วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2565

ชาวสะมาเรียผู้ใจดี

 


ชาวสะมาเรียผู้ใจดี

แต่เมื่อชาวสะมาเรียคนหนึ่งเดินทางผ่านมาใกล้คนนั้น เห็นแล้วก็มีใจสงสาร

ลูกา 10:33

คุณเคยอ่านเรื่องราวในพระคัมภีร์เกี่ยวกับชาวสะมาเรียผู้ใจดีหรือไม่? มีชายคนหนึ่งถูกโจรทุบตีจนบาดเจ็บสาหัส เขาถูกทิ้งให้ตายอยู่ข้างถนน เผอิญมีปุโรหิตคนหนึ่งเดินมาตามทางนั้น เมื่อเขาเห็นคนนั้นแล้วก็ทำเป็นเดินเลยไปเสียอีกฟากหนึ่ง คนเลวีก็เหมือนกัน เมื่อมาถึงที่นั่นและเห็นแล้วก็เลยไปเสียอีกฟากหนึ่ง (คุณพอจะนึกออกไหม? แบบทำเป็นไม่เห็นคนเจ็บ)  แต่เมื่อชาวสะมาเรียคนหนึ่งเดินทางผ่านมาใกล้คนนั้น เขาเห็นแล้วก็มีใจสงสาร (ชาวสะมาเรียในสมัยนั้นเท่าที่รู้กันคือ ผู้คนไม่ชอบ) แต่ชายคนนี้เป็นคนเดียวที่หยุดช่วยชายยากจนคนนั้น ชาวสะมาเรียยินดีจ่ายเงินค่าที่พักให้กับโรงแรมเพื่อให้ชายบาดเจ็บได้นอนพักรักษาตัวจนหายดี และเขาแสดงเจตจำนงค์ที่จะจ่ายเพิ่มหากมีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติม  

ชาวสะมาเรีย ซึ่งเป็นที่เกลียดชังของชาวยิว  ทั้งๆ ที่แต่เดิมเป็นชนชาติเดียวกัน  หลังสิ้นกษัตริย์ซาโลมอน อาณาจักรอิสราแอลได้แตกแยกออกเป็น 2 อาณาจักรคือ อาณาจักรเหนือ มีเมืองหลวงอยู่ที่สะมาเรีย และอาณาจักรใต้มีเมืองหลวงคือ เยรูซาเล็ม

คำว่า “ชาวสะมาเรีย” ในที่นี้จึงเป็นคำที่ใช้แสดงความเกลียดชังและเหยียดหยามคนที่ละเมิดบทบัญญัติและคนนอกศาสนา  ใครที่ไม่รักษาธรรมบัญญัติจะถูกตราหน้าว่าเป็น “ชาวสะมาเรีย” คำอุปมานี้ได้วาดภาพคนเคร่งศาสนาว่าเดินผ่านไปยังถนนอีกฟากหนึ่ง ขณะที่คนนอกรีตที่คนเขาชิงชังว่าเป็นคนบาป กลับเป็นคนเดียวที่ช่วยชายบาดเจ็บไว้

บางครั้งเราตัดสินคนอื่นก่อนที่เราจะได้รู้จักพวกเขา คนที่เราคิดว่าเลวบางครั้งก็ดี และคนที่เราคิดว่าดีบางครั้งก็กลับกลายเป็นคนเลวได้เช่นกัน! นั่นคือเหตุผลที่เราต้องให้โอกาสคนทุกคน อย่าด่วนตัดสินว่าใครดีหรือไม่ดี มันไม่ใช่หน้าที่ของคุณที่จะไปตัดสินใจไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเพราะมีพระเจ้าเท่านั้นที่มองเห็นภายในจิตใจมนุษย์! และสิ่งที่พระองค์เห็นอาจทำให้คุณประหลาดใจ!

สารสำคัญจากเรื่องของชาวสะมาเรียผู้ใจดีคืออะไร?

