วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2561

การรู้จักบังคับยับยั้งคำพูด



เมื่อเราต้องการให้พระเจ้าฟังคำอธิษฐานจากปากที่ร้องทูล สิ่งที่ต้องโยนทิ้ง 1. คำด่าทอ สบถ : เป็นการโต้ตอบสิ่งร้ายด้วยการร้าย 2. คำบ่นต่อว่า : เป็นการแสดงถึงความไม่พึงพอใจพระเจ้า , ไม่พึงพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น , ไม่พึงพอใจกับสิ่งที่ได้รับ 3. คำแช่งสาป : เป็นการนำคำแช่งสาปถึงผู้อื่น = ทำร้ายผู้อื่น , พิพากษา , ตั้งตนเป็นใหญ่ 4. คำหยาบคายลามก : เป็นการกระทำบนเนื้อหนังตัณหา และการอธรรมของโลก ทั้งสิ้นล้วนสะท้อนจิตใจภายใน เมื่อใดที่เราสามารถควบคุมลิ้น และฝึกฝนได้ ย่อมสะท้อนให้เห็นว่าจิตใจภายในถูกควบคุมได้เป็นอย่างดี

จงระวังคำพูด
คุณสามารถสร้างมิตรและศัตรูได้อย่างรวดเร็วจากคำพูดที่พูดออกมา คนบางคนสักแต่ว่าพูด ไม่คิดเลยว่าถ้อยคำที่ได้สื่อออกไปจะทำให้ผู้ฟังสะเทือนใจบ้างหรือไม่

คุณคิดหรือไม่ว่า คำพูดแบบไม่ทันคิดจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกอย่างไร เสียใจ ผิดหวัง วิตกกังวล โกรธ หรือไม่ ถึงแม้ว่าเรื่องที่ตนเองพูดจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ตาม ผู้พูดควรระวังการใช้ภาษา เพราะการพูดออกไปในแต่ละครั้งอาจส่อถึงการไม่ให้เกียรติกันและ เพราะสักแต่ว่าพูด และผลเสียที่จะตามมาจากคำพูดที่ไม่ระวังปากเลยก็คือ
ขาดการเคารพนับถือ: แน่นอนว่าผู้ฟังคงไม่ชอบใจจากคำพูดที่ได้พูดออกมาสักเท่าไหร่นัก และจากความไม่ชอบใจอาจส่งผลให้เกิดการขาดความเคารพศรัทธาและความเลื่อมใสในตัวผู้พูด

เข้าหน้ากันไม่ติด : คงไม่มีผู้ฟังคนไหนที่อยากจะพบเจอหรือพูดคุยกับคนแบบนี้ ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ อย่ามาเจอกันดีที่สุด ต่างคนตา่ งอยู่จะดีกว่า ก็เท่ากับคุณกำลังสรา้ งศัตรูภายในองค์กรเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนหรืออาจจะมากกว่านั้น เพราะผู้ฟังอาจจะนำคำพูดของคุณไปพูดต่อให้กลุ่มเพื่อนฝูงที่เค้าสนิทด้วยก็เป็นได้

ไม่ได้รับความร่วมมือ : ความรู้สึกที่เกิดขึ้นของผู้ฟังนี้เองจะส่งผลทำให้ผู้ฟังไม่ให้ความช่วยเหลือหรือความร่วมมือใด ๆ เลย ด้วยเหตุนี้เองอาจทำให้งานเกิดสะดุด หยุดชะงัก หรืองานไม่ราบรื่นตามที่คิดไว้ก็เป็นได้

ความทุกข์ใจของผู้ฟัง : คำพูดที่ไม่ระวังปาก เป็นการทำร้ายคนทางอ้อม เท่ากับว่าคุณกำลังสร้างบาปให้เกิดขึ้น เพราะหากไปพูดกับคนที่ Sensitive แล้วล่ะก็ แน่นอนว่าพวกเค้าคงคิดมาก วิตกกังวล หรือเกิดภาวะอารมณ์ทางลบที่เป็นตัวบ่อนทำลายชีวิตของผู้ฟัง จนทำให้เกิดการตัดสินใจเลือกทางเลือกที่เป็นการทำร้ายตัวเองเช่นกัน เห็นหรือไม่ค่ะว่า คำพูดที่ผู้พูดไม่ระวังย่อมเกิดผลเสียมากกว่าผลดี แต่อลิสก็ขอฝากข้อคิดไว้สำหรับบุคคลที่บังเอิญ ได้ยินคำพูดที่ไม่ดี เพื่อทำให้ผู้ฟังมีความสุขในการทำงานและมีสุขภาพจิตที่ดี ดังนี้

