วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2567

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

 


พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้

การทรยศ

อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66

ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออกไปกับคนอื่นๆ เพื่อรักษาคนป่วย ขับไล่ปีศาจ และประกาศข่าวสารแห่งอาณาจักร เขารับใช้โดยจัดการเรื่องการเงินให้กับอัครสาวกทั้งสิบสองคน อย่างไรก็ตาม ความรักในเงินได้เข้ามาแทนที่ความรักที่เขามีต่อพระคริสต์ เมื่อเขาเห็นโอกาสที่จะหาเงินใส่กระเป๋าตัวเองด้วยการทรยศต่อพระเจ้า เขาก็ทำ

 

15ถามว่า “ถ้าข้าพเจ้าจะมอบพระองค์​ไว้​แก่​ท่าน ท่านทั้งหลายจะให้อะไรข้าพเจ้า” ฝ่ายเขาก็สัญญาจะให้เหรียญเงินแก่​ยู​ดาสสามสิบเหรียญ 16ตั้งแต่​เวลานั้นมายูดาสก็คอยหาช่องที่จะทรยศพระองค์ (มัทธิว 26:15-16)

 

การทรยศของเราอาจไม่ยิ่งใหญ่เท่าของยูดาส แต่ก็สร้างความเสียหายมหาศาลเช่นกัน มันมักเริ่มต้นจากสิ่งเล็กน้อย อาจเป็นเพียงการละเลยเวลาที่เราอยู่กับพระเจ้า เลี่ยงที่จะให้เงินกับพระเจ้า หรือการนินทาว่าร้ายคนอื่น อย่างไรก็ตาม การทรยศจะค่อยๆเติบโตขึ้น  เหมือนกับเสื้อผ้าที่ถูกแมลงกัดกิน บาปเล็กๆ น้อยๆ จะกลายเป็นการทรยศที่ยิ่งใหญ่

 

เงินสามสิบเหรียญเป็นตัวแทนของการทรยศและความโลภที่นำไปสู่การตรึงพระเยซูบนไม้กางเขนในที่สุด เป็นการแสดงให้เห็นว่าเพื่อนสนิทสามารถหันหลังให้คนอื่นเพื่อประโยชน์ส่วนตัวได้อย่างไร เรื่องนี้บรรยายถึงด้านมืดของธรรมชาติของมนุษย์และผลที่ตามมาจากการกระทำที่เห็นแก่ตัว การกระทำของยูดาสเป็นบทเรียนเตือนใจเกี่ยวกับผลที่ตามมาของความโลภและการทรยศ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของความภักดีและความซื่อสัตย์

 

พระคำข้อนี้ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจถึงบทบาทของเจตจำนงเสรีในการกระทำของมนุษย์อีกด้วย ยูดาสเลือกที่จะทรยศพระเยซูอย่างอิสระ และการตัดสินใจของเขาทำให้เกิดผลที่ตามมาอย่างสำคัญ ซึ่งเน้นถึงหลักการในพระคัมภีร์เกี่ยวกับความรับผิดชอบส่วนบุคคลและผลทางศีลธรรมของการเลือกของบุคคล

 

ความท้าทายสำหรับวันนี้: สำรวจชีวิตของคุณและจัดการกับการทรยศ และความโลภใดๆ ที่แอบแฝงอยู่ในจิตวิญญาณของคุณ

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

 bible.art

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

 


วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2567

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ อย่าตื่นตระหนกเลย

 


พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้

อย่าตื่นตระหนกเลย

อ่านมัทธิว 24:1 ถึง 26:2

ริก สามีของเคย์ อ่านการคาดการณ์เศรษฐกิจเชิงลบบนอินเทอร์เน็ตและเขาพยายามเตรียมตัวสำหรับช่วงเวลาที่ยากลำบากที่กำลังจะเกิดขึ้น เขาซื้อเงินและทองและเก็บไว้ที่บ้าน เพราะเขาคิดว่าปลอดภัยกว่าตู้ฝากเงินในธนาคาร เมื่อเวลาผ่านไป ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของการลงทุนของเขาก็รบกวนเขา เขาพบว่าตัวเองต้องคอยตรวจสอบแม้กระทั่งในเวลากลางคืน แม้ว่าริกจะมีเจตนาดี มีการเตรียมรับมือกับสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพื่อดูแลครอบครัวของเขา แต่ความวิตกกังวลของเขานั้นผิด ดังที่มัทธิว 6:19-24 กล่าวว่า “ทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ไหน?” ใจของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย

