การไปโบสถ์สำคัญไฉน?
อย่าขาดการประชุมเหมือนอย่างบางคนทำเป็นนิสัย
แต่จงหนุนใจกันให้มากยิ่งขึ้น เพราะพวกท่านก็รู้อยู่ว่าวันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว
ฮีบรู 10:25
เมื่อพระเจ้าสร้างอาดัมขึ้นมา พระองค์บอกว่ามันไม่ดีเลยที่มนุษย์จะต้องอยู่คนเดียวดังนั้นพระองค์จึงสร้างอีฟ
และในไม่ช้าพวกเขาก็มีครอบครัวและตอนนี้ครอบครัวของพวกเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นมากมายในเมืองต่างๆทั่วโลก
ในพันธสัญญาใหม่เหล่าสาวกเริ่มตั้งคริสตจักร โบสถ์ เพื่อให้คริสตชนได้สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพระเยซูและเสริมความเข้มแข็งโดยการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
“โบสถ์” หรือ “คริสตจักร” ก็เป็นชุมชนที่พระเจ้าสร้างขึ้นเพื่อพวกเรา การไปโบสถ์จึงไม่ใช่ว่า “ไปวันนี้แล้วฉันจะได้อะไร” แต่ทุกครั้งที่คุณเดินเข้าโบสถ์ ให้คุณคิดว่า “ไปโบสถ์วันนี้คุณจะให้อะไรกับใครได้บ้าง” 🙂
การไปโบสถ์เป็นการแสดงความรักและการนมัสการพระเจ้าของเราที่มองเห็นและสัมผัสได้ โบสถ์เป็นสถานที่ที่บรรดาผู้เชื่อมาชุมนุมกัน
เพื่อเป็นพยานถึงความเชื่อและการวางใจพระเจ้าของเรา
เป็นสิ่งที่คริสเตียนทุกคนต้องกระทำ (มธ.10:32-33)
การไปโบสถ์เป็นการไปรับฟังคำเทศนา และคำสอนของพระวจนะของพระเจ้า
เพิ่มความเชื่อของเรา และเสริมสร้างจิตวิญญาณของเราให้เติบโตและเข้มแข็งขึ้น
การไปโบสถ์เป็นการมีสามัคคีธรรมกับคริสเตียนคนอื่นๆ การชุมนุมกันเป็นความสำคัญของความสัมพันธ์ของพี่น้องคริสเตียน
พระคัมภีรบอกไว้ชัดเจนว่า ความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้าต้องการทั้ง “แนวตั้ง”
และ “แนวนอน” รวมกัน นั่นคือ เราต้องมีสามัคคีธรรมกับพระเจ้าซึ่งเป็นแนวตั้ง
และสามัคคีธรรมกับผู้เชื่ออื่นๆ ซึ่งเป็นแนวนอน เป็นไปไม่ได้ที่เราจะรักพระเจ้า
และไม่รักพี่น้อง ถ้าคุณมีปัญหาในการรักคริสเตียนคนอื่นๆ คุณก็มีปัญหาในความสัมพันธ์ของคุณกับพระเจ้าด้วย
การไปโบสถ์เป็นการรวมพลังฝ่ายจิตวิญญาณของเราในการอธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์
บ่งชี้ว่าการตกลงกันในการอธิษฐานกับผู้เชื่ออื่นๆ เป็นที่ชื่นชอบต่อพระเจ้า
“เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายอีกว่า ถ้าในพวกที่อยู่ในโลกสองคนจะรวมใจกันขอสิ่งหนึ่ง
สิ่งใด พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์ ก็จะทรงกระทำให้ (มธ.18:19)
การไปโบสถ์เป็นการถวายเกียรติวันขององค์พระผู้เป็นเจ้า บัญญัติข้อที่
4 ที่พระเจ้าประทานแก่โมเสส ให้แยกวันที่เจ็ดของสัปดาห์ คือ วันเสาร์ไว้ต่างหาก
ให้เป็นวันบริสุทธิ์ แก่องค์พระผู้เป็นเจ้า
“จงระลึกถึงวันสะบาโตถือเป็นวันบริสุทธิ์” (อพย.20:8) มันเคยเป็นเช่นนี้
และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป
สมัยเป็นเด็กเราก็จะไปโบสถ์พร้อมกับสมาชิกในครอบครัวของเราเป็นประจำ
แต่พอเราโตขึ้น บางครั้งพวกเราก็ลืมไปว่าการไปโบสถ์นั้นมีความสำคัญอย่างไร
สิ่งที่เราเห็นจากพระคัมภีร์ก็คือพระเจ้าจะขัดเกลาเราได้เต็มที่เมื่อเรามาอยู่รวมกันเพื่อนมัสการพระเจ้า
การนมัสการคือการแสดงออกถึงสิ่งที่อยู่ในใจ คนเราจะนมัสการได้ก็ต่อเมื่อรู้ว่า
ตัวเองเป็นมนุษย์ผู้เล็กน้อยที่กำลังอยู่ต่อหน้าพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ เราทุกคนคือคนบาปเมื่อมาอยู่ต่อหน้าพระเจ้าผู้ทรงบริสุทธิ์และเที่ยงธรรม
ซึ่งแม้คนบาปควรจะได้รับโทษ
แต่พระคุณของพระเยซูคริสต์และพระเมตตาของพระเจ้ากลับทำให้เราได้รับการอภัยและเตรียมเราสู่ชีวิตนิรันดร์
เพราะฉะนั้นด้วยความเคารพยำเกรงและความรักซาบซึ้งในพระคุณเราจึงแสดงออกด้วยการก้มลงนมัสการพระเจ้าของเรา
เมื่อเรานำความจริงนี้เข้ามาในการสามัคคีธรรมใจของเราก็จะเป็นเหมือนดินที่สมบูรณ์
คุณอาจจะไม่รู้สึกแบบนี้ทุกวันอาทิตย์ แต่เราทั้งหลายต่างก็รู้ว่าแม้ในการสามัคคีธรรมในกลุ่มเล็กๆ
พระเจ้าทรงประทับอยู่กับเราด้วย
ไม่ว่าคุณจะทำอะไร หรืออยู่ที่ไหน อย่าลืมว่าการมีส่วนร่วมในคริสตจักร ในโบสถ์ท้องถิ่นเป็นสิ่งสำคัญมาก และมันคงไม่ดีที่จะต้องมีใครต้องอยู่โดเดี่ยวคนเดียวเพียงลำพัง
การไปนมัสการพระเจ้าร่วมกันก็เพื่อที่เราจะได้รับการหนุนใจจากผู้เชื่อคนอื่นๆ
และในทางกลับกันเราเองก็อาจจะช่วยหนุนใจคนอื่นๆได้ด้วย
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดา ขอให้ลูกมีความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะมีส่วนร่วมกับ
โบสถ์ในท้องถิ่น และไม่ว่าลูกจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม ขออย่าให้ลูกเป็นคนเฉื่อยฉาในการไปโบสถ์
และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในคริสตจักรเพื่อที่ลูกจะได้ประกาศความเป็นประชากรในอาณาจักรของพระคริสต์ได้!
อาเมน
ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก
หนังสือ One minute
devotions
Wattanachurch
mustardseed
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น