ความโกรธเป็นเรื่องธรรมดา
ความโกรธเป็นความรู้สึกอย่างหนึ่ง เช่นเดียวกับความเหงา
ความเศร้าเสียใจ และความตื่นเต้น จึงไม่เป็นเรื่องแปลกถ้าคุณรู้สึกโกรธ
เพราะมันเป็นกิริยาตอบสนองตามปกติของมนุษย์ทั่วไป
บางครั้งความโกรธอาจจะเกิดจากความกลัวหรือความเจ็บปวด
คุณอาจจะโกรธตัวเองที่หาเรื่องยุ่งยากมาสู่ตนเอง หรือโกรธคนรอบข้างที่ทำร้ายคุณหรือทำให้คุณผิดหวัง
โกรธแม้กระทั่งเทพยดาฟ้าดินที่ปล่อยให้ความทุกข์ยากเกิดขึ้นกับคุณ
ให้เรามาดูว่าพระคัมภีร์สอนเราอย่างไรในเรื่องความโกรธ
“แม้ท่านจะโกรธ
ก็อย่าให้เป็นบาป จงเลิกโกรธก่อนดวงอาทิตย์ตก อย่าให้โอกาสแก่มาร”
(เอเฟซัส
4:26-27)
บางครั้งความโกรธก็เป็นเรื่องดี
เชื่อหรือไม่ว่า หากเรามีสติ
ความโกรธก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายและบางครั้งอาจจะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ
ให้เกิดขึ้นได้ด้วยซ้ำ แต่ที่สำคัญที่สุด
เราต้องไม่ปล่อยให้อารมณ์โกรธนำเราไปสู่ความเกลียดชังหรือการทำร้ายผู้อื่น
ซึ่งมีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก พระคัมภีร์บันทึกว่า
แม้พระเยซูผู้เป็นพระเจ้าเมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ก็ยังรู้จักโกรธเช่นกัน
แต่พระองค์ก็ไม่เคยทำบาปแม้สักครั้งเดียว พระองค์เป็นแบบอย่างของคำสอนที่ว่า
“จงเกลียดชังความบาป แต่อย่าเกลียดชังคนทำบาป” เรามักโกรธผู้ที่ทำผิดต่อเรา
แต่หากเราคิดด้วยใจเป็นธรรมแล้ว
ตัวเราเองก็คงเคยทำผิดต่อผู้อื่นทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจเช่นกัน
ว้าววววว! มีบางคำโดนใจมาก พระองค์ทรงสอนว่า. จงเกลียดชังความบาป แต่อย่าเกลียดชังคนทำบาป
ช่วงนี้เปิดเจอแต่พระวาจาที่มาตรงกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
มันยากนะที่จะห้ามใจเราไม่ให้เกลียดชังคนบาปคนนั้น
ที่เราว่าเขาบาปเพราะเขาทำแล้วทำอีก และไม่เคยสำนึกในสิ่งผิดที่ทำลงไป
และทำเป็นไม่รู้ตัว. แต่หากเรามีสติและอ่านพระวาจา และเชื่อในพระองค์.
เราเชื่อว่าสิ่งดีๆจะเกิดขึ้นกับชีวิตเราเองอย่างแน่นอน
ส่วนเรื่องคนบาปคนนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพระองค์. ( ให้เราถ่อมตนเพราะเราเองก็เป็นคนบาป
แต่ที่เราต่างจากเขาคือเรามีสำนึกดี ไม่อยากทำผิดซ้ำซาก
เราต้องไม่ปล่อยให้อารมณ์โกรธนำเราไปสู่ความเกลียดชังหรือการทำร้ายผู้อื่น
ซึ่งมีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก )
ความโกรธเป็นเรื่องร้ายถ้าเรายังโกรธแบบไม่เลิกรา
ความโกรธไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น
ความเคียดแค้นและเกลียดชังมีแต่จะนำความวิบัติมาสู่ชีวิตของเรา
เพราะความโกรธมีพลังอำนาจอาจทำลายชีวิตทั้งชีวิตหากเราไม่อาจควบคุมอารมณ์โกรธได้
บางครั้งเราลงโทษตัวเองที่ได้ทำผิดต่อคนอื่น
เราจึงโกรธและเกลียดตัวเราเองอย่างไม่รู้ตัว ความโกรธทำให้เราคิดอะไรไม่ออก
และถึงจะคิดอะไรได้บ้าง ก็ไม่สามารถคิดได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
เราจึงยิ่งรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น
ให้เรามาดูว่าพระคัมภีร์สอนเราอย่างไรในเรื่องความโกรธ
“...ทุกคนจงฉับไวที่จะฟัง
แต่ช้าที่จะพูด และช้าที่จะโกรธ คนที่โกรธย่อมไม่ปฏิบัติตนชอบธรรมตามพระประสงค์ของพระเจ้า”
(ยก 1:19-20)
“ผู้โกรธช้าย่อมดีกว่านักรบชำนาญศึก
ผู้รู้จักบังคับใจตนเองย่อมดีกว่าผู้ที่ยึดเมืองได้”
(สุภาษิต 16:32)
แล้วการแก้แค้นล่ะ?