 

 

6ท่านจะได้ยินเสียงสงครามและข่าวลือเรื่องสงคราม คอยระวังอย่าตื่นตระหนกเลย เพราะว่าทุกสิ่งจะต้องเกิดขึ้น แต่ที่สุดปลายยุคยังมาไม่ถึง   13แต่ใครสู้ทนถึงที่สุดก็จะได้รับการช่วยให้รอด (มัทธิว 24:6,13)

 

พระเยซูทรงเตือนสาวกของพระองค์โดยเฉพาะว่าอย่ากลัวอนาคต แต่ให้ยืนหยัดมั่นคง ผู้เขียนหนังสือฮีบรูบอกประชาชนของพระเจ้าให้มองดูพระเยซู ผู้ทรงอดทนต่อไม้กางเขนเพราะความยินดีที่อยู่เหนืออนาคต (อ่าน ฮีบรู 12:2) เราไม่ควรจดจ่ออยู่กับข่าวร้ายในสื่อ ปัญหาทางการเงิน หรือปัญหาความสัมพันธ์ที่ยากลำบากใดๆ ที่เราต้องเผชิญ แต่เราควรจดจ่ออยู่กับพระเยซู เพราะพระองค์จะประทานกำลังให้เรายืนหยัดมั่นคงในช่วงเวลาที่ยากลำบาก


สิ่งที่เราเผชิญในฐานะผู้เชื่อคือการทดลองให้เป็นเหมือนสิ่ง ที่โลกแสวงหาคือ ส่ำสมทรัพย์สมบัติของโลกนี้ บ่อยครั้ง เรามองดูสิ่งของต่างๆของโลกและพูดกับตัวเอง “ถ้าฉันได้มี … ชีวิตฉันก็คงจะลงตัว” เราแสวงหาความมั่นคงและความพึงพอใจในสิ่งของชั่วคราว แทนสิ่งที่จะมีในความสัมพันธ์กับพระบิดาโดยทางพระเยซูคริสต์ การทดลองนี้ดึงดูดความสนใจเรา และดึงเราออกห่างจากสิ่งที่สำคัญ คือ ความสัมพันธ์กับพระเจ้าพระบิดา

 

เราอาจสวมใบหน้าหรือหน้ากากหลายแบบ เพื่อให้คนอื่นมองว่าเราเป็นคนที่อยู่ในทางของพระเจ้า แต่ในความเป็นจริง ลึกลงไปในใจ หรือในชีวิตส่วนตัว เราต่อสู้กับความกลัว การทดลอง และความปรารถนาอยากเป็นที่ยกย่องของมนุษย์แทนที่จะถวายเกียรติแด่พระเจ้า   พระเยซูทรงมุ่งสู่จิตใจด้วยคำถาม “ทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ไหน?” พระองค์ตรัสในมัทธิว 6:21 ว่า “เพราะว่าทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ไหน ใจของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย” มีหลายสิ่งที่กำลังแย่งชิงหัวใจคุณ เพราะนี่คือศูนย์ควบคุมของชีวิต

 

พระวจนะสอนว่าจิตใจเป็นตัวควบคุมเหนือชีวิต ชีวิตของคนๆนั้นจะสะท้อนจิตใจของเขาออกมา หนังสือสุภาษิต 4:23 กล่าวว่า “จงรักษาใจของเจ้าด้วยความระวังระไวรอบด้านเพราะชีวิตเริ่มต้นออกมาจากใจ” เป็นภาพอธิบายให้เราเห็นจิตใจที่เหมือนบ่อ ที่ทุกเรื่องราวของชีวิตจะล้นไหลออกมา4

 

