เมื่อเราต้องการให้พระเจ้าฟังคำอธิษฐานจากปากที่ร้องทูล
สิ่งที่ต้องโยนทิ้ง 1. คำด่าทอ สบถ : เป็นการโต้ตอบสิ่งร้ายด้วยการร้าย 2.
คำบ่นต่อว่า : เป็นการแสดงถึงความไม่พึงพอใจพระเจ้า , ไม่พึงพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
, ไม่พึงพอใจกับสิ่งที่ได้รับ 3. คำแช่งสาป : เป็นการนำคำแช่งสาปถึงผู้อื่น
= ทำร้ายผู้อื่น , พิพากษา , ตั้งตนเป็นใหญ่
4. คำหยาบคายลามก : เป็นการกระทำบนเนื้อหนังตัณหา และการอธรรมของโลก
ทั้งสิ้นล้วนสะท้อนจิตใจภายใน เมื่อใดที่เราสามารถควบคุมลิ้น และฝึกฝนได้
ย่อมสะท้อนให้เห็นว่าจิตใจภายในถูกควบคุมได้เป็นอย่างดี
จงระวังคำพูด
คุณสามารถสร้างมิตรและศัตรูได้อย่างรวดเร็วจากคำพูดที่พูดออกมา
คนบางคนสักแต่ว่าพูด ไม่คิดเลยว่าถ้อยคำที่ได้สื่อออกไปจะทำให้ผู้ฟังสะเทือนใจบ้างหรือไม่
คุณคิดหรือไม่ว่า
คำพูดแบบไม่ทันคิดจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกอย่างไร เสียใจ ผิดหวัง วิตกกังวล โกรธ
หรือไม่ ถึงแม้ว่าเรื่องที่ตนเองพูดจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ตาม
ผู้พูดควรระวังการใช้ภาษา เพราะการพูดออกไปในแต่ละครั้งอาจส่อถึงการไม่ให้เกียรติกันและ
เพราะสักแต่ว่าพูด และผลเสียที่จะตามมาจากคำพูดที่ไม่ระวังปากเลยก็คือ
ขาดการเคารพนับถือ:
แน่นอนว่าผู้ฟังคงไม่ชอบใจจากคำพูดที่ได้พูดออกมาสักเท่าไหร่นัก
และจากความไม่ชอบใจอาจส่งผลให้เกิดการขาดความเคารพศรัทธาและความเลื่อมใสในตัวผู้พูด
เข้าหน้ากันไม่ติด :
คงไม่มีผู้ฟังคนไหนที่อยากจะพบเจอหรือพูดคุยกับคนแบบนี้ ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ
อย่ามาเจอกันดีที่สุด ต่างคนตา่ งอยู่จะดีกว่า ก็เท่ากับคุณกำลังสรา้
งศัตรูภายในองค์กรเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนหรืออาจจะมากกว่านั้น
เพราะผู้ฟังอาจจะนำคำพูดของคุณไปพูดต่อให้กลุ่มเพื่อนฝูงที่เค้าสนิทด้วยก็เป็นได้
ไม่ได้รับความร่วมมือ :
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นของผู้ฟังนี้เองจะส่งผลทำให้ผู้ฟังไม่ให้ความช่วยเหลือหรือความร่วมมือใด
ๆ เลย ด้วยเหตุนี้เองอาจทำให้งานเกิดสะดุด หยุดชะงัก
หรืองานไม่ราบรื่นตามที่คิดไว้ก็เป็นได้
ความทุกข์ใจของผู้ฟัง : คำพูดที่ไม่ระวังปาก
เป็นการทำร้ายคนทางอ้อม เท่ากับว่าคุณกำลังสร้างบาปให้เกิดขึ้น
เพราะหากไปพูดกับคนที่ Sensitive
แล้วล่ะก็ แน่นอนว่าพวกเค้าคงคิดมาก วิตกกังวล
หรือเกิดภาวะอารมณ์ทางลบที่เป็นตัวบ่อนทำลายชีวิตของผู้ฟัง
จนทำให้เกิดการตัดสินใจเลือกทางเลือกที่เป็นการทำร้ายตัวเองเช่นกัน
เห็นหรือไม่ค่ะว่า คำพูดที่ผู้พูดไม่ระวังย่อมเกิดผลเสียมากกว่าผลดี
แต่อลิสก็ขอฝากข้อคิดไว้สำหรับบุคคลที่บังเอิญ ได้ยินคำพูดที่ไม่ดี เพื่อทำให้ผู้ฟังมีความสุขในการทำงานและมีสุขภาพจิตที่ดี
ดังนี้
จงไตร่ตรองในเรื่องที่พูด : ขอให้พิจารณาก่อนว่า
