วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564

คุณคือแสงสว่างในพระเจ้า

 


เลือกทำการดี

ทำนองเดียวกันพวกท่านจงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาทั้งหลายได้เห็นความดีที่ท่านทำ พวกเขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์

มัทธิว 5:16

คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าพระเจ้าคาดหวังให้คุณคอยส่องแสงให้กับพระองค์ได้อย่างไร? คุณไม่ใช่รถที่มีไฟหน้า และคุณก็ไม่ใช่ไฟฉายที่มีหลอดไฟส่องแสงสว่างได้! และคุณก็ไม่ใช่ตะเกียงด้วยเช่นกัน

วิธีที่คริสตชนจะฉายแสงได้ก็คือผ่านการดำเนินชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์ต่อหน้าเพื่อนมนุษย์ การทำเช่นนี้จะทำให้คุณสว่างมากจนแสงของคุณเปล่งประกายระยิบระยับในความมืด ในที่ที่ไร้ความหวัง ไร้หนทาง ไร้ทางออก 

แล้วชีวิตศักดิ์สิทธิ์คืออะไร? การอยู่ในความศักดิ์สิทธิ์หมายความว่าคุณแตกต่างจากฝูงชน(จากโลก) คุณจะไม่ทำตามในสิ่งที่คนอื่นๆเขาทำกันเพียงเพื่อมันจะทำให้คุณเข้ากับพวกเขาได้ แต่คุณจะสนใจแต่ว่าพระเจ้าคิดอย่างไรต่อสิ่งที่คุณทำ มากกว่าสิ่งที่คนอื่นคิด  เพราะยิ่งคุณทำให้พระเจ้าพอพระทัยมากเท่าใด พระองค์ก็ยิ่งส่องสว่างในชีวิตคุณมากขึ้นเท่านั้น

การส่องแสงของคุณยังหมายความว่าคุณใส่ใจต่อความต้องการของผู้อื่นมากกว่าหาประโยชน์เพื่อตัวคุณเอง คุณต้องการยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเพื่อยกชูคนอื่นเมื่อมีโอกาสทำได้ และทุกครั้งที่คุณทำ คุณกำลังส่องแสงแห่งพระเจ้า ไม่ว่าคุณจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม! จงให้ถ้อยคำของพระเจ้า ดำเนินอยู่ในชีวิตของคุณ

วันนี้ให้เราลองสำรวจดูชีวิตของเราเองว่าในแต่ละวันเราใช้ชีวิตอย่างไร? เราดำเนินไปด้วยความเชื่อแบบไหน และมีท่าทีในการตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวเราและผู้คนรอบข้างอย่างไร? และถ้าหาก “ความสว่าง” ไม่ได้ถูกฉายออกไป มันก็ไม่มีค่า ไม่มีความหมายอะไร ผู้คนก็จะไม่เห็นและไม่ได้สัมผัสแสงแห่งความจริงของพระเจ้า

 คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา ลูกต้องการเป็นแสงที่ส่องประกายให้กับพระองค์ ลูกต้องการมีชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์และลูกอยากเป็นคนที่คิดถึงห่วงใยผู้อื่นมากกว่าประโยชน์ของตนเอง โปรดช่วยให้ลูกทำหน้าที่ฉายแสงและเปล่งประกายได้อย่างดีในทุกๆวันด้วยเถิดพระเจ้าข้า!

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ 3 minute devotions

CBN Thailand


วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ความขมขื่น

 


ความขมขื่น

31จงเอาความขมขื่น ความฉุนเฉียว ความโกรธ การทุ่มเถียง การพูดจาดูหมิ่น รวมทั้งการร้ายทุกอย่างออกไปจากพวกท่าน 32แต่จงมีใจกรุณา ใจสงสาร และใจให้อภัยแก่กันและกัน เหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงให้อภัยพวกท่านในพระคริสต์

เอเฟซัส 4:31-32

คุณเคยลองกินส้มสักชิ้นแล้วพบว่ามันมีรสขมบ้างไหม? ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าเวลาที่เรานึกอยากจะกินอะไรหวาน ๆ ตั้งใจแบบสุดๆ แต่ดันกัดไปเจอชื้นที่เปรี้ยวจี๊ดหรือมีรสออกขมๆคอ!

สิ่งเดียวกันนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับชีวิตคริสตชน มีคนภายนอกที่กำลังเฝ้าดูว่าเราดำเนินชีวิตอย่างไรในฐานะคริสตชน แน่นอนว่าพวกเราหลายคนพยายามที่จะดำเนินชีวิตด้วยความนบนอบอ่อนหวาน แต่บางครั้งก็อาจเผลอปล่อยความขมขื่น ความดุเด็ดเผ็ดร้อนออกไปได้บ้างเช่นกัน  จนทำให้เพื่อนๆที่กำลังดูคุณอยู่คิดได้ว่า ว้าว! เธอไม่ได้หวานอย่างที่คิดเลย! อันที่จริงเธอค่อนข้างแรง!(ข้างในไม่ตรงกับปก)

รากแห่งความขมขื่นเกิดจากประสบการณ์ในอดีตหรือปัจจุบันที่มีความรุนแรง ทารุณกรรม การไม่ได้รับบความยุติธรรม ถูกเอารัดเอาเปรียบ และเก็บฝังลึกในใจ ความขมขื่นใจอาจเกิดจากความผิดหวังในคน ในงานที่ทำอยู่ จนสร้างความขุ่นเคืองใจและพาลไปสู่ความแตกแยก มักมองคนในแง่ร้ายและแง่ลบอีกทั้งระบายพิษแห่งความขมขื่นด้วยการแก้แค้น ทั้งในรูปของคำพูดและการกระทำ

พระเจ้าต้องการให้เราขจัดความขมขื่นของเราออกไป จะไม่มีผลแห่งความขมขื่นอยู่ในชีวิตเราอีกต่อไป! พระองค์ต้องการเพียงผลที่มีรสหวานห้อยติดอยู่บนเถาองุ่นของพระองค์! หากคุณให้ผลที่มีรสหวาน แสดงว่าคุณเลือกที่จะปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างอ่อนโยน คุณเลือกที่จะให้อภัยแทนที่จะถือความขุ่นเคือง คุณแสดงความเมตตาต่อพวกเขาเช่นเดียวกับที่พระเจ้าได้แสดงให้คุณเห็น คุณไม่เคยพูดถึงพวกคนอื่นลับหลัง กล่าวอีกนัยหนึ่งคุณไม่ใช่คนเปรี้ยวอีกต่อไป (คนที่ใครคิดถึงเมื่อไหร่ก็รู้สึกขมขื่นใจไม่มีใครอยากอยู่ใกล้ๆ)   

พี่น้องที่รัก เราไม่มีข้อแก้ตัวว่าเราจะถอนรากขมขื่นไม่ได้ ไม่ว่ามันจะมีมานานเท่าใด ใหญ่ขนาดไหน แต่ด้วยประสบการณ์ความรักที่เราได้รับจากพระเจ้า พระองค์อภัยความบาปของเรา เราก็ควรมีใจเมตตาผู้อื่นเช่นกัน เพราะผู้ที่ติดสนิทกับพระคริสต์ พระองค์จะทรงประทานพลังที่เราขาดอยู่นั้นเพียง ขอเพียงเรามีใจที่กระหายหา อยากจะเปลี่ยนแลงตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นก็พอ พระเจ้าทรงมีทางให้เราเสมอ

พระเยซูทรงบอกสาวกของพระองค์ว่า “เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นแขนง ผู้ที่เข้าสนิทอยู่ในเราและเราเข้าสนิทอยู่ในเขา ผู้นั้นก็จะเกิดผลมาก เพราะถ้าแยกจากเราแล้วท่านจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย” (ยน.15:5)