ดังนั้น เราต้องรักษาและเฝ้าระวังใจ เพื่อให้ติดตามแต่สิ่งที่เป็นของพระเจ้า และไม่ถูกดึงออกไปด้วยสิ่งของๆโลกนี้   เราต้องถามตนเองเมื่อเริ่มศึกษาพระวจนะตอนนี้ – “ทรัพย์สมบัติเราอยู่ที่ไหน?” เมื่อถามคำถามนี้ เราจะได้คำตอบว่า “ใจของเราอยู่ที่ไหน?” เพราะทรัพย์สมบัติคุณอยู่ที่ไหน ใจของคุณก็อยู่ที่นั่นด้วย คำถามที่จะถามตัวเองข้อสองคือ – “เราจับจ้องไปที่สิ่งใด” สายตาเราจ้องไปที่ไหน? จ้องไปที่สิ่งที่เห็นได้หรือเห็นไม่ได้? คำถามสุดท้ายคือ – “คุณกำลังปรนนิบัติผู้ใด หรือสิ่งใด?” พระเยซูถูกล้อมไปด้วยคนที่ได้ชื่อว่าเคร่งศาสนา พวกฟาริสี และสะดูสี คนที่มองดูศรัทธาแต่ภายนอก จิตใจภายในกำลังปรนนิบัติเงินทองและปรนเปรอตนเองมากกว่าปรนนิบัติพระเจ้า พระเยซูยังถูกล้อมไปด้วยคนที่ไม่เคยได้ยินถ้อยคำที่แรงแบบนี้มาก่อน พระองค์ทรงขอให้เราสำนึกผิดกลับใจ เปลี่ยนความคิดจิตใจในเรื่องสิ่งต่างๆ มาดำเนินชีวิตในความเชื่อ และปรนนิบัติพระเจ้าองค์เที่ยงแท้เพียงพระองค์เดียว

 

คำแนะนำในการอธิษฐาน: ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยให้ลูกยืนหยัดมั่นคงโดยจดจ่ออยู่กับพระองค์แทนที่จะจดจ่ออยู่กับสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ ไม่ตื่นตระหนก แต่ให้สู้ทนให้ถึงที่สุดเพราะความจริงที่ว่าลูกจะได้รับการช่วยให้รอด อาเมน

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

 bible.art

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

 


วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2567

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ เกียรติยศทางโลก

 


พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้

เกียรติยศทางโลก

อ่านมัทธิว 19:3 ถึง 23:39

นาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการโรงเรียนของเขตเพราะเธอต้องการสร้างความแตกต่างในโรงเรียน เธอไม่สนใจเรื่องการยอมรับ หรือชื่อเสียง แต่เมื่อมีการถ่ายทอดการประชุมทางโทรทัศน์ ผู้คนที่เธอไม่รู้จักก็เริ่มทักทายและแสดงความเคารพต่อเธอ เมื่อเวลาผ่านไป เธอเริ่มรู้สึกว่าเธอสมควรได้รับสิ่งนี้ แต่หลังจากที่เธอหมดวาระ เธอก็ไม่ได้รับความสนใจแบบนั้นอีกต่อไป  “ฉันชื่นชอบเกียรติยศนั้นจริงๆ เธอตระหนักและตกใจที่เธอตกหลุมพรางเดียวกับที่พวกฟาริสีทำ”

 

 6เขาชอบที่อันมีเกียรติในการเลี้ยงและในธรรมศาลา 7กับชอบรับการคำนับที่กลางตลาด และชอบให้เขาเรียกว่า รับบี รับบี’  <ท่านอาจารย์>  (มัทธิว 23:6–7)

 

เราทุกคนต่างก็ต้องการรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่ยอมรับ และมีตัวตนในสายตาของคนอื่น   แต่การพึ่งพาคนอื่นเพื่อให้เห็นคุณค่าในตนเองนั้นไม่ได้ทำให้รู้สึกสมหวังในที่สุด และมันอาจทำให้เราต้องเจ็บปวดที่สุด  จริงๆแล้วเราทุกคนมีความสำคัญเพราะเราเป็นผลงานสร้างสรรค์ของพระเจ้าและเพราะพระคริสต์ทรงรักเรามากพอที่จะยอมตายเพื่อเรา เมื่อเราซาบซึ้งในความเป็นมนุษย์ที่พระเจ้าทรงสร้างให้เราเป็น และตระหนักถึงความรักของพระองค์ เราก็ไม่ต้องการเกียรติยศที่ไร้ค่าที่โลกมอบให้อีก

 

ข้อแนะนำในการอธิษฐาน: ข้าแต่พระบิดา ลูกขอบพระคุณพระองค์สำหรับความรักอันไม่มีเงื่อนไขของพระองค์ นับเป็นความพึงพอใจมากกว่าเกียรติยศใดๆ ที่ลูกจะได้รับจากผู้อื่นในโลกนี้ นี่คือเกียรติยศสูงสุดในชีวิตลูกแล้ว อาเมน

