ใครสักคนที่รับฟัง
ลูกเอ๋ย จงใส่ใจถ้อยคำของข้า
จงเอียงหูของเจ้าเข้าหาคำพูดของข้า
สุภาษิต 4:20
บางครั้งเราต้องการแค่ใครสักคนที่มารับฟัง
คุณเคยรู้สึกไหม...บางครั้งเราก็ไม่ได้ต้องการคนมาปลอบใจ บางครั้งเราไม่ต้องการการคำแนะนำในการแก้ปัญหาใดๆ
บางครั้งเราก็แค่ต้องการใครสักคนที่จะมา”รับฟัง”
ในยามที่พายุปัญหาถาโถมเข้าใส่ชีวิต ในขณะที่หัวใจของเรากำลังสั่นอ่อนแอ
มีเรื่องสะเทือนใจ ตัวเรายังไม่พร้อมหรือไม่ได้ต้องการคำพูดใดๆจากใคร เราแค่อยากอยู่เงียบๆ
นิ่งๆ ทบทวน เราแค่อยากระบายถึงสิ่งที่มันกำลังอัดอั้นอยู่ในใจของเราให้ใครสักคนฟังก็เท่านั้นเอง
เราไม่ได้อยากรู้ว่าเราควรต้องทำอะไร เราไม่ได้อยากรู้ว่าใครเคยเป็นเหมือนเราบ้าง ณ ตอนนี้เราไม่ได้อยากรู้วิธีแก้ปัญหา
เพราะเราเองก็เชื่อว่ามันจะผ่านไปได้ แต่ก็ต้องอาศัยเวลา ในการช่วยเยียวยา!
ณ นาทีนี้เราแค่อยากระบาย
อยากให้ใครสักคน”รับฟัง”สิ่งต่างๆที่มันท่วมท้นอยู่ในใจ
ใครสักคนที่ไม่ตัดสิน ไม่ตัดพ้อต่อว่า ใครที่จะไม่มาแนะนำหรือหยิบยื่นทางออก(ในมุมของเขา)ให้กับปัญหาของเรา
ไม่ก้าวย่างเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวในส่วนของเราเพราะเราเองก็อยากจะจัดการกับมันด้วยวิธีของเราเองก่อนเมื่อตัวเราพร้อม ซึ่งไม่ใช่ตอนนี้ ตอนนี้ขอแค่ได้พูดระบายความในใจออกมาก็พอ เราอาจอยู่ในสภาพน้ำตานองหน้า
อาจดูฟูมฟาย อาจจะมีอารมณ์อ่อนไหว อาจดูสับสนวุ่นวายใจ แต่เราจะผ่านมันไปได้ ตอนนี้เราแค่ต้องการแค่ใครสักคนที่รับฟัง แค่รับฟัง…เท่านั้นจริงๆ
หยุดสักครู่แล้วมองดูสิว่ามีเพื่อนคนไหนหรือสมาชิกในครอบครัวคนไหนบ้างที่เป็นผู้ฟังที่ดีที่สุดในกลุ่ม? ใครคือคนที่ไม่พูดแทรกแซง ใครคือคนที่สนใจฟังคุณจริงๆ ใครคือคนที่ใส่ใจว่าคุณกำลังเผชิญกับอะไรอยู่จริงๆ?
ถ้ามี ก็นับว่าเป็นพระพรของเรา เพราะคนเหล่านั้นแหละคือคนที่คุณจะไว้ใจได้
และในครั้งต่อๆไปหากคุณต้องการใครสักคนที่จะคุยด้วย
อย่าอายหรือกลัวที่จะแตะไหล่เขาเบาๆ กระซิบบอกเขาหรือแชทหาเขา แล้วพูดว่า "ขออนุญาตรบกวนแป๊ปนึงนะ
คุณพอจะมีเวลาสักครู่ไหม พอดีฉันมีเรื่องไม่สบายใจ ฉันแค่อยากมีใครสักคนที่จะรับฟัง"
จริงอยู่การหาผู้ฟังที่ดีได้นั้นเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเรา
แต่การทำตัวเราเองให้เป็นผู้ฟังที่ดีนั้นดียิ่งกว่า
ครั้งต่อไปหากมีเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวต้องการให้คุณเป็นผู้ฟัง จงเตรียมทำทุกอย่างแบบที่ตัวคุณเองก็ต้องการจากคนอื่นเช่นกันแล้วใส่ใจฟังในสิ่งที่เขาต้องการจะพูดกับคุณ จงทำตัวเป็นพรให้กับผู้อื่น เพราะบางครั้งการนั่งฟังเขาพูดอย่างเงียบๆ ตอบรับบ้างตามความเหมาะสมเพื่อบอกให้เขารู้ว่าเราใส่ใจเขาอยู่นะ
นี่ก็เป็นการปลอบโยนที่ดีที่สุดแล้ว ส่วนคำแนะนำที่ยืดยาวมันจะเกิดผลดีได้ก็ต่อเมื่ออีกฝ่ายเขาต้องการ
ดังนั้นการที่เราจะแนะนำใครมันก็ต้องใช้ให้ถูกที่ ถูกเวลา และถูกคนด้วย
การรับฟังช่วยได้มากกว่าที่คิด
นอกจากการฟังจะส่งผลต่อผู้พูด ยังส่งผลดีต่อผู้ฟังด้วย มาเริ่มฝึกการรับฟังคนอื่น
แล้วคุณอาจจะพบความสุขใจจากการได้รับฟังคนรอบข้างอย่างแท้จริง และอาจจะช่วยหยุดปัญหาหรือความทุกข์ของคนที่คุณรัก
ก่อนจะลุกลามไปเป็นปัญหาใหญ่โต
เอเฟซัส 5:21 TH1971
จงยอมฟังกันและกันด้วยความเคารพในพระคริสต์
คำอธิษฐาน
พระเจ้าที่รัก ลูกขอขอบคุณสำหรับกัลยาณมิตรที่ดี
ที่พระองค์ทรงมอบเขาเข้ามาในชีวิตของลูก และลูกขอขอบคุณที่ทรงสอนให้ลูกรู้จักใส่ใจ
ตั้งใจฟังเมื่อพวกเขาต้องการใครสักคนด้วยเช่นกัน! ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า
อาเมน
ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก
หนังสือ 3 minute devotions
Seedoctornow
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น