เมื่อเราดำรงอยู่ในพระเยซูและยอมให้พระคำของพระองค์อยู่ในเรา เราก็ได้เชื่อมต่อกับแหล่งชีวิต คือ พระเยซูคริสต์ พระองค์ตรัสว่า “พระบิดาของเราทรงได้รับเกียรติเพราะเหตุนี้ คือเมื่อท่านทั้งหลายเกิดผลมากท่านก็เป็นสาวกของเรา” (ข้อ 8) แต่การเกิดผลมากเป็นผลของการได้รับสารอาหารบำรุงทุกวัน พระเจ้าทรงจัดเตรียมอาหารที่มีคุณค่าให้แก่เราผ่านทางพระวจนะ และความรักของพระองค์ วันนี้คุณแสวงหาและให้เวลากับพระวจนะของพระเจ้าหรือยัง

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ลูกไม่อยากเป็นผลไม้ที่ให้รสขมหรือเปรี้ยวอีกแล้ว! ลูกต้องการที่จะเป็นผลผลิตที่ให้รสหวาน เมื่อเพื่อนๆได้ใช้เวลาอยู่กับลูก ลูกก็อยากให้พวกเขารู้สึกว่าลูกเป็นลูกของพระองค์ เป็นผลจากเถาองุ่นของพระองค์ที่เต็มไปด้วยความหวาน ความรัก ความจริงใจ ขอให้ลูกเป็นภาพสะท้อนของพระองค์ต่อผู้อื่นด้วยเถิดพระเจ้าข้า ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ 3 minute devotions


วันพุธที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2564

การวิพากษ์วิจารณ์

 


การวิพากษ์วิจารณ์

ข้าพเจ้าขอกล่าวแก่ท่านทุกคนโดยพระคุณซึ่งประทานแก่ข้าพเจ้าแล้วว่า อย่าคิดถือตัวเกินที่ตนควรจะคิดนั้น แต่จงคิดอย่างสุขุมสมกับขนาดความเชื่อที่พระเจ้าประทานแก่ท่าน

โรม 12:3

คุณเคยเจอคนที่ชอบวิจารณ์คนอื่นไหม? พวกเขามักจะตัดสินคนอื่นและชี้ถึงข้อบกพร่องของคนอื่นๆได้เก่งมากๆ

พระเจ้าไม่ทรงพอพระทัยเมื่อเราวิจารณ์คนอื่น และเราไม่ควรด่วนตัดสินคนอื่น เหตุผลว่าทำไมเราไม่ควรทำมัน? ประการแรก เพราะพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถทำการตัดสินได้ พระองค์ปราศจากบาป พระองค์จึงทรงเป็นองค์เดียวที่คู่ควรในการตัดสินใครๆก็ตาม! อย่างที่สอง เพราะว่าเราเป็นคนบาปพอๆ กับคนที่เรากำลังตัดสินเขาอยู่นะแหละ

โอ้ คุณไม่คิดว่าคุณเป็นคนบาปเหรอ? คุณไม่เคยทำผิดเลยเหรอ? มาดูพระคำของวันนี้กันหน่อย พระคำวันนี้บอกว่า "อย่าคิดถือตัวเกินที่ตนควรจะคิดนั้น และจงคิดอย่างสุขุมสมกับขนาดความเชื่อที่พระเจ้าประทานแก่ท่าน

" หากเราซื่อสัตย์กับตัวเองจริงๆ เราต้องยอมรับว่าคนทุกคนรวมทั้งตัวเราเองก็เคยทำผิดพลาด เราทุกคนเคยทำบาป เราเคยพูดถึงคนอื่นลับหลังด้วยทัศนคติที่ไม่ดีในบางครั้ง และบางครั้งเราก็ทำตัวไม่น่ารักกับพ่อแม่พี่น้องของเราด้วย นี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมเราจึงไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น เราไม่ควรคิดว่าตัวเราดีกว่าพวกเขา แน่นอนว่าพวกเขาทำผิดพลาดก็จริง แต่ตัวเราก็เคยทำเช่นกัน พระเจ้าทรงเมตตาและรักเราทั้งๆ ที่มีเรามีข้อผิดพลาดมากมาย! พระองค์ไม่ได้ชี้นิ้วมาที่เรา แล้วบอกว่า นี่เธอคือคนบาปนะ นี่เธอเคยทำไม่ดีมาก่อนนะ ไม่มีทาง!พระองค์จะไม่ทำเช่นนั้น  ไม่ว่าคุณจะเคยทำผิดพลาดมากี่ครั้งกี่หน พระองค์ยังคงรักคุณต่อไป 

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รัก ลูกมักจะสังเกตเห็นเมื่อคนอื่นทำผิดพลาด แต่บ่อยครั้งลูกเองก็ละเลยความผิดของตนเอง  โปรดช่วยให้ลูกอ่อนน้อมถ่อมตน และช่วยให้ลูกทำทุกสิ่งด้วยความรักเมื่อเห็นคนอื่นทำผิดพลาด  ลูกอยากจะรักเขาให้ได้อย่างที่พระองค์ทรงรักลูก! ลูกยอมรับว่าลูกเองก็เป็นคนบาป ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ 3 minute devotions


วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2564

อย่ายอมแพ้! พระเจ้าทรงอยู่กับคุณเสมอ

 


อย่ายอมแพ้!

8พระองค์ผู้ที่พวกท่านไม่เคยเห็น แต่พวกท่านยังรักพระองค์อยู่ แม้ว่าขณะนี้พวกท่านไม่เห็นพระองค์ แต่พวกท่านยังเชื่อและชื่นชมยินดี ด้วยความยินดีเป็นล้นพ้นสุดจะพรรณนา 9เพราะได้รับความรอดแห่งวิญญาณจิตอันเป็นผลจากความเชื่อของพวกท่าน

1เปโตร 1:8-9

ลองนึกภาพว่า คุณถูกขอร้องให้ไปปีนขึ้นไปจนถึงยอดเขา คุณคิดว่าคุณจะสามารถไปถึงจุดสูงสุดได้หรือไม่? เกิดอะไรขึ้นถ้าคุณไปได้ครึ่งทาง แล้วเหนื่อยมาก? คุณจะหันหลังกลับและปีนกลับลงมาหรือไม่?

บางครั้งการยอมแพ้เป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อชีวิตยากลำบาก แต่พระเจ้าตรัสว่า "อย่าหยุด อย่ายอมแพ้! คุณทำได้แม้ในยามลำบาก!" ถึงแม้มันไม่ง่ายเสมอไป แต่ด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า คุณจะทำได้

คำว่ายอมแพ้ กับแพ้มีความหมายต่างกันอย่างไร ..

-    แพ้ แปลว่า สู้แล้วแต่สู้ไม่ได้ ไม่สามารถคว้าเอาชัยชนะมาได้

-    ยอมแพ้ แปลว่า ยอม ยอมจำนน ยอมยกธงขาว เลิกสู้กลางคัน ถอดใจ

เราอาจจะเคยพบความพ่ายแพ้มา เพราะในสภาพความเป็นมนุษย์เรามีความอ่อนแอ เนื้อหนังเราย่อมมีอารมณ์ มีความโกรธ มีการทำผิดพลาด แต่พระเจ้าสัญญาว่า พระองค์จะอยู่กับเราและช่วยเราให้มีชัยชนะ

เราจะประสบชัยชนะไม่ได้เลยหากเราท้อใจ ดังนั้นพระวจนะในวันนี้ต้องการให้เรา อย่ากลัว อย่าท้อใจ อย่าหมดหวัง อย่าคร้ามกลัว อย่ายอมแพ้  

หลายคนอาจจะมีคำถามว่า  ฉันเองก็ทำแต่สิ่งดีๆแต่ทำไมฉันยังเจอกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆมากมายอยู่ ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป …. ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันยอมแพ้เสียดีกว่า หยุดความคิดแบบนี้ไว้ก่อนพี่น้องที่รัก โปรดฟังพระวจนะของพระเจ้า พระองค์ทรงบอกว่า “อย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำดี” เพราะว่า ถ้าเราไม่ท้อใจ ( คำนี้หมายถึงถ้าเราไม่ยอมแพ้  ) เราจะได้เก็บเกี่ยวในเวลาอันสมควร! ผลจากความเชื่อคุณจะได้รับความรอดแห่งวิญญาณแน่นอน

