ความเข้มแข็งจากพระเจ้า
เดลิลาห์จึงกล่าวกับแซมสันว่า
“โปรดบอกฉันหน่อยเถอะว่ากำลังมหาศาลของเธออยู่ที่ไหน? จะมัดเธอไว้ด้วยอะไร? เธอจึงจะหมดฤทธิ์”
ผู้วินิจฉัย 16:6
คุณเคยอ่านพระคัมภีร์เกี่ยวกับเรื่องของชายผู้แข็งแกร่งที่ชื่อแซมสัน
บ้างหรือไม่? ทูตสวรรค์ของพระเจ้ามาปรากฏแก่มารดาของแซมสัน
และกล่าวแก่นางว่า “นี่แน่ะ เจ้าผู้เป็นหมันไม่มีบุตร เจ้าจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย
ฉะนั้นบัดนี้จงระวัง อย่าดื่มเหล้าองุ่น
หรือของมึนเมา และอย่ากินของมลทินทุกอย่าง เพราะเจ้าจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย อย่าให้มีดโกนถูกศีรษะของเขา
เพราะเด็กนั้นจะเป็นนาศีร์แด่พระเจ้าตั้งแต่เกิด และเขาจะเริ่มช่วยกู้คนอิสราเอลให้พ้นจากมือของคนฟีลิสเตีย
ตัวแซมสันเองก็รู้ดีว่าการตัดผมจะทำให้พละกำลังของเขาหายไป
(มันน่าสนใจใช่มั้ยละ)
ศัตรูของแซมสันรู้เกี่ยวกับเรื่องพลังของเขาแต่ไม่มีใครรู้ที่มาของมัน
พวกเขาต้องการเอาชนะแซมสัน พวกเขาจึงส่งผู้หญิงที่ชั่วร้ายชื่อเดลิลาห์มาล่อใจแซมสัน
โดยให้นางแกล้งทำเป็นว่ารักเขา นางเอาแต่จู้จี้ออดอ้อนเขาเพราะนางต้องการให้แซมสันเฉลยความลับกับนางว่าอะไรที่ทำให้เขาแข็งแกร่งและมีพลังมากแบบนี้
ในที่สุดเขาก็บอกความลับของเขาต่อนาง นางก็ให้แซมสันนอนอยู่บนตักของนาง
แล้วนางก็เรียกชายคนหนึ่งให้มาโกนผมเจ็ดปอยออกจากศีรษะของแซมสัน กำลังของเขาก็หายไป นางจึงบอกว่า “แซมสัน คนฟีลิสเตียมาจับเธอแล้ว” แซมสัน
ก็ตื่นขึ้นจากหลับบอกว่า “ฉันจะออกไปอย่างครั้งก่อนๆ และสลัดตัวให้หลุดไป” แต่แซมสัน
ไม่ทราบเลยว่าพระเจ้าได้ทรงละเขาไปเสียแล้ว
แล้วสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร? เราควรไว้ผมยาวเพื่อที่เราจะได้มีพละกำลังเหมือนแซมสัน ใช่หรือไม่?
