากยิ่งๆ ขึ้นไปเสมอ
ถ้าเรารักพระองค์
และไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใด
อย่าย่อท้อต่อการทำหน้าที่ประกาศข่าวดี
จงแบ่งปันและบอกเล่าถึงความรักของพระองค์ให้โลกได้รู้ว่า ความรักของพระองค์นั่นยิ่งใหญ่
มั่นคงและจะคงอยู่ตลอดไป
อย่าลืมศึกษาพระคัมภีร์กันไปวันละนิดวันละหน่อยนะคะ
เพราะไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับพระเจ้านะคะ
สิ่งที่เกินกำลังมนุษย์
ไม่ได้เกินกำลังพระเจ้า
เมื่อไม่มีเรี่ยวแรงจะลุกเดิน
จงพึ่งในพละกำลังของพระเจ้า
เมื่อไม่เข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้นกับชีวิต
จงวางใจในพระสัญญา
♥ ชีวิตเราเต็มไปด้วยปัญหาและการทดลองมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นภาระหน้าที่ที่หนัก ปัญหาของคนที่เรารัก ปัญหาเรื่องสุขภาพ
ปัญหาด้านการเงิน อุปสรรคต่าง ๆ หรือแม้แต่ความเข้าใจผิดจากคนรอบข้าง
♥ อย่าตกหลุมพรางของรายละเอียดของปัญหา ...
ขอพระจิตเจ้าช่วยเราให้มองเห็นภาพทั้งหมดในมุมกว้าง ... ในแต่ละวัน
จงตั้งใจแน่วแน่ที่จะยืนขึ้นเพื่อมองทุกอย่างในมุมสูง
มองทุกอย่างด้วยความยินดีในพระพรที่พระเยซูเจ้าประทานแก่เราท่ามกลางการทดลองต่าง ๆ
ไม่มีครูใดดีกว่า
"พระจิตเจ้า" ไม่มีถ้อยคำใดที่ดีกว่า "พระวาจา"
พระองค์ไม่เคยสาย
พระองค์ไม่เคยช่วยเราช้าเกินไป แต่พระองค์ทรงทันเวลาเสมอ
♥ “ข้าแต่พระเยซูเจ้า
โปรดเปิดตาลูกให้เห็นงานของพระองค์ที่ได้ทำเพื่อลูก พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งลูกไปแม้ขณะเดียว
โปรดช่วยลูกให้วางใจในพระองค์
ลูกจะขอรักพระองค์ตลอดไป ลูกขอถวายทุก ๆ กิจการการงานไว้กับพระองค์ด้วยเทอญ
อาเมน
KC
LOVE GOD
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น