พระวจนะของพระเจ้า หนุนใจเราว่า จงอย่ายอมแพ้ ไม่ว่าสภาพชีวิต หรือความคิดของเราจะย่ำแย่มากเพียงไร มารซาตาน ต้องการแย่งชิงพื้นที่ในชีวิตของคุณไป มีส่วนไหนที่โดนมารขโมยไปบ้างแล้ว  จงยึดมันคืนกลับมา แม้มันจะได้คืนมาทีละนิด ทีละคืบก็จงแย่งชิงกลับคืนมา หลายคนอาจคิดว่า มันเป็นเรื่องยากนะไม่ได้ทำกันง่ายๆ ! และมีคำถามต่ออีกว่า และถ้าหากฉันทำมันเต็มที่แล้วแต่ก็ยังไม่เห็นชัยชนะใดๆเลย ฉันต้องทำอย่างไรอีก คำตอบก็คือ การพึ่งพาแต่กำลังของเราเพียงอย่างเดียวอาจไปไม่ได้ไกล ดังนั้น ให้เราพึ่งพาพระเจ้า เพราะพระองค์สามารถเอาชนะทุกสิ่งได้ ขอให้คุณมีความเชื่อว่าพระเจ้าทรงอยู่กับคุณ ไม่ว่าคุณกำลังเผชิญสิ่งใดอยู่ตอนนี้ พระเจ้าจะนำคุณไปเพื่อที่คุณจะผ่านพ้นปัญหานี้ไปได้แน่นอน

ฝากไว้ให้คิด บริบทของการไม่ยอมแพ้ คือการ ก้าวต่อไปข้างหน้า อย่ากลัว ให้เราวางใจในการทรงนำของพระเจ้า และเชื่อว่าพระองค์ทรงอยู่กับเรา แล้วทำหน้าที่ส่วนของเราอย่างดีที่สุด

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา จากนี้ลูกต้องการให้พระองค์นำทางลูก ขอให้เสียงของพระองค์แทรกซึมเข้ามาในชีวิตของลูก และสอนลูกเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำ ขอโปรดมอบความกล้าเพื่อที่ลูกจะไม่หวั่นไหวกับคำพูดของคนหรือสิ่งที่เกิดขึ้น ลูกจะสู้และอดทนต่อไป แม้ว่าในส่วนลึกจะรู้สึกอยากยอมแพ้ก็ตาม! ลูกจะรอคอยความช่วยเหลือจากพระองค์อย่างมีความหวัง  พระองค์คือพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ในการต่อสู้ พระองค์เป็นพระเจ้าของความเป็นไปได้ทั้งหมด โปรดขจัดความว้าวุ่นใจหรือความท้อใจออกไปจากใจลูกด้วยเทอญ ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ 3 minute devotions

emunahinyeshua

วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2564

พูดให้กำลังใจกัน

 


พูดให้กำลังใจกัน

41เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของมารีย์ ทารกในครรภ์ของนางก็ดิ้น และนางเอลีซาเบธก็เต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ 42จึงร้องเสียงดังว่า “ในบรรดาสตรีเธอได้รับพรมาก และทารกในครรภ์ของเธอก็ได้รับพระพรด้วย

ลูกา1:41-42

มีเรื่องราวที่ทึ่งมากจริงๆ ในพระธรรมฉบับใหม่เกี่ยวกับพระนางมารีย์ มารดาของพระเยซู เมื่อพระนางเดินทางไปเยี่ยมเอลิซาเบธผู้ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของพระนางที่ซึ่งกำลังตั้งครรภ์อยู่เช่นกัน  เอลิซาเบธพูดกับมารีย์ว่า "พระเจ้าอวยพรเธอมากกว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ พระองค์ทรงอวยพรบุตรที่ที่กำลังจะเกิดมาด้วย"

ว้าว! นี่มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับพระนางมารีย์อีกเรื่อง พระนางมารีย์คงจะตื่นเต้นดีใจมากที่ได้ยินว่าพระเจ้าทรงอวยพรพระนางและพระบุตรที่กำลังจะเกิดมา คำพูดของเอลิซาเบธช่างไพเราะและชูใจเหลือเกิน  มันคงต้องใช้ความรักมากมายสำหรับเอลิซาเบธที่จะมีคำพูดดีๆแบบนี้กับพระนางมารีย์ได้ มันช่างเป็นการพูดคุยระหว่างลูกพี่ลูกน้องที่ยอดเยี่ยมมากๆ! การพบปะกันในครั้งนั้นทำให้ทั้งสองได้หนุนใจ -เสริมใจกันและกัน อย่างมาก

คุณชอบคนที่คอยพูดให้กำลังใจคุณหรือไม่? พวกเขาฟังเสียงของพระเจ้าแล้วแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาได้ยินกับคุณเพื่อที่จิตวิญญาณของคุณจะถูกยกชูขึ้น คนเหล่านี้นี่แหละคือเพื่อนที่เราต้องการ!

คุณต้องการที่จะเป็นกำลังใจให้ผู้อื่นบ้างหรือไม่? จงอธิษฐานเผื่อพวกเขา เผื่อทุกคนที่กำลังต้องการคำภาวนาจากคุณ เผื่อทุกคนที่คุณรักและห่วงใย จงแบ่งปันสิ่งดีๆ ที่พระเจ้ากำลังบอกคุณ จงส่งต่อมันออกไปยังคนรอบข้าง! แล้วพวกเขาจะได้รับการยกชูขึ้นอย่างแน่นอน! จงทำทุกสิ่งโดยอาศัยความเชื่อ และให้ความรักนำทางคุณเสมอ

ทุก​วัน​นี้​เรา​ตกอยู่​ใน​สถานการณ์​คล้าย ๆ กัน เพราะ ‘วัน​ของ​พระ​เจ้า​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​และ​น่า​กลัว’ ใกล้​จะ​ถึง​แล้ว นี่​จึง​เป็น​เหตุ​ผล​ที่​เรา​ต้อง “เป็น​ห่วง​กัน เพื่อเรา​จะ​ได้​กระตุ้น​กัน​ให้​มี​ความ​รัก​และเน้น​ทำ​ความ​ดี”   จงเป็น​กำลังใจให้​เพื่อนพี่​น้องใน​ตอน​ที่​พวก​เขา​ต้องการกำลังใจเถิด   

 รอบตัวเรามีแต่คนที่ต้องการการหนุนใจ คำพูดที่ถูกกาละ การโทรศัพท์ไปหา หรือคำอธิษฐานสามารถค้ำจุนความเชื่อในพระเยซูของพวกเขาได้

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ลูกขอขอบคุณพระเจ้าสำหรับของประทานแห่งการหนุนน้ำใจ ขอให้เราหนุนใจผู้อื่นเหมือนที่เขาได้หนุนใจเรา ลูกขอขอบคุณสำหรับเพื่อน ๆ ที่พระองค์ได้มอบพวกเขาเข้ามาในชีวิตของลูก เพื่อนที่คอยเสริมกำลังใจให้ลูกในวันที่ท้อแท้ เหนื่อยหน่ายกับชีวิต นับจากนี้โปรดช่วยให้ลูกสามารถเป็นกำลังใจ และเป็นพระพรให้กับผู้อื่นด้วยเถิดพระเจ้าข้า! ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ 3 minute devotions

thaiodb.

วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ความงามที่ยอดเยี่ยมแท้จริงนั้นล้วนมาจากภายใน

 


ฉันสวย ฉันเลิศในแบบไหนนะ?