มันไม่ใช่แบบนั้น ประเด็นคือ พระเจ้าต้องการบอกให้เราคอยเฝ้าดูและอยู่ห่างคนหรือศัตรูฝ่ายวิญญาณที่อยากเห็นเราอ่อนแอ
พ่ายแพ้ต่อการล่อลวงทุกชนิด จงระวังคนที่จะเข้ามาทำให้เราหลงไปในทางบาป เราไม่ควรคลุกคลีอยู่กับคนพวกนี้ที่อาจทำให้เราตกต่ำหรือทำให้เราอ่อนแอในศรัทธา
นี่คือเหตุผลที่เราต้องรักษาความเข้มแข็งของเราเอาไว้
ในตอนจบ แซมสันก็ร้องทูลพระยาห์เวห์ว่า
“ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์
ขอประทานกำลังแก่ข้าพระองค์ครั้งนี้อีกครั้งเดียว
เพื่อข้าพระองค์จะได้แก้แค้นคนฟีลิสเตียเพื่อตาสองข้างของข้าพระองค์”
แซมสันมีชัยชนะเหนือศัตรูอีกครั้ง
เขาได้ความแข็งแกร่งกลับคืนมาและเอาชนะศัตรูด้วยพลังที่พระเจ้ามอบให้ นี่จึงเป็นบทเรียนที่เขาได้เรียนรู้ระหว่างทาง
แล้วเราได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องของแซมสัน
-คุณได้เห็นถึงการครอบครองของพระเจ้าว่าพระองค์นั้นอยู่เหนือสถานการณ์ที่เลวร้าย
-คุณได้เรียนรู้ถึงผลร้ายที่ตามมาจากการไม่เชื่อฟังและการไม่รักษาบัญญัติของพระเจ้าจากชีวิตของแซมสัน
-จงตั้งใจที่จะรักษาชีวิตของเราให้บริสุทธิ์เพื่อพระเจ้า
-ฉลาดในการเลือกคบคน
ฉะนั้นจะตัดสินใจคบใครเป็นเพื่อนในยุคนี้ต้องระมัดระวัง
เพราะคนหลอกลวงคอยหาโอกาสปอกลอกที่เราเรียกว่า พวกสิบแปดมงกุฎ มีเยอะ บ้างก็มาในคราบผู้ดี แต่งตัวดี พูดจาไพเราะและ
สุภาพ บริการดีจนน่าประหลาดใจทั้งที่รู้จักกันในเวลาสั้นๆ ทำไมถึงดีต่อเราปานนั้น เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ใครควรคบหรือไม่ควรคบเป็นเพื่อนสนิท คำตอบคือ ให้ "เวลา"
เป็นเครื่องพิสูจน์ดีที่สุด เวลาจะทำให้เราเห็นสิ่งที่เขาทำเป็นประจำไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำ เวลาจะทำให้เรารู้ว่าเขามีนิสัยแบบไหน จะขี้บ่น
ชอบนินทาใส่ร้าย เห็นแก่ตัว หรือจะเป็นคนใจกว้าง เวลาจะช่วยทำให้เรารู้ว่าเขามีทัศนะชีวิตทางบวกหรือลบ
สิ่งสำคัญคือคนที่เข้ามาชักจูงให้เราทำอะไรที่เสี่ยงต่อการสูญเสียความเชื่อต่อพระเจ้า เข้ามาทำให้เราเกิดความโลภและหลงไปในทางบาป สิ่งเหล่านี้เราต้องระวังเป็นพิเศษ
นอกจากเราจะต้องระวังการคบเพื่อนแล้ว
ตัวเราเองจะต้องปฏิบัติตนเป็นเพื่อนที่ดี มีความจริงใจ
ให้กำลังใจ ทำให้เพื่อนที่เคยมีนิสัยไม่ดีกลับกลายเป็นคนนิสัยดี คริสเตียนควรเป็น แบบอย่างของการเป็นเพื่อนที่ดี ให้เราดำเนินชีวิตด้วยความรัก
จริงใจ ซื่อสัตย์ ยืนหยัดในความจริงและถูกต้อง จนใครๆที่เข้ามาคบหาต้องพูดถึงเราว่าเราเป็นเพื่อนต่างศาสนาที่น่าคบค้าสมาคมด้วยคนหนึ่ง
จงแสดงความรักของพระเจ้าผ่านทางการดำเนินชีวิตของเรา
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระเจ้า ลูกไม่อยากยอมแพ้ต่อการล่อลวงใดๆ ในโลกนี้อีก
ลูกเชื่อว่ามีความเข้มแข็งเดียวที่จะสามารถเอาชนะบาปได้นั่นก็พลังความเข้มแข็งที่มาจากพระองค์
โปรดช่วยให้ลูกฉลาดในการเลือกคบคน ขอพระองค์ทรงปกป้องลูกจากคนที่ต้องการเข้ามาทำให้ความเชื่อของลูกตกต่ำลง
วันนี้ลูกจึงมาขอพึ่งพาพระองค์ ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน
ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก
หนังสือ 3 minute devotions
romyenchurch
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น