อย่าใช้เวลาตกแต่งภายนอกเยอะจนไม่มีเวลาตกแต่งภายในใจ
ทุกเช้าเคยคิดบ้างไหมว่าเราได้ใช้เวลากี่นาทีชั่วโมงในการสำรวจรูปลักณ์ภายนอกของเราว่าดูดี
ดูงาม ดูพร้อมที่จะออกจากบ้านแล้วหรือยัง
มันจะเป็นไปได้ไหมถ้าหากเราใช้เวลาเท่ากันเพื่อสำรวจดูจิตใจของเราและใช้เวลากับพระเจ้าก่อนเริ่มวันใหม่ด้วย
จะมีกี่คนที่ยอมใช้เวลาเกือบชั่วโมงในการแต่งรูปลักษณ์ภายนอกของตนให้ดูดี
แต่กลับไม่เคยมีเวลาแม้เพียงสักสองนาทีเพื่อทำให้แน่ใจว่าพวกเขามีหัวใจที่ถูกต้องก่อนออกจากบ้าน
ฉันอยากจะบอกกับคุณๆว่า ถ้าเราได้ใช้เวลากับพระเจ้าทุกเช้า
ก่อนที่เราจะไปเริ่มทำอย่างอื่น มันเป็นการบริหารเวลาที่ฉลาดมากที่สุด และดีที่สุด
ที่ใครคนหนึ่งจะทำได้
คุยกับพระองค์ นั่งเงียบต่อหน้าพระพักษ์พระองค์
บอกพระองค์ว่าคุณต้องการหรืออยากได้อะไร ใช้เวลาศึกษาพระคัมภีร์
ดูซีดีคำเทศนาที่ดีๆ
เพื่อกระตุ้นตัวเองเพื่อเป็นการทบทวนสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้คุณทำ
เราทุกคนมีเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงเท่ากัน
หลายคนอาจพูดว่าฉันต้องทำงานสองกะ ฉันไม่มีเวลาแม้แต่จะให้ความสุขกับตนเอง
จริงๆแล้ว เราสามารถจัดสรรเวลาให้กับพระเจ้าได้เสมอ อยู่ที่คุณเลือกจะทำมันหรือไม่? อย่ามัวกังวลว่า "จะต้องทำงานเพื่อความอยู่รอดแล้วอาศัยแต่แรงกายแรงใจของตนเองจนลืมพึ่งพาพระเจ้า" ให้คุณใจเย็นๆ นิ่งไว้ ไม่ต้องไปฉุนเฉียว
เมื่อบางอย่างไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ ให้คุณฝึกผ่อนคลายบ้าง ฝึกผ่อนคลายจากภายใน
สงบให้เป็น
คุณอาจจะนั่งบนเก้าอี้ แล้วถอนหายใจเข้าลึก ๆ ทำให้ตนเองผ่อนคลาย ฝึกที่จะอยู่อย่างสงบนิ่ง
เพราะสิ่งนี้ทำลายความชั่วร้ายได้
มารมันไม่รู้จะทำอย่างไรกับคุณดี ถ้าคุณสงบนิ่งอยู่ได้
แม้จะต้องเจอพายุชีวิตก็ตาม
4โอกาสที่จะทำให้คุณอาารมณ์เสีย
โอกาสแรก คือเวลาที่แผนการของเราไม่สำเร็จ
จอมวางแผนทั้งหลายจงระวังให้ดี เพราะไม่ใช่ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่คุณวางแผนไว้เสมอ
ฉันมองว่าการวางแผนนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่เราต้องทูลแผนการนั้นต่อพระเจ้าเสมอ
มั่นใจว่ามันอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ และอาจจะอธิษฐานถึงเรื่องนั้นนทุกวันว่า
พระเจ้าข้า
ลูกมีแผนการมากมายที่อยากจะทำให้สำเร็จแต่ถ้ามันไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้
โปรดช่วยให้ลูกสงบนิ่งและไม่เสียอารมณ์ ให้ตั้งใจล่วงหน้าไว้เลยว่าคุณจะใจเย็นๆ
ถ้ามันไม่เป็นไปตามที่คุณคิดไว้ บางทีมันอาจจะเกิดขึ้นบ่อยๆด้วย
จงวางแผนแล้วมอบมันไว้กับพระเจ้า
สุภาษิต 16 ข้อ9 บอกว่า ใจของมนุษย์กะแผนงานทางของเขา
แต่พระยาห์เวห์ทรงนำย่างเท้าของเขา
โอกาสที่สอง คือ เมื่อคนอื่นทำไม่ถูกต้อง คุณเคยหงุดหงิดไหม กับคนในครอบครัว
คนรู้จัก เขาทำในสิ่งที่ไม่ฉลาดเลย
เขาอาจเลือกตัดสินใจแย่ๆ และไม่ยอมฟังคำแนะนำเราเลย
แต่อย่าลืมว่าคนทุกคนต่างก็มีทางเลือกเป็นของตนเอง เมื่อถึงวัยของเขา
เขาจะเลือกและลงมือทำ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องยอมรับกับผลที่จะตามมาจากสิ่งที่เลือก
และผลของการตัดสินใจนั้นด้วย
มันจึงไม่มีประโยชน์เลยที่เราจะไปรู้สึกกับการตัดสินใจแย่ๆของคนอื่นๆอยู่ตลอดเวลา
โอกาสที่สาม คือเวลาที่เราคอยคำขอบคุณหรือรอผลตอบแทน
อาจมีบางเรื่องที่เราได้ทำสิ่งที่ถูกต้องแต่กลับไม่มีผลลัพธ์ที่ถูกต้องตอบแทนกลับมาที่เรา
ฉันว่ามันเป็นความเติบโตทางฝ่ายวิญญาณของคุณในการเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง
แม้ว่าจะไม่ได้ผลที่ถูกต้องกลับคืนมา เวลาที่คุณทำดีกับคนอื่น
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำดีตอบกลับมา คุณอาจจะคิดว่า
"ฉันหว่านแต่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวผลเลยนะ ฉันอยากได้ผลเร็วกว่านี้
คุณอธิษฐานแต่พระเจ้ายังไม่ตอบ
ฉันทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วแต่ทำไมไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย"
ฉันอยากบอกว่าเราต้องอดทนรอคะ
เราจะได้รับพระสัญญาของพระเจ้าแต่เราต้องเชื่อและอดทน ไม่ใช่แค่ความเชื่อ
แต่ด้วยความเชื่อและความอดทนควบคู่กัน
โอกาสที่สี่
เวลาที่เราเหนื่อย หรือสุขภาพไม่ดี
ถ้าศัตรู(มาร)อยากจะจู่โจมเรา หนึ่งในนั้นคือช่วงเวลาที่เราเหนื่อยมากๆ
มันจะหงุดหงิดง่าย ใช่ไหม? คุณคิดว่าเรามีสิทธิ์ที่จะทำไม่ดีกับคนอื่นๆเพียงเพราะเรากำลังรู้สึกแย่หรือ? บางครั้งมันเป็นเรื่องของมุมมองของเรา ศัตรูจะมองหาทุกๆโอกาสเล็กๆที่ประตูนั้นแง้มออก
เพื่อทำให้คุณอารมณ์เสียได้
คำแนะนำสำหรับวันนี้ คือ ให้เราสงบสติอารมณ์ให้ดีเสียก่อน
แล้วคุณจะมีกำลังใจขึ้น
ขอบคุณคำเทศนาจาก
จอยซ์ ไมเออร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น