2คือจงถ่อมใจและมีความสุภาพอ่อนโยนอยู่เสมอ จงอดทน จงอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก 3จงพยายามรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณนั้น โดยมีสันติภาพเป็นเครื่องผูกพัน

เอเฟซัส 4:2-3

เชื่อว่ามีผู้หญิงหลายคนๆที่คิดว่าตัวเองดูดี ฉันสวย ฉันเลิศ อาจเพราะหน้าตาดีหรือเสื้อผ้าสวยหรูที่สวมใส่ แต่ความงามที่ยอดเยี่ยมแท้จริงนั้นล้วนมาจากภายใน และถ้าคุณเป็นคนสวย คนเลิศ คนเก่งจริงๆ คุณจะเลือกทำตามคำแนะนำจากพระคัมภีร์ของวันนี้ คุณจะถ่อมตัว (ไม่ขี้โม้โอ้อวดเกี่ยวกับตัวเองหรือมีความคิดว่าตัวคุณมีดีกว่าคนอื่น) คุณจะสุภาพอ่อนโยน (สงบ เย็น และเก็บอารมณ์เป็น) คุณจะยอมรับซึ่งกันและกันด้วยความรัก (ไม่ตัดสินคนอื่นเพราะหน้าตาหรือความแตกต่างจากคุณ)

สิ่งสำคัญคือ: ถ้าคุณต้องการเป็นคนที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง คุณต้องเรียนรู้วิธีอยู่อย่างสงบสุขกับผู้คนรอบตัวคุณ อย่าไปทะเลาะเบาะแว้งกับพี่น้องของคุณ ไม่ทะเลาะกับเพื่อนที่โรงเรียน-เพื่อนที่ทำงาน ไม่ทะเลาะกับพ่อแม่-ลูก-สามี-ภรรยา (ฝึกเอาเหตุผลมาคุยกันอย่างสันติ)

แล้วคุณคิดอย่างไรละ? คุณพอจะทำมันได้มั้ย? เพราะการกระทำของคุณจะเป็นภาพสะท้อนของสิ่งที่อยู่ภายในจิตใจ ดังนั้นวันนี้ให้คุณเริ่มต้นด้วยการทูลขอใจถ่อมจากพระเจ้า ขอใจที่เปี่ยมด้วยความรัก ขอใจที่เชื่อฟังและใจที่ใฝ่ทำการดีเพื่อคุณจะได้เป็นแสงสะท้อนของพระองค์ตลอดชีวิตบนโลกนี้!

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ลูกอยากเป็นคนที่ยอดเยี่ยม และลูกก็อยากเป็นในแบบของพระองค์มากกว่าแบบของทางโลก โปรดช่วยให้ลูกอ่อนน้อมถ่อมตน อ่อนโยน อดทนและยอมรับ ซึ่งกันและกัน และที่สำคัญที่สุด โปรดช่วยให้ลูกอยู่อย่างสงบสุขกับคนรอบข้างได้ในทุกสถานการณ์ด้วยเถิดพระเจ้าข้า ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ 3 minute devotions


วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2564

พระเจ้าทรงรักโลกนี้

 


พระเจ้าทรงรักโลกนี้

พระเจ้าทรงรักโลกดังนี้ คือได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์

ยอห์น 3:16

คุณเคยนึกสงสัยไหมว่าโลกใบนี้ใหญ่แค่ไหน? มันมีตั้งเจ็ดทวีป- หลายร้อยประเทศ -และมนุษย์เป็นพัน ๆล้านคน ว้าวเลยใช่ไหม. มันดูเยอะมาก ผู้คนล้วนต่างที่มา ต่างภาษา มีหลากหลายประเภท.. พระเจ้าจะทรงตามทันพวกเราทุกคนได้อย่างไร? (พระองค์พูดภาษาฮีบรูหรือไม่ก็ ฝรั่งเศส -รัสเซีย -ไทย- อังกฤษรึป่าวนะ?)

เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าพระเจ้าผู้เป็นบิดาของเราจะรักลูกๆ ของพระองค์ทั้งหมดที่มีจำนวนนับพันล้านๆคนได้เท่าๆกันได้อย่างไร แต่ไม่ต้องกังวล หรือสงสัยในความรักของพระองค์. มันไม่สำคัญเลยว่าคุณจะอาศัยอยู่ในประเทศจีน อยู่ในแอฟริกา ไทย หรือในสหรัฐอเมริกา เหนือ ใต้ ออก ตก พระเจ้าทรงรักคุณ!พระองค์ไม่กังวลเกี่ยวกับสีผิวของคุณ ไม่สนว่าคุณสูงเท่าไหร่ ไม่สนว่าคุณพูดภาษาอะไร ไม่ว่าคุณจะอาศัยอยู่ในกระท่อมหรือบ้านหรู พระองค์ก็ทรงรักเราทุกคนที่อาศัยอยู่ในโลกใบนี้

มาดูคัมภีร์ของวันนี้กัน มันอาจจะเป็นสิ่งที่คุ้นเคยมาก พระเจ้าทรงมีความรักมากมายต่อเราทุกคน พระองค์คือพระผู้สร้าง พระองค์ทรงเต็มใจส่งพระบุตรเพียงองค์เดียวของพระองค์มายังโลกนี้เพื่อสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปของพวกเรา  พระองค์ทรงทำเช่นนี้ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเราไม่สมควรจะได้รับ "แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เราทั้งหลาย คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา" (โรม 5:8)

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ลูกรู้สึกทึ่งกับจำนวนประชากรที่พระองค์ทรงสร้าง แต่ลูกรู้สึกทึ่งมากขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่าพระองค์ทรงรักพวกเราทุกคนอย่างเท่าเทียมเหมือนกันหมด ลูกขอขอบพระคุณสำหรับความรักที่ยิ่งใหญ่ ลูกรู้ตัวดีว่าลูกเป็นคนบาป ลูกไม่สมควรที่จะได้รับพระเมตตาจากพระองค์ แต่พระองค์ก็ทรงสำแดงความรักผ่านทางพระคริสต์มายังเรา ขอให้ข้อพระคัมภีร์ในวันนี้เตือนใจลูกตลอดการดำเนินชีวิตในแต่ละวันด้วยเถิดพระเจ้าข้า  ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ 3 minute devotions


วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2564

คำพูดที่มีพลัง!

 


คำพูดที่มีพลัง!

พระเจ้าตรัสว่า “น้ำจงอุดมด้วยฝูงสัตว์ที่มีชีวิต และให้นกบินไปมาในภาคพื้นฟ้าเหนือแผ่นดิน”

ปฐมกาล 1:20

คุณไม่คิดว่ามันน่าอัศจรรย์เหรอกับการได้ยินเรื่องที่พระเจ้าทรงสร้างฟ้าสวรรค์และสร้างโลก โดยพระองค์เพียงแค่ตรัสออกมา ทุกสิ่งก็เกิดขึ้นจริง? เวลาที่เราได้ยินเรื่องการทรงสร้างนี้ เชื่อว่าหลายคนต้องรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับการอัศจรรย์มากมายที่พระองค์ทรงสร้างอย่างแน่นอน! ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ดิน ฟ้า อากาศ หิน แม่น้ำ ต้นไม้ และอื่นๆ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่พระองค์ทรงตรัสสั่ง เท่านั้นจริงๆ

แล้วคุณล่ะ? คุณคิดว่าตัวเองมีพลังพอที่จะสามารถทำอย่างนั้นบ้างได้ไหม? ยกตัวอย่างเช่น คุณอยากทำเค้ก แต่คุณไม่มีส่วนผสมอะไรเลย? ไม่มีแป้ง ไม่มีไข่ ไม่มีน้ำมัน ไม่มีอะไรสักอย่าง. แล้ว คุณจะเรียกหา เค้กเอ๋ยจงมา แล้วแอบหวังว่าจะมีเค้กปรากฏขึ้นอยู่ต่อหน้าคุณจริงๆหรือ? คำตอบคือ ไม่มีแน่นอน! เพราะมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถทำการอัศจรรย์เช่นนั้นได้

มีข่าวดีมาบอก เราไม่อาจเพียงแค่พูดแล้วสิ่งต่างๆจะเกิดขึ้นได้เหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงทำก็จริง แต่พระคำในวันนี้ต้องการสอนว่า คำพูดของเราก็มีพลังได้เช่นกัน สิ่งนั้นจะเกิดผลดี จริงๆ เพียงแค่คุณพูดมันออกมาจากใจอยากรู้ไหมว่ามันหมายความว่าอย่างไร? หลายคนอาจสงสัยแล้วว่า มันคือคำพูดแบบไหน?