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

 bible.art

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

 


วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2567

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ ความอ่อนน้อมถ่อมตน

 


พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้

ความอ่อนน้อมถ่อมตน

อ่านมัทธิว 17:1 ถึง 19:2

เมื่ออายุมากขึ้น พิศมักจะเข้าใจผิดถึงเจตนาของผู้อื่นและตอบสนองด้วยความโกรธหรือความรู้สึกไม่ดีเสมอ ครั้งหนึ่งเธอส่งอีเมลหาเอมเพื่อนของเธอ บอกว่าเธอต้องการคำขอโทษสำหรับความคิดเห็นที่แม้จะดูไม่มีพิษมีภัยของเอมเมื่อครั้งก่อนแต่มันขัดใจเธอเหลือเกิน  แม้มิตรภาพอาจจบลงตรงนั้นได้ พิศก็อยากได้ยินคำขอโทษอยู่ดี อย่างไรก็ตาม เอมไปเยี่ยมพิศในวันรุ่งขึ้น เธอไม่ได้ให้คำอธิบาย ข้อโต้แย้ง หรือข้อแก้ตัวเหมือนที่คนเราทำกันบ่อยๆ เมื่อถูกเผชิญหน้า เธอเพียงแค่ขอโทษ พิศก็ให้อภัยเธอ และทั้งสองคนก็มีความเป็นเพื่อนกันต่อไปอีกสองปีก่อนที่พิศจะเสียชีวิต ความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นคุณธรรมคริสเตียนที่หายากและยากที่สุดอย่างหนึ่งที่จะดำเนินตามได้อย่างไม่มีข้อแม้

 

เพราะฉะนั้น ถ้าใครถ่อมจิตใจลงเหมือนเด็กเล็กๆ คนนี้ คนนั้นจะเป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดินสวรรค์(มัทธิว 18:4)

 

เด็ก ๆ เป็นกลุ่มคนที่ต่ำต้อยที่สุดในสังคมพันธสัญญาใหม่ การเป็นเหมือนเด็กจะต้องเป็นการแสดงออกถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างที่สุด การถือตนว่าชอบธรรมและมีข้อแก้ตัวที่หยิ่งยโสเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้สำหรับผู้ที่ติดตามพระคริสต์

 

ความถ่อมตนเป็นศูนย์กลางของคำสอนของพระเยซู

เนื่องจากพระองค์มักเน้นย้ำถึงความสำคัญของการถ่อมตน

และจิตใจที่อ่อนน้อมถ่อมตน

ในข้อพระคัมภีร์นี้ พระเยซูทรงเรียกร้องให้เหล่าสาวกของพระองค์

เลียนแบบความไร้เดียงสา ความไว้วางใจ และการพึ่งพาของเด็ก

ในความสัมพันธ์กับพระเจ้า พระเยซูทรงใช้ภาพของเด็กเพื่อ

แสดงให้เห็นถึงความถ่อมตนที่ผู้ติดตามของพระองค์ควรมี


ข้อเสนอแนะในการอธิษฐาน: พระเจ้าข้า ในวันนี้โปรดชี้ให้ลูกมองเห็นใครสักคนที่ลูกต้องกล่าวคำขอโทษ และโปรดช่วยให้ลูกถ่อมใจลงเพื่อที่ความสัมพันธ์จะได้ฟื้นคืนกลับมา และเพื่อให้เราได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ อาเมน

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

 bible.art

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2567

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ พายุที่คุณกำลังเผชิญอยู่

 


พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้

พายุที่คุณกำลังเผชิญอยู่

อ่านมัทธิว 13:54 ถึง 16:28

เมื่อเอลลี่อธิษฐานขอให้ลูกๆ ที่เป็นผู้ใหญ่ของเธอกลับมาหาพระเจ้า เธอไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น สามีของเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมองเสื่อมและถูกส่งไปอยู่ในสถานดูแลแบบเต็มเวลาจึงได้รับคำตอบสำหรับคำอธิษฐานของเธอ แม้ว่าความเจ็บปวดจากพายุนั้นจะทรมานมาก แต่พระเจ้าทรงใช้สิ่งนี้เพื่อนำเด็กสองคนนั้นกลับมาหาพระองค์

 

