วันศุกร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2564

ตัดสินคนอื่นให้น้อยลง

 


ตัดสินคนอื่นให้น้อยลง

คุณอาจเป็นคนชอบตัดสินคนอื่นโดยไม่รู้ตัวได้ง่ายๆ เช่น คุณอาจจะคิดว่าตัวเองรู้ว่าคนอื่นควรแต่งตัวอย่างไร ควรคิดอย่างไร และควรทำอะไร หลายครั้งกับการที่คุณคิดว่า ตัวคุณรู้อยู่แล้วว่าจะต้องทำอะไร อย่างไร มันอาจทำให้คุณรู้สึกสบายใจ แต่การเป็นคนชอบตัดสินคนอื่น อาจทำให้คุณไม่ได้ทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ หรือได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ แต่โชคดีที่คุณยังสามารถเรียนรู้ที่จะเป็นคนที่ชอบตัดสินคนอื่นน้อยลง ด้วยการเปลี่ยนมุมมอง ขยายโลกทัศน์ของตัวเอง และเปิดใจให้กว้างขึ้น

หลายครั้งที่เรามักทำตัวเองเป็นคนช่างวิเศษ ตัวเองสมบูรณ์ และมักมองคนอื่นๆ เป็นคนไม่สมบูรณ์ทั้งที่พระคัมภีร์บอกว่าไม่มีผู้ใดสมบูรณ์เลยสักคนเดียว การเตือนสติ และการกล่าวโทษตัดสิน นั้นแตกต่างกัน เพราะการเตือนสติคือ การเตือนกับเจ้าตัวด้วยท่าทีที่ถ่อมสุภาพและด้วยความรัก และมุ่งหวังให้เกิดผลดี

หลายคนชอบชี้ขาดโดยไม่ไตร่ตรองพี่น้อง และวินิจฉัยพี่น้องเอาตามใจตนเอง และกล่าวโทษหมายถึง แจ้งว่าคนคนนั้นกระทำผิดพูดง่ายๆคือฟันธงลงไปเลยว่า เธอน่ะผิดและไม่ดีโดยยึดหลักตัวเองให้เป็นผู้วิเคราะห์ หรือฟังความข้างเดียว

บางคนชอบตัดสินผู้อื่นทั้งที่ตัวเองมีข้อมูลไม่ครบถ้วนก็ทำการชี้ขาดไปแล้วมองเห็นแต่จุดเสียของคนอื่น มีอคติส่วนตัวและหมั่นไส้หรือไม่ชอบมานานอยู่แล้ว การมีอคติส่วนตัวย่อมทำให้ขาดความรักและเมื่อขาดความรัก ก็ขาดการเชื่อในส่วนดี อยากจะเห็นคนคนนั้นตกต่ำลง ท่าทีในแง่ลบนี้เองทำให้ตัวคุณเองบิดเบือนความจริง เมื่อมีการพูดคุยก็จะนำเข้าไปสู่การตัดสินคนอื่นในทางลบ

อย่าตั้งตัวเองเป็นผู้ตัดสินผู้อื่นไม่ว่าโลกนี้คุณเองจะดูดีหรือมีหน้าที่การงาน-ฐานะทางสังคมสูงเพียงไหน แต่ตัวคุณเองก็ยังเอาตัวเองไม่รอดด้วยซ้ำเพราะถ้าไม่มีพระเยซู มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอด

มารมักชอบการตัดสินและกล่าวโทษ และผู้ที่เป็นเช่นนั้นก็เป็นทาสของมารซาตานเอง อย่าร่วมมือกับมารในการกล่าวโทษผู้อื่นเพราะนั่นอาจจะเป็นการทำร้ายพี่น้องคนหนึ่งที่ยังไม่เข้มแข็งนักและทำให้เขาต้องล้มลง พระเจ้าต้องการให้เราเสริมสร้างซึ่งกันและกันไม่ใช่การทำลายกัน

คำพูดของผู้มีอิทธิพลในองค์กร วัด คริสตจัก นั้นมีผลก็จริง แต่ผู้มีอิทธิพลนี้ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสมบูรณ์ในทางของพระเจ้าเสมอไป มันอาจเป็นแค่เปลือกนอกที่สั่งสมมานานก็เป็นไปได้ คำพูดของคนเหล่านี้อาจจะมีน้ำหนักต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันและมันจะทำร้ายและทำลายผู้ที่ถูกตัดสินอย่างไม่ยุติธรรมก็เป็นได้ ให้เรายึดหลักคำสอนของพระคริสต์ในการดำเนินชีวิตเป็นดีที่สุด

พระเยซูสอนเราให้สำรวจแรงจูงใจการการพูดในการคิดและความประพฤติในสมองอันน้อยนิดของตัวเองมากกว่าที่จะไปตัดสินแรงจูงใจของผู้อื่น

พระวรสารในวันนี้ต้องการหนุนใจเราและเป็นพระดำรัสจากพระเยซูเพื่อเตือนใจเราก่อนที่เราจะชี้หน้าว่าคนอื่นให้พิจารณาดูตัวเองก่อนว่าเราดีแท้แค่ไหน

🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻

และเมื่อพวกเขายังทูลถามอยู่เรื่อยๆ พระองค์ก็ยืดพระกายขึ้นตรัสตอบเขาว่า “ใครในพวกท่านไม่มีบาป ให้เอาหินขว้างนางก่อนเป็นคนแรก”

แล้วพระองค์น้อมพระกายลงเอานิ้วเขียนที่ดินอีก แต่เมื่อพวกเขาได้ยินอย่างนั้น เขาก็ออกไปทีละคน เริ่มจากคนเฒ่าคนแก่ เหลือแต่พระเยซูตามลำพังกับหญิงคนนั้นที่ยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์ พระเยซูยืดพระกายขึ้นตรัสกับนางว่า “หญิงเอ๋ย พวกเขาไปไหนหมด? ไม่มีใครเอาโทษเธอหรือ?” นางทูลว่า “ท่านเจ้าข้า ไม่มีใครเลย”

แล้วพระเยซูตรัสว่า “เราก็ไม่เอาโทษเหมือนกัน จงไปเถิดและจากนี้ไปอย่าทำบาปอีก”

ยอห์น 8:7-11 THSV11

พระวาจาสำหรับวันนี้ ให้เราเก็บเอามาใช้ และนำมาขัดเกลาตัวเราในการดำเนินชีวิตที่เหลืออยู่ให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องของคนอื่นให้เราเตือนสติกันบนพื้นฐานของความรัก ความหวังดี เพื่อให้เกิดผลดี และด้วยท่าทีที่ถ่อมสุภาพ ที่สำคัญคือ ตนเตือนตนนั่นแหละดีที่สุด


ขอขอบคุณที่มาของบทความหนุนใจ

emunahinyeshua.blogspot

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...