หลายครั้งที่ความโกรธนำมาซึ่งความแค้นและตามมาด้วยการแก้แค้น
หยุดสักนิดคิดสักหน่อยว่าเราแก้แค้นเพื่อให้เกิดความยุติธรรมได้ไหม? ความจริงก็คือ
การแก้แค้นไม่เคยช่วยให้ใครรู้สึกดีขึ้น
และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เลวร้ายให้ดีขึ้นได้ สิ่งที่เราทุกคนควรทำคือ
พยายามให้อภัย และทำใจให้สบาย ด้วยการไม่ยอมเป็นทาสของอารมณ์โกรธหรือเกลียดชัง
ซึ่งอาจนำไปสู่ความรู้สึกต้องการแก้แค้น หากเราไม่ยอมให้อภัยก็หมายความว่าผู้ที่ทำร้ายเรายังคงมีอำนาจเหนือเราอยู่
และจะยิ่งทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเดิม
ถูกต้องเลยคะ.
บางครั้งเราอยาก pay back(เอาคืน) คนเหล่านั้นให้สาสมใจ
แต่หากเราปล่อยความโกรธครอบงำ ความเกลียดชัง ก็จะตามมา และต่อด้วยความหายนะทั้งสองฝ่าย
และนั่นหมายถึงว่าเรายอมปล่อยให้ผู้ที่ทำร้ายเรา
มีอำนาจอยู่เหนือเราและมันยิ่งทำให้เราเจ็บปวดมากกว่าเดิม
เราไม่สามารถไปแก้ตัวหรือแก้ไขในสิ่งที่คนชั่วเหล่านั้นสร้างเรื่องขึ้นมาได้ทุกที่
ไม่สามารถไปชี้แจงแถลงไขกับคนได้ทุกคน แต่จงมั่นใจว่าเรามิได้ทำสิ่งผิด และกาลเวลาจะนำมาซึ่งความจริง.จงอวยพรคนจิตชั่วเหล่านั้นด้วยคำภาวนา
และที่สำคัญเราจะได้รับมรดกคือพระพร.
สุดท้ายของเรื่องโกรธๆ
ที่ทำให้เราอารมณ์เสีย. และอยากเอาคืน. (จิกหัวตบๆให้สาสม 5555จินตนาการเอาก็พอนะคะ
อย่าไปทำจริง เพราะการโกรธใครสักคนนั้นไม่บาป
แต่อย่าให้อารมณ์นั้นนำพาเราถึงจุดที่เสี่ยงต่อการต้องลงมือกระทำบาปนะคะ)
คือจะบอกว่า. ให้เราพยายามลืมมันเสียเถิด ! อ่านข้อความเหล่านี้แล้วนำไปปฏิบัติให้เกิดผลในชีวิตจริงของเราให้ได้นะคะและ
ชีวิตของเราจะยิ่งดี๊ดีขึ้น นะ (ทำยากแต่ให้พยายามกันนะคะ)
ใช่คะ
ความโกรธและความเจ็บช้ำน้ำใจไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะลืมกันได้ง่ายๆ แต่การเก็บซ่อนความโกรธไว้ในใจ
มันจะกัดกร่อนเราเรื่อยๆ การขจัดอารมณ์โกรธที่พระเจ้าสอนเราคือ
“ให้อภัย” จงยกโทษให้ผู้อื่นแล้วชีวิตคุณจะเป็นสุขและมีสุขภาพดีทั้งกายและใจด้วย นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่พระคัมภีร์กล่าวว่า
“ให้เราขจัดความเกลียดชังในชีวิตประจำวันเพราะจะช่วยหยุดกิจการของความชั่วร้ายในตัวเรา”
เราอาจจะคิดว่า
“ให้อภัยเป็นเรื่องพูดง่ายแต่ทำยาก ฉันคงทำไม่ได้” นั่นเป็นเพราะคุณๆ ยังมีอารมณ์โกรธอยู่
แต่ด้วยการขอความช่วยเหลือของพระเจ้า พระบิดาสุดที่รักของเรา คุณจะได้รับการเสริมกำลังที่จะก้าวข้ามอารมณ์และความโกรธไปได้
พระคัมภีร์หลายตอนได้กล่าวถึงผลดีของการให้อภัยไว้ว่า
“สามัญสำนึกทำให้คนโกรธช้า
การมองข้ามการถูกรังแกย่อมเป็นเกียรติแก่เขา”
(สุภาษิต
19:11)
“จึงดีกว่าที่ท่านจะให้อภัยและให้กำลังใจเขา
เพื่อเขาจะไม่ต้องรับความทุกข์เกินกว่าที่จะทนได้” (2โครินธ์ 2:7)
“จงระงับโทสะและเลิกโกรธ
อย่าเดือดร้อน เพราะไม่เกิดประโยชน์ใด”
(สดุดี
37:8)
“...