พระเยซูทรงเดินมาหาเหล่าสาวกท่ามกลางพายุบนทะเลกาลิลีเพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นว่าพระองค์เป็นพระบุตรของพระเจ้าอย่างแท้จริง

 

แล้วบรรดาผู้ที่อยู่ในเรือจึงกราบนมัสการพระองค์พร้อมทั้งทูลว่า “พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าจริงๆ”  (มัทธิว 14:33)

 

พระเจ้ามักจะทรงงานในชีวิตของผู้คนของพระองค์ผ่านพายุที่พวกเขาเผชิญ ผู้ที่มองหาพระเยซูท่ามกลางวิกฤตการณ์ของพวกเขาจะเห็นพระองค์ในพายุนั้น เมื่อการทดลองผ่านไป หวังว่าพวกเขาจะนมัสการพระองค์เช่นกัน โดยรู้ว่าแม้ต้องทนทุกข์ทรมาน แต่ศรัทธาของพวกเขาก็เข้มแข็งขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาจะเห็นว่าพระองค์ทรงใช้การทดลองของพวกเขาให้เกิดผลดีในชีวิต

 

มัทธิว 14:33 ในพระคัมภีร์ฉบับคิงเจมส์ได้บันทึกช่วงเวลาแห่งการเปิดเผยและการนมัสการอันล้ำลึก เป็นการเตือนใจว่าสาวกยอมรับพระเยซูในฐานะพระบุตรของพระเจ้า และท้าทายให้เราพิจารณาความเข้าใจของเราเองเกี่ยวกับธรรมชาติอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ หัวข้อของความศรัทธา การเปิดเผย และการนมัสการเป็นรากฐานของข้อพระคัมภีร์นี้ และสัญลักษณ์ของข้อพระคัมภีร์นี้ช่วยให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความสำคัญทางจิตวิญญาณของการตอบสนองของเหล่าสาวกต่อการแสดงพลังอำนาจอันน่าอัศจรรย์ของพระเยซู


ความท้าทายสำหรับวันนี้: มองหาพระเยซูและสิ่งดีๆ ที่พระองค์กำลังทรงกระทำผ่านพายุที่คุณกำลังเผชิญอยู่นี้

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

 bible.art

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2567

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ ความสงบสุขและการพักผ่อน

 


พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้

ความสงบสุขและการพักผ่อน

อ่านมัทธิว 11:2 ถึง 13:53

คุณมีเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างและทำให้คุณสบายใจบ้างหรือไม่ ไม่ว่าวันของคุณจะแย่แค่ไหน คุณก็รู้ว่าการใช้เวลาอยู่กับเพื่อนคนนั้นจะทำให้คุณอารมณ์ดีขึ้น ช่วยให้คุณลืมปัญหา และรู้สึกดีขึ้นกับชีวิต คนๆ นั้นอาจไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว แต่เป็นคนถ่อมตัว อ่อนโยน และใจดี การใช้เวลาอยู่กับเพื่อนแบบนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกสงบ

 

“บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนักจงมาหาเรา และเราจะให้ท่านพักสงบ จงรับแอกของเราแบกไว้และเรียนรู้จากเราเพราะเราสุภาพและถ่อมใจ แล้วจิตวิญญาณของท่านจะพักสงบ เพราะแอกของเรานั้นพอเหมาะและภาระของเราก็เบา”  (มัทธิว 11:28–30)

 

พระเยซูคือเพื่อนที่ดีที่สุด เมื่อคุณใช้เวลาอยู่กับพระองค์ พระองค์จะประทานการพักผ่อนและสันติสุขแก่คุณ พระองค์ทรงรักคุณมากจนยอมสละชีวิตเพื่อคุณ และพระองค์ปรารถนาที่จะใช้เวลาอยู่กับคุณ พระองค์ทรงอ่อนโยนและถ่อมตัว แต่พระองค์คือพระเจ้าแห่งจักรวาล พระองค์ทรงเชื้อเชิญให้คุณเดินไปกับพระองค์ และปล่อยให้พระองค์แบกภาระของคุณ

 

ข้อพระคัมภีร์นี้ให้คำสัญญาอันล้ำลึกเกี่ยวกับชีวิตที่ปราศจากภาระและการพักผ่อนที่จำเป็นอย่างยิ่งจากสถานการณ์ที่วุ่นวายและความกดดันในชีวิต

