สายรุ้งแห่งพระสัญญา
คือเราตั้งรุ้งของเราไว้ที่เมฆ
และรุ้งนั้นจะเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาระหว่างเรากับโลก
ปฐมกาล 9:13
หากคุณเคยแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าหลังพายุฝนคุณอาจจะได้เห็นสายรุ้งที่เจิดจ้าด้วยสีสันที่สดใสงดงาม
แล้วคุณก็จะรู้ว่าความหวังนั้นเป็นอย่างไร คุณจะสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้จริงๆ
แม้ว่าคุณจะรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ก็ตาม สายรุ้งเป็นสัญญาณ
แห่งความหวัง มันกำลังบอกกับคุณว่า "นี่เธอ! เธอยังไปต่อได้นะ!
ฉันรู้ว่ามันยาก แต่เธออย่ายอมแพ้นะ คุณจำเรื่องของโนอาห์ได้ไหม คุณจำเรื่องน้ำท่วมได้ไหม
แม้เขาจะต้องเจอกับสายฝนและพายุที่รุนแรงเช่นนั้น โนอาห์ก็ยังคงเดินหน้าต่อไปโดยอาศัยความเชื่อและวางใจในการทรงนำและพระสัญญาของพระเจ้า
เขาอดทนรอคอยจนถึงวันที่เขาก็ได้ค้นพบว่าระดับน้ำได้ลดลงแล้ว "
เราทุกคนต่างต้องเคยผ่านฤดูพายุมาบ้างแล้ว
ไม่ว่าเราจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ พระเจ้าจะไม่เคยลืมคุณ และเมื่อคุณต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก
หรือหากคุณเคยคิดสงสัยในสิ่งนั้น ขอเพียงแค่มองขึ้นไปที่รุ้งกินน้ำ แล้วคุณก็จะถูกเตือนใจว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันที่สดใสกว่าวานนี้
ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสแน่นอน
สายรุ้งคือพระสัญญาว่าพระเจ้าจะไม่ทรงพิพากษาโลกด้วยการให้น้ำท่วมทั้งโลกอีก
พระสัญญาถึงความสัตย์ซื่อของพระองค์นี้ช่วยเตือนเราว่า แม้เราแต่ละคนจะพบกับความสูญเสียและความตายฝ่ายร่างกายในโลกนี้
ไม่ว่าจะเพราะโรคภัยไข้เจ็บ หายนะทางธรรมชาติ การกระทำผิดหรืออายุที่มากขึ้น
พระเจ้าทรงหนุนเราด้วยความรักและการทรงสถิตในตลอดความยากลำบากที่เราเผชิญ
จงเชื่อในพระเจ้า.พระองค์จะไม่มีวันทำให้คุณผิดหวัง
เพราะนั่นคือคำสัญญาของพระองค์ และดำเนินชีวิตเพื่อสะท้อนพระสิริของพระองค์ไปยังผู้อื่นด้วย
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระเจ้า บางครั้งลูกก็ต้องการคำเตือนจากพระองค์อยู่บ่อยครั้งที่ว่า
“วันพรุ่งนี้จะต้องดีกว่าวันนี้!” ลูกเชื่อว่าโนอาห์เองก็ต้องการการเตือนความจำนั้นตอนที่เขาอยู่บนเรือด้วย!
ลูกขอขอบพระคุณสำหรับสายรุ้งของพระองค์! มันทำให้ลูกมีความหวังที่จะก้าวไปและพระองค์ทรงเป็นความหวังเดียวที่ลูกมี
ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน
ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก
หนังสือ 3 minute devotions
Thaiodb
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น