คำพูดของเรามีพลัง พลังที่จะเสริมสร้างหรือไม่ก็ก่อผลในทางทำลาย. ดังนั้น ขอให้เราพยายามใช้ของประทานนี้ เพื่อ ทำให้เจริญขึ้น. เมื่อเราพูดแต่สิ่งดี คำพูดดีๆจะช่วยให้เราเป็นที่รักของพระเจ้าเสมอ. นี่คือตัวอย่าง ของคำพูดที่มีพลัง  มื่อคุณเศร้า เสียใจพระเจ้าต้องการให้คุณพูดว่า "ความชื่นบานของพระเจ้าคือกำลังของฉัน!" แค่คำพูดที่ บริสุทธิ์จากใจของคุณ คำพูดที่เปี่ยมล้นด้วยความเชื่อในพระเจ้า(และต้องมีการปฏิบัติที่สอดคล้องกับความเชื่อด้วยนะ) เพียงเท่านี้ก็จะสามารถเสริมกำลังให้กับคุณได้! หากคุณรู้สึกโกรธใครสักคนอยู่ พระเจ้าอยากให้คุณพูดว่า "ฉันเลือกที่จะให้อภัย!เขาเหล่านั้น" คำเหล่านี้จะสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ คำพูดที่ออกมาจากใจจะช่วยให้คุณมองข้ามความผิดและสามารถให้อภัยคนอื่นได้จริงๆ

จงจำไว้ว่า คำพูดของคุณมีพลัง! จงกล้าที่จะพูดในสิ่งที่ถูกต้องตามหลักบัญญัติเพื่อแสดงถึงความเชื่อของคุณ จากนั้นให้คุณรอดูว่าพระเจ้าจะทรงทำงานอย่างไรแล้วพระองค์สามารถขับเคลื่อนคำพูดของคุณ ได้ด้วยวิธีใดบ้าง?

ตื่นเช้าขึ้นมา..อธิษฐานขอบคุณพระเจ้าสำหรับทุกสิ่ง

คำพูดเป็นตัวกำหนดอนาคตของเรา เราต้องพูดในสิ่งที่ดี พูดแต่สิ่งที่ทำให้เกิดชีวิต เกิดพระพร ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น จงเลือกใช้คำพูดที่เจริญๆและคำพูดที่หนุนใจกันและกัน

ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องที่รักทุกท่าน สุขสันต์วันคริสต์มาสนะคะ

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ลูกขอขอบพระคุณสำหรับพระคำของพระองค์ในวันนี้ พระองค์ตรัสเพียงพระวาจาเดียวทุกสิ่งก็เกิดขึ้นจริงได้ เช่นเดียวกัน นับจากนี้ ลูกจะฉลาดในการเลือกใช้คำพูด เพราะลูกเชื่อว่าคำพูดที่ดีนั้นมีพลัง มันจะสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ร้ายให้กลายเป็นดีได้! ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ 3 minute devotions


วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2564

จงละความกังวลทุกอย่าง

 


จงละความกังวลทุกอย่าง

7จงละความกังวลทุกอย่างของพวกท่านไว้กับพระองค์ เพราะว่าพระองค์ทรงห่วงใยท่านทั้งหลาย

1 เปโตร 5:7

ลองนึกภาพว่าคุณกำลังกำอะไรบางอย่างอยู่ในมือ มือของคุณถูกกำไว้แน่น คุณไม่ต้องการที่จะปล่อยมันไป แม้ในใจคุณได้พยายยามบอกตัวเองไปแล้วหลายๆครั้งว่า ถึงเวลาที่ฉันควรจะปล่อยมันไปเสียที แต่แล้วคุณก็ยังกำมันไว้แน่นอยู่ในมือ  

วันนี้ได้เวลาปล่อยวางแล้วนะ พี่น้องที่รักทุกท่าน! ปล่อยสิ่งที่คุณกำมันเอาไว้อยู่ แล้วไตร่ตรองมองดูอย่างใกล้ๆ ว่าอะไรคือสิ่งที่คุณกำมันไว้แน่นอยู่ข้างใน? คุณกำลังกำอะไรเอาไว้? คุณกำลังยึดติดอยู่กับความกังวลอะไรบางอย่างอยู่ใช่หรือไม่? จงตั้งใจฟังสิ่งที่พระเจ้าทรงตรัสบอกกับเราผ่านพระวรสารในวันนี้ แล้วปล่อยความวิตกกังวลเหล่านั้นไปเสียเถิดนะ!ให้คุณถวายทุกสิ่งแด่พระเจ้า! เพราะพระหัตถ์ของพระองค์นั้นใหญ่กว่ามือของคุณมาก และพระองค์ต้องการแบกรับมันมันไว้แทนคุณ

ตอนนี้ให้คุณยกมือขึ้นโบกไปมาในอากาศ คุณรู้สึกว่าความกังวลเหล่านั้นได้ถูกปล่อยออกไปบ้างไหม? คุณเห็นพวกมันหลุดลอยหายบ้างหรือยัง?  พระเจ้าต้องการให้ลูกๆของพระองค์มีชีวิตที่ปราศจากความกังวล ดังนั้นครั้งต่อไปที่คุณรู้สึกกังวลใจไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม อย่าลืมแบมือที่กำอยู่ออกและปล่อยให้ปัญหาของคุณลอยไปอยู่ในมือของพระเจ้าแทน

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า วันนี้ลูกเลือกที่จะละทิ้งความวิตกกังวลใจทุกอย่างของฉัน! ลูกจะไม่ยึดติดกับพวกมันอีกต่อไป ลูกขอมอบมันไว้ในพระหัตถ์พระองค์! ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ 3 minute devotions


วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2564

พระเจ้าจะทรงประทานสิ่งดีให้แก่ผู้ที่ทูลขอพระองค์!

 


ของขวัญที่ดีที่สุด

9ในพวกท่านมีใครบ้างที่จะเอาก้อนหินให้ลูกเมื่อเขาขอขนมปัง? 10หรือให้งูเมื่อลูกขอปลา? 11เพราะฉะนั้น ถ้าพวกท่านเองผู้เป็นคนบาปยังรู้จักให้ของดีแก่ลูกของตน ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์จะประทานสิ่งดีแก่พวกที่ขอต่อพระองค์

มัทธิว 7:9,11

ลองนึกภาพว่าวันคริสต์มาสกำลังจะมาถึง คุณเห็นของขวัญมากมายวางไว้ใต้ต้นคริสต์มาส และคุณก็อยากรู้ว่ามันมีอะไรพิเศษอยู่ในกล่องของขวัญเหล่านั้นที่ห่อไว้สวยงาม กล่องที่มีชื่อของคุณติดอยู่ มันจะมีอะไรอยู่ในนั้นน่ะ? โอ้ มันอาจจะเป็นบัตรเงินสดหรือกระเป๋าสวยๆสักใบก็ได้ ,หรืออาจจะเป็นไอแพด ไอโฟน หรือวิดีโอเกมที่กำลังอยากได้รึป่าวนะ คุณเริ่มใจจดใจจ่อกับมันมากสุดๆ! คุณแทบจะรอให้ถึงวันคริสต์มาสไม่ไหวแล้ว!

ในที่สุดวันสำคัญก็มาถึง คุณตื่นเต้นมาก! คุณรีบเปิดของขวัญทีละชิ้นจนมาถึงกล่องที่คุณแอบหมายปองไว้ เมื่อคุณเอื้อมมือไปหยิบห่อของขวัญและเริ่มฉีกกระดาษออก กลับเจอแต่ก้อนหิน กับงู   มันคืออะไรเนี่ย? คุณเริ่มสับสนและเสียใจเล็กน้อย คุณมองไปที่พ่อแม่ของคุณ พ่อกับแม่แบบไหนกันนะที่เขาจะให้ของขวัญลูกแบบนั้นกับลูก? นี่เรื่องจริงหรือแค่เรื่องล้อกันเล่นเนี่ย?

บางทีนี่อาจเป็นตัวอย่างที่ดูไร้สาระ  แต่ประเด็นที่ต้องการบอกก็คือ พ่อแม่ของคุณจะไม่มีวันให้ก้อนหินหรืองู กับคุณแน่นอน! พวกท่านจะต้องให้ของขวัญที่ดีแก่คุณเพราะพวกท่านรักคุณ! และต่อไปนี้คือข่าวที่วิเศษสุด นั่นก็คือ พระเจ้าจะทรงประทานสิ่งดีให้แก่ผู้ที่ทูลขอพระองค์! เพราะนี่คือสิ่งที่พระคัมภีร์กล่าวไว้ ทำไมนะเหรอ? ก็เพราะพระองค์รักคุณไงละ! ดังนั้นจงทูลขอด้วยความเชื่อ! อาจจะมีหลายสิ่งที่ทำให้คุณแปลกใจก็ได้นะ!