เมื่อได้เข้าใจความสำคัญที่แท้จริงของข้อพระคัมภีร์นี้แล้ว ผู้อ่านจะพบกับความสบายใจ  การให้กำลังใจและความเชื่อมั่นในพระเจ้าอีกครั้ง

 

ความท้าทายประจำวัน: ฝึกใช้เวลาพักผ่อนในที่ประทับของพระเยซู ผู้ทรงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ

 

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงนิรันดร์และเมตตากรุณา ขณะที่ลูกนอนลงเพื่อพักผ่อนร่างกายที่เหนื่อยล้าและหลับตาลง ลูกมาเฝ้าพระองค์ด้วยความขอบคุณอย่างนอบน้อมและอุทิศตนอย่างจริงใจ พระวจนะของพระองค์จากมัทธิว 11:28 เตือนใจลูกถึงความรักอันไม่สั่นคลอนของพระองค์และการปลอบโยนที่พระองค์เท่านั้นที่สามารถให้ได้ “บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนักจงมาหาเรา และเราจะให้ท่านพักสงบ”

พระเจ้าข้า ลูกรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน ความท้าทายและความกังวลในวันนี้ทำให้ลูกรู้สึกหนักอึ้ง แต่ด้วยพระคุณอันไม่มีขอบเขตของพระองค์ พระองค์ได้ทรงให้ที่หลบภัยแก่ลูก สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งความสงบภายในอ้อมอกของพระองค์ ลูกขอบพระคุณพระองค์

พระเจ้าที่รัก สำหรับคำสัญญาแห่งการพักผ่อนที่พระองค์ประทานให้แก่ลูก ลูกตระหนักว่าพระองค์เข้าใจถึงความยากลำบากที่ลึกซึ้งของลูก และพระองค์ทรงเชื้อเชิญให้ลูกวางภาระของลูกลงที่พระบาทของพระองค์ อ้อมอกของพระองค์เป็นที่หลบภัยที่ปลอดภัยซึ่งลูกสามารถพบกับความสงบจากความวุ่นวายในชีวิตได้ คืนนี้ ลูกมอบความกังวลของลูกให้กับพระองค์ ลูกฝากความวิตกกังวล ความกลัว และความไม่แน่นอนของลูกไว้ในพระหัตถ์อันเปี่ยมด้วยความรักของพระองค์ โปรดช่วยลูกปลดภาระเหล่านี้ โดยรู้ว่าพระองค์ทรงควบคุมทุกอย่าง และแผนการของพระองค์สำหรับลูกก็เต็มไปด้วยความหวัง ขณะที่ลูกเคลิ้มหลับ ลูกก็นึกถึงความรักที่ยั่งยืนของพระองค์ ความรักของพระองค์ได้พาลูกผ่านวันเวลาอันยาวนานมาได้ และลูกก็มั่นใจว่าความรักของพระองค์จะยังคงค้ำจุนลูกในวันข้างหน้าเช่นกัน

ในขณะนี้ ลูกรู้สึกถึงการมีอยู่ของพระองค์ที่โอบล้อมลูกไว้ เหมือนผ้าห่มอันอบอุ่นแห่งความสงบเสียงอันอ่อนโยนของพระองค์กระซิบอยู่ในใจของลูก ปลอบโยนจิตวิญญาณของลูก และเตือนลูกถึงคำสัญญาของพระองค์ ลูกรู้สึกสบายใจเมื่อได้มีพระองค์อยู่เป็นเพื่อนตลอดเวลา และรู้สึกซาบซึ้งใจกับความรักอันลึกซึ้งของพระองค์ ขณะที่ลูกหลับตาและยอมจำนนต่อการนอนหลับ ลูกเชื่อว่าพระองค์จะดูแลลูก ชี้แนะความฝันของลูก และชำระวิญญาณของลูก

ขอให้ความสงบสุขของพระองค์ซึ่งเหนือความเข้าใจทั้งหมด ปกป้องหัวใจและจิตใจของลูกในพระเยซูคริสต์ ในพระนามอันล้ำค่าของพระเยซู  อาเมน

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

 bible.art

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2567

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าพายุของคุณ

 


พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้

พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าพายุของคุณ

อ่านมัทธิว 8:1 ถึง 11:1 ​

 

