กำแพงเมืองเยรีโค
โดยความเชื่อ กำแพงเมืองเยรีโคพังลง
หลังจากคนอิสราเอลเดินรอบกำแพงครบเจ็ดวัน
ฮีบรู 11:30
คุณเคยเผชิญกับอุปสรรคใหญ่โตที่มีขนาดสูงใหญ่เท่ากำแพงมันบดบังทุกสิ่ง
บดบังแม้แต่ความหวังในใจคุณบ้างไหม? คุณเคยรู้สึกว่ามันสูงใหญ่เกินกว่าแรงของคุณจะข้ามผ่านมันไปได้บ้างไหม? อาจจะเป็นปัญหาเรื่องการเรียน ปัญหาครอบครัว ปัญหาที่อยู่อาศัย
ปัญหาเรื่องความรัก ปัญหาเรื่องการวางแผนกับอนาคต ปัญหากับเพื่อน
ปัญหาเรื่องการตกงาน ปัญหากับที่ทำงาน ปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ปัญหาการเงิน ปัญหาค่าเลี้ยงดูบุตรปัญหาเรื่องลูก และอื่นๆอีกมากมาย
แต่ละช่วงอายุ
แต่ละวัยมนุษย์เราต่างก็ต้องเคยผ่านปัญหาเหล่านี้มาก่อน แต่ไม่ว่าจะอย่างไรขอให้เราอย่าท้อแท้ จงเลือกที่จะเชื่อว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าทุกสิ่งที่คุณกำลังเผชิญอยู่
อย่าสงสัยในขีดจำกัดของพระองค์ ให้เรามีความหวังในพระเจ้า!
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขียนในพระคัมภีร์เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
ไม่ใช่นิทาน และยิ่งกว่านั้นยังมีนักวิทยาศาสตร์ และนักประวัติศาสตร์
นักโบราณคดีจำนวนมากที่มีหลักฐานยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในพระคัมภีร์นั้นเกิดขึ้นจริง
ยกตัวอย่างเช่น เรื่องราวเกี่ยวกับกำแพงขนาดใหญ่รอบๆ เมืองที่ชื่อเยริโค
เมื่ออิสราเอลตั้งค่ายข้างเมืองเยรีโค ประตูเมืองต้องถูกปิดไม่มีคนเข้าออกได้เลย
พระเจ้าตรัสสั่งโยชูวาว่าพระองค์ได้มอบเมืองเยรีโคนี้ไว้แก่เขาแล้ว
ให้เขานำขบวนปุโรหิตเจ็ดคนถือเขาแกะเจ็ดคันนำหน้าหีบพันธสัญญาและจงเดินขบวนรอบกำแพงเมืองรอบหนึ่ง
ให้ทำอย่างนี้หกวัน และในวันที่เจ็ดให้เดินขบวนรอบเมืองเจ็ดรอบ
และเมื่อได้ยินเสียงเขาแกะเป็นเสียงยาว ให้ประชาชนทั้งปวงโห่ร้องด้วยเสียงอันดัง
แล้วกำแพงเมืองจะถล่มพังลงราบ และให้ประชาชนบุกเข้าไปยึดเมืองนั้นไว้
ถ้าเราจะอธิษฐานขอให้กำแพงในชีวิตของเราพังลงมาบ้างจะได้ไหม? คำตอบคือ ได้สิ หากเรามองข้ามข้อจำกัดของเรา
และเห็นตัวเราอย่างที่พระเจ้าทรงเห็นเรา! หากเราปฏิเสธที่จะยอมแพ้เมื่อพบข้อจำกัด
หรือสิ่งกีดขวาง! ถ้าเราอธิษฐานด้วยใจศรัทธา! ถ้าเราดำเนินชีวิตด้วยความซื่อสัตย์และเชื่อฟัง! ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ
สำหรับเราในวันนี้ กำแพงเยรีโคแต่ของคุณคืออะไร? ในแต่ละวันมีความท้าทายและอุปสรรคปัญหาที่เราต้องเผชิญอยู่เสมอ
หนทางเดียวที่เราจะเติบโตขึ้นในความเชื่อคือ
“ยอมรับความท้าทายและอุปสรรคต่างๆเหล่านั้นด้วยการวางใจในพระเจ้าว่าพระองค์จะทรงประทานชัยชนะให้แก่เรา
ครั้งต่อไปที่คุณต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากจริงๆ
จำไว้ว่าพระเจ้าเป็นพระเจ้าของเรายิ่งใหญ่!
อันที่จริงพระคัมภีร์กล่าวว่าพระองค์ชอบทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้! ดังนั้นไม่ว่าวันนี้คุณกำลังเผชิญหน้ากับอุปสรรคยิ่งใหญ่แค่ไหน
จงจำไว้ว่าพระเจ้าของเรายิ่งใหญ่กว่าทุกสิ่ง จงเลือกที่จะเชื่อฟังพระเจ้า ซื่อสัตย์ต่อพระองค์เพียงผู้เดียว
จงอธิษฐานด้วยความชื่อสุดจิตสุดใจ ทำหน้าที่ในส่วนของตนเองให้ดีที่สุด แล้วมาคอยดูว่ากำแพงปัญหานั้นจะพังทลายลงมาเมื่อใด!
ให้เราขอบคุณพระเจ้า สรรเสริญพระเจ้า ในทุกกรณี
ข้อคิด
ก่อนที่เราจะคาดหวังสิ่งดีจากพระเจ้า เราต้องยินยอมและมอบสิ่งดีเพื่อพระองค์ก่อน
เช่นกัน แล้วสิ่งดีคืออะไร? คือ การถวายตัวตนของเรา ถวายเวลาที่ยุ่งเหยิงของเรา ดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อฟัง แสวงหาพระเจ้าอย่างจริงจัง
จริงใจ การศึกษาพระคำของพระเจ้าสม่ำเสมอจะช่วยให้ความเชื่อของเราเติบโตขึ้น และยังเป็นคู่มือในการดำเนินชีวิตที่เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า จงมีความยำเกรงต่อพระองค์ เชื่อว่าในสักวันกำแพงที่คุณเผชิญอยู่ตอนนี้จะต้องพังลงมาแน่นอน
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระเจ้า ชีวิตของลูกตอนนี้กำลังต้องเผชิญอยู่กับกำแพงปัญหาที่ค่อนข้างสูงใหญ่!
ลูกต้องการให้มันพังทลายลง
เหมือนอย่างกำแพงเยริโค ลูกจึงมาขอพึ่งพระองค์
โปรดมอบความเชื่อให้แก่ลูก โปรดสวมใจที่เชื่อฟังให้แก่ลูก
ลูกรู้ดีว่าลูกไม่สามารถทำลายกำแพงนั้นลงได้ด้วยกำลังของลูกเอง ลูกเชื่อมั่นว่ามีเพียงกำลังจากพระองค์ผู้เดียวเท่านั้นที่จะกระทำให้ทุกกำแพงในชีวิตของลูกพังทลายลงได้
ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน
ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก
หนังสือ 3 minute devotions
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น