ดังนั้น ให้เรามั่นใจ ทูลขอ จงแสวงหา จงเคาะ อย่าหยุด (ลูกา 11:9-10) มีหรือพระเจ้าจะไม่ประทานให้ เพราะพระองค์ทรงเป็นพ่อที่ประเสริฐยิ่งที่สุด

แต่ถ้าหากว่าเราทูลขอผิดๆ ขอเพื่อสนองตัณหาของตัวเราเองก็ไม่ได้นะ เพราะขนาดพ่อในโลกยังรู้ดีว่า การให้สิ่งเหล่านั้นคือการทำร้ายลูก แล้วพระบิดาผู้เป็นพ่อในสวรรค์ที่รักเรามากๆ ผู้ทรงมุ่งหวังและอยากให้แต่สิ่งดีแก่เรายิ่งกว่าใครๆ พระองค์จะไม่มีวันรักลูกแบบผิดๆแน่นอน พระองค์ย่อมยับยั้ง และปรับปรุงความคิดเราให้ถูกต้องเสียก่อน ก่อนที่พระองค์จะทรงเทพระพรลงมาให้เรา

ข้อพระคำในกาลาเทีย 1:15 และเยเรมีห์ 1:5 ให้ความเชื่อมั่นแก่เราว่าความรักของพระเจ้าและการควบคุมของพระองค์เริ่มต้นก่อนที่เราอยู่ในครรภ์ เป็นของขวัญที่ดีที่จะรู้ว่าพระเจ้าเกี่ยวข้องกับชีวิตเราตั้งแต่เริ่มต้น รักของพระองค์ที่มีต่อเราถูกรวมเข้าด้วยกันกับความปรารถนาของพระองค์เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา พระองค์คือ พระเจ้าผู้จัดเตรียม

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา พระองค์ทรงเตรียมของขวัญที่ดีที่สุดไว้ให้กับลูกเสมอ! ลูกเชื่อว่าสิ่งนั้นย่อมดีกว่าของขวัญทุกชิ้นที่ลูกจะได้รับในเช้าวันคริสต์มาส ลูกแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์ที่พระองค์เตรียมไว้ให้กับลูก! ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ 3 minute devotions

bangkokfellowship

วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2564

การซ่อมความสัมพันธ์ที่พังก็เป็นเหมือนกับการซ่อมรั้วที่พัง

 


การซ่อมความสัมพันธ์ที่พังก็เป็นเหมือนกับการซ่อมรั้วที่พัง

“หากพี่น้องของท่านคนหนึ่งทำผิดต่อท่าน จงไปหาและชี้ความผิดต่อเขาสองต่อสองเท่านั้น ถ้าเขาฟังท่าน ท่านจะได้พี่น้องคืนมา

มัทธิว 18:15

คุณเคยเห็นคนซ่อมรั้วบ้านที่พังบ้างไหม? บางทีไม้บางชิ้นอาจหลุดหายหรือพังไปเราเลยต้องเปลี่ยนใหม่ เจ้าของเองก็จะต้องเตรียมค้อนกับตะปูไปให้พร้อมเพื่อจะได้เริ่มทำการซ่อมแซมในส่วนที่พังเพื่อให้รั้วกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง

บางครั้งการซ่อมความสัมพันธ์ที่พังก็เป็นเหมือนกับการซ่อมรั้วที่พัง มันต้องใช้เวลาในการทำงาน ลองนึกภาพถึงสิ่งนี้: เพื่อนของคุณได้ทำบางสิ่งที่ทำร้ายความรู้สึกของคุณมากๆ บางทีเขาอาจจะพูดเรื่องโกหก/นินทาเกี่ยวกับคุณ และพอคุณจับได้ เขาก็ไม่ยอมรับมัน คุณจะทำอย่างไรกับเพื่อนคนนี้ดี?

มันง่ายที่เราจะเลือกยุติความสัมพันธ์นั้นลง หรือพยายามเอาคืนคนที่ทำร้ายคุณด้วยวิธีร้าย ๆไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง   แต่พระคัมภีร์วันนี้ต้องการสอนเราว่าเมื่อเราถูกคนอื่นทำร้าย เราต้องไปหาคนนั้น ไม่ใช่ไปหาคนอื่นๆ แต่ให้เราตรงไปที่คนที่ทำร้ายเราและพูดถึงเรื่องที่มันเกิดขึ้น คุณจะต้องไม่ไปซุบซิบกับเพื่อนคนอื่น ๆ ถึงเรื่องของเขา เพราะมันจะบานปลายและกลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้าหากคุณเชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้าในวันนี้ คุณแค่ต้องเข้าไปหาคนที่ทำร้ายคุณแล้วพูดตรงๆกับเขาว่า "นี่เธอ เรามาคุยกันหน่อยดีไหม" และถ้าพวกเขาฟังคุณ คุณอาจจะได้เพื่อนและมิตรภาพกลับคืนมา! ในทางกลับกันถ้าคุณเลือกที่จะไปหาเพื่อนคนอื่นๆแล้วเริ่มนินทาเม้ามอยถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะยิ่งแย่ลงไปอีกแน่นอน

พระเจ้าทรงสอนว่าเราต้องให้อภัยผู้อื่นก่อนทั้งนี้ก็เพื่อเราจะได้รับการยกโทษบาปของเรา และได้รับพระพรที่เปี่ยมไปด้วยสันติสุขและความปีติยินดีด้วย  

ฟังดูง่าย แต่อาจทำได้ยาก เพราะเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่คิดว่า ฉันให้อภัยก็ได้นะ แต่ในใจลึกๆก็ยังมีเคืองๆอยู่บ้าง ยังคงหวาดระแวงอีกฝ่าย ยังคงไม่เชื่อความจริงใจของอีกฝ่าย แต่นี่คือบาป เพราะเมื่อมีการคืนดีและอ้างถึงการกลับใจ แต่ละฝ่ายก็ควรให้อภัยแล้วลืมสิ่งที่ผ่านไป จงปล่อยให้อดีตเป็นบทเรียน อย่ากลับไปทำซ้ำอีก เราควรเริ่มต้นใหม่ เราควรให้โอกาสกันและกันได้ปรับปรุงแก้ไข เพื่อเป็นการซ่อมรั้วที่มีช่องโหว่  และกลับมาปรองดองกันเหมือนเดิม

ดังนั้นจงเลือกที่จะกล้าหาญในการให้อภัยและการคืนดีเถิด! จงไปหาคนที่ทำร้ายความรู้สึกคุณโดยตรง และเปิดใจคุยกับเขา ใช้หัวใจ ใช้ความจริงใจพูดคุยกัน แล้วหลังจากนั้นให้คุณเฝ้าดูว่าพระเจ้าจะทรงซ่อมรั้วแห่งมิตรภาพเหล่านั้นอย่างไร!