 25และพวกสาวกมาปลุกพระองค์ ทูลว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์โปรดช่วยเถิด เรากำลังจะจมอยู่แล้ว” 26พระองค์จึงตรัสกับพวกเขาว่า “ทำไมจึงกลัวนัก? คนศรัทธาน้อย” แล้วพระองค์ทรงลุกขึ้นห้ามลมและทะเล คลื่นลมก็สงบเงียบทั่วไป (มัทธิว 8:25–26)

 

ขณะที่พระองค์อยู่กับเหล่าสาวกบนทะเลสาบกาลิลี พระองค์ก็ทรงนอนหลับอยู่ที่ท้ายเรือ ทันใดนั้น พายุรุนแรงก็เกิดขึ้น และคลื่นก็เริ่มซัดเรือจนเต็ม สาวกตกใจ ปลุกพระเยซู และร้องเรียกพระองค์ให้ช่วยพวกเขาจากการจมน้ำ

 

เราจะรับมือกับปัญหาและการทดลองที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราอย่างไร ปัญหาทำให้เราหันเหความสนใจออกจากพลังของพระเจ้า ความตื่นตระหนกกัดกร่อนความสงบสุขที่พระเจ้าประทานให้แก่เรา และแรงกดดันที่เรารู้สึกส่งผลต่อมุมมองของเรา และเหล่าสาวกรู้ว่าพระเยซูสามารถรับมือกับพายุที่พวกเขาเผชิญได้

 

พระเยซูยังทรงสามารถรับมือกับทุกสิ่งที่คุณเผชิญได้ ดังนั้นจงดำเนินชีวิตด้วยศรัทธา ไม่ใช่ด้วยสิ่งที่มองเห็น และเชื่อว่าไม่มีพายุใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าพระเจ้าของคุณ

 

คำแนะนำในการอธิษฐาน: ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยให้ลูกรู้ว่าพระองค์อยู่กับลูก ไม่ว่าลูกจะเผชิญกับการทดลองใดๆ ก็ตาม อาเมน

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

 bible.art

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2567

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การให้อภัย



พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้

การให้อภัย

อ่านมัทธิว 4:12 ถึง 7:29

ทำไมผู้เชื่อจึงควรให้อภัยผู้ที่ไม่เสียใจต่อความเจ็บปวดหรือการบาดเจ็บที่พวกเขาทำให้เกิดขึ้น ดูเหมือนจะไม่ยุติธรรมที่ผู้กระทำความผิดที่ตั้งใจทำร้ายผู้อื่นจะ "หนีรอด" จากสิ่งที่ทำไป

 

แต่ถ้าท่านไม่ยอมอภัยบาปผิดของผู้อื่นพระบิดาก็จะไม่อภัยบาปผิดของท่านเช่นกัน (มัทธิว 6:15)

 

พระเจ้าทรงทราบว่าบาดแผลและความโกรธที่ฝังแน่นในใจจะนำมาซึ่งความขมขื่นและความเคียดแค้น แทนที่จะมุ่งความสนใจไปที่ความสัมพันธ์ของผู้เชื่อกับพระเยซู ผู้เชื่อจะมุ่งความสนใจไปที่ผู้กระทำความผิดและความเจ็บปวดที่รู้สึก เมื่อความเจ็บปวดและความโกรธกลายเป็นจุดสนใจของเรา ความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าก็จะได้รับความเสียหาย

 

การให้อภัยทำให้ผู้บาดเจ็บสามารถมุ่งความสนใจไปที่พระเยซูได้ พระเจ้าจะจัดการกับผู้กระทำความผิดด้วยปัญญาที่สมบูรณ์แบบและในเวลาที่เหมาะสมของพระองค์ พระองค์คือพระเจ้าแห่งการฟื้นฟู ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำไม่ได้ในความเป็นมนุษย์ของเรา จงมอบความเจ็บปวดของคุณไว้กับผู้รักษา

 

คำแนะนำในการอธิษฐาน: ขอให้พระเจ้าช่วยคุณดำเนินการตามกระบวนการแห่งการให้อภัย

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

 bible.art

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

 


วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2567

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การเปลี่ยนแปลงชีวิต

 


พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้

การเปลี่ยนแปลงชีวิต

อ่านมัทธิว 3:1 ถึง 4:11

โจรู้ว่าชีวิตของเขาไม่ได้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า แต่เขาต้องการชีวิตนิรันดร์ในสวรรค์ เขาอธิษฐานขอให้พระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด เขาเริ่มอ่านพระคัมภีร์ เข้าร่วมคริสตจักร และอาสาทำงานเป็นทีมจัดสวนของคริสตจักร