จงไตร่ตรองในเรื่องที่พูด : ขอให้พิจารณาก่อนว่า เรื่องที่ผู้พูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่ หากเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องจริง คุณไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องใส่ใจกับสิ่งที่พวกเขาพูด

ให้อภัยในคำพูดที่พูดออกมา : จงอย่าคิดอาฆาตพยาบาท คิดอย่างเดียวคือการให้อภัย จงสงสารและเห็นใจผู้พูด โดยส่วนใหญ่คนที่มีนิสัยชอบพูดจาแบบนี้มักจะไม่ค่อยมีใครคบด้วย มีเพื่อนน้อย ดังนั้นตัวคุณเองควรให้ความรัก ให้ความเป็นเพื่อนกับคนเหล่านี้

สรุปว่า การที่จะพูดอะไรออกไปนั้น ขอให้คิด ๆ ๆ ไว้มาก ๆ อย่าสักแต่ว่าจะพูด เพราะเมื่อคำพูดไปทำร้ายความรู้สึกใครแล้ว ผู้รับฟังย่อมเสียความรู้สึก ....การกลับมารู้สึกเหมือนเดิม อาจสายเกินไปที่จะมีวันนั้น
(ข้อมูลจากHumanica)


อำนาจของคำพูดดี
กษัตริย์ซาโลมอน ผู้เขียนพระธรรมสุภาษิตเกือบทั้งหมดได้เขียนเกี่ยวกับอำนาจของคำพูดบ่อยครั้ง ท่านกล่าวว่า “ความตายความเป็นอยู่ที่อำนาจของลิ้น”(สุภาษิต 18:21) คำพูดทำให้เกิดผลดีหรือผลร้ายก็ได้ (สุภาษิต 18:20) มีอำนาจเสริมสร้างชีวิตผ่านการหนุนใจและความซื่อตรง หรือฆ่าและทำลายด้วยคำโกหกและนินทา เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเราจะมีคำพูดที่ก่อให้เกิดผลดี มีทางเดียวคือ เราต้องหมั่นรักษาจิตใจ “จงรักษาใจของเจ้าด้วยความระวังระไวรอบด้านเพราะชีวิตเริ่มต้นออกมาจากใจ” (สุภาษิต 4:23)

พระเยซูทรงสามารถเปลี่ยนแปลงจิตใจของเรา เพื่อให้เรามีคำพูดที่ดีที่สุด คือ ซื่อสัตย์ สงบ เหมาะสมและเหมาะกับสถานการณ์

ข้าแต่พระเจ้า พระศิลาและพระผู้ไถ่ของข้าพระองค์ ขอให้ถ้อยคำจากปากของข้าพระองค์ และการรำพึงภาวนาในจิตใจ เป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์เถิด สดุดี 19:14

การพูดด้วยอารมณ์ คือการที่คนหนึ่งพูดจาไม่ดีกับคนหนึ่ง และคนที่เจ็บใจก็ว่ากลับ คนแรกตอบโต้ด้วยคำสบประมาทอีกที ไม่นาน โทสะและคำพูดรุนแรงก็ทำลายความสัมพันธ์

พระคัมภีร์กล่าวว่า “มีบางคนที่คำพูดพล่อยๆ ของเขาเหมือนดาบแทง” และ “คำกักขฬะเร้าโทสะ” แต่ “คำตอบอ่อนหวานช่วยละลายความโกรธเกรี้ยวให้หายไป” (สุภาษิต 12:18; 15:1) และบางครั้งการไม่ตอบโต้อะไรเลยก็เป็นหนทางที่ดีที่สุดในการจัดการกับคำพูดหรือความเห็นที่หยาบคายหรือโหดร้าย

ก่อนพระเยซูถูกตรึง ผู้นำศาสนาพยายามยั่วยุพระองค์ด้วยคำพูด (มัทธิว 27:41-43) แต่ “เมื่อเขากล่าวคำหยาบคายต่อพระองค์ พระองค์ไม่ได้ทรงกล่าวตอบเขาด้วยคำหยาบคายเลย…แต่ทรงมอบเรื่องของพระองค์ไว้แก่พระเจ้าผู้ทรงพิพากษาอย่างยุติธรรม” (1 เปโตร 2:23)