เราควรปล่อยการตัดสินไว้กับพระเจ้า เพื่อให้อยู่ในความถูกต้องเราต้องให้อภัย ก่อน โดยโม่ต้องคำนึงว่าคู่กรณีของเราจะกลับใจหรือไม่ หรือการเปลี่ยนแปลงของเขาจะจริงใจหรือไม่ หรือเขาจะมาขออภัยเราหรือไม่ เราต้องให้อภัยก่อนเราจึงจะไค้รับการอภัย จงปล่อยการตัดสินไว้กับพระเจ้าของเรา เพราะถ้าเรามีเมตตาต่อผู้ทำให้เราเจ็บ พระองค์จะ ทรงเมตตาเราในความผิดพลาดของเราด้วยเช่นกัน

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รัก ลูกขอขอบพระคุณที่ทรงเตือนให้ลูกเปิดใจคุยกันกับคนที่ทำให้ลูกเจ็บโดยตรง และทรงห้ามลูกพูดเรื่องของเขากับคนอื่นๆ! โปรดช่วยให้ลูกเลือกแนวทางของพระองค์ในทุกกรณี ขอพระองค์ทรงอวยพรลูกเพื่อลูกจะได้มีวิญญาณที่แท้จริงของการกลับใจ และการให้อภัยอยู่ในใจของลูกตลอดเวลา ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ 3 minute devotions

วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2564

มีสามัคคีธรรมกับคนของพระเจ้า

 


มีสามัคคีธรรมกับคนของพระเจ้า

แต่รูธตอบว่า “ขอแม่อย่าวิงวอนให้ลูกจากแม่หรือเลิกตามแม่กลับไปเลย เพราะแม่จะไปไหนลูกจะไปด้วย และแม่จะอาศัยอยู่ที่ไหนลูกก็จะอยู่ที่นั่นด้วย ชนชาติของแม่จะเป็นชนชาติของลูก และพระเจ้าของแม่ก็จะเป็นพระเจ้าของลูก

รูธ 1:16

“สามัคคีธรรม” มาจากคำในภาษากรีก koinonia แปลได้ว่า “หุ้นส่วนกัน” “ติดต่อกัน” หรือมี “สามัคคีธรรมกัน”

เมื่อคุณเดินไปกับพระเจ้า คุณก็อยากอยู่กับคนของพระเจ้า เมื่อคุณมีสามัคคีธรรมกับพระเจ้า และศึกษาพระคำของพระองค์ คุณก็อยากจะพูดคุยแบ่งปันกันในท่ามกลางพี่น้องคริสเตียน คุณอยากอยู่ในท่ามกลางผู้เชื่อด้วยกันและเป็นธรรมดาที่เราต้องดูแลเอาใจใส่กัน อธิษฐานเผื่อกัน ช่วยเหลือกัน อย่างเป็นธรรมชาติ คนที่อยู่ห่างจากการมีสามัคคีธรรมกับพระเจ้า ก็มักจะอยู่ห่างจากการมีสามัคคีธรรมกับผู้เชื่อคนอื่นๆด้วย

พระเจ้าทรงรักมันเมื่อประชากรของพระองค์มีสามัคคีธรรมร่วมกัน พระองค์ชื่นใจที่ได้เห็นเราร้องเพลงนมัสการ เรียนพระคัมภีร์ และออกเยี่ยมเยียนกันและกัน พระองค์รู้ว่าการอยู่ด้วยกันทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกัน การรวมกันเป็นหนึ่งหมายความว่าเรามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน  เรารักในสิ่งเดียวกันและสนุกกับการเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีความสุข!

มาดูคัมภีร์ของวันนี้กัน หญิงสาวคนหนึ่งชื่อรูธพูดคำเหล่านี้กับนาโอมีแม่สามีของเธอว่า "แม่ไปที่ไหนฉันก็จะไป และแม่จะอยู่ที่ไหนฉันจะไปอยู่ด้วย ชนชาติของแม่จะเป็นชนชาติของฉัน และพระเจ้าของแม่ก็จะเป็นพระเจ้าของฉัน" เช่นกัน  เมื่อเราไปโบสถ์  เราได้บอกว่า "เราอยากอยู่กับพระองค์ ครอบครัวของพระองค์คือครอบครัวของเรา และพวกเราต่างก็รับใช้พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่องค์เดียวกัน!"

สรุปให้เข้าใจง่ายๆ สามัคคีธรรมคือการอยู่ด้วยกัน รับใช้ดูแลกันและกัน เติบโตเป็นผู้ใหญ่จนแก่ชราไปด้วยกัน นี่คือสายใยแห่งสามัคคีธรรม และสามัคคีธรรมจะลดลงเรื่อยๆ เมื่อผู้เชื่อเริ่มดำเนินชีวิตในทางที่ขัดแย้งกับคำสอนในพระคริสตธรรมคัมภีร์

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา ลูกดีใจมากที่พระองค์ทรงทำให้ลูกได้เป็นส่วนหนึ่งของพระศาสนจักร ที่นั่นคือประชากรของพระองค์! พวกเราเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีความสุข มันวิเศษมากที่พวกลูกจะได้รับใช้พระองค์ร่วมกัน! ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ 3 minute devotions


วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2564

การคืนดี

 


การคืนดี

เขาทั้งหลายจะสร้างสิ่งปรักหักพังโบราณขึ้นใหม่

เขาจะซ่อมเสริมที่ทิ้งร้างแต่เก่าก่อนขึ้น

อิสยาห์ 61:4

คุณเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการเลิกคบหากับใครสักคนบ้างหรือไม่? อาจมีเพื่อนสนิทบางคนที่คุณไม่ได้คุยด้วยมานานแล้ว ทั้งๆที่เมื่อก่อนคุณกับเขาเคยเป็นเพื่อนที่ดีกัน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว บางทีคุณอาจมีเรื่องที่ทะเลาะกัน คิดเห็นต่างกัน มีเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน แต่พอเวลาผ่านไปสักพัก คุณก็นึกถึงเขาคนนั้นขึ้นมาแล้วนึกอยากคืนดีกับเขาเพื่อที่เราจะได้เป็นเพื่อนกันอีกครั้ง หลายคนอาจคิดว่ามันไม่น่าเป็นไปได้นะ?  เรื่องจะปคืนดีกันเนี่ย!

พระเจ้าทรงพอพระทัยเมื่อมองเห็นลูกๆของพระองค์รู้จักให้อภัยและคืนดีกัน พระองค์อยากให้ลูกๆของพระองค์เข้ากันได้ดี! พระองค์คิดว่ามันน่าทึ่งมากเมื่อได้เห็นคุณให้อภัยกันและกันและกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง คุณอาจคิดว่าตัวคุณไม่น่าจะทำได้? เพราะมันเป็นงานใหญ่เกินไปสำหรับคุณ? แต่จงจำไว้ว่าไม่มีอะไรใหญ่เกินไปสำหรับพระเจ้า จงอธิษฐานและเชื่อมั่นเรื่อง  "การคืนดี"  คุณรู้ไหม!  ลูกๆทุกคนของพระองค์มีสิ่งนี้อยู่ในจิตวิญญาณแล้ว มันอยู่ในจิตใต้สำนึกของคุณ! นั่นคือหัวใจที่รู้ให้อภัยและเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง  (คุณจะทำได้แน่นอนถ้าหากใจของคุณไม่แข็งกระด้างจนเกินไป)

มาดูพระคัมภีร์ของวันนี้กัน คุณอาจสงสัยว่าเมืองที่เก่าแก่และถูกทำลายนั้นเกี่ยวข้องกับมิตรภาพอย่างไร มันอาจมีความหมายมากกว่าที่คุณรู้และเข้าใจ! พระเจ้ารักเมื่อสิ่ง "เก่า" ถูกสร้างขึ้นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเมือง มิตรภาพ หรือชีวิต พระองค์อยู่ในพันธกิจ "การสร้างใหม่" ดังนั้นจงวางใจให้พระองค์ได้นำชิ้นส่วนกลับมารวมกันในมิตรภาพของคุณ เพราะพระองค์ยิ่งใหญ่พอที่จะรับมือได้กับทุกสิ่ง!

