วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2564

พักพิงในพระเจ้า

 


วางใจในพระเจ้าพระองค์เดียว

1จิตใจของข้าพเจ้าสงบคอยพระเจ้าเท่านั้น

ความรอดของข้าพเจ้ามาจากพระองค์

2พระองค์เท่านั้นทรงเป็นศิลาและความรอดของข้าพเจ้า

ทรงเป็นป้อมปราการของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่หวั่นไหวเลย

สดุดี 62:1-2

คุณเป็นพวกบ้าพลัง บ้างาน รึเปล่า? คนประเภทที่ชอบทำงานอยู่ตลอด,อยู่ว่างๆไม่ได้, บางครั้งก็ทำงานหนักเกินไปและทำติดต่อกันเป็นเวลานาน, บางทีก็หมกมุ่นอยู่กับความคิดที่ว่าทำยังไงเราถึงจะมีเวลาทำงานมากขึ้นได้ไปอีก, บางคนก็ทำงานเพื่อรักษาคุณค่าในตนเองเอาไว้ ถ้าหยุดทำเดี๋ยวดูไร้ค่า,บางคนก็จะรู้สึกผิด และวิตกกังวล อยู่ไม่เป็นสุข หากวันนั้นทำงานได้น้อยลง,บางคนบ้าทำงานจนไม่ฟังเสียงจากคนรอบข้างเลยก็มี,บางคนทำงานมากจนมีปัญหาความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเนื่องจากทำงานที่มากเกินไป,บางคนมีปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการทำงานแบบต่อเนื่อง

สิ่งที่น่าสนใจคือ คนบ้างาน ส่วนมากไม่รู้ตัวว่าบ้างาน อาจจะเรียกว่าอาการเสพติดงานก็ได้ พวกเขามักมองว่า ถึงงานเยอะแต่มันก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะเขาได้เงินเป็นค่าตอบแทน ได้รับการยอมรับ ได้ในสิ่งที่ตัวเองอยากได้ หากเรามองกันในมุมนี้ มันก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ผิดไปซะทีเดียว แต่หากบ้างานจนไม่มีเวลาใส่ใจสุขภาพกายและสุขภาพจิตเลย มันก็คงจะไม่ดี แน่นอน

บางทีคุณอาจคิดว่าคุณไม่จำเป็นต้องพักผ่อนมากนักก็ได้ หรือบางทีคุณอาจคิดว่าการอธิษฐานแบบรวดเร็วโดยใช้เวลาให้น้อยที่สุดก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับคุณกับพระเจ้า เพราะชีวิตของคุณต้องดำเนินต่อไป ยังมีงานให้ทำอีกมากมาย ภาระอีกมากมาย ความรับผิดชอบอีกมากมาย งานคือเงิน เงินคืองาน ที่จะช่วยบันดาลความสุข

แต่มันคงจะดีกว่าถ้าคุณรู้จักกำหนดเวลาการทำงานให้ชัดเจน มีช่วงเวลาพักผ่อน มีช่วงเวลาสำหรับการอธิษฐานและการอ่านพระคัมภีร์บ้าง  คุณต้องดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิต สุขภาพฝ่ายวิญญาณของตัวเอง และคุณต้องดูแลความสัมพันธ์รอบตัวด้วยว่ามันมีปัญหาอะไรรึเปล่า คุณต้องให้ความสำคัญเรื่องเหล่านี้ควบคู่ไปกับเรื่องของการทำงานด้วย  

การพักผ่อนมีความสำคัญต่อพระเจ้ามากเสียจนพระองค์ทรงสร้างวันวันสะบาโต ขึ้นก็เพื่อสิ่งนี้ และการพักผ่อนสำหรับเราคริสตชนนั้นก็เป็นมากกว่าการที่เราแค่ลุกขึ้นไปทำงาน หรือการหยุดทำงาน แต่มันเกี่ยวกับการไว้วางใจพระเจ้า มันเกี่ยวกับการที่คุณเชื่อว่าพระองค์สามารถช่วยคุณได้ แม้ในยามที่คุณพักอยู่

ดังนั้นถ้าคุณได้ "พักผ่อน" ในพระองค์อย่างแท้จริง คุณจะรู้สึกผ่อนคลาย และพูดได้ว่า "พระเจ้าทรงดูแลฉัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะไปต่อได้แน่นอน เพราะมีพระองค์"  ไม่มีอะไรที่ฉันต้องต้องกังวล ฉันจะใช้เวลากับการอธิษฐานและอ่านพระคัมภีร์เพิ่มขึ้น ฉันสามารถพักผ่อนและวางใจในพระองค์ได้ เมื่ออธิษฐานจบแล้ว ใจของคุณก็ต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่คุณพูดด้วย คุณต้องเชื่อว่าพระเจ้าทรงยิ่งใหญ่กว่าทุกสิ่ง และทุกสิ่งเป็นจริงได้เพราะมีพระองค์

ครั้งต่อไปที่คุณรู้สึกอยากทำงาน ปั่นงานแบบต่อเนื่อง แบบสุดแรงไม่มีผ่อน ลองเปลี่ยนมาเป็นการใช้เวลากับการอธิษฐานมากขึ้น ทูลขอให้พระเจ้าทรงแสดงให้คุณเห็นว่า เมื่อไหร่ควรพัก เมื่อไหร่ควรไปต่อ จงฝึกฟังเสียงของร่างกาย และจิตใจ พระเจ้าอาจจะกำลังตรัสอยู่ในใจของคุณแล้วก็ได้ พระองค์อาจกำลังบอกว่า ช้าๆหน่อยก็ได้ลูก หากเจ้า เหนื่อยก็พักสักหน่อยนะลูก เราจะดูแลเจ้าเอง เราแค่อยากให้ลูกใช้เวลาอยู่กับเรานานๆกว่านี้หน่อย"   

ฝากไว้ให้คิด หากในแต่ละวันคุณมัวแต่ยุ่ง วุ่นวายอยู่กับงานกับกับการใช้ชีวิต จนไม่มีเวลาให้กับพระองค์ (หรืออาจจะมีน้อย)  แล้วคุณจะได้ยินเสียงของพระองค์ชัดเจนได้อย่างไร?

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รัก ลูกขอขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงสร้างวันสะปาโต ลูกจะดำเนินชีวิตในวันนี้ด้วยความสุข ในความชอบธรรมของการครอบครอง และฤทธิ์เดช โดยรู้ว่าพระองค์ได้ประทานทุกสิ่งที่ลูกต้องการสำหรับชีวิตลูกแล้ว ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ 3 minute devotions

thaiodb

sanook

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...