วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2564

สติปัญญาที่มาจากพระเจ้า

 


ปัญญา

ลูกเอ๋ย ถ้าเจ้ารับถ้อยคำของข้า

และสะสมบัญญัติของข้าไว้กับเจ้า

แล้วเจ้าจะเข้าใจความยำเกรงพระยาห์เวห์

และพบความรู้ของพระเจ้า

เพราะพระยาห์เวห์ประทานปัญญา

และจากพระโอษฐ์ของพระองค์ ความรู้กับความเข้าใจก็ออกมา

สุภาษิต 2: 1,5-6

สติปัญญาคือความงามของความบริสุทธิ์ ยากอบกล่าวว่า สติปัญญานั้นประเสริฐคือ มีเหตุผล ให้อภัย สงบสุข เอาใจใส่ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีมารยาท และอ่อนหวาน สุภาพ จริงใจเรียบง่าย อ่อนโยน และมีเมตตา (ยก.3:17)

เราจะพบสติปัญญาได้ที่ไหน? สติปัญญามาจากสวรรค์ (ยากอบ 1:5) ชาร์ลส์ สเปอร์เจียน ได้เขียนไว้ว่า “ปัญญาคือความงามแห่งชีวิต อันเกิดขึ้นในเราจากพระหัตถกิจของพระเจ้าเท่านั้น”

เราควรถามตนเองอยู่เสมอว่า “ฉันกำลังเติบโตขึ้นในด้านสติปัญญาหรือเปล่า?” เพราะชีวิตไม่เคยหยุดนิ่ง ดังนั้นเมื่อแต่ละวันผ่านไปหากเราไม่ได้เติบโตเป็นคนที่น่ารักและงดงามขึ้นก็แสดงว่าเรากำลังกลายเป็นคนที่โง่เขลาและร้ายกาจ เรากำลังเติบโตไปทิศทางไหน?

ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการเติบโตด้านสติปัญญา พระเจ้าทรงรักเราด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ ซึ่งสามารถนำเราให้รอดพ้นจากความโง่เขลา หากเรายอมจำนนต่อพระองค์ ความรักของพระองค์สามารถเปลี่ยนนิสัยที่ดื้อด้านที่สุดให้กลายเป็นความงามอันน่ามหัศจรรย์ เราอาจต้องเจ็บบ้างและอาจต้องใช้เวลาสักระยะ แต่พระเจ้าไม่เคยหยุดยั้งที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา เมื่อเราทูลขอ พระปัญญาของพระองค์จะเกิดขึ้นในเราและหลั่งไหลไปสู่ผู้อื่น

ให้คุณลองคิดถึงคนที่ฉลาดที่สุดที่คุณเคยรู้จักมา หากลองสังเกตุดู คุณจะเห็นว่าเขาเหล่านั้นไม่ว่าจะคิดจะทำอะไรก็ดูลงตัวไปหมดใช่หรือไม่? ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการคิด การวางแผน การลงมือทำ การตัดสินใจของพวกเขาดูเหมือนว่าอะไรๆก็ดูง่าย ราบรื่นดีไปหมด ดูเป็นระบบระเบียบ ดีงามไปหมด ใช่หรือไม่? นั่นหมายถึงพวกเขาได้รับพรจากพระเจ้าใช่หรือไม่? ไม่ต้องไปอิจฉา ข้อเท็จจริงที่คุณควรรู้ก็คือ ทุกสิ่งที่คุณได้เห็นในคนที่ฉลาดที่สุด ก็สามารถเกิดขึ้นกับคุณได้ด้วยเช่นกัน

สติปัญญาที่มาจากพระเจ้าคือสติปัญญาที่คุณต้องการมากที่สุด  บางครั้งคนรอบข้างเราอาจแนะให้เราทำสิ่งที่ดูเหมือนดีหรือเหมาะกับสถานการณ์ต่างๆ แต่คุณต้องรู้ก่อนว่า ปัญญาของโลกและปัญญาของพระเจ้าแตกต่างกัน (1 โครินธ์ 2:6-7) เพราะปัญญาจากเบื้องบนนั้น “บริสุทธิ์เป็นประการแรก แล้วจึงเป็นความสงบสุข สุภาพและว่าง่าย เปี่ยมด้วยความเมตตา” (ยากอบ 3:17) 

เมื่อผู้อื่นยุหรือแนะนำให้เราทำบางสิ่งบางอย่าง เราสามารถทูลขอให้พระเจ้าทรงนำว่าเราควรจะตอบสนองอย่างไร ในพระคัมภีร์ได้บันทึกทุกอย่างที่พระเจ้าต้องการบอกกับคุณไว้หมดแล้ว ทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ล้วนอยู่ในหนังสือเล่มเดียว   หน้าที่ของคุณคือศึกษาทำความเข้าใจและนำมาใช้ให้เกิดผลในชีวิตจริง  จงทำในสิ่งที่พระเจ้าบอกคุณผ่านทางพระวจนะของพระองค์และอย่าหลงไปจากมัน จงมีศรัทธาและเชื่อฟังแล้วคุณจะได้รับสติปัญญาจากพระเจ้า

สติปัญญาแท้เริ่มต้นและสิ้นสุดที่พระเจ้า

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา ลูกเป็นดินพระองค์เป็นช่างปั้น โปรดรังสรรค์ตามแต่น้ำพระทัย ลูกจะรอคอย ยอมจำนนไม่เหลวไหล จะสงบนิ่งเปิดใจยอมรับฟัง ลูกรู้ว่าลูกต้องการสติปัญญาที่พระองค์ทรงสัญญาไว้ โปรดช่วยให้ลูกค้นพบปัญญานั้น ในขณะที่ลูกอ่านพระคำของพระองค์ ขอให้ลูกฉลาดพอที่จะเข้าใจในสิ่งที่พระองค์ต้องการบอกกับลูก ขอให้ทุกสิ่งเป็นไปตามน้ำพระทัย อย่าให้มันเป็นไปตามใจลูกเลย ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

 ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

thaiodb.org


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...