คำอุปมานี้ต้องการอธิบายว่า มนุษย์เราควรรักกันและกัน นั่นรวมถึงการรักศัตรูของพวกเราด้วย การรักเพื่อนและครอบครัวนั้นอาจเป็นเรื่องง่าย แต่มันจะยากกว่ามากกว่าหากเราจะต้องรักคนที่เราอาจเข้ากันไม่ได้กับเขา คนที่มีนิสัยไม่น่ารัก หรือแม้แต่คนที่อาจเคยทำร้ายหรือทำลายเรามาก่อน

ในความเป็นจริงไม่ว่ายุคใด คนอย่างชาวสะมาเรียได้กระทำในสิ่งที่น่ายกย่อง และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลดีต่อสังคม ประเทศชาติ และพระศาสนจักร  จึงขอให้กำลังใจพวกเราทั้งหลาย เป็นต้นคนที่ไม่ได้รับการยอมรับหรือถูกมองว่าไม่ดี อย่าได้ท้อใจ เพราะพระเจ้าทรงเลือกคนบาปเช่นนี้แหละให้ทำในสิ่งที่คนดีไม่ทำ เพื่อจะได้เข้าใจคนบาปด้วยกันและชักนำพวกเขาให้กลับมาหาพระเจ้า

บทสรุป      

ชาวสะมาเรียผู้ใจดีคือภาพที่ชัดเจของ “พระเยซูเจ้า ชาวสะมาเรียผู้ยิ่งใหญ่” ผู้เสด็จมาเพื่อตามหาคนบาป ช่วยเหลือคนทุกข์ยากเดือดร้อน และยอมรับความตายบนไม้กางเขนเพื่อช่วยทุกคนให้รอด ให้เราก้าวเดินไปพร้อมกับพระองค์ ในเส้นทางแห่งการรับใช้ที่เราได้เลือก ด้วยดวงตาและหูที่เปิดกว้าง โดยมีเข็มทิศแห่งความเมตตาเป็นเครื่องนำทาง

ให้เรายอมให้หัวใจของเราเต้นในจังหวะเดียวกันกับหัวใจของพระเยซูเจ้า เพื่อเราจะตัดสินได้ว่ามีสิ่งไหนที่เราสามารถทำได้ เพื่อทำให้คนที่ “เกือบสิ้นชีวิต” ที่เราพบในชีวิตประจำวันได้มีชีวิตอยู่ต่อไป เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้ รู้จักแบ่งปัน และช่วยเหลือผู้อื่นที่ลำบากเดือดร้อน ทั้งนี้เพราะ “หัวใจที่มีความสุขมากที่สุดคือ หัวใจที่เต้นเพื่อผู้อื่น”

ขอให้คำสั่งของพระเยซูเจ้าที่ว่า “จงไปและทำเช่นเดียวกันเถิด” ปลุกเร้าหัวใจของเรา ให้ทำเช่นเดียวกัน  เมื่อเป็นเช่นนี้ก็แน่ใจได้ว่า เส้นทางสายชีวิตนิรันดรได้เปิดกว้างอยู่เบื้องหน้าเราแล้ว  ปัญหาก็อยู่ตรงที่ว่า เราจะเลือกเดินตามเส้นทางสายนี้หรือไม่

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา ลูกรู้ว่าบางครั้งลูกเองก็ได้ตัดสินคนอื่นทั้งที่ไม่ควรจะทำ โปรดช่วยให้ลูกเห็นว่าคนทุกคนสมควรได้รับโอกาส โดยเฉพาะผู้ที่แตกต่างจากลูก โปรดช่วยให้ลูกก้าวเดินไปพร้อมกับพระองค์ ในเส้นทางแห่งการรับ ด้วยดวงตาและหูที่เปิดกว้าง โดยมีเข็มทิศแห่งความเมตตาเป็นเครื่องนำทาง ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ 3 minute devotions

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7

  ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7   จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ จงมั่นคงในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาแล้ว และ...