 

แม้ว่าโจจะปฏิบัติตามหน้าที่ที่ตนรับรู้ด้วยการไปคริสตจักรและทำงานในทีมจัดสวน แต่เขาก็เลิกอ่านพระคัมภีร์และดำเนินชีวิตแบบเดิมต่อไป โจไม่เข้าใจว่าความรอดยังหมายถึงการยอมให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเขายอมจำนนต่อพระเยซู โจไม่ได้เรียนรู้ที่จะฟังพระเจ้าตรัสผ่านพระวจนะของพระองค์

 

เพราะฉะนั้นจงเกิดผลให้สมกับการกลับใจ (มัทธิว 3:8)

 

ยอห์นผู้ให้บัพติศมาตำหนิผู้นำศาสนาสำหรับพฤติกรรมเดียวกันกับโจ พวกเขาล้วนแต่ทำหน้าที่ทางศาสนาของตน แต่ชีวิตของพวกเขาไม่ได้ให้เกียรติพระเจ้า ความรอดที่แท้จริงนั้นรวมถึงความปรารถนาจากใจจริงที่จะเชื่อฟังพระเจ้า ความเต็มใจที่จะรับรู้การกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้ละทิ้งทางเลือกที่เป็นบาป และการดำเนินชีวิตในความเข้มแข็งของพระเยซูเพื่อเดินตามเส้นทางใหม่ของพระองค์

 

ข้อคิดประจำวัน: การเปลี่ยนแปลงในชีวิตเกิดขึ้นเมื่อจิตใจเปลี่ยนแปลง

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

 bible.art

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2567

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ สงครามกับพระเจ้า

 


พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้

สงครามกับพระเจ้า

อ่านมัทธิว 1:1 ถึง 2:23

ได้ยินเสียงหนึ่งในรามาห์ เสียงสะอึกสะอื้นคร่ำครวญ ราเชลร่ำไห้ถึงบรรดาบุตรของนาง และไม่ยอมรับคำปลอบโยนใดๆ เพราะบุตรทั้งหลายจากไปเสียแล้ว” (มัทธิว 2:18)

 

กษัตริย์เฮโรดซึ่งครองราชย์อยู่ ได้ 'เมื่อเฮโรดตระหนักว่าพวกโหราจารย์หลอกพระองค์ พระองค์ก็กริ้วนัก จึงบัญชาให้ประหารเด็กผู้ชายทั้งปวงในเบธเลเฮมและละแวกใกล้เคียงที่มีอายุตั้งแต่สองขวบลงมา คะเนตามระยะเวลาที่ทราบจากพวกโหราจารย์ '

 

แทนที่เขาจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับข่าวพระเมสสิยาห์ในวัยเยาว์ด้วยความยินดี ความเอาแต่ใจตนเองของเฮโรดทำให้เขาฆ่าเด็กๆ เพราะเขามองว่าเด็กเยซูเป็นภัยคุกคามต่อบัลลังก์ของเขา

 

ทุกวันนี้มีผู้คนมากมายยังคงพยายามที่จะกำจัดการประทับอยู่ของพระเจ้าทั่วโลก บางคนเพิกเฉยต่อทุกวิถีทางที่การสร้างสรรค์ชี้ไปที่ผู้สร้าง ในบางประเทศ ผู้คนพยายามใช้กฎหมายเพื่อทำให้การกล่าวถึงพระเจ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมายในที่สาธารณะ คนอื่นๆ มุ่งมั่นที่จะกำจัดพระเจ้าจนถึงขั้นข่มเหงและฆ่าคริสเตียน

 

แม้ว่าสงครามต่อต้านพระเจ้าจะดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด แต่ไม่มีใครจะประสบความสำเร็จในการกำจัดพระเจ้าหรือลูกๆ ของพระองค์ออกจากโลกได้ สงครามนั้นได้รับชัยชนะเมื่อพระเยซูคริสต์ฟื้นจากหลุมฝังศพ

 

คำแนะนำในการอธิษฐาน: ขอให้พระเจ้าทรงรักษาศรัทธาของคุณให้มั่นคงเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ที่ต้องการกำจัดการทรงสถิตของพระองค์

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

 bible.art

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...