พระเยซูทรงเป็นแบบอย่างและพระวิญญาณทรงช่วยให้เราโต้ตอบคนที่ทำผิดกับเราด้วยท่าทีที่ถูกต้อง การวางใจพระเจ้าทำให้เราไม่ต้องใช้คำพูดเป็นอาวุธ

เมื่อเขากล่าวคำหยาบคายต่อพระองค์ พระองค์ไม่ได้ทรงกล่าวตอบเขาด้วยคำหยาบคายเลย - 1 เปโตร 2:23

คำพูดที่ไม่ระวัง
เราต้องระวังสิ่งที่เราพูดกับผู้อื่น เราหลายคนชอบหยิบยกสิ่งที่เรามองว่าเป็นจุดอ่อนของคนในครอบครัว เพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานขึ้นมาพูด หรือชอบพูดถึงความผิดพลาดมากกว่าความสำเร็จของพวกเขายากอบกล่าวว่า “ลิ้น..เป็นอวัยวะเล็กๆ” (ยากอบ 3:5) แต่สิ่งที่มันพูดสามารถทำลายความสัมพันธ์หรือนำความสงบและสันติมาสู่สถานการณ์ในที่ทำงานคริสตจักรหรือที่บ้าน

ทุกเช้าเราอาจต้องอธิษฐานเหมือนดาวิดว่า “ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงตั้งยามเฝ้าปากของข้าพระองค์ ขอรักษาประตูริมฝีปากของข้าพระองค์”(สดุดี 41:3)

ข้าแต่พระบิดา ขอทรงยับยั้งคำพูดที่ไม่ระวังของข้าพระองค์และตั้งยามเฝ้าลิ้นของข้าพระองค์วันนี้และทุกวัน

ลิ้นของปราชญ์นำการรักษามาให้ - สุภาษิต 12:18
กล้ามเนื้อส่วนใดในร่างกายมนุษย์แข็งแรงที่สุด บางคนบอกว่าลิ้น แต่การจะระบุว่ากล้ามเนื้อส่วนใดแข็งแรงที่สุดไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกล้ามเนื้อไม่ได้ทำงานโดยลำพัง

แต่เรารู้ว่าลิ้นนั้นแข็งแรง เป็นกล้ามเนื้อเล็กที่สร้างความเสียหายได้มาก อวัยวะเล็กๆ ที่ทำงานมากนี้ ช่วยเราในการกิน กลืน รับรส และเริ่มกระบวนการย่อยอาหาร และยังมีส่วนทำให้เราพูดสิ่งที่ไม่ควรด้วย ลิ้นมีความผิดฐานประจบสอพลอ แช่งสาป โกหก โอ้อวดและทำร้ายผู้อื่น นี่เพียงบางส่วนเท่านั้น

ฟังดูเหมือนเป็นอวัยวะที่อันตรายใช่ไหม แต่ข่าวดีคือไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้น เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ควบคุมเรา ลิ้นของเราสามารถทำสิ่งดียอดเยี่ยมได้ เราสามารถพูดเรื่องความชอบธรรม (สดุดี 35:28) และความยุติธรรมของพระเจ้า (สดุดี 37:30) พูดความจริง (สดุดี 15:2) สำแดงความรัก (1 ยอห์น 3:18) และสารภาพบาปได้ (1 ยอห์น 1:9)

ผู้เขียนสุภาษิต 12:18 กล่าวถึงวิธีการใช้ลิ้นที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งว่า “ลิ้นของปราชญ์นำการรักษามาให้” ลองคิดดูว่า พระองค์ผู้ทรงสร้างลิ้นของเราจะทรงได้รับเกียรติมากเพียงไร เมื่อพระองค์ทรงช่วยเราใช้ลิ้นเพื่อนำการรักษา ไม่ใช่การทำร้าย มาสู่ทุกคนที่เราคุยด้วย

ขอทรงเฝ้าระวังถ้อยคำที่เรากล่าว ให้สะท้อนถึงพระองค์และความรักของพระองค์ ช่วยให้ลิ้นของเราเอ่ยคำเยียวยา และไม่ทำร้าย

จงให้กำลังใจกันและเสริมสร้างซึ่งกันและกันขึ้น 1 เธสะโลนิกา 5:11

พระเจ้าที่รัก โปรดประทานการรู้จักบังคับตนผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ ในยามที่ข้าพระองค์ถูกทดลองให้พูดถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม

คำตอบอ่อนหวานคือวิธีละลายใจที่แข็งกระด้าง
(ข้อมูลจาก thaiodb.org)

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน
KC Love God




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...