การบ่นว่า
จงทำทุกสิ่งโดยปราศจากการบ่นและการทุ่มเถียงกัน
ฟิลิปปี 2:14
พระเจ้าทรงปลดปล่อยชาวอิสราเอลจากการเป็นทาส
แต่หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เริ่มบ่นอีก
พระเจ้าได้จัดหาอาหาร,น้ำ และอิสรภาพของพวกเขาแต่พวกเขาก็ยังไม่มีความสุข
พวกเขาควรจะต้องขอบคุณเพราะพระเจ้าอนุญาตและช่วยให้พวกเขาเดินข้ามทะเลแดงหนีจากกองทัพของฟาโรห์ได้
แต่เมื่อพวกเขาเหนื่อยจากการเดินทางไกลและกระหายน้ำและหิว พวกเขาก็เริ่มบ่นอีก
การบ่นมีผลต่อสุขภาพของเราด้วยนะคะ โดยเฉพาะสุขภาพจิต
เมื่อเรามีเรื่องไม่พอใจหรือขุ่นมัวหลายๆเรื่อง เราเริ่มจะเชื่อว่า
ตัวเราเองนั้นไม่มีอำนาจที่จะจัดการปัญหานี้หรือไม่สามารถได้สิ่งที่ต้องการ
เราจะรู้สึกช่วยตนเองไม่ได้ หมดหวัง ตกเป็นเหยื่อ และรู้สึกแย่เกี่ยวกับตนเอง
ถ้าเกิดขึ้นเพียง 1 หรือ 2 เหตุการณ์ ก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หลายๆ เหตุการณ์ในหนึ่งวัน การสะสมความไม่พอใจขุ่นมัวไม่ดีเหล่านี้ไว้
จะส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของเรา ทำให้ความนับถือตนเองลดลง
และยังส่งผลต่อสุขภาพจิตโดยรวมด้วย ดังนั้นจึงควรจะหยุดบ่นนะคะ
ดังที่พระคัมภีร์แนะนำไว้ว่า “จงทำสิ่งสารพัดโดยปราศจากการบ่นและการทุ่มเถียงกัน”
คุณเคยบ่นบ้างไหม? ถึงแม้คุณจะไม่มีสิ่งที่คุณต้องการครบทุกสิ่งอย่าง
แต่คุณก็ยังมีมากกว่าที่คุณต้องการหรือมีเพียงพอต่อการใช้ชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม? และถ้าพระเจ้าไม่ช่วยจัดหาให้คุณ
มันจะเกิดอะไรขึ้น? ข้อพระคัมภีร์ในวันนี้ต้องการบอกว่า ให้เราทำทุกอย่างโดยปราศจากการบ่นว่า
ความแตกต่างของการบ่นกับการระบาย
ข้อสังเกต
คนขี้บ่น เขามักต่อว่าสิ่งรอบตัว โดยละเว้นตัวเอง หรือเลือกไม่พูดถึงตนเองหากรู้ว่าสิ่งที่ตนบ่นนั้นมีสาเหตุมาจากการรับผลของตนเอง
คนขี้บ่นไม่ต้องการความยากลำบากเลย และอยู่ร่วมกับมันไม่ได้เลย
ซึ่งสะท้อนถึงระดับความอดทนที่ต่ำ พอถึงจุดไม่ได้ดั่งใจก็ไม่มีอะไรดีนอกจากตัวเอง
ข้อสังเกต การระบาย
มักเป็นการพูดถึงสิ่งที่ตนเองรู้สึก ไม่ใช่การชี้ให้เห็นว่ารอบตัวไม่มีอะไรดีเลย แต่คนที่ระบายมีความปรารถนาที่จะหาหนทางแก้เพื่อให้เขาสามารถอยู่ท่ามกลางความยากลำบากนั้นๆได้และหาวิธีที่จะผ่านพ้นมันไปได้
การระบายจึงไม่ใช่ว่าจะเป็นแง่ลบในทุกครั้งไป แต่การบ่นจะลบในทุกครั้ง การระบายมักต้องการทางออก
ต้องการหนทางแก้ไข เพื่อขอความช่วยเหลือ หากจะหาคนระบาย เขามักเลือกคนที่ไว้ใจและช่วยเหลือได้
ในขณะที่คนขี้บ่นไม่ได้ต้องการคนที่ช่วยเหลือได้ เขาขอแค่ได้บ่นออกไปก็พอ
พระเจ้าพอพระทัยกับบรรดาผู้เข้ามาหาพระองค์ด้วยการระบาย
เพราะนั่นหมายถึงเราเลือกที่จะให้พระองค์เป็นผู้ช่วยเหลือเรา แต่ไม่พอพระทัยกับพวกขี้บ่นเพราะพวกนี้ต้องการชี้ผิดไปที่คนอื่น
นั่นแสดงว่าความหยิ่งผยองมากล้นในขณะที่ไม่มีอะไรจะอวดได้เลย
ดังนั้นแทนที่คุณจะบ่น ให้คุณจำไว้ว่าพระเจ้าทรงเตรียมทุกสิ่งที่จำเป็นเพื่อคุณและพระองค์อยากเห็นคุณมีความสุขกับสิ่งที่คุณมี
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระเยซู ขอพระองค์โปรดทรงยกโทษให้ข้าพระองค์สำหรับการบ่นว่าของข้าพระองค์ตลอดเวลาที่ผ่านมา
ข้าพระองค์รู้แล้วว่าที่ข้าพระองค์มีความสุขได้เพราะสิ่งที่พระองค์ทรงเสียสละและทำเพื่อเรา
อย่าให้ข้าพระองค์หลงลืมความจริงในข้อนี้ และโปรดช่วยให้ข้าพระองค์มีใจขอบพระคุณกับทุกพระพรที่เกิดขึ้นในชีวิตเพื่อที่ข้าพระองค์จะได้มีความสุขกับสิ่งที่มี
อาเมน
ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก
หนังสือ One minute
devotions
panarat
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น