เสียงหัวเราะที่บริสุทธิ์
พระองค์ยังจะทรงให้ปากของท่านเต็มด้วยการหัวเราะ
และริมฝีปากของท่านเต็มด้วยการโห่ร้องยินดี
โยบ 8:21
มีของขวัญมากมายที่คุณสามารถแบ่งปันให้กับผู้อื่นได้
แต่สิ่งที่ดีที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือเสียงหัวเราะ คุณไม่รู้หรือว่าคุณสามารถแบ่งปันเสียงหัวเราะได้? คุณสามารถทำมันได้ทุกวัน(แต่ให้มันถูกกาลเทศะด้วยนะ)! เสียงหัวเราะตลก
ๆ จะทำให้ผู้คนมารวมตัวกันและเสริมสร้างความสัมพันธ์ต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว
หรือกลุ่มเพื่อน สังคมคนทำงาน เสียงหัวเราะเป็นยาที่ดีสำหรับหัวใจ
จิตใจ และจิตวิญญาณของคุณ มันจะเชื่อมโยงคุณและผู้อื่นในทางที่ลึกซึ้งและเป็นบวก เมื่อเสียงหัวเราะของคุณดังขึ้น
ดังขึ้น มันจะกลายเป็นโรคติดต่อ! เพราะไม่นานนักคนรอบตัวคุณก็จะเริ่มหัวเราะตามไปด้วย!
เสียงหัวเราะร่วมกันเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สุดอย่างหนึ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับรักษาความสัมพันธ์ให้ยั่งยืนได้อย่างน่าตื่นเต้น
การแบ่งปันความรู้สึกทางอารมณ์เป็นการสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและยั่งยืน การได้หัวเราะร่วมกันจะช่วยเพิ่มความสุข
ความมีชีวิตชีวาและสร้างกำลังใจที่ดี
การมีอารมณ์ขันเป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีพลังและมีประสิทธิภาพสำหรับใช้ในการเยียวยาความไม่พึงพอใจ
ความขัดแย้ง และความเจ็บปวดต่างๆ
เสียงหัวเราะจะช่วยสร้างความสามัคคีให้กับผู้คนที่กำลังตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากได้
นี่คือสิ่งที่สำคัญมากที่ต้องจำไว้:
การได้หัวเราะกับใครสักคนมันเป็นเรื่องสนุก
แต่การไปหัวเราะเยาะใครสักคนมันไม่ใช่เรื่องดี หรือเป็นเรื่องปกติ และเป็นสิ่งที่เราไม่ควรทำ การหัวเราะที่ทำให้คนอื่นเกิดความอับอายขายหน้านั้นเป็นนิสัยของคนใจร้าย คนนิสัยไม่น่ารัก และมันไม่ใช่สิ่งที่พระเจ้าชอบ
ดังนั้นคุณต้องแน่ใจว่าเสียงหัวเราะของคุณนั้นมาจากใจที่บริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นการทำให้คนอื่นอับอายขายหน้า
เมื่อพระเจ้าได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักที่มาจากความบริสุทธิ์ใจของคุณ มันก็ทำให้พระองค์มีความสุขมากเช่นกัน!
การเยาะเย้ยหมายถึงหัวเราะเยาะ ล้อเลียน หรือเสียดสี บางครั้งรวมถึงการล้อเลียนตรงๆ เช่นการเลียนแบบคนบางคนและใช้เสียงตลกหรือทำกิริยาท่าทางหรือภาพพจน์เกินจริง เราทุกคนเคยเห็นมาแล้ว และมีอยู่ทุกที่ ดูเหมือนคนจะชอบมันเสียด้วย แต่โปรดจำไว้ว่าพระเจ้าไม่พอพระทัย ไม่มีที่ใดในพระคัมภีร์ที่ยอมรับเรื่องการเยาะเย้ยเลย การเยาะเย้ยเป็นอาการของบาปที่จะนำไปสู่ความจองหอง และความรู้สึกทั่วไปที่อยู่เบื้องหลังการเยาะเย้ยคือการเหยียดหยาม การดูถูกคนอื่น กล่าวคือ คุณกำลังดูถูกคนอื่นอยู่ คุณอาจจะหัวเราเพราะคุณไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูดหรือทำ หรือคิดว่ามันดูตลก ก็แค่ขำๆ อย่าคิดมากสิ!
แต่การหัวเราะเยาะคนอื่นไม่ใช่สิ่งที่พระเจ้าทรงต้องการ
เพราะพระองค์ทรงสอนว่า “จงรักเพื่อนมนุษย์หมือนรักตนเอง” เมื่อคุณไม่ชอบให้ใครมาหัวเราะเยาะ
ล้อเลียนเรื่องของคุณ หรือทำให้คุณเป็นตัวตลกในสายตนคนอื่น คุณก็ต้องไม่ทำอย่างนั้นกับคนอื่นๆเช่นกัน เมื่อคุณถูกล่อลวงใจให้เข้าร่วมกับคนส่วนใหญ่ คุณต้องไม่ไปเป็นส่วนหนึ่งกับคนกลุ่มนั้นเด็ดขาด
อาจเป็นเรื่องยากที่คุณจะทนต่อการเยาะเย้ยของคนอื่นและไม่ตอบโต้ด้วยการเยาะเย้ยกลับ
เนื่องจากวัฒนธรรมของสังคมเราทำให้เราเชื่อว่าความชั่วต้องตอบแทนด้วยความชั่ว และการเยาะเย้ยกลับเป็นเรื่องที่ฉลาดที่สุด และทำให้คนเจ็บปวดที่สุด มันคือชัยชนะ และคนที่ชนะก็จะได้รับความสนใจและความเคารพจากผู้คน แต่นั่นไม่จริงเลยเพราะพระเจ้าทรงสอน และทรงแสดงแก่เราชัดว่าความรัก
ความอ่อนน้อม ความอดทน และความอดกลั้นคือวิธีของพระองค์
หากเราเป็นผู้ติดตามที่แท้จริงของพระเยซูคริสต์
เราจะไม่เยาะเย้ยพี่น้องของเรา(คนอื่นๆ) เพราะว่าใจของเรานั้นเปี่ยมไปด้วยความรักอันบริสุทธิ์ของพระองค์
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดา ลูกชอบการหัวเราะ มันเป็นการบำบัดอารมณ์และเป็นการกำจัดความคิดที่เป็นพิษออกไปจากจิตใจของลูกวิธีหนึ่ง
และมันจะสนุกมากยิ่งขึ้นเมื่อลูกได้หัวเราะกับครอบครัว เพื่อนที่รักและคนอื่นๆ โปรดช่วยให้ลูกจำไว้เสมอว่าการหัวเราะเป็นยาดี แต่มันต้องไม่เป็นการหัวเราะเยาะใครคนใดคนหนึ่ง
อย่าให้ลูกพ่ายแพ้เมื่อถูกล่อลวงให้ไปมีส่วนร่วมในการหัวเราะเยาะคนอื่น
ขอให้ลูกเข้มแข็งไม่เห็นดีเห็นงามไปกับการเห็นคนอื่นเป็นตัวตลก แต่ให้ใจของลูกเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอันบริสุทธิ์ของพระองค์
ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน
ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก
หนังสือ 3 minute devotions
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น