อย่าแก้แค้นเลย แต่จงให้พระเจ้าทรงตัดสินลงโทษเถิด
ดังที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า การแก้แค้นเป็นของเรา
เราจะตอบแทนการกระทำของทุกคน พระเจ้าตรัสดังนี้ ตรงกันข้าม ถ้าศัตรูของท่านหิว
จงให้อาหารแก่เขา ถ้าเขากระหาย จงให้เขาดื่ม เพราะเมื่อทำเช่นนี้
ท่านจะทำให้เขาสำนึกและละอายใจ อย่าให้ความชั่วเอาชนะท่าน
แต่จงชนะความชั่วด้วยความดี” (โรม 12:19-21)
😇เดี๋ยวนี้คนเราใจร้อน ใครรู้จักควบคุมตัวเองได้คือยอดคน
เมื่อมีคำไม่ดีมากระทบ
อยู่ที่ใจเราจะรับหรือไม่ หรือเพียงนิ่งเฉย 😇
(((2ซมอ16:9-12)))
อาบิชัยบุตรของนางเศรุยาห์ทูลกษัตริย์ว่า
‘ทำไมไอ้หมาตายตัวนี้จะต้องแช่งด่าพระราชาเจ้านายของข้าพเจ้า? โปรดอนุญาตให้ข้าพเจ้าไปตัดหัวของมันเสียเถิด’
แต่กษัตริย์ตรัสตอบว่า ‘บุตรของนางเศรุยาห์เอ๋ย เรามีความคิดเห็นไม่ตรงกัน? ถ้าเขาแช่งด่าเราเพราะพระยาห์เวห์ทรงบอกเขาว่า
“จงไปแช่งด่าดาวิดเถิด!’ ใครเล่าจะมีสิทธิ์ถามเขาว่า “ทำไมท่านจึงทำเช่นนี้?"’
กษัตริย์ดาวิดตรัสกับอาบีชัยและข้าราชบริพารทั้งปวงว่า
‘ดูซิ แม้กระทั่งลูกที่เกิดจากเรายังพยายามจะฆ่าเรา
แล้วสาอะไรกับชาวเบนยามินผู้นี้เล่า ปล่อยเขาเถอะ ปล่อยให้เขาแช่งด่าเรา
เพราะพระยาห์เวห์ทรงบัญชาให้เขาทำ! บางที
พระยาห์เวห์จะทอดพระเนตรเห็นความทุกข์ยากของเรา
แล้วประทานพรให้เราแทนคำแช่งด่าในวันนี้
😊นิ่งสงบ สยบทุกความเคลื่อนไหว ข้อความที่ไม่มีผู้รับก็จะถูกส่งคืนกลับไป
ใครพูดไม่ดีกับเรา นิ่งเฉยไว้
ผู้ส่งก็จะเป็นทุกข์เป็นร้อนเองว่าทำไมเราถึงไม่สนใจกับคำพูดเขา มันดูยากอยู่นะ
มันอาจจะต้อง ฝึกฝนไปตลอดชีวิต แต่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ จริงไหมคะ? จงใส่ใจคำพูดที่ควรใส่ใจและมองข้ามคำพูดที่ให้ร้ายเถิด
ขอพระเจ้าอวยพร😊
ยิ้มเยอะๆ รอยยิ้มไม่มีต้นทุนแต่ยิ้มให้ถูกที่ถูกเวลา คุณจะได้ผลตอบแทนเกินคาด ยิ้มและนิ่งสงบ จะช่วยสยบทุกความเคลื่อนไหว นะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น