เรื่องที่ผู้พูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่ หากเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องจริง
คุณไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องใส่ใจกับสิ่งที่พวกเขาพูด
ให้อภัยในคำพูดที่พูดออกมา : จงอย่าคิดอาฆาตพยาบาท
คิดอย่างเดียวคือการให้อภัย จงสงสารและเห็นใจผู้พูด
โดยส่วนใหญ่คนที่มีนิสัยชอบพูดจาแบบนี้มักจะไม่ค่อยมีใครคบด้วย มีเพื่อนน้อย
ดังนั้นตัวคุณเองควรให้ความรัก ให้ความเป็นเพื่อนกับคนเหล่านี้
สรุปว่า การที่จะพูดอะไรออกไปนั้น ขอให้คิด ๆ ๆ ไว้มาก ๆ
อย่าสักแต่ว่าจะพูด เพราะเมื่อคำพูดไปทำร้ายความรู้สึกใครแล้ว ผู้รับฟังย่อมเสียความรู้สึก
....การกลับมารู้สึกเหมือนเดิม อาจสายเกินไปที่จะมีวันนั้น
(ข้อมูลจากHumanica)
อำนาจของคำพูดดี
กษัตริย์ซาโลมอน
ผู้เขียนพระธรรมสุภาษิตเกือบทั้งหมดได้เขียนเกี่ยวกับอำนาจของคำพูดบ่อยครั้ง
ท่านกล่าวว่า “ความตายความเป็นอยู่ที่อำนาจของลิ้น”(สุภาษิต 18:21)
คำพูดทำให้เกิดผลดีหรือผลร้ายก็ได้ (สุภาษิต 18:20) มีอำนาจเสริมสร้างชีวิตผ่านการหนุนใจและความซื่อตรง
หรือฆ่าและทำลายด้วยคำโกหกและนินทา
เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเราจะมีคำพูดที่ก่อให้เกิดผลดี มีทางเดียวคือ
เราต้องหมั่นรักษาจิตใจ
“จงรักษาใจของเจ้าด้วยความระวังระไวรอบด้านเพราะชีวิตเริ่มต้นออกมาจากใจ” (สุภาษิต
4:23)
พระเยซูทรงสามารถเปลี่ยนแปลงจิตใจของเรา
เพื่อให้เรามีคำพูดที่ดีที่สุด คือ ซื่อสัตย์ สงบ เหมาะสมและเหมาะกับสถานการณ์
ข้าแต่พระเจ้า
พระศิลาและพระผู้ไถ่ของข้าพระองค์ ขอให้ถ้อยคำจากปากของข้าพระองค์
และการรำพึงภาวนาในจิตใจ เป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์เถิด สดุดี 19:14
การพูดด้วยอารมณ์
คือการที่คนหนึ่งพูดจาไม่ดีกับคนหนึ่ง และคนที่เจ็บใจก็ว่ากลับ
คนแรกตอบโต้ด้วยคำสบประมาทอีกที ไม่นาน โทสะและคำพูดรุนแรงก็ทำลายความสัมพันธ์
พระคัมภีร์กล่าวว่า
“มีบางคนที่คำพูดพล่อยๆ ของเขาเหมือนดาบแทง” และ “คำกักขฬะเร้าโทสะ” แต่
“คำตอบอ่อนหวานช่วยละลายความโกรธเกรี้ยวให้หายไป” (สุภาษิต 12:18; 15:1)
และบางครั้งการไม่ตอบโต้อะไรเลยก็เป็นหนทางที่ดีที่สุดในการจัดการกับคำพูดหรือความเห็นที่หยาบคายหรือโหดร้าย
ก่อนพระเยซูถูกตรึง
ผู้นำศาสนาพยายามยั่วยุพระองค์ด้วยคำพูด (มัทธิว 27:41-43) แต่
“เมื่อเขากล่าวคำหยาบคายต่อพระองค์
พระองค์ไม่ได้ทรงกล่าวตอบเขาด้วยคำหยาบคายเลย…แต่ทรงมอบเรื่องของพระองค์ไว้แก่พระเจ้าผู้ทรงพิพากษาอย่างยุติธรรม”
(1 เปโตร 2:23)
พระเยซูทรงเป็นแบบอย่างและพระวิญญาณทรงช่วยให้เราโต้ตอบคนที่ทำผิดกับเราด้วยท่าทีที่ถูกต้อง
การวางใจพระเจ้าทำให้เราไม่ต้องใช้คำพูดเป็นอาวุธ
เมื่อเขากล่าวคำหยาบคายต่อพระองค์
พระองค์ไม่ได้ทรงกล่าวตอบเขาด้วยคำหยาบคายเลย - 1 เปโตร 2:23
