เราจะได้พบกันใหม่ในบ้านสวรรค์
23นครนั้นไม่จำเป็นต้องมีแสงจากดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์
เพราะว่าพระสิริของพระเจ้าเป็นแสงสว่างของนครนั้น และพระเมษโปดกทรงเป็นประทีปของนครนั้น
24ประชาชาติต่างๆ จะเดินโดยอาศัยแสงสว่างของนครนั้น
และกษัตริย์ทั้งหลายในแผ่นดินโลกจะนำศักดิ์ศรีของตนเข้ามาในนครนั้น 25ประตูต่างๆ
ของนครจะไม่ปิดในเวลากลางวัน และจะไม่มีเวลากลางคืนในนั้น
26คนทั้งหลายจะนำศักดิ์ศรีและเกียรติของประชาชาติต่างๆ เข้ามา
27และไม่มีสิ่งใดที่เป็นมลทิน หรือคนใดที่ประพฤติอย่างน่าสะอิดสะเอียน
หรือประพฤติการหลอกลวงจะเข้าไปในนครนั้นได้
นอกจากพวกที่มีชื่อจดไว้ในหนังสือชีวิตของพระเมษโปดกเท่านั้น
วิวรณ์ 21: 23-27
เมื่อคุณอายุมากขึ้นคุณจะรู้จักและพบเจอกับผู้คนมากมายและมีเพื่อนเพิ่มขึ้น คุณจะมีช่วงเวลาดีๆ
สนุกสนานกับสมาชิกในครอบครัว แต่พอเวลาผ่านไป คุณเติบโตขึ้นเพื่อนพี่น้องหรือคนที่คุณเคยรู้จักอาจต้องมีแยกย้ายกันไปตามวาระ
หรือตามภาระหน้าที่ของแต่ละคน จนบางครั้งขาดการติดต่อกันไป
เมื่อมีพบก็ต้องมีจาก อยู่ที่ว่าจากเป็น หรือจากตาย จากเป็นคือ เราอาจจะต้องอยู่กันคนละที่แต่ก็ยังมีโอกาสกลับมาเจอกันได้อีก ส่วนจากตายนั้นคือการที่ใครสักคนได้จากโลกนี้ไปแล้ว และไม่มีโอกาสได้พูดคุย หัวเราะ ร้องไห้ด้วยกันอีกแล้ว
ความตายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากจะพูดถึงหรือแม้แต่...จะคิดถึง
ความตายเป็นสิ่งที่แน่นอนและไม่มีใครสามารถหลีกหนี
จะช้าหรือเร็วทุกคนต้องเดินมาถึงจุดนี้ มีคำถามมากมายเกี่ยวกับความตายที่ไม่มีคำตอบความตายจึงเป็นเรื่องที่น่ากลัว
และจะมีสักกี่คนที่พร้อมเผชิญกับความตาย
ชีวิตนี้คุณอยู่เพื่ออะไร? และความตายเป็นจุดจบของชีวิตแล้วหรือ?
อย่าเศร้าไปเลย เพราะมีข่าวดีสำหรับเราผู้ที่เชื่อวางใจให้พระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดนั่นคือ
การตาย ไม่ใช่การจากแล้วจากเลย แต่เราจะได้พบกันใหม่! ในพระคัมภีร์บอกว่าเราจะได้พบกับเขาเหล่านั้นอีกในบ้านสวรรค์แน่นอน และบ้านสวรรค์จะเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ผู้เชื่อจึงไม่ต้องกล่าวคำว่า “ลาก่อน”
กับคนที่เรารัก เพราะพระคัมภีร์สัญญาว่าเราจะได้พบกันอีก
คุณพอจะนึกภาพออกไหมว่าคุณจะได้เจอเพื่อนและครอบครัวของคุณที่นั่นอีกครั้ง? นอกจากนี้คุณจะได้พบกับผู้ยิ่งใหญ่ทุกคนที่ถูกกล่าวถึงในพระคัมภีร์ คนที่รักและรับใช้พระเจ้าก็อยู่ที่นั่น
และในสวรรค์คุณจะได้อยู่กับพระเจ้าตลอดไป
ดังนั้นอย่ามัวจดจ่ออยู่กับสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นบนโลกนี้อยู่เลย เพราะบ้านสวรรค์ของเรานั้นยิ่งใหญ่กว่านัก
ถ้าคุณรู้สึกแย่กับสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ให้ลองจินตนาการถึงบ้านสวรรค์คิดดูสิว่ามันจะยิ่งใหญ่และน่าอยู่ขนาดไหน!
นี่เป็นการเสริมสร้างกำลังใจให้กับตนเองอย่างดีในวันที่ชีวิตของเราต้องเจอเรื่องยากๆ
หากวันนี้คุณต้องเจอกับการทดลองไม่ว่าจะเรื่องใดๆก็ตาม ให้คุณคิดถึงพระเจ้าและให้พระองค์มาเป็นอันดับหนึ่งของทุกสิ่ง
พึ่งพาพระองค์ โดยการอธิฐานขอการนำจากพระองค์ ศึกษาพระคัมภีร์ให้มากเพื่อคุณจะได้มีสติปัญญาในการดำเนินชีวิต
การทำสิงเหล่านี้ทุกวันช่วยให้เราเตรียมพบพระผู้เป็นเจ้าได้อย่างดี
จงทำหน้าที่ของคุณในแต่ละวันให้ดีที่สุด
อย่าลืมใส่ใจและให้เวลาถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของคนในครอบครัวบ่อยๆ
เผื่อว่าเมื่อมีใครสักคนต้องจากโลกนี้ไปก่อน เราจะได้ไม่ต้องมาน่าบ่นว่า เสียดายจัง…รู้งี้….ฉันจะทำนั่น
ทำนี่ให้มากๆตอนเขาอยู่ “จงรักและแสดงออกต่อกันให้มากในตอนที่ยังมีลมหายใจต่อกันอยู่นะคะ” สุดท้ายให้เราทำวันนี้จนสุดความสามารถและปล่อยที่เหลือไว้กับพระผู้เป็นเจ้าพระบิดาของเรา
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดาที่รัก ลูกตื่นเต้นมากเมื่อลองจินตนาการเกี่ยวกับบ้านสวรรค์
ลูกรู้ดีว่าที่นั่นเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดกว่าทุกที่บนโลกใบนี้ และที่นั่นจะไม่มีการจากลากันอีก
ลูกตื่นเต้นที่สุดที่จะได้ใช้เวลาร่วมกับพระองค์ที่บ้านสวรรค์นิรันดร
ขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกเข้มแข็งและมีสติในการดำเนินชีวิตที่จะเป็นที่พอพระทัยของพระองค์
และโปรดช่วยสอนให้ลูกเข้าใจว่าโลกนี้เป็นเพียงสถานที่ชั่วคราว ที่ลูกมีหน้าที่ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมเพื่อจะได้กลับไปยังบ้านสวรรค์
และพบกับบรรดาพี่น้องผู้ล่วงลับไปแล้วอีกครั้ง ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน
ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก
หนังสือ One minute
devotions
Thaiodb
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น