เคล็ดลับการสร้างมิตรภาพอีกครั้ง

-แสดงให้เพื่อนเห็นว่าคุณรักเขาจริงๆ

-สงบจิตสงบใจก่อนที่จะคุยกับเพื่อนอีกครั้ง

-ติดต่อกับเพื่อนและย้ำเตือนว่าเขาเป็นเพื่อนรักของคุณ

-ถ้าคุณเป็นคนที่ก่อประเด็นก็ควรพูดกับเขาอีกครั้ง บอกความจริงกับเขา พยายามอธิบายว่าคุณไม่ได้ตั้งใจทำร้ายความรู้สึกของเขา

-ลองมองสิ่งต่างๆ จากมุมมองของเขา

-ถ้าเขาไม่อยากเป็นเพื่อนก็ปล่อยเขาไป มันอาจจะยากแต่มันจะดีกว่าสำหรับคุณ

จงใช้ความรักนำหน้าทุกสิ่ง จากนั้นจงรอคอยอย่างมีความหวังด้วยหัวใจที่มีความเชื่อศรัทธา ว่าพระงค์จะทรงดูแลเรา

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รัก ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไปที่จะคืนดีกับเพื่อนได้อีกครั้งหลังจากที่มีการโต้เถียงกัน แต่ลูกรู้ว่าพระองค์อยู่เหนือการควบคุมทุกสิ่ง รวมถึงการ "สร้างขึ้นใหม่" ดังนั้นลูกจึงวางใจให้พระองค์เข้ามาช่วยรื้อฟื้นมิตรภาพของลูกและเพื่อนมนุษย์ ลูกมั่นนใจว่าไม่มีอะไรใหญ่เกินไปสำหรับพระองค์ ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ 3 minute devotions


วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2564

บุตรหญิงของพระเจ้า

 


บุตรหญิงของพระเจ้า

เราจะเป็นดังบิดา ของพวกเจ้า

พวกเจ้าจะเป็น บุตรชาย บุตรหญิงของเรา”

พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพทั้งสิ้นได้ตรัสดังนั้น

2โครินธ์ 6:18

ก็เพราะมีคำพูดที่ว่า “ ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ” กระมังจึงทำให้สตรีรักสวยรักงามเอามากๆทีเดียว เข้าใจว่าเรื่องความสวยความงามก็เป็นสิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ล้วนให้ความสำคัญเพราะความสวยก็เปรียบเหมือนเป็นประตูด่านแรกในการดึงดูดความสนใจจากผู้คน

หากเป็นเด็กเราก็ชอบถักเปีย ผูกโบว์สวยๆ ใส่ชุดเจ้าหญิงสวยๆน่ารักๆ พอโตมาหน่อยเราก็สะสมพวก เครื่องสำอาง กระเป๋า รองเท้า และเครื่องประดับอื่นๆ มันเป็นเรื่องปกติที่เจ้าหญิงทุกคนต้องหลงไหลในสิ่งเหล่านี้ และมันก็อาจดูงี่เง่าเล็กน้อยสำหรับคนบางคนด้วย แต่ไม่ว่าจะยังไงการแต่งตัวก็เป็นเรื่องที่สนุกมากสำหรับสาวๆอย่างเรา

คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมสาว ๆ ถึงชอบของสวยงามๆ? อาจเป็นเพราะเรา เป็นลูกสาวของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ หรือเปล่านะ  พระเจ้าพระบิดาของเราเป็นกษัตริย์เหนือโลกทั้งใบ และนั่นก็ทำให้เราได้กลายเป็นเจ้าหญิง แน่นอนอยู่แล้วว่า เจ้าหญิงก็ต้องชอบความหรูหราสวยงามของเธอเป็นที่สุด!

แต่ส่วนสำคัญที่สุดของการเป็นเจ้าหญิงคือ? มันมีความหมายมากกว่าความงามของเปลือกนอกแน่นอน เราต้องไม่เป็นแค่เจ้าหญิงที่ดูดี งดงามเพียงภายนอกเท่านั้น ในฐานะบุตรสาวของพระเจ้าเราต้องยกให้ความงามภายในจิตใจสำคัญที่สุด  ความสวยงามทางกายเป็นแค่สิ่งภายนอก และเป็นสิ่งที่เสื่อมสภาพได้ ความสาวจะลดน้อยถอยลงไปตามกาลเวลา

สิ่งที่สำคัญกว่าเปลือกนอกนั้นคือ ความงามภายใน เป็นสิ่งที่ไม่เสื่อมสลายไป แต่เราสามารถพัฒนาได้ทุกวัน นี่แหละค่ะคือจุดประสงค์ที่อยากจะหนุนใจสตรีคริสเตียนทุกท่าน หันมาช่วยกันพัฒนาความงามภายในกันดีกว่า จิตใจที่บริสุทธิ์ จริงใจ คือ จิตใจที่มีสันติสุขในพระเยซูคริสต์ ถ้าจิตใจเรามีสันติสุขแล้ว หน้าตาเราก็จะอิ่มเอิบ การมีความชื่นชมยินดีอยู่เสมอ ช่วยทำให้ดวงตาเราสดใส  เราจะมีรอยยิ้มที่น่าประทับใจ ไม่ดูเสแสร้ง เราอาจไม่ต้องเสียเงินเข้าร้านเสริมสวยเป็นประจำอีกก็ได้นะคะ หากเราสามารถดำเนินชีวิตด้วยความรัก มีความเมตตากรุณา รู้จักอภัย มีความถ่อมใจ และให้เกียรติผู้อื่น ในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างมีคุณภาพ ความงาม ความมีเสน่ห์แบบนี้จะเป็นที่ดึงดูดผู้คนและมิตรภาพได้ยั่งยืนมากกว่า ความงามภายนอกแน่นอน

ไม่ใช่เจ้าหญิงทุกคนจะมีโอกาสได้ใช้หรือครอบครองของสวยงามฟุ่มเฟือยในชีวิตได้ทุกคน  ดังนั้นแต่ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าหญิงที่รักสวยรักงามหรือไม่ก็ตาม ขอแค่จำไว้ว่าเจ้าหญิง (บุตรสาวของราชาที่แท้จริง) นั้นงดงามสำหรับพระบิดาของเธอเสมอ (พระเจ้า) ไม่ว่าเธอจะแต่งตัวสวยงามหรือนุ่งผ้าขี้ริ้วก็ตาม พระบิดาไม่ได้มองลงมาจากสวรรค์แล้วพูดว่า "นี่ ลูก! ทำไมลูกไม่ใส่ชุดสวยๆละ / ทำไมลูกไม่มัดผมผูกโบว์ริบบิ้นแต่งหน้า ทาปาก ทำผมหน่อยล่ะ เปล่าเลยนะ พระองค์จะไม่ถามเราเช่นนั้นแน่นอน แต่พระองค์จะพูดว่า " ลูกสาวที่รัก! พ่อรักพวกเธอนะ! ลูกๆสวยงามสำหรับพ่อเสมอ  เพราะ เราทุกคนล้วนสวยงามในสายพระเนตรของพระองค์! พระองค์ทรงมองดูสิ่งที่อยู่ในจิตใจหาใช่มองที่เปลือกนอกของเราไม่

สุภาษิต31:30  กล่าวว่า เสน่ห์เป็นของหลอกลวง และความงามก็ไม่จีรัง

แต่สตรีที่ยำเกรงพระยาห์เวห์ สมควรได้รับคำสรรเสริญ

การอธิษฐาน และการอ่านพระวจนะของพระเจ้า เป็นเคล็ดลับความงามภายใน ที่พระเจ้าได้ทรงให้ไว้กับเราทุกคน พระคัมภีร์เป็นยาขนานดี ที่จะช่วยหนุนใจสตรีทุกคนได้ดี ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข หรือในวันที่ต้องเผชิญกับปัญหา หรือ ในวันทีคุณอ่อนล้าและต้องการพลังประจำวัน คุณอาจเลือกใช้ข้อพระคัมภีร์แต่ละตอนแล้วเฝ้าเดี่ยวส่วนตัวก็ได้ (เฝ้าเดี่ยวคือการใช้เวลาส่วนตัวกับพระเจ้าและสิ่งหนึ่งที่เราต้องเข้าใจก็คือเราถูกสร้างมาให้นมัสการและมีสามัคคีธรรมกับพระเจ้าพระผู้สร้าง พระองค์ปรารถนาที่จะใช้เวลากับเราและเปิดเผยถึงแผนการของพระองค์ต่อเราด้วย)

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา! ลูกดีใจที่พระองค์ทรงรักลูกไม่ว่าภายนอกของลูกจะเป็นเช่นไร พระองค์ก็ไม่เคยรักลูกน้อยลงไปเลย! โปรดช่วยให้ลูกจำไว้เสมอว่าลูกงดงามสำหรับพระองค์เสมอ!ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ 3 minute devotions

คุณนพลักษณ์ หัตถมาศ


พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าพายุของคุณ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าพายุของคุณ อ่านมัทธิว 8:1 ถึง 11:1 ​    25 และพวกสาวกมาปลุกพระองค์ ทูลว่า “องค์พร...