คำพูดที่ไม่ระวัง
เราต้องระวังสิ่งที่เราพูดกับผู้อื่น
เราหลายคนชอบหยิบยกสิ่งที่เรามองว่าเป็นจุดอ่อนของคนในครอบครัว
เพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานขึ้นมาพูด
หรือชอบพูดถึงความผิดพลาดมากกว่าความสำเร็จของพวกเขายากอบกล่าวว่า
“ลิ้น..เป็นอวัยวะเล็กๆ” (ยากอบ 3:5)
แต่สิ่งที่มันพูดสามารถทำลายความสัมพันธ์หรือนำความสงบและสันติมาสู่สถานการณ์ในที่ทำงานคริสตจักรหรือที่บ้าน
ทุกเช้าเราอาจต้องอธิษฐานเหมือนดาวิดว่า
“ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงตั้งยามเฝ้าปากของข้าพระองค์
ขอรักษาประตูริมฝีปากของข้าพระองค์”(สดุดี 41:3)
ข้าแต่พระบิดา
ขอทรงยับยั้งคำพูดที่ไม่ระวังของข้าพระองค์และตั้งยามเฝ้าลิ้นของข้าพระองค์วันนี้และทุกวัน
ลิ้นของปราชญ์นำการรักษามาให้
- สุภาษิต 12:18
กล้ามเนื้อส่วนใดในร่างกายมนุษย์แข็งแรงที่สุด
บางคนบอกว่าลิ้น แต่การจะระบุว่ากล้ามเนื้อส่วนใดแข็งแรงที่สุดไม่ใช่เรื่องง่าย
เพราะกล้ามเนื้อไม่ได้ทำงานโดยลำพัง
แต่เรารู้ว่าลิ้นนั้นแข็งแรง
เป็นกล้ามเนื้อเล็กที่สร้างความเสียหายได้มาก อวัยวะเล็กๆ ที่ทำงานมากนี้
ช่วยเราในการกิน กลืน รับรส และเริ่มกระบวนการย่อยอาหาร
และยังมีส่วนทำให้เราพูดสิ่งที่ไม่ควรด้วย ลิ้นมีความผิดฐานประจบสอพลอ แช่งสาป
โกหก โอ้อวดและทำร้ายผู้อื่น นี่เพียงบางส่วนเท่านั้น
ฟังดูเหมือนเป็นอวัยวะที่อันตรายใช่ไหม
แต่ข่าวดีคือไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้น เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ควบคุมเรา
ลิ้นของเราสามารถทำสิ่งดียอดเยี่ยมได้ เราสามารถพูดเรื่องความชอบธรรม (สดุดี
35:28) และความยุติธรรมของพระเจ้า (สดุดี 37:30) พูดความจริง (สดุดี 15:2)
สำแดงความรัก (1 ยอห์น 3:18) และสารภาพบาปได้ (1 ยอห์น 1:9)
ผู้เขียนสุภาษิต
12:18 กล่าวถึงวิธีการใช้ลิ้นที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งว่า
“ลิ้นของปราชญ์นำการรักษามาให้” ลองคิดดูว่า
พระองค์ผู้ทรงสร้างลิ้นของเราจะทรงได้รับเกียรติมากเพียงไร เมื่อพระองค์ทรงช่วยเราใช้ลิ้นเพื่อนำการรักษา
ไม่ใช่การทำร้าย มาสู่ทุกคนที่เราคุยด้วย
ขอทรงเฝ้าระวังถ้อยคำที่เรากล่าว
ให้สะท้อนถึงพระองค์และความรักของพระองค์ ช่วยให้ลิ้นของเราเอ่ยคำเยียวยา
และไม่ทำร้าย
จงให้กำลังใจกันและเสริมสร้างซึ่งกันและกันขึ้น
1 เธสะโลนิกา 5:11
พระเจ้าที่รัก
โปรดประทานการรู้จักบังคับตนผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์
ในยามที่ข้าพระองค์ถูกทดลองให้พูดถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม
คำตอบอ่อนหวานคือวิธีละลายใจที่แข็งกระด้าง
(ข้อมูลจาก
thaiodb.org)
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน
KC
Love God
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น